ไอ้หมาเด็ก 04 เลียแสดงความเป็นเจ้าของ

1562 คำ
CHAPTER 04 ฉันตีมือเด็กบ้าที่กำลังจะปลดกระดุมเสื้อฉันออกไป แกล้งกันแรงไปแล้ว ทำไมเป็นเด็กเกเรแบบนี้นะ! “หยุดเลย นายเอาคืนพี่แล้วก็จบสิพี่หิวข้าวอะ!” ฉันกระแทกเสียงอย่างงอแง จ้องหน้าผู้ชายที่เด็กกว่าด้วยสายตางุ่นง่าน ศึกรบจ้องมา เขากลอกตามองบนอย่างเอือมระอาแล้วขยับมือมาแตะปลายจมูกฉันเบา ๆ “เอ่อ.. รู้แล้ว” เหมือนเขาพยายามอดกลั้นบางอย่าง บางอย่างที่ว่ามันคืออะไร.. ฉันกะพริบตาเพียงแผ่วเบาแต่แล้วก็ถูกศึกรบอุ้มขึ้นมานั่งตรงขอบสระแล้วเขาก็แทรกตัวเข้ามากลางลำตัวฉัน “อยากกินไร” ใบหน้าศึกรบเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ผมเขาลู่ลงอีกทั้งเนื้อตัวก็เปียกปอนไม่ต่างจากฉัน เด็กคนนี้จะว่าไปก็ฮอตใช่เล่น เป็นไทป์หมาหนุ่มที่น่าหวงแหนดี “อื้ม~ อะไรดีอะแล้วแต่น้องศึกรบเลยค่ะ” ศึกรบเชยสายตาขึ้นมาสบตากัน เขายื่นมือมาแตะริมฝีปากฉันอย่างแผ่วเบา “พี่มีปากก็พูดออกมาว่าอยากกินไร” เหมือนโดนหลอกด่าไงไม่รู้ “ก็พี่ไม่รู้อ่า พี่กินได้ทุกอย่างกินเสร็จออกไปเที่ยวกันนะคืนนี้สัญญาไม่ดึก “ “พี่พูดแบบนี้ทุกครั้ง คืนนี้ผมไม่ไปถ้าอยากดื่มซื้อมาดื่มที่บ้านผมจะไปซื้อให้” ฉันเบะปากเมื่อรู้สึกได้ถึงความผิดหวัง “แต่พี่อยากเต้นอ่ะ” อย่างน้อยการเต้นเหมือนเป็นการได้ระบายความเครียดไง “ผมเปิดเพลงให้เต้นได้” นี้ไง ดักกันทุกทางเลย ฉันคอตก ใครจะไปขัดได้เห็นมันแบบนี้เวลามันเอาจริงฉันขัดขืนไม่เคยได้เลย “เอ่อ ๆ ก็ได้ พี่จะขึ้นแล้วยืมเสื้อด้วยจะเปลี่ยน” ฉันลุกขึ้นยืนแล้วศึกรบก็เดินขึ้นมาจากสระ เราเดินจูงมือกันเข้ามาในบ้าน ศึกรบยื่นเสื้อยืดตัวใหญ่สีดำให้ฉันเพราะฉันทำบราเปียกไปแล้วและขี้เกียจกลับบ้านไปเปลี่ยนแล้ว “นายมีบ็อกเซอร์มั้ย พี่จะใส่” “มี” เขายื่นบ็อกเซอร์ให้ฉัน เป็นขนาดเล็กที่ศึกรบซื้อเผื่อเวลาฉันมาเล่นน้ำที่บ้านเขา “ขอบใจมากน้า~ ลูกหมาใครน้าน่ารักที่สุดเลย” ฉันหอมแก้มศึกรบฟอดใหญ่แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนชุดมาใส่เสื้อยืดสีดำตัวใหญ่กับกางเกงบ็อกเซอร์ตัวโปรด ฉันยืนมองตัวเองในกระจก หน้าอกที่ไม่มีบราสวมอยู่ก็ไม่ได้เห็นชัดขนาดนั้น อีกทั้งกับศึกรบด้วยฉันไม่ค่อยหวงตัวสักเท่าไหร่เพราะเด็กคนนั้นบอกว่าฉันไม่มีเสน่ห์เพศตรงข้าม มันชอบบอกว่าฉันไม่เซ็กซี่พอที่จะทำให้มันตื่นตัวได้ บ้าจริง ปากร้ายสุด ๆ ไปเลย “ทำอะไรกินเหรอ?” ฉันเดินไปหาศึกรบที่อาบน้ำเสร็จแล้ว เขาเองก็ใส่เสื้อยืดสีขาวแขนสั้นกับกางเกงขายาว ผมเหมือนถูกซับมาลวก ๆ เพราะมันยังดูยุ่ง ๆ อยู่เลย แต่ลุคนี้ก็ทำให้ดูน่ามองเพราะแปลกตาดี ฉันสวมกอดศึกรบจากข้างหลังแล้วยื่นหน้าออกไปมองซอสที่ศึกรบกำลังปรุงอยู่ “น่ากินมากเลย สุดหล่อของพี่เก่งจริง ๆ” ฉันอวยเด็กน้อยแต่เด็กมันไม่หลงคำอวยน่ะสิ มิหนำซ้ำยังใช้จวักที่ยังไม่ผ่านการใช้งานเคาะหน้าผากฉันอีกด้วย “ไม่ต้องพูดมาก พี่ไปเตรียมจานมา” เขาออกคำสั่งใส่ฉันที่ยืนหน้ามุ่ย ฉันมองเขาตาขวางเพราะโดนทำร้ายร่างกายมาแต่สุดท้ายก็ยอมเดินไปหยิบจานมาวางไว้สองใบ ศึกรบคีบเส้นมาม้วนวางไว้ในจานแล้วราดซอสบนเส้นจนมันดูน่ากินทั้งสองจาน เขาตักซอสใส่ช้อนมาเป่าแล้วยื่นมาตรงหน้าฉันที่ยังปั้นหน้าตึงอยู่ “ชิมสิ” ฉันหันหน้าหนีแล้วขยับห่างจากเขา ต้องง้อสิ งอนอยู่นะ “ไม่ชิม” เปล่งเสียงดังชัดเจนฉันก็เชิดหน้าหนีเขาไปแต่ใช่ว่าศึกรบจะยอมกันง่าย ๆ เขาขยับตามมาแล้วบีบแก้มฉันเอาไว้เบา ๆ ก่อนจะหันให้ใบหน้าเราอยู่ในทิศทางเดียวกัน “อะไรเล่า” ฉันบึนปากเสียงอู้อี้ ศึกรบขยับช้อนมาจ่อที่ปากแล้วปาดซอสลงบนริมฝีปากที่ปิดสนิทของฉัน ฉันยังปิดปากสนิทไม่ยอมกินซอสที่เขาให้ชิม เด็กตัวดีบิดยิ้มร้าย เขาเคาะนิ้วลงบนเคาน์เตอร์ด้วยจังหวะเชื่องช้าแล้วคร่อมตัวลงมาหากัน “จะชิมดี ๆ หรือต้องให้ผมใช้วิธีของผม” คำขู่ถูกส่งต่อมา ฉันจ้องเขาเขม็งแต่ก็ยังไม่ยอมเปิดปากชิมซอสที่อยู่บนริมฝีปากของตัวเอง “ได้ ถ้าพี่ไม่ชิมผมชิมเองก็ได้” “นายก็ชิมไปสิ ใครจับปากนายไว้ล่ะ!” พรึ่บ.. ศึกรบกุมลำคอฉันเอาไว้ เขารั้งให้ขยับเข้ามาใกล้แล้วโน้มใบหน้าลงมาจนลมหายใจเป่ารดอยู่ตรงกระจับปาก วินามีที่เราสบตากันเขาปาดลิ้นลงมาบนริมฝีปากฉัน ไล่เลียซอสบนริมฝีปากฉันเข้าปากเขาไปจนหมด “อื้อ..” ฉันขยุ้มนิ้วมือลงไปบนหน้าอกเขา ความอุ่นร้อนจากเรียวลิ้นลากไล้อย่างเชื่องช้าก่อนจะประกบริมฝีปากลงมาดูดดุนซอสเข้าปากไปเบา ๆ เขาผละออกมา ฉันกัดปากล่างในขณะที่สองสายตาของเราประสานกัน เด็กคนนี้จงใจแกล้งให้ฉันเสียการควบคุม ฉันรู้ ศึกรบน่ะเจ้าเล่ห์จะตายไป “อยากลองชิมด้วยมั้ย?” เขาขยับมือที่กุมลำคอฉันเอาไว้ขึ้นมาแล้วใช้นิ้วโป้งปาดริมฝีปากฉันช้า ๆ ก่อนจะขยับเอานิ้วโป้งเข้าไปในปากแล้วดูดดุนมันอย่างยั่วประสาทฉัน “ไอ้เด็กบ้า! เป็นหมาหรือไงถึงมาเลียปากพี่” เขาหัวเราะ ท่าทางดูพอใจกับปฏิกิริยาของฉันอยู่ไม่น้อยเลย “ก็พี่บอกว่าผมเป็นไอ้หมาของพี่ไม่ใช่เหรอ แสดงว่าผมเลียเพื่อแสดงความเจ้าของเหมือนที่หมามันทำได้อะดิ” ดูมันสิ เด็กคนนี้เจ้าเล่ห์และร้ายกาจกว่าที่คิดไว้มากโขเลยเหอะ “ไม่ต้องพูดมากเลยพี่หิวแล้ว อยากกิน เข้าใจมั้ยว่าอยากกินนน” ฉันบึนปากแล้วส่งเสียงดังก่อนจะผลักศึกรบออกแล้วหยิบจานสปาเกตตีของตัวเองมาถือเอาไว้แต่จู่ ๆ พึ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้โรยออริกาโนจึงเขย่งปลายเท้าเพื่อเปิดตู้ข้างบน แต่ทว่าไอ้ขวดออริกาโนมันอยู่ลึกน่ะสิฉันเลยพยายามควานมือหาแต่หยิบไม่ถึงสักที “ศึกรบ หยิบให้พี่ทีพี่ขาดออริกาโนไม่ได้” ทุกครั้งที่กินสปาเกตตีหรือพิซซ่าฉันต้องโรยไม่งั้นถือว่ากินไม่สมบูรณ์ “พี่ยังหยิบแค่จานพี่เลยแล้วทำไมผมต้องช่วย” พูดจบศึกรบก็หยิบจานตัวเองแล้วเดินออกจากห้องครัวไปโดยปล่อยให้ฉันยืนอ้าปากค้างอึ้งกับสิ่งที่เขาพูดอยู่คนเดียว ฉันจะบ้า.. จะบ้าให้ได้เลย ฮืออ “ไอ้เด็กบ้า ไอ้คนพี่ทะเล!” อยากจะกรีดร้องจนน้ำตาท่วมบ้านแต่ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายจึบต้องลากเก้าอี้ในห้องครัวมาวางไว้หน้าเคาน์เตอร์แล้วปีนขึ้นไปเพื่อหยิบสิ่งที่ตัวเองต้องการลงมา “กะ กรี๊ด!” จังหวะที่ฉันปิดตู้เตรียมจะเดินลงมาจากเก้าอี้จู่ ๆ ศึกรบก็เดินมาเขย่าเก้าอี้แล้วอุ้มฉันลงมาหน้าตาเฉย เขาจงใจแกล้งฉัน ไอ้เด็กบ้าจี้มันตั้งใจทำให้ฉันขวัญกระเจิง “ฮ่า ๆ พี่แม่งกรี๊ดเหมือนตัวตลกเลย หน้าพี่อย่าขำ” มันอุ้มฉันด้วยมือเพียงข้างเดียวแล้วหัวเราะจนไหล่สั่น ฉันกัดปากด้วยความแค้นใจ กระหน่ำหมัดลงไปทุบบ่าผู้ชายที่แกล้งกันอย่างแค้นใจ “ไอ้ศึกรบ! ฉันจะฆ่าแก!” ฉันขยุ้มผมศึกรบเต็มสองมือแล้วกระชากด้วยแรงที่มากพอสมควรแต่คนโดนทำร้ายไม่ได้ดูเจ็บปวดออกจะชอบใจที่เห็นฉันโวยวายเป็นผีบ้าอยู่คนเดียว “ฆ่าผมให้ตายนะครับ เพราะถ้าไม่ตายผมนี้แหละจะกลับมาจัดการพี่เอง” ใบหน้าศึกรบอยู่ระดับหน้าอกฉัน เขายกยิ้มร้ายในขณะที่เราจ้องหน้ากันอย่างฟาดฟัน เขาจ้องหน้าอกฉันด้วยสายตาที่เดาออกได้ทันทีว่าจะพูดอะไรออกมา “เล็กกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ” “กรี๊ดดด ไอ้เด็กบ้า!” นี้ไง นี้แหละตัวจริงที่แม่มองไม่เห็น! อยากจะกรีดร้องงง ฮืออ Talk หมาเด็กของพีีสาวคนสวยอะเนอะก็ต้องเลียแสดงความเป็นเจ้าของสักหน่อย เลียที่ว่าคือเลียปาก 😆😆 ครบ 10 เม้นมาอัปน้า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม