งานที่ไม่ได้เลือก

1436 คำ
​ หลังจากนอนคิดมาตลอดทั้งคืน นิตย์รดีก็ได้ข้อสรุปว่าจะลองไปสมัครงานดูก่อน เลยตื่นแต่เช้าแต่งตัวเพื่อไปบ่อทรายที่อยู่ค่อนข้างไกล ที่บ้านมีมอเตอร์ไซค์เก่าเลยเอามาใช้งานไปพลางๆ ก่อน ทางไปบ่อทรายค่อนข้างเปลี่ยวและขรุขระเดินทางยาก แถมอยู่ในซอยลึก แต่เมื่อเข้ามาถึงก็เห็นว่าบริเวณพื้นที่ทั้งหมดนี้เป็นของบริษัทมูลเลอร์ น่าจะทั้งซอยเลยก็ว่าได้ นิตย์รดีขี่รถเข้าไปจอดตรงหน้าสำนักงาน ถอดเสื้อแจ็คเก็ตและหมวกกันน็อกวางไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปพร้อมกระเป๋าเอกสารที่เตรียมมา ออฟฟิศไม่ใหญ่มากแต่แบ่งโซนไว้เป็นสัดเป็นส่วน ดูมีความเป็นมืออาชีพอยู่ไม่น้อย นิตย์รดีมองไปรอบๆ เพื่อมองหาฝ่ายบุคคล เนื่องจากไม่มีป้ายติดเอาไว้ ไม่รู้เลยว่าใครอยู่ตำแหน่งอะไร “ติดต่ออะไรคะ” พนักงานที่อยู่ด้านหน้าเอ่ยถาม คิดว่าคงเป็นประชาสัมพันธ์ งานที่นี่สบายๆ เพราะทุกคนแต่งตัวเหมือนอยู่บ้าน ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องพิถีพิถัน ในการแต่งตัวมาทำงานมากนัก “ฉันมาสมัครงานค่ะ” เธอแจ้งความจำนงให้พนักงานสาวหน้าละอ่อนทราบ ดูแล้วน่าจะเด็กกว่าเธอสองถึงสามปี จะเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ขี่รถมาไกลมากและหนี้สินที่มีมันค้ำคอ ยิ่งได้งานเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี “อ๋อ งั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ” เดินตามพนักงานสาวเข้าไปด้านในสุด ระหว่างทางก็มองบรรยากาศรอบข้างไปด้วย มีคนงานอยู่ไม่กี่คนเพราะเป็นออฟฟิศเล็กๆ จนกระทั่งเดินมาถึงโต๊ะที่น่าจะเป็นของฝ่ายบุคคล “สวัสดีค่ะ มาสมัครงานตำแหน่งคนจัดคิวรถค่ะ” นิตย์รดีนั่งลงแจ้งความต้องการอย่างฉะฉาน พยายามไม่สนใจสายตาแปลกๆ ที่กำลังมองมา ก็เวลาเข้าตาจนน่ะ มีงานไหนผ่านเข้ามาก็ต้องเลือกทำไว้ก่อน “อ่อ ถ้าอย่างนั้นกรอกเอกสารชุดนี้นะพี่ แล้วก็รบกวนขอบัตรประชาชนด้วย” หยิบเอกสารออกมาให้ผู้หญิงตรงหน้ากรอกข้อมูล มองแล้วอดแปลกใจไม่ได้ เธอสวยและดูดีเกินกว่าจะมาทำงานแบบนี้ “แค่บัตรประชาชนอย่างเดียวเหรอคะ?” “ใช่พี่ เพราะงานนี้ไม่ใช้วุฒิ” “อ๋อค่ะ” รู้ว่าไม่ใช้หรอกแต่ก็เตรียมมาด้วย นิตย์รดีกรอกเอกสารข้อมูลทั่วไป มีบอกรายละเอียดเกี่ยวกับงาน และการจ่ายเงิน เงินเดือนที่ได้หนึ่งหมื่นห้าพันบาท นับว่าน้อยกว่าที่เก่าหลายเท่าตัว แต่จะทำอย่างไรได้เธอต้องกินต้องใช้ ไม่อยากเกาะพ่อแม่ แล้วยังต้องใช้หนี้ให้กับนายหัวอีก ระหว่างที่กำลังกรอกข้อมูล ก็ได้ยินพนักงานพูดถึงนายหัวเป็นภาษาใต้ ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังหรอกแต่มันได้ยินผ่านหู เหมือนว่านายหัวคนนี้มาที่นี่บ่อยมาก และยังพูดทำนองว่า นายหัวชอบดื่มเมาหัวทิ่มหัวตำอยู่บ่อยครั้ง แบบนี้เขาเรียกนินทาเจ้านายหรือเปล่าเนี่ย แต่ก็ช่างเถอะมันไม่ใช่เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับเธอ หลังจากสมัครงานเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่าวันพรุ่งนี้สามารถมาทำงานได้เลย และพาออกไปดูสถานที่ทำงานด้านนอก นิตย์รดีไม่ลืมที่จะคว้าเสื้อแจ็คเก็ตมาสวมไว้เพราะแดดแรงมาก เนื้องานของเธอไม่มีอะไรมาก เพียงแค่รอจดคิวรถที่เข้ามาขนทรายแล้วใส่เวลาให้ตรงแค่นั้น สถานที่ทำงานคือเพิงข้างๆ ป้อมยาม เห็นว่ามีพัดลมให้หนึ่งตัว อดสะท้านใจไม่ได้จากที่เคยทำงานในห้องแอร์เย็นๆ ใช้ความสามารถที่เรียนมา สร้างสรรค์งานออกแบบให้กับคฤหาสน์หรู แต่ตอนนี้ต้องมาอยู่ในเพิงเล็กๆ คอยจดคิวรถไปวันๆ “เข้างานแปดโมง พักหนึ่งชั่วโมง เที่ยงถึงบ่ายโมง เลิกงานห้าโมงเย็นนะพี่” “แล้วแถวนี้มีร้านค้าไหมคะ” ลองถามไว้ก่อนถ้าไม่มีจะได้ให้แม่ทำข้าวกล่องมาให้ เพราะดูแล้วแถวนี้เปลี่ยวเหลือเกิน “มีร้านป้าศรขายของชำแล้วก็ขายข้าวด้วย แต่ที่นี่มีข้าวกลางวันให้นะ” พนักงานสาวชี้ออกไปด้านนอก แต่ที่นี่มีสวัสดิการอาหารกลางวัน และในบางวันก็มีอภินันทนาการกับแกล้มพร้อมเหล้าจากนายหัว “ฟรีเหรอ?” “ฟรีสิพี่ นายหัวใจดี นอกจากข้าวแล้วก็มีขนมด้วยนะ พักเที่ยงพี่เข้าไปกินได้เลยในออฟฟิศ” ตาลุกวาวทันที ก็ดีเหมือนกันจะได้ประหยัดเงิน ข้าวฟรี ขนมฟรี เสียแค่ค่าน้ำมันรถไปกลับเท่านั้น ดูเหมือนคนที่นี่เป็นกันเองมาก ค่อยเบาใจหน่อยต่างจากที่ทำงานเก่า มีแต่คนอีโก้สูงๆ โดยเฉพาะพวกท็อปเซลล์ที่วางท่าประหนึ่งราชินี “อ่อ แล้วนายหัวมาบ่อยไหมอ่ะ” ไม่เคยเห็นเขาตัวเป็นๆ หากมีโอกาสก็อยากเจอ ว่าเหมือนกับที่เห็นในข่าวหรือเปล่า “โอ๊ย อย่าใช้คำว่าบ่อยเลย...” เพราะมันมากกว่าคำว่าบ่อย เรียกว่าอยู่ทุกวันดีกว่า กิจการของนายหัวมีหลายอย่าง แต่ทว่าเจ้านายหนุ่มชอบมาขลุกอยู่ที่นี่ แล้วยังมีบ้านพักส่วนตัวเอาไว้พักผ่อน ที่จริงน่าจะเรียกว่าเอาไว้ตั้งวงเหล้ามากกว่า “ที่นี่เคร่งมากไหมอ่ะ หมายถึงเรื่องงาน” เห็นคนงานสาวเอาแต่หัวเราะ เลยคิดว่าคงไม่ค่อยมาเท่าไหร่จึงถามต่อ จะได้ทำตัวถูกว่าควรทุ่มเทในระดับไหน เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม หากที่นี่ไม่ได้เน้นเรื่องวินัยมากนัก เธอก็อยากทำตัวผ่อนคลายให้เข้ากับทุกคน “สบายๆ พี่ ไม่มีงานก็นั่งเล่นไม่มีใครว่า แค่ทำหน้าที่ของตัวเองพอ” โอเค เข้าใจได้ว่าทำงานตามค่าแรง! “ข้างในเป็นที่พักเหรอ?” มองไปข้างในเห็นว่าเป็นส่วนของห้องพัก ที่จริงระยะทางจากบ้านมาบ่อทรายก็ไกลอยู่เกือบแปดกิโลเมตร แต่ไม่ได้คิดจะมาพักจริงจัง เอาไว้ถ้าวันไหนขี้เกียจกลับก็นอนนี่เลย “ใช่พี่ แต่ตอนนี้เต็มแล้ว บ้านพี่อยู่ไกลไหมล่ะ เอาไว้ถ้ามีห้องว่างจะล็อคคิวไว้ให้” คนงานส่วนใหญ่มาจากหลายที่ บางคนข้ามจังหวัดมา แล้วห้องพักมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ฉะนั้นคนที่อยู่ใกล้ๆ ก็เลือกไปกลับเพราะที่พักมีจำกัด “ก็ไกลนะ แต่ไม่เป็นไร ขี่รถไปกลับได้” ถ้าว่างก็ดี แต่ไม่ว่างไม่เป็นไร ขับไปกลับได้ไม่ลำบาก เพียงแค่ว่าเลิกปุ๊บต้องกลับเลย ทางไกลและเปลี่ยวมันอันตราย รวมๆ แล้วงานก็ไม่มีอะไรน่าห่วง ทำไปตามสเต็ปคิดว่าคงน่าเบื่อสักหน่อย แต่คงต้องทำไปก่อน ระหว่างนี้ก็ต้องร่อนใบสมัครงานไปตามที่ต่างๆ ด้วย “ก็ตามนั้นพี่ พรุ่งนี้มาเริ่มงานได้เลย” “ขอบคุณมากค่ะ” “กันเองพี่ อยู่ที่นี่สบายๆ ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชาย” พนักงานสาวเข้ามาตบบ่าเบาๆ นิตย์รดีจึงยิ้มให้ คนที่นี่เป็นกันเองมากจริงๆ ไม่มีพิธีรีตองอะไรเลย เรื่องทำงานกับผู้ชายไม่ได้กังวลมากนัก เพราะรู้ว่าคนขับรถบรรทุกส่วนใหญ่ไม่ใช่ผู้หญิงแน่ “โอเค งั้นไปก่อนนะ” นิตย์รดีบอกลาตามมารยาท พลางมองไปรอบๆ อีกครั้ง ที่ไกลๆ จนเกือบสุดสายตาเห็นคนงานชายหลายคนกำลังทำงานกันอยู่ ดีแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ต้องทำงานกลางแดด เธอเดินกลับมาที่รถหยิบหมวกกันน็อคมาสวม พร้อมออกเดินทางกลับบ้าน แล้วก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งสวนมา แต่ดูเหมือนบิ๊กไบค์มากกว่า เธอไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องนี้เท่าไหร่เรียกไม่ค่อยถูก สีแดงเพลิงโดดเด่นสะดุดตา แต่ก็ไม่เท่ากับเจ้าของรถใส่สีเหลืองทั้งชุด ที่เอวมีผ้าขาวม้ามัดเอาไว้ หมวกกันน็อคก็ไม่ใส่! แต่ทว่าหน้าตาของเขา มันหล่อเจิดจ้า หล่อเข้มยิ่งกว่ากาแฟดำเสียอีก! คนงานที่นี่...งานดีเหมือนกันนะเนี่ย ------------------------------- ใช่รึเปล่าลูกสาวว คนงานที่ไหนขับบิ๊กไบค์คะลูกกกก หนูนิ้งจะปิ๊งคนงานไหมหล่าวว ​ ​
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม