บริเวณหน้าผับ
น่านฟ้านั่งอยู่ตรงม้านั่งหินอ่อนด้วยหัวใจที่เหนื่อยล้า เงินนั่นเป็นเงินที่เก็บหอมรอมริบตั้งแต่ที่เธอเริ่มเก็บเงินอีกครั้งเมื่อเห็นว่าพ่อเธอเลิกเล่นพนันแล้ว เธอคิดอย่างนั้นมาตลอด...มันผิดพลาดตรงไหนกันนะ
"ผมช่วยคุณได้นะ" น้ำป่าพูดขึ้นในขณะที่หยิบบุหรี่ออกมาสูบ
น่านฟ้าเงยหน้าขึ้นมองคนที่มายืนค้ำศีรษะเธออยู่ แถมยังพ่นควันขาวลอยผ่านหน้าเธออีก 'ไม่มีมารยาท' เธอนึกบ่นชายแปลกหน้าในใจก่อนจะถามออกไป
"คุณรู้เหรอ ว่าฉันอยากให้ช่วยอะไร"
"แน่นอน..ว่าฉันรู้" ใบหน้าคมก้มมองสบตากับคนที่เริ่มมีน้ำตาไหลอาบสองข้างแก้ม เขาเว้นช่วงจังหวะในการพูดเพื่อเรียกร้องให้น่านฟ้าหันมาสนใจกับหัวข้อที่จะคุยกัน
"คุณต้องการอะไร" น่านฟ้ายกมือขึ้นปาดน้ำตาที่มันไหลออกมาเพียงเล็กน้อย เธอไม่มีเวลามาเสียใจถ้าหากว่าเธอต้องการอยากจะได้เงินและความฝันของเธอคืน
"พรุ่งนี้เจอกัน เตรียมตัวให้พร้อมและเคลียร์คิวให้ว่างด้วยก็แล้วกัน"
"ยังไง ฉันยังไม่รู้จักคุณเลย" น่านฟ้าถึงกับงงกับคำพูดของผู้ชายที่มีสูงใหญ่ ดูแล้วคงจะเป็นลูกครึ่งอย่างแน่นอน
"คนของผมจะไปรับคุณที่ทำงาน ตอนเย็น" น้ำป่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งพลางใช้สายตาคมจ้องมองเข้าไปนัยน์ตาของเธอ พูดจบก็เดินออกไปด้านข้างที่เป็นลานจอดรถ แล้วรถยนต์คันหรูก็ขับผ่านหน้าเธอไป มีเพียงน่านฟ้าที่ได้แต่มองตารถคันนั้นจนสุดสายตาอย่างใช้ความคิด
"ใครกันนะ..แต่คงจะรวยน่าดู" น่านฟ้าพูดเบาๆกับตัวเองยังไงก็ช่างเถอะในเมื่อเธอมีโอกาส มีคนยื่นมือจะมาช่วยมีเหรอที่เธอจะไม่รับไว้ เธอนั่งอยู่ที่เดิมประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง เธอจึงได้กลับบ้านของเธอ บ้านที่เธอยังไม่รู้ว่ามันไม่ใช่ของเธออีกต่อไป
เพนท์เฮาส์สุดหรูตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตึกใจกลางเมือง ผนังกระจกจรดเพดานเผยให้เห็นวิวที่เต็มไปด้วยตึกสูงๆ รถ ถนนและท้องฟ้าที่มี
ดวงดาวส่องแสงวับวาว น้ำป่าเดินไปนั่งที่โซฟาหนังที่ถูกส่งตรงมาจากอิตาลีที่พ่อกับแม่ของเขาสั่งทำมาให้เป็นพิเศษ แล้วหันไปถามอเลสซิโอ
"ตอนนี้พรเทพอยู่ไหนแล้ว" น้ำป่าถามพร้อมกับมองออกไปที่ด้านนอกของเพนท์เฮ้าส์
"อยู่ประเทศเพื่อนบ้านเรานี่เองครับ" อเลสซิโอสั่งให้ลูกน้องสะกดรอยตามดูทุกการเคลื่อนไหว แล้วให้รายงานทันที
"หึ...ทิ้งได้แม้กระทั่งลูกของตัวเอง" ผิดที่ไหน สิ่งที่เขาคิด เมื่อชีวิตถึงตาจนทุกคนล้วนเอาตัวเองให้รอดกันทั้งนั้น
"แต่นายก็เป็นคนวางแผนไม่ใช่เหรอครับ"
"อะ เลส ซิ โอ..." น้ำป่าเน้นน้ำเสียงเรียกชื่อแต่ละคำเพื่อเป็นการปรามมือขวาของตนเอง
"เออ!ขอโทษครับนาย"
ใช่...เขาเป็นคนวางแผน เพราะเขาต้องการให้เธอมารับข้อเสนอนี้ เพราะถ้าเป็นคนอื่น เขาก็ไม่เอา
"เธอเหมาะกับงานนี้ที่สุดแล้วน่านฟ้า"
วันต่อมา / 17.30น.
หลังจากที่น้ำป่าแนะนำตัวให้น่านฟ้าได้รู้จัก เขาก็เริ่มพูดอธิบายเรื่องการแต่งงานให้น่านฟ้าได้ฟัง เพราะใกล้วันเกิดของแม่เขาแล้วถ้าเขาไม่พาแฟนหรือภรรยาให้แม่กับพ่อได้รู้จัก มีหวังได้แต่งงานกับใครที่ไหนก็ไม่รู้อย่างแน่นอน เพราะพี่ชายของเขาอย่างลีโอ ก็แต่งงานกับคนที่แม่ของเขาได้หมายหมั้นเอาไว้แล้ว และเขาจะไม่ยอมเป็นอย่างพี่ลีโอเป็นอันขาด
"คุณพูดว่าอะไรนะ พูดใหม่อีกที"
น่านฟ้าไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง คนตรงหน้าเธอออกจะมีใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม ผิวสองสี ดวงตาสีน้ำตาลแถมยังมีรอยยิ้มที่มีเสน่ห์แต่ใช้ไม่ได้กับเธอหรอกนะ ส่วนเรื่องการแต่งตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้าแบรนด์เนมทั้งตัวแถมยังเป็น Hi-End อีกต่างหาก มีเหรอจะหาคนที่มายืนเคียงคู่กันไม่ได้
"คุณได้ยินชัดแล้วนะและก็นี่...เอกสาร" น้ำป่าถอนหายใจเบาๆ แล้วเลื่อนซองเอกสารตรงหน้าให้กับน่านฟ้า
"..." ไม่มี ไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ชายคนนี้ เขาดูมั่นใจอะไรขนาดนั้นว่าเธอจะรับข้อเสนอ
"เดี๋ยวนะ เราเคยเจอกันมาก่อน..ใช่ไหม" และเมื่อน่านฟ้าพยายามนึกเธอก็ถึงกับบางอ้อทันที
"นาย!! คนที่เคยหัวเราะเยาะฉันใช่ไหม...ใช่จริงๆด้วยนี่นาย" น้ำป่าขี้เกียจฟัง เขาจึงพูดแทรกขึ้นก่อนที่เธอจะร่ายยาวมากไปกว่านี้
"อ่านแล้วก็เซ็นให้เรียบร้อย" และนั่นใช่ว่าน่านฟ้าอยากจะถาม อยากจะรู้มากนักหรอก
อีกอย่างวันนั้นเป็นวันที่น่าอายที่สุดดันไปชนกับเขาทำให้กาแฟหกเลอะเสื้อของเขาและของเธอเอง พอเธอขอโทษและขอชดใช้โดยที่เธอจะซื้อเสื้อตัวใหม่คืนแต่พอรู้ยี่ห้อของเสื้อเลยทำให้เธอถึงกลับพูดไม่ออก เสื้อบ้าอะไรตัวละต้องเป็นหมื่น แต่สิ่งที่เขาทำ เขากลับหัวเราะอยู่ในลำคอราวกับว่ากำลังหัวเราะเยาะเธออยู่ น่าอายชะมัด
แผ่นหลังกว้างเอนพิงพนักเก้าอี้อย่างเต็มที่ ตาคมจ้องมองไปยังหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆไล่มองไปทีละจุด ผมดำเงาซอยสั้น ใบหน้าจืดชืดซะไม่มี ไหนจะแว่นตาอันใหญ่ๆ แล้วนั่นอะไร แก้มป่องอะไรขนาดนั้นอมลูกอมเอาไว้อยู่หรือไง อายุยี่สิบสองจริงไหมเนี่ย
จู่ๆน้ำป่าก็ยื่นมือไปจิ้มแก้มป่องๆในขณะที่น่านฟ้ากำลังอ่านสัญญาอย่างตั้งใจ
"โอ้ยย!! นี่คุณ"
"เออ..อ๋อ ผมเห็นมดน่ะ เขี่ยออกให้แล้ว"
"มด! แค่เขี่ยออกที่ไหน เห็นไหมแก้มฉันต้องแดงแน่ๆกดมาซะแรงเชียว"
"..."
"เจ็บชะมัด" น่านฟ้ายู่หน้าแล้วมองค้อนใส่คนตรงหน้าไปหนึ่งที
น้ำป่าได้แต่มองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่วูบไหวเพียงเล็กน้อย ผู้หญิงอะไรโวยวายเก่ง ดูสินั่นใส่ชุดทำงานอะไรดูพะรุงพะรังไปหมด น้ำป่าค่อยๆเหลือบมองไปที่ใต้โต๊ะก็เห็นว่าเธอใส่กางเกงขายาวพองๆรองเท้า...ผ้าใบ...เทรนด์ใหม่หรือไง
"นี่คุณ!! ข้อนี้หมายความว่ายังไง" น่านฟ้าถามความหมายของข้อสัญญาด้วยแววตาที่เป็นประกาย
"ก็ตามที่ระบุ.." ทำไมเมื่อกี้ เขายิ้ม..เขายิ้มให้เธองั้นเหรอ เมื่อน้ำป่านึกได้เขาก็หันไปหาอเลสซิโอกับยากุ ทั้งสองรู้ได้ทันทีว่านายเขาอยากจะรู้หรืออยากจะถามอะไร ทั้งสองจึงได้พยักหน้ารับพร้อมกันทั้งสองคนเพราะอเลสซิโอกับยากุ เห็นกับตาว่าเจ้านายของเขายิ้ม
"นี่! เซ็นๆไปเถอะ ฉันไม่เอาเธอไปค้ามนุษย์หรอก"
น่านฟ้าอ่านสัญญาทีละข้ออย่างละเอียด(หึ..แค่ผ่านๆ) และที่มาของสัญญนี้ก็คือพ่อเธอเป็นหนี้ที่กาสิโนถึงแม้จะชดใช้ไปแล้วแต่ทว่าดอกเบี้ยที่มันงอกเงยทุกวัน พ่อของเธอไม่มีให้ เงินในบัญชีกับบ้านก็ไม่เหลือ ไม่เหลืออะไรให้เธออีก เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง
น่านฟ้ากลั้นน้ำตาเอาไว้ เธอยอมรับสภาพกับสิ่งที่เป็น และผลที่ตามมา เพราะเป็นพ่อของเธอเอง ไม่ใช่ใครที่ไหน และเธอก็เข้มแข็งพอเธอผ่านมาหมด ทุกอุปสรรคเพราะเธอเติบโตมากับพ่อแค่สองคน แม่เธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตั้งแต่เธอเรียนชั้นประถม ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วเธอสามารถไปอยู่บ้านตากับยายที่ฝรั่งเศสได้ แต่เธอเลือกจะอยู่กับพ่อของเธอมากกว่า
"เดี๋ยวคุณ! แค่ปีเดียวแน่นะ เซ็นใบหย่าเมื่อไหร่คุณก็จะเปิดร้านเสื้อผ้าให้ฉันที่ฝรั่งเศส..จริงๆใช่ไหม"
'ทำไมเขาถึงรู้ว่าเราอยากเปิดร้านที่ฝรั่งเศส หรือว่าจะบังเอิญ' น่านฟ้ารอคำยืนยันอย่างใจจดใจจ่อ เธอดีใจจนไม่ได้อ่านสัญญาหน้าสุดท้าย
"แน่นอน ยิ่งกว่านั้นถ้าเธอทำได้ดี เธออยากได้อะไรฉันก็จะให้หมด" น้ำป่าพูดด้วยน้ำเสียงหนักเบาต่างกัน
น่านฟ้าแค่ฟังคำจากคนตรงหน้าพลางก้มหน้าลงรีบเซ็นสัญญา เพื่อตอบตกลงทันที...สิ่งที่น่านฟ้าทำยิ่งทำให้น้ำป่าเข้าใจว่าเธอก็เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ เพียงแต่ว่าเธอคนนี้คงไม่ทางที่จะหลงรักเขาอย่างแน่นอน เพราะเมื่อถึงตอนนั้นมันคงจะยุ่งยากเกินไป
"เรียบร้อย จะไปอิตาลีเมื่อไหรก็บอกแล้วกัน ฉันไปล่ะ" น่านฟ้าขยับเก้าอี้ออกเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืน
"เดี๋ยว!! นั่นจะไปไหน" น้ำป่าเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยก่อนจะถามออกไป
"กลับบ้านไง บ้าน เข้าใจไหม บ้านน่ะ"
"เธอนี่มัน! ฉันจะไปรอที่รถ ยากุจัดการด้วย" น้ำป่ากำลังคิดว่า นี่เขาเลือกถูกคนแล้วใช่ไหม เขาได้แต่ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ครับนาย"
"อะไรเหรอ"
"คุณต้องย้ายไปอยู่กับนายที่เพนท์เฮ้าส์ครับ แล้วอีกอย่างบ้านของคุณเป็นกรรมสิทธิ์ของนายผมเรียบร้อยแล้วครับ" ยากุพูดพร้อมกับเปิดสัญญาหน้าแรก มันเป็นข้อย่อยออกมาและน่านฟ้าก็พลาด
ร่างบางได้แต่ยืนนิ่งเพื่อตั้งสติก่อนจะถามยากุออกไป
"มีข้อไหนอีกไหม"
"เมื่อกี้คุณอ่านหมดแล้วนะครับ แล้วอีกอย่างคุณเองก็เซ็นสัญญาแล้ว เชิญครับ เดี๋ยวนายจะรอนาน"