ตอนที่ 9 สปายของแม่

1642 คำ
น้ำป่าก้มมองที่แหวนของตนเองก่อนจะหันไปมองแหวนสีเขียวอ่อนบนนิ้วนางของน่านฟ้า แล้วก็เกิดคำถามขึ้นมา "ทำไมของเฮียสีขาว ของเธอสีเขียวอ่อน" "มีใบบอกความหมายของแหวนอยู่ที่กล่อง เฮียป่าเปิดอ่านสิคะ" น้ำป่าหยิบใบเล็กๆที่มีตัวหนังสือบอกความหมายของอัญมณีอยู่ แต่มันไม่น่าสนใจเท่ากับน้ำเสียงของน่านฟ้าในตอนนี้ "เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้ดูเธอเศร้าๆ หรือว่าเป็นเพราะเฮีย" น้ำป่าเห็นถึงความผิดปกติ น้ำเสียงที่เคยสดใสวันนี้กลับดูเศร้าไปหมด รวมไปถึงใบหน้าของน่านฟ้า "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ น่านแค่เหนื่อยๆ" ใบหน้ากลมยิ้มออกมาบางๆพลางเก็บกล่องแหวนใส่กระเป๋าของตนเอง "ลาออกไหม เฮียเลี้ยงได้" น่านฟ้าหันขวับแล้วเอียงคอมองน้ำป่าก่อนจะขำพรืดออกมาแล้วหัวเราะอย่างชอบใจ ทำให้ใบหน้าคมถึงกับทำหน้างงงันว่าตนเองทำอะไรที่มันน่าตลกนักหรือยังไงกัน "ฮ่า ฮ่า ฮ่า เฮียป่านี่ก็ พูดตลกไปได้ เราไม่ได้แต่งงานจริงๆเสียหน่อยลืมไปแล้วหรือยังไงคะ" น้ำป่าแทบไม่ได้ยินในสิ่งที่น่านฟ้าพูดเลยด้วยซ้ำ เพราะสายตาคมมัวแต่จ้องมองใบหน้าที่กำลังหัวเราะร่วนอย่างมีความสุขกับคำพูดของเขา จนเขาเองรู้สึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาอีกครั้ง ผมเคยบอกแล้ว ว่าเธอคนนี้ไม่ได้สวยจนทำให้ผู้ชายเหลียวหลัง แต่เธอกลับมีเสน่ห์ในตอนที่เธอยิ้มหรือหัวเราะ เพราะเสียงหัวเราะของเธอมันทำให้รอบตัวของผมมันดูสดใส ดวงตาที่หัวเราะจนแทบจะปิดสนิทมันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามเธอไปอย่างอัตโนมัติ "แล้วเธออยากให้เป็นจริงๆไหม" ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดออกไปแบบนั้นแต่พอนึกได้มันก็ไม่ทันแล้วเพราะผมได้พูดออกไปเสียแล้ว ริมฝีปากที่กำลังยิ้มกว้างค่อยๆหุบลงจนริมฝีปากบนและล่างเม้มเข้าหากันแน่น บรรยากาศที่เงียบลงกะทันหัน ทำให้น้ำป่าพูดขึ้นมาเพื่อไม่ให้น่านฟ้าเข้าใจผิด "เฮียแค่พูดเล่น แหวนนี่เท่าไหร่เดี๋ยวเฮียโอนเงินคืนให้" "ไม่เอาหรอกค่ะเฮียป่า วงนึงไม่ถึงสองพันแถมน่านยังผ่อนกับบัตรอีก เอาเป็นว่า ถือว่าน่านช่วยออกค่าห้องก็แล้วกันค่ะ" น้ำป่าถึงกับยิ้มมุมปากกับความคิดของน่านฟ้า แต่อาจจะเป็นแค่แรกๆไม่มีใครไม่อยากได้เงินเขาหรอก ไม่ว่าใคร "แล้วแหวนเพชร จะให้เฮียทำยังไง" เขาลองเชิงถามน่านฟ้า ดูว่าเธอจะคิดเห็นยังไงกับแหวนราคาสูงวงนั้น "เฮียก็เก็บเอาไว้ให้เจ้าสาวในอนาคตของเฮียยังไงล่ะคะ ราคาแพงขนาดนั้นต้องให้กับคนที่คู่ควร ถึงจะถูกต้อง" "...เธอจำทุกอย่างเกี่ยวเฮียได้แล้วใช่ไหม" น้ำป่าเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเขามองออกนอกตัวรถก็เห็นว่ารถกำลังเลี้ยวเข้าเพนท์เฮ้าส์ "ค่ะ แล้วน่านต้องทำตัวยังไงดีคะ" "เธอแค่คอยดูว่า เฮียจะทำอะไรหรือพูดอะไรเธอก็แค่เออออตามกัน ก็แค่นั้น" ภายในเพนท์เฮ้าส์หญิงวัยกลางคนยืนรอต้อนรับน้ำป่ากับน่านฟ้าที่ห้องรับแขก เธอลอบสังเกตใบหน้ากลมที่ไร้เครื่องสำอาง ใส่แว่นตาอันใหญ่เกือบจะเท่าใบหน้า ทำไมเธอรู้สึกว่าภรรยาของคุณน้ำป่าของเธอดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ กับคำว่า ข้าวใหม่ปลามัน "สวัสดีค่ะคุณน้ำป่า สวัสดีค่ะคุณน่านฟ้า ป้าชื่อบัวนะคะ เรียกว่าป้าบัวได้เลยค่ะ" ป้าบัวยกมือสวัสดีคนทั้งสองด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม น้ำป่ายิ้มรับพร้อมกับยกแขนขึ้นโอบเอวคอดอย่างหลวมๆเมื่อสังเกตว่าป้าบัวเริ่มทำงานตามที่ได้รับคำสั่งมาจากแม่ของเขา "สวัสดีค่ะป้าบัว" น่านฟ้ายกมือไหว้พร้อมกับส่งยิ้มให้กับป้าบัว ถึงแม้จะรู้สึกแปลกๆแต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนน้ำป่าแต่อย่างใด เธอทำตามที่น้ำป่าบอกคือการเออออ ตามน้ำไป "เดี๋ยวผมกับน่านขอตัวขึ้นห้องก่อนนะครับ" "ค่ะ เดี๋ยวป้าบัวจะทำอาหารเอาไว้ให้ค่ะ" "ขอบคุณครับป้าบัว" "ขอบคุณมากค่ะป้าบัว" "คุณน่านฟ้าคะ ไม่ทราบว่าคุณน่านฟ้าทานได้ทุกอย่างไหมคะ แพ้อาหารอะไรบ้างค่ะบอกป้าได้เลยค่ะ" "น่านกินได้ทุกอย่าง แต่แพ้ปูครับป้าบัว" เป็นน้ำป่าที่เป็นคนตอบคำถามของป้าบัว เขาทำเพื่อให้ป้าบัวได้เห็นว่าน่านฟ้าคือภรรยาของเขาจริงๆไม่ได้ตั้งใจที่จะจำข้อมูลส่วนตัวเธอเสียเท่าไหร่ "ได้ค่ะ ป้าบัวจะระวังเรื่องปูเป็นพิเศษไม่ให้มีแม้แต่วิญญาณปูอยู่บนโต๊ะอาหารแน่นอนค่ะ" "ขอบคุณมากค่ะป้าบัว" ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกดีกับการที่เฮียป่าจำได้ว่าเธอแพ้ปู ทันทีที่ทั้งสองคนเดินขึ้นมาข้างบนจนพ้นสายตาของป้าบัว น้ำป่าก็เอาแขนออกจากเอวคอดเปลี่ยนเป็นเอามือทั้งสองล้วงกระเป๋ากางเกงเอาไว้แทน "เมื่อกี้มันจำเป็นน่ะ เธอโอเคใช่ไหม" น้ำเสียงที่ดูเป็นกังวลเอ่ยถามคนข้างๆ ด้วยแววตาที่อ่อนโยน แต่กลับเป็นน่านฟ้าที่รู้สึกถึงความเห่อร้อนบนใบหน้า พลางก้มหน้าก้มตาตอบน้ำป่าออกไปด้วยความประหม่า "ค่ะ น่านสบายมากเฮียป่าไม่ต้องกังวงหรอกค่ะ" "ฉันว่าจะอาบน้ำแล้วออกไปดูงานที่ผับต่อ เธออยู่ในห้องได้ใช่ไหม" น่านฟ้ารู้สึกแปลกใจทำไมจะอยู่ไม่ได้ ในเมื่อเมื่อวานเธอก็อยู่ห้องของเธอคนเดียวมาแล้ว "ได้สิคะเฮียป่า หรือว่าห้องเฮียมีผี" ความประหม่าเมื่อครู่หายแว๊บไปเมื่อได้ยินคำถามชวนให้น่าสงสัย "เลอะเทอะ" ใบหน้าคมส่ายศีรษะไปมาเบาๆก่อนจะเดินหายไปยังห้องน้ำ น่านฟ้าหันไปมองห้องน้ำที่มีประตูเป็นบานเลื่อนใสๆ โชคดีที่ฝักบัวไม่ได้อยู่ตรงกับประตูมีหวังเธอคงไม่ได้อาบน้ำในห้องนี้แน่นอน ป้าบัวจัดโต๊ะอาหารเสร็จเธอก็ยืนรออยู่บริเวณนั้น เป็นน้ำป่าที่ลงมาก่อนเพราะเขาอยากให้พื้นที่ส่วนตัวกับเธอในการอาบน้ำแต่งตัว "อ้าวคุณหนู เออคุณน้ำป่าแล้วคุณน่านฟ้าล่ะคะ" ป้าบัวรีบเปลี่ยนสรรพนาม ความเคยชินที่เคยเลี้ยงน้ำป่ามาแต่ตั้งเด็ก จนทำให้เธอลืมไปบ้างในบางครั้ง "กำลังอาบน้ำครับป้า เดี๋ยวก็ลงมา" "เป็นยังไงคะ หนูน่านฟ้า" ป้าบัวกระซิบกระซาบถามถึงน่านฟ้าด้วยความอยากรู้ "...ดีครับ เธอเป็นคนดี" คำตอบที่เว้นระยะสีหน้าที่ดูนิ่งไป ไม่ได้ทำให้ป้าบัวสงสัยหรือเอ๊ะใจอะไร "เดี๋ยวก็งานวันเกิดคุณแม่แล้ว ทำไมป้าไม่รอมาพร้อมกันกับผมล่ะครับ" "พอดีป้าอยากเห็นภรรยาคุณน้ำป่ายังไงล่ะคะ ป้าเห็นแล้วก็รู้สึกสบายใจ เธอดูเป็นคนดีมีมารยาท ถึงแม้ป้าจะรู้ว่าเธอไม่ใช่สเปคคุณน้ำป่าก็เหอะ" "..." ป้าบัวพูดไม่ผิด เขาชอบคนสวย เซ็กซี่ ซึ่งต่างจากน่านฟ้า... "มีอะไรก็ค่อยๆคุยกันนะคะ ไหนๆก็เป็นคนคนเดียวกันแล้ว" "ครับป้าบัว" เพียงไม่กี่นาทีที่น้ำป่าคุยกับป้าบัวจบ น่านฟ้าก็เดินลงมาที่โต๊ะอาหาร บรรยากาศการกินอาหารมีแต่เสียงพูดคุยของน่านฟ้า และน้ำป่าก็ทำหน้าเป็นผู้ฟังที่ดีและตอบโต้บ้างเป็นบางจังหวะ จึงทำให้บรรยากาศดูไม่อึดอัด เมื่อรับประทานอาหารเสร็จน้ำป่าก็ออกไปทำงานที่ผับต่อ ตอนนี้เหลือเพียงน่านฟ้ากับป้าบัวเท่านั้น "คุณน่านฟ้า...ไม่ต้องค่ะไม่ต้องเดี๋ยวมือเปื้อนและเหม็นนะคะ เดี๋ยวป้าจัดการเก็บล้างเองค่ะ" ป้าบัวร้องเรียกชื่อน่านฟ้าด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าน่านฟ้ากำลังช่วยตัวเองยกจานชามเข้าไปเก็บ และกำลังจะลงมือล้างจานด้วยตัวเอง "น่านทำได้ค่ะ แค่นี้เองสบายมาก" น่านฟ้าพูดพร้อมกับยกจานชามเข้าไปล้างในอ่างล้างภายในห้องครัว โดยไม่รีรอให้ป้าบัวเข้ามาแย่งหน้าที่ตนเองที่กำลังล้างจานอยู่ ป้าบัวยืนมองน่านฟ้าล้างจานอย่างคล่องแคล่ว ทำอะไรก็ดูเป็นงานไปหมดสมกับเป็นแม่บ้านแม่เรือน ซึ่งต่างจากคนก่อนที่ไม่แตะอะไรเลยแม้กระทั่งรินน้ำเปล่าดื่มเอง 'คุณน้ำป่าของป้าบัวโชคดีเหลือเกินที่มีคุณน่านฟ้ามายืนเคียงข้างกันอย่างนี้ เห็นทีต้องรีบโทรไปรายงานคุณน้ำอิงแล้วสิ' ภายในความมืดในห้องนอนกว้างมีเพียงแสงไฟจากดวงเล็กๆบนหัวเตียงเท่านั้น น่านฟ้ายังคงนอนไม่หลับเธอกำลังคิดว่าเตียงมันแคบไปหรือเปล่า หรือเธอจะลงไปนอนที่ข้างเตียงดี เมื่อคิดได้แบบนั้นเธอจึงตัดสินใจเอาหมอนและเดินไปค้นหาผ้าห่มผืนใหญ่ๆมาปูเป็นที่นอนไปก่อน พรุ่งนี้เธอคงต้องไปหาซื้อที่นอนปิคนิคจะได้ไม่ปวดหลัง ร่างบางล้มตัวลงนอนอีกครั้งหลังจากปูที่นอนที่ข้างเตียงเรียบร้อย ด้วยเวลาในตอนนี้ก็ดึกมากแล้วจึงทำให้หลับไปในทันทีที่หัวถึงหมอน เมื่อรู้สึกตัวว่าร่างกายของเธอกำลังลอยขึ้น น่านฟ้าก็สะดุ้งตื่นแล้วเงยหน้ามองคนที่กำลังวางเธอลงบนที่นอน "ทำอะไรคะ?"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม