มูลนิธิบ้านสู่รัก
ไลลานามาถึงมูลนิธิในเวลาเจ็ดโมงเช้า เธอมาตั้งแต่เช้าเพราะต้องมาช่วยเตรียมอาหารเช้าให้กับเด็ก ๆ เหมือนปกติทุกวัน
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จทางทีมแพทย์จากโรงพยาบาล L ปรากฏตัวขึ้น โดยครั้งนี้ผู้เป็นหัวหน้าทีมแพทย์ไม่ใช่คนเดิมที่ไลลานาเคยเห็น แต่กลับเป็น…
“ยินดีต้อนรับคุณหมอตะวัน และคุณหมอท่านอื่น ๆ ด้วยนะคะ”
หมอตะวัน คือหัวหน้าทีมแพทย์ในวันนี้ ทันทีที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้น ทีมอาสาต่างพากันมายืนต้อนรับ รวมถึงไลลานาด้วย เธอเลี่ยงสบตากับตะวัน แม้ว่าเขาจะพยายามมองเธออยู่ตลอดก็ตาม
“แปลกจังเลยเนอะ ทำไมวันนี้หมอตะวันถึงมาเป็นหัวหน้าทีมแพทย์เองล่ะ ปกติร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเขาจะมา แถมเขายังเป็นถึงรอง ผอ. ด้วยนี่นา” เสียงพูดคุยซุบซิบดังขึ้นหลังจากทีมแพทย์เริ่มลงมือตรวจเด็ก ๆ ทีมอาสาช่วยกันจัดแถวให้เด็ก ๆ แต่ก็ยังไม่วายหันมาพูดคุยกัน
“นั่นสิ ได้ข่าวว่าหมอตะวันเป็นคนขออาสามาเองเลยนะ ทั้งที่ ผอ. คัดค้านหัวชนฝา เขาบอกว่างานมูลนิธิเป็นแค่งานอาสาเล็ก ๆ คนระดับรอง ผอ. ไม่จำเป็นต้องลงมาทำเอง แต่หมอตะวันไม่ยอมฟัง ยืนยันว่าจะมาเองให้ได้”
“โห… จริงเหรอ ทำไมเธอรู้ละเอียดจัง”
“ก็พี่ชายฉันเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาล L นี่นา”
ไลลานาเลิกสนใจฟังเสียงพูดคุยของทั้งสองสาว เธอเดินเลี่ยงหลบออกมาด้านหลังมูลนิธิเพื่อนั่งพักชั่วครู่ เป็นจังหวะเดียวกับร่างสูงในชุดกาวน์สีขาวเปิดประตูออกมาพอดี
“…” ทั้งคู่สบตากันนิ่ง ต่างคนต่างความรู้สึก คนหนึ่งอึดอัดใจ ขณะอีกคนดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง
ไลลานาลุกขึ้นและเดินผ่านร่างสูงโดยไม่พูดอะไร ทว่าข้อมือเล็กถูกคว้าจับ เธอรีบสะบัดออกราวกับโดนของร้อน ซึ่งท่าทางนั้นของเธอบีบหัวใจหมอหนุ่มจนเจ็บแปล็บไปหมด
“รังเกียจพี่มากขนาดนั้นเลยเหรอ…”
ความรู้สึกผิดแล่นวาบเข้ามาในใจ ไลลานาปรับสีหน้าตื่นตกใจให้เป็นปกติ เธอหลับตาสงบสติอารมณ์ตัวเอง เธอไม่แม้แต่จะหันกลับไปหาเขา ทำเพียงยืนหันหลังให้เขา เหมือนที่เขาเคยทำกับเธอ
“จะหนีพี่ไปอีกนานแค่ไหนไลลา… เลิกหนีพี่สักทีได้ไหม?”
“พอเถอะค่ะ เลิกทำแบบนี้ได้ไหมคะ ฉันอึดอัดใจนะคะ” ไลลานาหันกลับมามองตะวัน สีหน้าและแววตาของเธอเรียบเฉย บ่งบอกถึงความห่างเหินได้อย่างดี
“เกลียดพี่แล้วเหรอ พี่มันเลวมากสินะ” น้ำเสียงเจ็บปวดของเขาบีบหัวใจดวงน้อย เธอหลบสายตาเขา พยายามใจแข็งกับเขา เธอเปลี่ยนไปแล้ว เธอไม่ใช่ไลลานาคนเก่าที่แสนอ่อนแออีกแล้ว
“ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าทำไมคุณหมอถึงรับอาสามาที่นี่ แต่การที่เด็ก ๆ จะได้รับการดูแลรักษาจากหมอเก่ง ๆ อย่างคุณนั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากค่ะ ฉันขอขอบคุณแทนเด็ก ๆ จากใจจริงค่ะ” เธอก้มหัวขอบคุณเขาอย่างสุภาพ
ทว่า… นั่นไม่ใช่สิ่งที่ตะวันต้องการ เขามาที่นี่ไม่ใช่เพราะเด็ก ๆ แต่เป็นเพราะเธอต่างหาก เพราะเขาอยากจะมาเจอเธอ…
“ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เมื่อทนมองสายตาเจ็บปวดของผู้ชายตรงหน้าต่อไปไม่ไหว เธอจึงขอตัวออกมา ทว่าหมุนตัวเตรียมจะเดินหนีได้ไม่กี่ก้าว ร่างทั้งร่างกลับถูกโอบกอดจากด้านหลังโดยไม่ทันตั้งตัว
“จะทำอะไรคะ?!” เสียงหวานตื่นตระหนกกับอ้อมกอดกะทันหันของหมอหนุ่ม เธอพยายามดิ้นรนออกจากวงแขนของเขา แต่กลับถูกกอดแนบแน่นกว่าเดิม
“พี่ขอโทษ… ขอโทษนะไลลา ยกโทษให้พี่ได้ไหมครับ พี่ยังรักไลลานะ รักมาตลอดไม่เคยเปลี่ยน” คำสารภาพแผ่วเบาแสนเจ็บปวดของเขาหยุดชะงักการเคลื่อนไหวของไลลานา เธอนิ่งค้างรับฟังทุกความรู้สึกจากเขา
เขารักเธองั้นเหรอ… หมอตะวันบอกว่ายังรักเธอไม่เคยเปลี่ยนอย่างนั้นเหรอ…
ทำไม… ทำไมถึงมาพูดตอนนี้? มาพูดในตอนที่เธอไม่ต้องการอีกแล้วทำไม? เขาทำแบบนี้ทำไม!
.
.
.
หมับ…
“นายคิดจะทำอะไร?” มือหนาคว้าจับไหล่เจ้านายหนุ่มที่ทำท่าจะเดินเข้าไปหาคนทั้งสอง อลันรั้งไฟซัลให้กลับมายืนที่เดิม ในจุดที่เป็นมุมอับสายตา
“ฉันจะไปแยกไอ้หมอเวรนั่นออกจากเธอไง กล้าดียังไงมากอดเธอวะ” ไฟซัลกัดฟันอย่างหัวเสีย เขาเพิ่งมาถึงมูลนิธิเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เพราะติดประชุมสำคัญช่วงเช้าจึงมาช้ากว่าไลลานา แต่พอมาถึงกลับไม่เจอเธอ เขาจึงเดินตามมาทางด้านหลังของมูลนิธิ และบังเอิญเห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าพอดี
ไอ้หมอเวรนั่น… มันเป็นใครกันแน่!
“อย่าเพิ่งเข้าไปยุ่งน่า ดูไม่ออกหรือไงว่าสองคนนั้นเขารู้จักกัน นายควรเข้าไปสอดเหรอ?” อลันเอ่ยปราม เขายังคงดึงไหล่ไฟซัลให้ยืนอยู่กับที่ ซึ่งเจ้าตัวฮึดฮัดอารมณ์เสียอย่างมาก
“สอดเหรอ? นายจะด่าว่าฉันไม่ควรเข้าไปเสือกงั้นสิ ฮึ! ดีจริง ๆ! เดี๋ยวนี้ก้าวหน้าด่าฉันได้ขนาดนี้แล้วสินะ!” เขาพาลใส่เลขาหนุ่มอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าสองคนนั้นรู้จักกัน แค่ดูจากสายตาที่ไอ้หมอคนนั้นมองเธอ เขาก็รู้แล้ว! แต่เขาไม่อยากจะยอมรับไง!
.
.
.
พรึ่บ!
ในระหว่างที่ไฟซัลกำลังหัวเสีย ทางด้านไลลานาเองก็รวบรวมแรงทั้งหมดในการสะบัดวงแขนแกร่งออกจากตัวจนสำเร็จ เธอหลุดจากอ้อมกอดของตะวัน หันกลับมาเผชิญหน้าเขาอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกแอบมองอยู่
“เรื่องของเรามันจบไปแล้ว และมันจะไม่มีวันเป็นเหมือนเดิมอีก”
“…” ตะวันหลับตาลงกล้ำกลืนความเจ็บปวด เขารู้คำตอบดี… ตั้งแต่วันที่เขาปล่อยมือไลลานา เขาก็รู้อยู่แล้วว่าจะไม่สามารถคว้ามือเธอมาจับได้อีกแล้ว…
“ถ้าพี่รักไลลา… ก็ควรจะจบเรื่องนี้สักที”