“ทำตัวดีๆ ล่ะ อย่าแรดไปอ่อยผัวพี่เขา”
แม่ใหญ่สั่งฉันที่ต้องมาพักบ้านของพี่สาวกับพี่เขยในช่วงฝึกงาน ฉันถอนหายใจหลังจากที่แม่ใหญ่พูดแบบนี้ซ้ำๆ ทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้อยากมาอยู่ที่นี่สักหน่อย ฉันอุตส่าห์หาเพื่อนเพื่อหารค่าห้องเช่าแล้วด้วย แต่พี่ตุ๊กนั่นแหละที่คะยั้นคะยอให้ฉันมาพักด้วยกันที่บ้านหรือเรือนหอของเขา เพราะว่าพี่ตุ๊กเป็นห่วงฉัน ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ครั้งแรก
“นี่ ฉันเตือนดีๆ อย่ามาถอนหายใจใส่แบบนี้นะ ถ้าไม่มีฉันป่านนี้แกได้นอนข้างถนนแล้ว” แม่ใหญ่ต่อว่าฉันยืดยาวด้วยประโยคเดิมๆ ฉันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของแม่ใหญ่ แม่ของฉันเป็นเมียอีกคนของพ่อ ส่วนพี่ตุ๊กเป็นลูกสาวของแม่ใหญ่กับพ่อ หรือเรียกได้ว่าเราเป็นพี่น้องต่างแม่กัน แม่ใหญ่เลยเลี้ยงฉันแบบเลี้ยงไปด่าไป แต่พี่ตุ๊กถูกเลี้ยงมาราวกับไข่ในหิน
ความจริงแม่ของฉันเจอกับพ่อของพวกเราก่อนแม่ใหญ่ เพียงแต่แม่ใหญ่ท้องก่อนเลยได้แต่งงาน แม่ท้องฉันหลังจากนั้นครึ่งปี เพราะพ่อของฉันปิดบังเรื่องของแม่ใหญ่แม่ของฉันเลยยังคบหากับพ่อต่อ แต่พอรู้ว่าพ่อแต่งงาน แม่ฉันก็บอกเลิกกับพ่อทันที พร้อมจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเต็มที่ แต่แม่ของฉันถูกรถชนตายหลังจากฉันเพิ่งเกิดได้ไม่นาน ฉันเลยต้องมาอยู่กับอีกครอบครัวของพ่อแทน โดยที่แม่ใหญ่บอกกับใครๆ ว่าฉันเป็นลูกของเมียน้อยพ่อ
ฉันเลยไม่อยากอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด หาทางดิ้นรนมาทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะตั้งตัวให้อยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่พี่ตุ๊กกลับไปพูดกับพ่อให้ฉันมาอยู่ด้วยในช่วงแรกๆ ก่อน ซึ่งพ่อของเราก็เห็นด้วย ฉันที่ยังไม่มีเงินเก็บและยังต้องใช้เงินของพ่อไปก่อนในช่วงแรกเลยถูกบังคับให้มาอยู่ที่นี่ แม่ใหญ่ที่ยังคงเข้าข้างตัวเองว่าแม่ของฉันเป็นคนแย่งพ่อไป ถึงได้กรอกหูฉันซ้ำๆ ว่าอย่าไปยุ่งกับลูกเขยของเขา
แน่ล่ะ ลูกเขยของแม่ใหญ่หรือพี่เขยของฉันทั้งหล่อ ทั้งการศึกษาดี แถมยังรวยกว่าพวกเราเยอะ แม่ใหญ่เลยทั้งเห่อ ทั้งหวง ทั้งภูมิใจที่ลูกสาวของตัวเองได้สามีดีจนชาวบ้านชื่นชมไปสามบ้านแปดบ้าน
“เอาเถอะน่าแม่ ตาลมันไม่ยุ่งกับทินหรอก แม่ไม่ต้องห่วงนะ” พี่ตุ๊กออกตัวช่วยฉันด้วยประโยคที่พี่ตุ๊กพูดหลายครั้งแล้วเหมือนกัน “ตาลเอาของไปเก็บเถอะ ห้องตาลอยู่ชั้นล่างฝั่งซ้ายมือของบันไดนะ ทางขวาเป็นห้องครัว อยู่คนเดียวไปก่อนนะ พี่จะขับรถไปส่งแม่ใหญ่ที่บ้านก่อน”
“ไม่ต้องหรอกตุ๊ก เฝ้ามันไว้เถอะ เพื่อคุณทินเขาจะกลับมาตอนที่เราไม่อยู่” แม่ใหญ่จิกตามองฉัน “เดี๋ยวแม่เรียกแท็กซี่ไปขึ้นรถที่ท่ารถเองได้”
“อย่าเลยแม่ ให้ตุ๊กไปส่งเถอะ ทินกลับดึก แม่อย่าคิดมากเลย ไปกันเถอะแม่” พี่ตุ๊กรีบจูงแม่ใหญ่ที่ตามมาส่งฉันถึงที่ออกจากบ้านไป แม่ใหญ่ไม่ได้เป็นห่วงฉันหรอก คงอยากแสดงออกว่าไม่ไว้ใจฉันและจับตาดูฉันอยู่มากกว่าถึงได้ยอมนั่งรถจากบ้านที่อยู่แถวปริมณฑลมาไกลหลายชั่วโมงแบบนี้
ฉันกรอกตา เดินเข้าไปในบ้านที่ฉันเพิ่งเคยมีโอกาสได้มาเหยียบครั้งแรก บ้านหลังนี้ขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับอยู่แบบครอบครัวเดี่ยว ฉันเลยหาห้องนอนของฉันตามที่พี่ตุ๊กบอกไม่ยาก ฉันจัดของที่ขนมาแค่กระเป๋าเดินทางหนึ่งใบใส่ตู้เสื้อผ้า หลังจากจัดเสร็จฉันก็คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ อาบน้ำให้ชื่นใจ แล้วใส่เสื้อสายเดี่ยวกับกางเกงขาสั้นออกมาหาอะไรกินที่ห้องครัว
เสียงเปิดประตูบ้านทำให้ฉันออกไปดูด้วยความแปลกใจ เลยได้สบตากับพี่เขยที่ควรจะกลับมาตอนดึกแบบที่พี่สาวฉันบอก