ตอนที่1 ทำความรู้จัก

1843 คำ
ชายหนุ่มร่างกำยำในชุดเสื้อยืดสีดำกางเกงยีนส์ หน้าตาคมเข้มจมูกโด่งเป็นสันยิ่งปล่อยเครายิ่งมีเสน่ห์มากกว่าเดิม เขากำลังสั่งงานลูกน้องแต่ทว่าใบหน้าที่หล่อเหลาจนสาวๆ ต่างอยากจะครอบครองของชายหนุ่มต่างกับนิสัยที่ชอบดุไม่พอใจอะไรก็ด่า “ฉันบอกว่ายังไง ให้พวกแกไปเฝ้าเวรยามกันไม่ใช่ให้ไปนั่งแดกเหล้าห๊ะ! ถ้าเกิดมีใครที่คิดปองร้ายไร่เราเข้ามาทำร้ายจะทำยังไงกัน” ชินหรือ นฤชิต วรโชติวาทิน หนุ่มเจ้าของไร่องุ่นวัย 27ปี ความดุดันปิดบังความหล่อเหลาของเขาแทบหมด “พวกผมขอโทษครับ นาย” คนงานประมาณต่างรีบขอโทษเขาเพราะๆ ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าเวลาชายหนุ่มโมโหมันน่ากลัวแค่ไหน  “ครั้งนี้ แค่เตือนนะอย่าทำแบบนี้อีก เข้าใจไหม?” “ครับนาย พวกผมจะไม่ทำแบบนี้อีก” คนงานต่างดีใจที่เจ้านายไม่เอาเรื่องก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันไปทำงาน “เสียงดังอะไรค่ะตาชิน แม่ตกใจหมด” จิตร หรือนาถพิจิตรแม่ของชินเดินลงมาหาลูกชายตัวดีด้วยความตกอกตกใจที่จู่ๆ ลูกชายตนก็เสียงดังขึ้นมาอย่างนั้น “ผมแค่สั่งสอนพวกคนงานคับ แม่มาหาผมมีอะไรรึเปล่า” “พ่อให้แม่มาตามไปทานข้าวจ้ะ เห็นว่ามีเรื่องที่จะคุยกับลูกด้วย” ผู้เป็นแม่บอกลูกชายพร้อมจับบ่าเบาๆ “เรื่องอะไรคับ” จิตรยิ้มพร้อมส่งสายตาที่ไม่รู้ใส่ลูกชายสร้างความสงสัยให้ชายหนุ่มไม่น้อย อาหารคาวหวานถูกจัดขึ้นโต๊ะผู้ร่วมโต๊ะมีแค่สามคนพ่อแม่และลูก วันนี้นฤชัยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ทำเอานาถพิจิตรอารมณ์ดีไปตามๆ กัน “วันนี้มีอะไรหรือคับ ทำไมดูแปลกๆ กันทั้งแม่และพ่อเลย” ชินถามบิดาที่เอาแต่ยิ้ม “ก็มีข่าวดี พ่อเลยมีความสุขก็แค่นั้นเอง” “ข่าวดี เรื่องอะไรครับพ่อ” ท่าทางของชัยทำให้ชินอยากรู้เข้าไปอีก “ก็พ่อกับแม่กำลังจะมีลูกสะใภ้นิจ้ะ” ชายหนุ่มตาโตขึ้นมาอย่างตกใจ ลูกสะใภ้ก็ต้องเป็นภรรยาเขาน่ะสิ “ผมไม่อยากแต่งงานแม่ก็รู้นิคับ ผมเกลียดผู้หญิงพวกนั้นที่เห็นแก่เงินที่สุด” ชินพูดพร้อมกอดอกอย่างเอาใจ  “แต่คนนี้แม่ว่าเขาดูเป็นคนดีนะลูก แต่งเถอะพ่อกับแม่จะได้อุ้มหลาน" “ผมไม่อยากแต่งงานครับ ผมบอกแม่แล้วเรื่องนี้” ชายหนุ่มยื่นคำขาด “แต่แม่มีลูกชายคนเดียว แม่ก็แก่ขึ้นทุกวัน แม่อยากเห็นหน้าหลานสักครั้ง แม่ขอได้ไหม เรื่องนี้เรื่องเดียว แม่ไม่เคยบังคับลูกเลย แต่แม่ขอแค่เรื่องนี้ได้ไหม”คุณหญิงนาถพิจิตรร้องไห้ออกมา พอเห็นท่าทางของคนเป็นมารดาชายหนูก็ถึงกลับถอนหายใจออกมาดังเฮือกในเมื่อแม่เขาเล่นใหญ่มาขนาดนี้ใครจะกล้าขัดใจ  “ก็ได้ครับ แต่แม่บังคับผมแค่เรื่องนี้นะครับ” ชายหนุ่มตกลง ทำเอาหญิงชราหันหน้าไปยิ้มให้กับสามีอย่างมีความสุข “เคจ้ะ แม่จะไม่บังคับลูกอีก แม่รักลูกนะ” จิตรกอดลูกชายด้วยความดีใจ  แต่ทว่าสำหรับเขาก็แค่ตอบตกลงไปอย่างนั้นคนอย่างเขาเหรอที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น สำหรับเขาผู้หญิงมันก็เหมือนกันหมดหน้าเงิน ซื้อได้ด้วยเงินกันทั้งนั้นความรักเหรอหึ! มันไม่มีจริงเลยสักนิด เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยาเขาจะทนเขาได้แค่ไหนรอยยิ้มร้ายกาจของชายหนุ่มเผยออกมา ในห้องนอนของหญิงสาวเจ้าของใบหน้าอมทุกข์ได้แต่นั่งคิดเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นใช่เธอไม่มีความสุขแต่ก็ต้องทำเพราะปฏิเสธชายชราไม่ได้ ‘แม่คะ หนูต้องแต่งงานจริงๆ ใช่ไหมค่ะถ้าหนูแต่งงานพี่พิมพ์กับคุณพ่อจะมีชีวิตดีกว่านี้ใช่ไหมค่ะ แม่คะหนูคิดถึงแม่ หนูอยากกอดแม่สักครั้ง’ น้ำตาของน้ำข้าวไหลรินลงมาอย่างน่าสงสาร พอนฤชัยได้รับคำตกลงจากลูกชาย เขารีบจัดการพูดคุยทางภานุพงศ์อย่างรีบร้อน จริงๆ แล้วนาถพิจิตร เคยเห็นน้ำข้าวแล้วครั้งหนึ่งครั้งแรกที่เห็นเธอก็ถูกชะตาจนอยากให้มาเป็นลูกสะใภ้ เธอได้สืบเรื่องราวของน้ำข้าว ว่าทำไมนายภานุพงศ์ถึงไม่เปิดตัวลูกสาวคนนี้เลย หลังจากที่รู้เธอยิ่งหลงรักน้ำข้าวมากยิ่งขึ้น และหวังว่าเจ้าลูกชายของเธอจะคิดเหมือนเธอเช่นกัน “ลูกจ้ะพ่อกับแม่ได้กำหนดวันแต่งแล้วนะ ต้นเดือนหน้าเป็นวันที่ดีที่สุดของปีนี้เลย"นาถพิจิตรบอกเจ้าลูกชาย ชายหนุ่มได้ยินอย่างนั้นก็หน้าเสียขึ้นมา “ทำไมเร็วอย่างนี้ครับผมแม่ ผมบอกว่าจะแต่งแต่ต้องไม่เร็วขนาดนี้” ชายหนุ่มไม่พอใจมารดาเล็กน้อย “ไหน ๆ ลูกก็ยอมแต่งแล้วแม่ก็ไม่อยากให้เสียเวลา และอีกหนูน้ำข้าวก็น่ารักมากเลยนะจ้ะ แม่กลัวว่าจะมีหนุ่มๆ มาแย่งไปสะก่อน” ‘น้ำข้าว ชื่อแบบนี้ต้องเป็นแม่ชีเรียบร้อยพูดน้อยตามแบบที่แม่ชอบแน่ๆ เฉยชะมัด’ชินนั่งนึกภาพจนนฤชัยสะกิด “นั่งเหม่อเลยนะเจ้าตัวแสบ อยากเห็นหน้าว่าทีเจ้าสาวแล้วสินะ พ่อก็ชักอยากจะเห็นเหมือนกันเห็นแม่เค้าบอกน่าตาน่ารักมาก"ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเล็กน้อย “เปล่านะ ผมไม่อยากเห็นยัยนั้นด้วยช้ำ พ่อไปชื้อเธอมาเท่าไหร่ล่ะ” “โอ้ย…..แม่ตีผมทำไมผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ” หญิงชราฟาดแขนลูกชายเต็มแรง “อย่าพูดแบบนี้กับหนูน้ำข้าวแบบนี้นะ ถึงพ่อกับแม่จะแลกลูกสะใภ้คนนี้มาด้วยหนีที่พ่อเขาสร้างไว้ แต่หนูน้ำข้าวเธอดีและน่าสงสารมากๆ ลูกต้องดูแลน้องให้ดีๆ ด้วย” “อายุน้อยกว่าผมหรอคับ"เขารีบเปลี่ยนเรื่องทันที “ใช่นะสิ แต่ห่างแค่ไม่กี่ปีหรอก หนูน้ำข้าวอายุน่าจะ24แล้ว ใช่ไหมคุณ” จิตรหันหน้าไปถามสามี “คงงั้น” ชัยตอบพร้อมหันหน้าไปหาลูกชาย  จากที่ชายหนุ่มได้ฟังประวัติของว่าที่ภรรยาที่ไม่ต้องการเขาก็นั่งเงียบไม่ได้พูดอะไรต่อก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะลุกขึ้นไปในห้องนอนชั้นสองของบ้าน บรรยากาศในห้องนอนที่ตกแต่งโทนสีเข้มทำเอาดูครึมๆ เหมือนหน้าตาของเจ้าของไม่มีผิด ชายหนุ่มนั่งคิดเรื่องที่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่หน้าตาก็ยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำผู้หญิงคนนั้นชื่อน้ำข้าวงั้นเหรอ หึ! น้ำเน่าละสิไม่ว่า สำหรับเขาแล้วผู้หญิงก็เหมือนกันทุกคนเขาเตือนใจตัวเองเสมอมาว่าอย่าใจอ่อนรักใครอีก ชายหนุ่มเคยมีความรัก เขาเคยรักผู้หญิงคนหนึ่งตอนเรียนมหาลัย เขารักเธอมากแต่สุดท้ายผู้หญิงที่เขารักก็ไปแต่งงานกับเศรษฐีชราคนนึง ตั้งแต่นั้นมาชายหนุ่มก็ไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย อย่างมากก็แค่ซื้อจ่ายเงินแล้วก็จบ  วันต่อมา น้ำข้าวไปทำงานที่โรงเเรมของพี่สาวอย่างปกติเฉกเช่นเคยที่เคยไปทำ หญิงสาวทำงานที่นี้มาได้เกือบปีแล้ว แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอเป็นอะไรกับพิมพ์ประพาย เพราะกลับบ้านก็กลับใครกลับมัน น้ำข้าวเข้าใจดีว่าคนในบ้านต่างไม่มีใครเห็นความสำคัญของเธอ เมื่อก่อนเธอเคยน้อยใจอยู่ไม่น้อยที่ทั้งพี่สาวทั้งพ่อไม่เคยสนใจใยดีอะไรเธอเลย แต่ทว่าพอนานวันเข้าเธอก็ชินไปเองแค่ตอนนี้มีที่ชุกหัวนอนกินอิ่มนอนหลับก็พอแล้วสำหรับเธอ  ขณะที่หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวย กำลังจัดห้องเตรียมให้เเขกเข้าพักจู่ๆ ก็มีผู้ชายคนนึงวิ่งเข้ามาในห้องโดยใส่แค่ผ้าขนหนูผืนเดียวทำเอาหญิงสาวตกใจไม่น้อยเธอจะร้องกรี๊ดออกมาชายหนุ่มตรงหน้าก็รีบใช้มือมาปิดปากเธอเอาไว้พร้อมทำมือขึ้นมาห้าม  "คุณ เป็นใครค่ะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างหวาดกลัว "เบาๆ หน่อยสิเดียวใครก็ได้ยินหรอก" เขาทำท่าเหมือนกำลังหลบใครบางคนทำให้หญิงสาวรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตนเอง เสียงคนมากมายกำลังวิ่งตามหาเขาก่อนจะตะโกนแถวหน้าห้อง ชายคนนั้นดูตกใจไม่น้อยที่พวกนั้นอยู่หน้าห้อง  "จะทำอะไรค่ะ ปล่อยนะ" "เบาๆ กลัวพวกนั้นไม่ได้ยินรึไง!!!" เขาดึงเธอพามาแอบข้างในห้องน้ำ ก่อนจะมีผู้ชายอีกคนเดินเข้ามาในห้องที่หญิงสาวกำลังทำความสะอาดอยู่ "มีใครอยู่ไหมคับ" ผู้ชายอีกคนร้องถาม "คงไม่มีหรอกว่ะ" "เป็นไปได้ไง กูตามติดๆหน้าจะอยู่ในนี้" ผู้ชายอีกคนเดินเข้ามาบริเวรหน้าห้องน้ำ น้ำข้าวตัวสั่นจนคนที่ดึงเธอเข้ามาด้วยอดมองไม่ได้ "คุณ ช่วยผมหน่อยถ้าพวกนั้นจับผมได้ ผมตายแน่ๆ" น้ำข้าวเห็นคนกำลังเดือดร้อนก็อดที่จะช่วยไม่ได้ เธอเดินออกมาจากห้องน้ำทำท่ากำลังทำความสะอาด "พวกคุณเป็นใครค่ะ เข้ามาที่นี้ทำไม ตอนนี้ห้องนี้ยังให้บริการไม่ได้นะคะ"หญิงสาวทำเสียงดุชายกลุ่มนั้นอย่างไม่พอใจ "เอ่อ ครับไม่ทราบว่าคุณเห็นผู้ชายนุ่งผ้าขนหนูมาแถวนี้ไหมคับ" ผู้ชายอีกคนถามเธอ "ไม่เห็นนะคะ เพราะห้องนี้ยังไม่เปิดบริการเลย ยังไม่มีใครเข้ามาหรอกค่ะ" คำพูดที่หน้าเชื่อถือได้ ผู้ชายพวกนั้นก็เดินออกมาอย่างหัวเสีย พอมีคนออกไปสักพัก ผู้ชายที่แอบอยู่ก็เดินออกมาพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก "ขอบคุณนะที่ช่วยผม"เขาเอ่ยบอกพร้อมยิ้มมาให้เธอ ใบหน้าของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มอดที่จะมองไม่ได้เธอช่วย นั้นคือสิ่งที่ร้องบอกในใจ  "ไม่เป็นไรค่ะ แต่อย่าทำแบบนี้บ่อยนะคะ ฉันไม่รู้หรอกว่าคุณไปทำอะไรมา แต่การหนีปัญหาแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ" ผู้ชายต้องหน้า หน้าเสียเลยหลังจากได้ยินคำพูดจากปากเธอ "ก็จริงของคุณ แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ ผมชื่อโชค หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก คุณชื่ออะไรครับ" เขาแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร "เรียกฉันว่าน้ำข้าวก็ได้ค่ะ แต่หวังว่าเราจะไม่เจอกันในสถานการณ์แบบนี้นะคะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม