ตอนที่ 4

3892 คำ
“ฉันกลับก่อนนะเทพ น้องแจ่ม น้องเกด น้องมังคุด ทุกคนฉันกลับก่อนนะ” อชิระรับไหว้เมียเพื่อนและบอกเพื่อนๆทุกคนอีกครั้งก่อนจะเดินลงไปพร้อมน้องชาย “พี่กายรอผมแป๊บนะขอเข้าห้องน้ำก่อนกลัวจะอั้นไปถึงบ้านไม่ไหว” อธิคุณบอกพี่ชายเขาดื่มไปเยอะจึงปวดเบา “ตามสบายพี่ไปรอที่รถละกัน” คนเป็นพี่พูดจบก็เดินแยกจากน้องชายออกไปลานจอดรถไม่รู้ตัวว่ามีคนจับตามองเขาอยู่ร่างสูงไม่ได้สนใจเดินเอื่อยๆไปที่รถ พอลลีนรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของรามันนักธุรกิจหนุ่มหล่อเพื่อนของอชิระและคิดว่าเขาต้องมาที่นี่เธอจึงมาดักรอชายหนุ่มตั้งแต่โสภิตนภาจากไปเธอยังเข้าไม่ถึงตัวเขาเลยและธุรกิจที่จะทำร่วมกันก็ยังไม่คืบหน้าเพราะอธิคุณไม่ว่างและอชิระก็ติดต่อไม่ได้ เธอแค่อยากให้โสภิตนภาเลิกกับอชิระเท่านั้นจึงให้เลขาส่งภาพต่างๆที่แอบถ่ายไปให้โสภิตนภาและยังโทรไปบอกอีกไม่คิดว่าโสภิตนภาจะใจร้อนขับรถออกมาจนเกิดอุบัติเหตุโชคดีที่เลขาของเธอทำงานเรียบร้อยดีจึงไม่เป็นเรื่องข่าวก็เงียบไป “สวัสดีค่ะคุณกาย” พอลลีนทักทายหนุ่มหล่อที่เธออยากได้เขามาครอบครองแต่เธอเจอเขาช้ากว่าโสภิตนภาที่เจออชิระก่อนจนได้แต่งงานกัน ร่างสูงหยุดเดินตัวเกร็งขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงของพอลลีนสองมือกำแน่นก่อนจะหันกลับไปมองผู้หญิงที่เป็นสาเหตุให้ภรรยาของเขาจากไปช้าๆ “คุณกายจะกลับแล้วเหรอคะ” พอลลีนเดินมาหยุดห่างจากชายหนุ่มแค่หนึ่งเมตรเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้มให้อย่างหวานที่สุดเปิดเปลือยความรู้สึกให้เขารู้ว่าเธอชอบเขายังไงตอนนี้เมียก็ตายไปแล้ว “ใช่” อชิระตอบเสียงลอดไรฟันมองพอลลีนตั้งแต่หัวจรดเท้าย่างรังเกียจ “ไปดื่มกับพอลลีนก่อนนะคะ วันนี้พอลลีนมาคนเดียวค่ะ” ไฮโซสาวทอดสพานให้พ่อหม้ายหนุ่มหล่อชม้ายตาขึ้นมองแค่ได้กลิ่นหอมจากร่างแกร่งเธอก็อยากได้เขาจนตัวสั่นแล้ว “หน้าด้าน.” “คุณกายพูดว่าอะไรนะคะ” พอลลีนผงะเมื่อชายหนุ่มพูดกระแทกเสียงใส่หน้าเธอเสียงดัง “ฉันว่าเธอหน้าด้านไงชัดมั้ย” เสียงห้าวพูดห้วนๆแล้วกว้าถอยหลังห่างจากผู้หญิงน่ารักเกียจไปสามก้าว “คุณกายว่าใครคะ” พอลลีนยังงงที่จู่ๆพ่อหม้ายสุดหล่อพูดออกมา “แล้วตรงนี้มีใครล่ะฉันคงไม่บ้าด่าตัวเองหรอกนะ แล้วอย่าคิดว่าทำอะไรแล้วมีใครรู้ถึงกฎหมายทำอะไรไม่ได้แต่ฉันนี่แหละจะทำเอง” อชิระเค้นเสียงออกมามองพอลลีนด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม “คุณกายพูดอะไรคะ พอลลีนไม่เห็นเข้าใจเลย” พอลลีนหน้าซีดใจสั่นเมื่อเห็นท่าทางของชายหนุ่มตรงหน้าที่ตัวแข็งกำมือแน่นตาแดงก่ำแล้วก้าวถอยหลัง “หล่อนทำอะไรก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ วันไหนที่ฉันหาหลักฐานได้วันนั้นหล่อนจะไม่มีที่ยืนในสังคมจำไว้” อชิระพูดจบก็หันหลังเดินไปที่รถเขาไม่อยากจะเสวนากับผู้หญิงคนนี้อีกแม้แต่วินาทีเดียว พอลลีนยืนอึ้งเมื่ออชิระพูดจบพอได้สติเธอก็วิ่งไปกอดร่างสูงจากด้านหลังทำเอาชายหนุ่มตัวแข็งทื่อและขยะแยงผู้หญิงคนนี้เต็มกลืน “คุณกายเข้าใจผิด พอลลีนไม่ได้ทำอะไรผิดคุณกายต้องเชื่อพอลลีนนะคะ” พอลลีนกอดร่างสูงแน่นนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ใกล้ชิดกับเขา อชิระแกะมือของพอลลีนออกจากตัวแล้วปล่อยมือเธอข้างหนึ่งหันหน้ามาหาบีบมืออีกข้างแน่นจนเธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ “พอลลีนเจ็บค่ะคุณกาย..” พอลลีนบอกชายหนุ่มเสียงสั่นเบ้หน้าด้วยความเจ็บ “เจ็บเหรอ ฉันเจ็บมากกว่าหล่อนอีกเป็นล้านๆเท่า แค่นี้ไม่ทำให้หล่อนรู้สึกหรอก” ชายหนุ่มบีบมือแรงขึ้นด้วยความโกรธ “โอ้ยย,คุณกายปล่อยค่ะ พอลลีนเจ็บ” พอลลีนเจ็บจนน้ำตาร่วงก่อนจชายหนุ่มจะปล่อยมือแล้วเปลี่ยนมารวบลำคอของเธอแทนทำเอาพอลลีนตาเหลือกเมื่อมือหนารวบแน่นขึ้น “เจ็บมั้ย เจ็บมากมั้ย เจ็บเท่าที่ฉันเจ็บมั้ย” อชิระบีบคอของพอลลีนแน่นขึ้นแต่เขาไม่ได้ต้องการให้เธอตายไปก่อนที่จะรับกรรม “ฮึกกๆ ปะ ปล่อย ฮื้ออๆๆ” พอลลีนแกะมือของชายหนุ่มออกแต่เขากลับบีบแน่นขึ้นจนเธอกลัวว่าจะตายจริงๆเพราะหน้าตาของเขาน่ากลัวมาก “พี่กายครับ” อธิคุณวิ่งมาหาพี่ชายอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของผู้หญิงที่หันหลังไปทางเขาเดินมาจึงแกะมือพี่ชายออก “ฮึ้กก เฮือกกก...” พอลลีนถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้นน้ำตาไหลเป็นทางยกมือกุมคอไว้ด้วยความกลัว “ไปกันเถอะก็อต” ชายหนุ่มบอกน้องชายแล้วหันหลังเดินไปที่รถ “อย่ามายุ่งกับครอบครัวของผมอีกและจะไม่มีการร่วมหุ้นระหว่างบริษัทของคุณกับผมทุกอย่างธุรกิจที่จะทำร่วมกันผมขอโมฆะยกเลิกทั้งหมด” อธิคุณพูดกับพอลลีนแล้วเดินไปได้สามก้าวหันกลับมา “อ้อ ถ้าไม่อยากตายก็อย่าเข้าใกล้พี่กายอีก” อธิคุณพูดจบก็เดินไปขึ้นรถที่คนขับรถเปิดประตูรอแล้วสองพี่น้องก็กลับบ้านไม่สนใจพอลลีนที่นั่งแมะกับพื้นทางเดินไม่สนใจว่าชุดสวยราคาหลายหมื่นจะเปื้อน “ฮืออๆ..” พอลลีนนั่งร้องไห้มองตามหลังรถของสองพี่น้องไปด้วยความโกรธเคียดแค้นไปพร้อมกันและรู้ว่าเขาหมายความว่ายังไงหรืออชิระรู้ว่าเธอเป็นต้นเหตุให้โสภิตนภาเสียชีวิต “คุณพอลลีนเกิดอะไรขึ้นคะ “ เลขาส่วนตัวแอบมองอยู่ข้างรถที่ห่างออกไปห้าคันเพื่อบันทึกภาพของเจ้านายสาวกับพ่อหม้ายหนุ่มหล่อจึงไม่ได้ยินว่าอชิระคุยอะไรกับเจ้านายสาว “พาฉันกลับบ้านที” พอลลีนพูดเบาๆกับเลขาส่วนตัวที่ตามติดเธอเป็นเงาตามตัวจนกว่าจะเข้านอน “ค่ะๆ” อรพินประคองเจ้านายสาวไปขึ้นรถแล้วกลับบ้าน อชิระขึ้นรถได้ก็นั่งเงียบส่วนน้องชายนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็มองพี่ชายและคิดว่าเขามาไม่ทันมันจะเกิดอะไรขึ้นกับ “มีอะไรจะถามพี่ มองอยู่ได้” ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมองน้องชายและถามเขา “รู้ได้ยังไงว่าก็อตจะถาม” “แกคงอยากรู้ว่าทำไมพี่บีบคอยัยนั่นจริงมั้ย” “ก็จริง แล้วพี่ตั้งใจจะบีบคอยัยนั่นจนขาดอากาศหายใจเลยหรือเปล่าครับ” อธิคุณถามพี่ชายและรอฟังคำตอบเขากลัวเหลือเกินว่าพี่ชายจะตอบว่าจริง “พี่ยังมีอีตั้นต้องดูแล ยัยนั่นตายมันง่ายไปให้อยู่รับกรรมที่หล่อนทำไปจนตายดีกว่า” อชิระตอบน้องชายที่ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ทำไมแกกลัวพี่จะฆ่ายัยนั่นเหรอนายก็อต” “กลัวสิครับ ก็ตอนที่ก็อตมาถึงพี่กายน่ากลัวจริงๆนี่” คนเป็นน้องบอกพี่ชายเพราะเขาเห็นหน้าตาท่าทางขึงขังก็กลัวน่ะสิ “พรุ่งนี้แกจัดการจบงานกับบริษัทของยัยนั่นซะ ถ้าหล่อนจะเรียกร้องค่าเสียหายก็ให้ไปฟ้องเอา” อชิระบอกน้องชายจะได้จบไปยัยนั่นจะได้ไม่มาเหยียบบริษัทของเขาอีก “ครับพี่กาย” สองพี่น้องก็คุยกันจนถึงบ้านแล้วแยกย้ายกันเข้านอน อชิระเดินเข้าห้องของเขาแล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเสร็จก็เดินไปห้องของลูกชายที่อยู่ติดกันแต่ไม่เจอและคิดว่าคืนนี้เจ้าตัวแสบคงไปนอนกับใครสักคนระหว่างคุณทวด คุณปู่คุณย่า และน้องสาว ร่างสูงจึงเดินกลับห้องแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงหลับไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ เช้าวันถัดมาอชิระทำงานพร้อมน้องชายน้องสาวที่อาศัยรถของเขาไปบริษัทและคุยเรื่องงานกันไปในรถจนถึงบริษัทเสียงโทรศัพท์ของอชิระก็ดังขึ้น “ว่าไงมนัสมีงานด่วนเหรอ” ชายหนุ่มถามเลขาส่วนตัว “เปล่าครับแต่เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับคุณกาย” “เรื่องอะไร” “มีคลิปของคุณกายกับคุณพอลลีนเผยแพร่ในสื่อตอนนี้ผมกำลังติดตามปิดต้นตออยู่ครับ คุณกายดูลิ้งค์ที่ผมส่งไปก่อนนะครับ” มนัสบอกเจ้านายแล้ววางสายและรอฟังคำสั่งส่วนเขาเร่งทางตำรวจและนักสืบที่ตามเรื่องคดีของโสภิตนภา “มีอะไรครับพี่กาย” “ข่าวน่ะอ่านดูสิ” อชิระยื่นโทศัพท์ของเขาให้น้องชายดูข่าวที่มนัสส่งลิ้งค์มาให้ “เกิดอะไรขึ้นกับพ่อหม้ายหนุ่มหล่อนักธุรกิจชื่อดังกับนักธุรกิจสาวไฮโซคนดังเหมือนจะทะเลาะกัน มีอะไรในกอไผ่หรือเปล่าน้า” อธิคุณอ่านจบก็เงยหน้ามองพี่ชายและยื่นโทรศัพท์ให้น้องสาวดู “นี่อะไรกันคะพี่กาย” “ไม่มีอะไรเกล พี่แค่บีบคอยัยนั่นเองแต่ดูว่าหล่อนยังไม่สำนึก” อชิระพูดจบก็โทรหาเพื่อนรักทันที “กริ้งๆ กริ้งงๆๆ..” ชนเทพกำลังนอนหลับฝันดีก็สะดุ้งตื่นเสียงโทรศัพท์จึงหยิบมาดูเห็นเป็นสายจากเพื่อนรักก็กดรับสาย “โหลไอ้กายโทรมาทำไมแต่เช้าวะ” คนง่วงถามเพื่อนรักที่โทรมาแต่เช้าเพราะเขาเพิ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง “มีเรื่องให้ช่วยหน่อยน่ะ” “มีอะไรว่ามาเลยเพื่อน” จากน้ำเสียงงัวเงียกลับผุดลุกขึ้นนั่งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แกให้คนที่ผับก๊อบปี้กล้องวงจรปิดให้หน่อย เอาตอนที่ยัยพอลลีนนั่นเข้าไปในผับของแกจนถึงตอนที่ฉันบีบคอหล่อด้วยนะ” “ห๊ะ แกว่าอะไรนะกาย แกบีบคอยัยพอลลีนแล้วเป็นไงวะหรือว่าหล่อนตายแล้วไอ้เพื่อนบ้า” ชนเทพเครียดขึ้นมาทันทีหากเพื่อนทำจริงจะทำยังไงดี “หล่อนยังไม่ตาย ฉันอยากรู้ว่าว่าใครเป็นคนแอบถ่ายคลิปแล้วเอาไปเผยแพร่น่ะ แกดูข่าวในสื่อออนไลน์สิ” “โล่งใจฉันนึกว่าแกฆ่าหล่อน โอเคเดี๋ยวไปจัดการให้ เสร็จแล้วจะเอาเข้าไปให้ที่บริษัท” ชนเทพบอกเพื่อนรัก “ขอบใจมากเทพ” อชิระวางสายจากเพื่อนแล้วลงจากรถขึ้นไปที่ห้องทำงานของเขาที่อยู่ชั้นสิบ “สวัสดีค่ะพี่กาย พี่ก็อต เกล” นิลลนี ธนวัชรกุล หรือนีล วัยเดียวกับอัสมาลูกสาวของกันตธรพี่ชายของกวินพ่อของสามพี่น้องที่กำลังเดินขึ้นลิฟต์จึงยกมือไหว้พี่ทั้งสองคน “หวัดดีนิล เพิ่งมาถึงเหมือนกันเหรอจ้ะ” อัสมาถามญาติสาวที่เป็นผู้จัดการฝ่ายตลาด “จ้ะเกล เอ่อ พี่กายเห็นข่าวหรือยังคะ” นิลลนีถามพี่ชาย “เห็นแล้ว ไม่มีอะไรหรอกไปทำงานกันเถอะเดี๋ยวพี่จัดการเอง” อชิระบอกน้องๆแล้วเดินนำเข้าไปในลิฟต์ขึ้นไปชั้นสิบและแยกย้ายกันไปทำงาน “กริ้งงๆ กริ้งงๆๆ.” อชิระเดินไปยังไม่ถึงโต้ะทำงานเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นชายหนุ่มก็ล้วงออกมาดูเห็เบอร์ของปู่จึงกดรับสาย “ครับปู่” “เรื่องข่าวนี่เป็นยังไงเจ้ากาย” เจ้าสัวอนันท์ถามหลานชายเพราะคลิปที่เห็นมันเหมือนหลานชายทำร้ายพอลลีน “ไม่มีอะไรครับปู่ ผมขอจัดการก่อนแล้วเย็นนี้จะเล่าให้ฟังนะครับ” อชิระบอกปู่เขารู้ว่าจะต้องทำยังไงเพื่อให้นักข่าวขุดคุ้ยเรื่องของพอลลีน “ใช้สติให้มากล่ะอย่าให้ความโกรธครอบงำ แค่นี้นะ” เจ้าสัวเตือนสติหลานชายแม้พอลลีนจะเป็นต้นเหตุให้หลานสะใภ้ตายหากจะทำให้ตายตกตามกันไปมันก็ไม่มีประโบชน์เพราะโสภิตนภาก็ไม่พื้นขึ้นมาและต้องติดคุกฐานฆ่าคนตายอีก “ครับปู่” อชิระวางสายจากปู่แล้วเรียกมนัสกับเปรมจิตเข้ามาในห้อง “เรามีข้อมูลของทางโน้นมากค่ไหน” เมื่อเลขาคนเก่งทั้งสองนั่งลงอชิระก็ถามเลขาทั้งสองทันที “เรามีข้อมูลของฝ่ายโน้นมากพอสมควรค่ะคุณกาย ถ้าจะปล่อยหลุดบ้างจะเป็นไรคะ ให้นักข่าวขุดคุ้ยต่อเรานั่งรอดูผลงาน แล้วกระตุ้นทีละนิดแล้วเราค่อยแถลงข่าวหรือคุณมนัสว่ายังไงคะ” เปรมจิตถามเลขาส่วนตัวเจ้านายหนุ่มหล่อขนาดมีเมียแล้วยังเนื้อหอมยิ่งตอนนี้เป็นพ่อหม้ายก็ยิ่งหอมหวานในหมู่สาวๆที่อยากใกล้ชิด “ก็ดีนะครับ เดี๋ยวผมให้พรรคพวกจัดการเองรับรองว่าตามกลิ่นไม่เจอครับ” มนัสบอกเจ้านายเพราะเขาก็อยากจัดการยัยพอลลีนตั้งแต่มาติดต่องานแล้ว เขายังคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นโรคจิตหรือเปล่าถึงได้ตามเจ้านายทั้งที่รู้ว่ามีภรรยามีลูกแล้ว “งั้นมนัสจัดการเลย เอาเรื่องของผู้หญิงคนนั้นกับผู้ชายคนล่าสุดนี่แหละ” อชิระบอกเลขาคนสนิทข้อมูลของพอลลีนมาเยอะ เธอมีความสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคนส่วนมากก็เป็นผู้ชายที่มีภรรยาแล้วทุกคนก็ไม่มีใครรู้เพราะต่างฝ่ายต่างแอบมาหาความสุขที่เขารู้เพราะนักสืบจึงดัดหลังผู้หญิงโรคจิตที่ทำให้ภรรยาของเขาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ “แล้วเรื่องคลิปล่ะคะ” เปรมจิตยังห่วงเรื่องคลิปที่กำลังเป็นข่าวดังในขณะทั้งใส่สีตีไข่กันสนุกสนาน “รอนายเทพเอาภาพจากกล้องวงจรปิดมาก่อนครับแล้วเราค่อยมาคุยกันอีกครั้ง ตอนนี้เอาแค่นี้ก่อนครับ” อชิระบอกเลขาทั้งสอง “ครับ/ค่ะ” เปรมจิตกับมนัสก็ออกทำตามคำสั่งของเจ้านายและทำงานท่ามกลางเสียงโทรศัพท์จากนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ซึ่งเปรมจิตแจ้งทุกสำนักไปว่าเจ้านายจะแถลงข่าวแล้วจะนัดวันเวลาอีกครั้งเสียงถึงได้ซาลงไปแล้วเธอถึงทำงานได้ เวลา10.15น. “สวสดีครับพี่จิต มนัส นายกายอยู่หรือเปล่าครับ” ชนเทพถามเลขาของเพื่อน “สวัสดีครับคุณเทพ” “สวัสดีค่ะคุณเทพเจ้านายอยู่ในห้องเชิญค่ะ” เปรมจิตเชิญเพื่อนของเจ้านายและกดอินเตอร์คอมบอกอชิระ “ขอบคุณครับพี่จิต” ชนเทพเดินเข้าไปในห้องทำงานของเพื่อนรักพร้อมกับสิ่งที่เพื่อนต้องการ “ว่าไงเทพได้เรื่องมั้ย” เจ้าของห้องถามผู้มาเยือน “อ้าว,ไอ้นี่ถามแปลกๆก็แกให้ฉันหาอะไรมันก็ต้องได้สิวะมือชั้นี้แล้ว เอ้านี่, เปิดดูเอง” ชนเทพยื่นแฟลชไดร์ฟให้เพื่อนแล้วนั่งลงตรงหน้า “ขอบใจมากเพื่อน” ชายหนุ่มก็เสียบแฟลชไดร์ฟกับแมคบุ๊คแล้วเปิดดูหันหน้าจอมาให้เพื่อนดูด้วย สองหนุ่มดูภาพจากล้องวงจรปิดของร้านก็เห็นว่าพอลลีนมากับเลขาสองคนและคนที่ถ่ายภาพก็คือเลขาของเธอเองเพราะไม่เห็นใครในจอภาพอีกนอกจากอชิระกับพอลลีนและเลขาของเธอก่อนที่อธิคุณจะวิ่งมาหา “งานนี้ฉันออกหน้าเองเพราะเหตุเกิดที่ผับ แกไม่ต้องห่วงเพื่อนส่วนเรื่องอื่นหากมีอะไรก็ให้บอกฉันพร้อมจะช่วยแกเต็มที่” ชนเทพบอกเพื่อน “ฉันกำลังหาหลักฐานมัดตัวยัยนั่นหากไม่มีหลักฐานฉันจะจัดการยัยนั่นได้ไม่เต็มที่ ” อชิระยิ้มให้เพื่อนที่พร้อมจะช่วยเหลือเขาเต็มที่ “แกอย่าคิกมากล่ะเดี๋ยวคนเขาก็เข้าใจเองแหละ งั้นฉันกลับก่อนนะจะได้จัดการเรื่องนี้ให้แก” ชนเทพขอตัวกลับเพื่อนัดนักข่าวจัดการเรื่องข่าวให้เพื่อน “ขอบใจแกมานะเทพ” “ยินดีเพื่อนไปนะ” ร่างสูงใหญ่ไม่ต่างจากเจ้าของห้องเดินออกไป อชิระก็เก็บแฟลชไดร์ฟไว้ในลิ้นชักก่อนจะทำงานชายหนุ่มไม่ได้กังวนถึงเรื่องนี้เลยเพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิดหากพอลลีนจะเอาเรื่องเขาก็พร้อมจะชนเต็มที่ เวลา16.10น “ก๊อกๆ ก๊อกๆ” “นี่มันเรื่องอะไรกันตากาย” กวินเดินเข้ามาในห้องทำงานของลูกชายเขาเห็นข่าวเมื่อตอนสายแต่ติดงานพาหุ้นส่วนบริษัทผลิตเสื้อผ้าไปดูโรงงานผลิตที่ชลบุรีตั้งแต่เช้าและเพิ่งกลับมาถึงบริษัทจึงมาหาลูกชายก่อน “ไม่มีอะไรครับพ่อ ยัยผู้หญิงคนนั้นเขาสร้างสถานการณ์เองครับเดี๋ยวนายเทพจะเอาภาพจากกล้องวงจรปิดให้นักข่าวครับ” จากนั้นอชิระก็เล่ารายละเอียดให้พ่อของเขาฟังทั้งหมด “แล้วทนายของเราว่ายังไงบ้างลูก” “ก็เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้แล้วครับ ผมจะรอดูว่าผู้หญิงคนนั้นจะทำอะไรอีก ตอนนี้ให้นายก็อตยกเลิกแผนร่วมหุ้นทั้งหมดแล้วครับ” “ดีลูก คนแบบนี้อย่าไปยุ่งด้วยเลย งั้นกลับบ้านกันเถอะ” กวินชวนลูกชายกลับบ้าน “ผมขอทำงานที่เหลือให้เสร็จก่อนนะครับพ่อ” อชิระมองงานตรงหน้าแล้วบอกพ่อเขาไม่อยากให้งานค้าง “งั้นพ่อกลับก่อนละกัน” กวินบอกลูกชายแล้วก็ลุกออกไปจากห้องทำงานของลูกชายเพื่อกลับบ้านเหลืออีกครึ่งชั่วโมงก็เลิกงานแล้ว เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ชนเทพเอาภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิดให้นักข่าวดูและพาไปดูจุดที่เขาติดตั้งกล้องและจุดที่เลขาของพอลลีนแอบถ่ายภาพทำให้เธอข่าวดังพลิกสถานการณ์ให้อชิระเป็นต่อส่วนเรื่องที่บีบคอยังเป็นประเด็นเพราะยังไม่มีใครออกมาพูดและยังมีภาพพอลลีนเข้าโรงแรมพร้อมกันนักธุรกิจคนอื่นอีกหลายคนที่เธอเข้าไปพัวพันเพื่อจะได้ร่วมหุ้นกับบริษัทใหญ่จึงปรึกษากับเจ้าของบริษัทอย่างใกล้ชิดจนเป็นข่าวดังกลบข่าวของอชิระไปเลยตอนนี้นักข่าวก็ตามพอลลีนเพื่อขอสัมภาษณ์แต่ยังตามตัวไม่เจอ วันนี้สามพี่น้องตระกูลธนวัชรกุลต้องไปงานเลี้ยงครบรอบสิบปีของบริษัทในเครือที่ร่วมหุ้นกับญี่ปุ่นผลิตเสื้อผ้าเด็กแบรนด์ดังที่ส่งออกทั่วอาเซียนจึงมีพันธมิตรมากมายมาร่วมงานและที่ขาดไม่ได้คือนักข่าวที่เขาเลี่ยงไม่ได้ “ฝากดูอีตั้นด้วยนะครับแม่” อชิระบอกแม่เพราะเขาต้องไปงานเลี้ยง “จ้ะลูกไม่ต้องห่วง คืนนี้ก็ให้หลานนอนกับพ่อแม่เลยละกัน” โยษิตาบอกลูกชาย “ก็ได้ครับแม่ ไปเถอะ” ชายหนุ่มพูดจบก็ชวนน้องชายน้องสาวไปงานเลี้ยงจัดขึ้นที่โรงแรมหรูของผู้เป็นลุงและคุณอาทั้งสองกับน้องๆก็ไปร่วมงานด้วยรถตู้หรูสองคันก็ขับรถตามกันไปจนถึงงาน “นักข่าวเยอะแบบนี้ไหวหรือเปล่าตากาย” กิติกา ธนวัชรกุล กา วัยห้า53ปีเลิกกับสามีไปเมื่อสิบปีก่อนเธอเป็นลูกสาวคนที่เล็กของเจ้าสัวอนันท์ และอยู่เป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้และรักหลานชายหลานสาวมากยิ่งหลานชายตัวน้อยก็ยิ่งหลง “ไหวครับอากา” อชิระตอบอาสาวแล้วยื่นแขนให้ท่านควง “อาว่าแกให้สัมภาษณ์ไปเลยตากาย ตอนนี้ฝ่ายนั้นเขาเก็บตัวเงียบหากเราออกก่อนได้เปรียบนะ” กีรนา โสภาสุวรรณ วัย56ปีลูกสาวคนที่สามของเจ้าสัวอนันท์แต่งงานกับอรรนพ โสภาสุวรรณ หุ้นส่วนบริษัททอผ้าที่ร่วมหุ้นกับบริษัท ซีเอสเท็กซ์ไทล์ จำกัด มานานกว่ายี่สิบปีตั้งแต่รุ่นพ่อ มีลูกสาวหนึ่งคนชื่อกาญหทัย หทัย วัย28ปีเป็นผู้จัดการฝ่ายตลาดและลูกชายหนึ่งคนชื่ออติพันธ์ ติน วัย26ปีเพิ่งจบปริญญาโทจากอังกฤษและมาเป็นผู้ช่วยของอธิคุณที่รับผิดชอบติดต่องานกับคู่ค้าต่างประทศและวันนี้ก็มาร่วมงานด้วย “วันนี้คงไม่สะดวกครับอากรีน เกรงใจเจ้าภาพเขา” อชิระตอบกีรนาคุณอาคนสวยที่แต่งตัวจนเดาอายุไม่ถูกสวมประดับเครื่องเพชรมาเต็มที่ “ก็จริงของหลานนะ งั้นก็นัดให้สัมภาษณ์ที่บ้านก็ได้” กีรนาบอกหลานชายเพราะเธอได้ฟังหลานชายเล่าให้ฟังแล้วก็ไม่พอใจเหมือนกัน “ผมว่าเราเข้าไปในงานกันเถอะเรื่องนี้เดี๋ยวค่อยคุยกันที่บ้าน” อชิระบอกอาสาวทั้งสองจากนั้นทั้งหมดก็เดินเข้าไปในโรงแรมจนถึงห้องจัดเลี้ยงก็เจอด่านแรกคือนักข่าวที่อยู่หน้างานและหลีกเลี่ยงไม่ได้ “สวัสดีครับคุณอชิระ ขอสัมภาษณ์หน่อยไ้มั้ยครับ” สุริยนนักข่าวหนุ่มหล่อที่คุ้นเคยกันดีมองหน้าอชิระแล้วยกยิ้มเล็กน้อย “ผมมีเวลาไม่นานนะครับ” อชิระตอบนักข่าวหนุ่มแล้วทุกคนก็จ่อไมค์มาที่ชายหนุ่มมาดขรึมหน้านิ่งไร้รอยยิ้มและไม่ให้สัมภาษณ์ตั้งแต่ภรรยาจากไป “คลิปที่ปล่อยออกมาเหมือนคุณอชิระทะเลาะกับคุณพอลลีนใช่มั้ยครับ แล้วใครเป็นคนปล่อยคลิปครับ” “ผมไม่ได้ทะเลาะกับเธอ ผมรู้จักเธอในฐานะว่าที่หุ้นส่วนเท่านั้นไม่ได้รู้จักกันเป็นส่วนตัว เรื่องที่เกิดขึ้นต้องไปถามเธอเองว่าทำแบบนั้นเพื่ออะไร ส่วนเรื่องคนปล่อยคลิปผมกำลังตามอยู่ได้เรื่องยังไงผมจะเอาตัวมาให้ทุกท่านสัมภาษณ์นะครับ.” อชิระตอบนักข่าวหนุ่ม “เกิดเรื่องแบบนี้แล้ว ยังทำธุรกิจร่วมกันมั้ยครับ” “เรื่องธุรกิจยังอยู่ในระหว่างดูงานเจรจาแต่งานนี้ผมไม่ได้รับผิดชอบ น้องชายของผมเป็นคนรับผิดชอบงานนี้ให้เจ้าของเขาตอบเองนะครับ ผมขอตัวก่อนครับ” อชิระโยนไปให้น้องชายที่รอจังหวะอยู่ “คุณอธิคุณพอจะตอบได้มั้ยครับว่าจะร่วมธุรกิจกับคุณพอลลีนต่อหรือหยุดแค่นี้คะ” นักข่าวสาวถามหนุ่มหล่อน้องชาย ของอชิระที่เนื้อหอมไม่แพ้พี่ชาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม