ผมมาอยู่กับพี่แทนที่ประเทศอังกฤษ เมืองบาธ เป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Avon มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยโรมัน บ้านเมืองสวยงามดูอบอวลไปด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมที่อนุรักษ์มาอย่างยาวนาน ผมได้มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ หวังว่าการมาครั้งนี้จะทำให้ผมทำใจเรื่องพ่อกับแม่ได้เร็วขึ้น
ส่วนพี่แทนตอนนี้กำลังเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหาร เพื่อกลับไปช่วยคุณลุงบริหารโรงพยาบาล ที่พี่แทนไม่เรียนหมอ เพราะแกกลัวเข็มกลัวเลือดมากๆ แกเลยเลือกมาเรียนทางนี้แทน ซึ่งคุณลุงก็ไม่ว่าอะไร เคารพในการตัดสินใจของลูก สำหรับผมท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีมากๆ
ผมอยู่ทางนี้พี่แทนคอยดูแลผมทุกอย่าง แต่แค่ 1 เดือนแรกเท่านั้น แล้วหลังจากนั้น พี่แทนเขาปล่อยผมเลยครับ แบบว่าต่างคนต่างอยู่ ให้ผมดูแลตัวเอง แต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกแกได้ ผมอยู่ที่นี้กลับมาเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน ไม่ให้ตั้งใจได้ไงหล่ะครับ ผมกลัวว่าถ้าผมเกเรอีกคุณลุงจะตัดหางปล่อยวัด แล้วผมจะทำยังไง
ในแต่ละวันผมใช้ชีวิตอยู่ในระบบระเบียบมากๆ ตอนเช้าไปโรงเรียน ตอนบ่ายไปรับจ้างล้างจานที่ร้านอาหารไทย เพราะไม่อยากให้ตัวเองว่างเกินไปและอยากช่วยแบ่งเบาภาระคุณลุงด้วย ร้านอาหารไทยที่พี่แทนแนะนำ คือร้านที่พี่แทนเคยมาทำช่วงที่มาอังกฤษใหม่ๆ
ป้าหน่อยเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยที่ใจดีมาก ส่วนสามีแกชื่อเดวิดเป็นคนอังกฤษก็ออกจะเข้มงวดหน่อย เพราะเห็นว่าเคยเป็นอาจารย์สอนในมหาลัยมาก่อน ทุกวันหลังจากที่ผมเลิกงาน พอมีเวลาลุงเดวิดจะสอนภาษาอังกฤษให้กับผมบ่อยๆ
อ๋อ....ป้าหน่อยกับลุงเดวิดแกมีลูกชายคนหนึ่ง พอโตแล้วก็ย้ายไปทำงานที่อื่น แกก็เลยเอ็นดูผมเหมือนลูกไปโดยปริยาย ไปเที่ยวไหนก็พาผมไปด้วย เทศกาลต่างๆ ก็จะเรียกผมไปจอยอยู่เสมอ
ผมใช้ชีวิตแบบนี้จนจบมหาวิทยาลัยชั้นนำในอังกฤษ ทำงานเก็บเงินส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญาโท ตลอดเวลาที่ผมอยู่อังกฤษเป็นสิบปี ผมไม่ได้กลับมาเมืองไทยเลย ผมอยู่ที่นี้ทำให้รู้จักคนมากมายทั้งคนธรรมดา ไปจนถึงนักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ กลุ่มมาเฟีย นักฆ่าผมก็รู้จัก
เคยถูกชวนเข้าแก๊งก็หลายครั้ง แต่ผมปฏิเสธหมด เพราะผมไม่อยากจบชีวิตเหมือนพ่อแม่ ที่ผมก็ไม่รู้ว่าใครไล่ฆ่าครอบครัวของเราแบบนี้ แล้วผมก็ไม่อยากที่จะไปทำแบบนี้กับครอบครัวของใคร
วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังนอนอ่านหนังสือเล่นอยู่ที่บ้าน ก็มีโทรศัพท์เข้ามา
“ซัน เก็บกระเป๋าตอนนี้เลย เราจะกลับไทยพรุ่งนี้เช้า”
“เกิดอะไรขึ้นครับ!!”
“พ่อไม่สบายหนัก เราต้องกลับไทยด่วน”
“คุณลุงเป็นอะไรมากมั้ยครับ”
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน เห็นพี่น้อยโทรมาบอกว่าพ่อเข้าโรงพยาบาล ตอนนี้ถูกส่งตัวเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพแล้ว” น้ำเสียงของพี่แทนแสดงออกถึงความกังวลอย่างมาก
“โอเคครับพี่” แล้วพี่แทนก็วางสายไป
ผมรีบเก็บกระเป๋าจัดของกลับบ้านทันที แล้วครั้งนี้ก็จะเป็นการกลับไทยครั้งแรกของผม ไม่รู้ว่ากลับไปครั้งนี้ ผมจะได้กลับมาที่นี่อีกเมื่อไร อ่อ....ลืมบอกไปว่าผมกำลังรองาน เพิ่งไปยื่นใบสมัครไม่กี่ที่ ก็ต้องกลับไทยซะแล้ว
“เอาว่ะ ช่วงกลับไทย ไปหางานทำรอก็ได้ ไม่รู้จะต้องอยู่นานมั้ย ถ้าคุณลุงหายดีแล้วค่อยคิดต่อว่าจะอยู่ที่ไหน”
เมื่อถึงประเทศไทย ผมกับพี่แทนรีบไปพบคุณลุงทันที
“พี่น้อย พ่อเป็นยังไงบ้างครับ”
“อาจารย์หมอเส้นเลือดในสมองแตก ตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัวเลยค่ะ” พี่น้อยเป็นพยาบาลที่ทำงานในโรงพยาบาลมานาน จนสนิทกับทางบ้าน พี่แทนเลยจ้างพี่น้อยให้ช่วยดูแลคุณลุงเพราะท่านก็อายุมากแล้ว
พี่แทนเดินไปหาคุณลุงที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง
“พ่อครับ ผมกลับมาแล้วครับ พ่อรีบฟื้นขึ้นมาไวๆ นะครับ” พี่แทนจับมือคุณลุงไว้แน่น แล้วน้ำตาก็เริ่มไหลลงมา
“เดี๋ยวผมออกไปรอข้างนอกนะครับ” ว่าแล้ว ผมก็เดินออกมาพร้อมกับพี่น้อย ยืนรออยู่หน้าห้องสักพัก พี่แทนก็ออกมาและบอกให้ผมกลับไปหาที่พักใกล้โรงพยาบาล เพราะจะได้สลับกันมาเฝ้าคุณลุงได้ ส่วนพี่น้อยก็ให้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดได้เลย
ผมกับพี่แทนสลับกันเฝ้าคุณลุงประมาณ หนึ่งอาทิตย์ในที่สุดคุณลุงก็ลาจากโลกนี้ไป พวกเราช่วยกันจัดการงานศพของคุณลุงอย่างสมเกียรติ แล้วพี่แทนก็มาดำรงตำแหน่งผู้บริหารโรงพยาบาลแทนคุณลุง
ผมกับพี่แทนกลับมาที่บ้านคุณลุง ช่วยกันจัดการข้าวของเครื่องใช้ จนได้ไปเจอสมุดบันทึกเล่มหนึ่ง วางอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน หน้าปกเขียนไว้ว่า"บันทึกของซัน"
ผมถึงกับสตั้นไปเลย เพราะผมไม่เคยเขียนบันทึกเลย แล้วเล่มนี้ใครเป็นคนเขียน? ผมตั้งคำถามมากมาย ไม่กล้าที่จะเปิดดูเนื้อหาข้างใน ข้างๆ มีโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าสองเครื่องอยู่ในซองพลาสติกใส
“นี่มันโทรศัพท์ของพ่อกับแม่ผมนิ ทำไมอยู่ที่นี้” ผมสับสนไปหมด แล้วทำไมวันนั้นคุณลุงบอกโทรศัพท์หายไป พี่แทนเดินเข้ามาพอดี
“ถึงเวลาที่นายจะต้องรู้ความจริงแล้วล่ะ” ผมมองหน้าพี่แทนทันที หมายความว่าอะไร มันมีอะไรที่นอกเหนือจากที่คุณลุงบอกผมอีกหรอ? พี่แทนเดินมาเอามือวางบนบ่าขวา แล้วออกแรงบีบเบาๆ แล้วพี่แทนก็เดินออกไป ปล่อยให้ผมนั่งอ่านบันทึกเล่มนั้นคนเดียว
ทำให้ผมได้รู้ว่าสาเหตุที่พ่อต้องพาแม่และผมหนีมาเพราะพ่อผมไปขัดผลประโยชน์ ของผู้มีอิทธิพลใหญ่ และโดนเพื่อนสนิทโกงบริษัททำให้ต้องล้มละลาย และเป็นคนๆ เดียวกับที่ส่งคนมาสั่งเก็บพ่อกับแม่ผม
คนนั้นก็คือลุงอเนกเพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้าม พ่อของตัวเล็ก เด็กผู้หญิงหน้าคม ผูกเปียสองข้างที่เล่นด้วยกันตอนเด็กๆ
ผมอ่านถึงตรงนี้ก็ช็อกไปเลยครับ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ และที่คุณลุงต้องซ้อนโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องของพ่อกับแม่ไว้เพราะกลัวผมจะเป็นอันตราย เพราะไม่รู้ว่าคนที่จ้องจะทำร้าย จะตามไปหาผมกับพวกญาติๆ รึเปล่า จึงฝากผมให้คุณลุงช่วยดูแลแทน เลยทำให้ผมได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง และชีวิตหลังจากนี้ถึงเวลาที่พวกมันต้องชดใช้ให้กับครอบครัวผมแล้ว หลังจากที่ผมตั้งสติได้ ผมลงมาเจอพี่แทนที่นั่งรออยู่ที่โซฟากลางบ้าน
“มึงคิดจะเอายังไงต่อ” พี่แทนหันมาถามผม
“ผมจะแก้แค้นให้พ่อกับแม่ครับ” ผมบอกพี่แทนเสียงหนักแน่น ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะจัดการยังไง แต่บอกไปก่อน
“ถ้ามึงต้องการอย่างนั้น กูจะหาคนมาช่วยมึง” ผมมองหน้าพี่แทน งง งง
“พ่อฝากมึงไว้กับกู กูก็ต้องดูแลมึงให้ดี” ผมนี้น้ำตาคลอเลย คุณลุงท่านเมตตากับผมมาก ถึงตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้วก็ยังเป็นห่วงผม
“ขอบคุณครับพี่”
พี่แทนกับผมช่วยกันวางแผน และหาข้อมูลเกี่ยวกับลุงอเนก แล้วเราก็เริ่มทำตามแผนกันเลย
@โรงงานนายอเนก
“ฮัลโหล....นายครับ มีคนแอบเข้ามาในโรงงานเราครับ” ลูกน้องที่โกดังโทรรายงานเจ้านาย
“มันเป็นใคร?”
“มันไม่ยอมบอกครับ”
“งั้นจัดการมันเลย”
“ครับนาย”
นายอเนกวางสายจากลูกน้องคนสนิท
“มีอะไรคะคุณ”
“พวกหนอน ไอ้ชัยมันจัดการได้”
“ใครส่งมันมา ทราบมั้ยค่ะ”
“มันไม่ยอมพูด ก็ไม่ต้องให้โอกาสมันพูด จะส่งมากี่คนฉันก็จะฆ่าให้หมด หึ หึ”
“งั้นเรามาต่อกันดีกว่าค่ะ”
แล้วบทสวาทของนายอเนกกับเลขาสาวหน้าห้องก็ลากยาวไปจนถึงเวลาเลิกงาน
@ห้องผู้บริหารโรงพยาบาล
“เลวที่สุด มันฆ่าคนของเราอีกแล้ว” แทนตวาดออกมาเสียงดังด้วยความโมโห
“เราเปลี่ยนแผนกันดีมั้ยครับพี่แทน ไม่ยังงั้นคนของเราตายหมดแน่ๆ” ผมยื่นข้อเสนอ เพราะไม่อยากส่งคนเข้าไปตายอีก
“อืม...ก็ดีเหมือนกัน” แทนเห็นด้วยที่จะเปลี่ยนแผนใหม่
พี่แทนหาทางให้ผมได้เข้ามาสอนในมหาวิทยาลัยเอกชน ที่ลูกสาวคนเล็กนายอเนกเรียนอยู่ ในคืนงานเลี้ยง ตอนแรกผมก็แค่อยากรู้ว่าไอ้ท็อปมันจะมีความสามารถทำอะไรแยมโรลได้ เลยไปลองพูดเปิดทางให้มัน ไม่คิดว่าไอ้ท็อปมันจะเลวถึงขนาดโป๊ะยาสลบ แล้วจะข่มขืน
ถึงผมอยากจะแก้แค้น ก็ไม่คิดที่จะให้เธอตกเป็นของคนอื่นง่ายๆแบบนี้ มันดูง่ายเกินไป ผมต้องการทรมานครอบครัวนั้นมากกว่านี้
แล้วที่ผมพาแยมโรลออกมาจากงานได้เพราะลูกน้องของพี่แทน และเพื่อนของผม ที่ปลอมตัวเข้าไปเป็นพนักงานจัดเลี้ยงในงาน เป็นคนช่วยพาออกมาอยู่ที่คอนโดของผมก่อน ซึ่งมันก็ผิดแผนจากที่ผมกับพี่แทนวางแผนไว้มาก เพราะผมกับแยมโรลดันเลยเถิดกันไปไกลซะแล้ว!!!....