กลับไม่ได้

1275 คำ
เข้าสู่ช่วงมรสุมฝนตกหนักทุกวัน การเดินทางเลยเป็นไปอย่างทุลักทุเล เพราะทางเข้าบ่อทรายนั้นค่อนข้างขรุขระ เนื่องจากมีรถใหญ่วิ่งทุกวันจึงเป็นหลุมเป็นบ่อและเป็นดินแดง เวลาฝนตกจึงค่อนข้างลื่น และเหมือนว่าสองสามวันนี้จะมีพายุเข้าได้ยินเขาพูดกันว่า ถ้าตกหนักกว่านี้อาจทำให้ถนนขาดได้ “ดูสิฝนตกไม่หยุดเลย ดีนะที่ตุนของกินเอาไว้เยอะ” ฝนตกหนักมากสาวๆ เลยมาตั้งกลุ่มคุยกันในออฟฟิศ นิตย์รดีมองออกไปเบื้องหน้า เห็นสายฝนโปรยปรายจนมองอะไรแทบไม่เห็น แล้วก็ลอบถอดหายใจ ช่วงนี้ฝนตกทุกวันไม่รู้จะได้กลับบ้านกี่โมง “นั่นสิ เพราะนายหัวคาดการณ์เอาไว้แล้ว เลยเตรียมกับข้าวกับปลา กับแก้มบวกเหล้าเอาไว้เทียบ” พูดถึงนายหัวก็นึกขึ้นได้ว่าอยู่มาสี่เดือนแล้ว ยังไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง มีแต่คนงานพูดกัน เธอเห็นแต่กับข้าวกับปลาที่ฝากคนมาส่งไม่ได้ขาด ได้ยินว่าวันนี้นายหัวอยู่ที่นี่ด้วย กำลังตั้งวงเหล้าอยู่กับพวกคนงานด้านใน แต่ก็ยังไม่เคยเห็นหน้าสักที นิตย์รดีคิดว่านายหัวจะต้องแต่งตัวต่างจากคนอื่น เธอเห็นภาพลักษณ์ของเขาจากข่าวที่ได้อ่าน คิดว่าแยกออกไม่ยากหรอก บางทีเขาอาจอยู่ที่นี่จริง แต่ด้วยเวลาหรืออะไรก็แล้วทำให้คลาดกัน ที่จริงก็อยากเห็นหน้านายหัวชัดๆ เหมือนกันนะ อยากรู้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง บางทีอาจจะมีโอกาสได้คุยกันเรื่องของการชำระหนี้ ให้เขาผ่อนผันหรือไม่ก็ลดราคาลงหน่อย แต่ที่เห็นบ่อยก็คงจะเป็นหัวหน้าคนงาน นอกจากเอากับข้าวกับปลามาส่งแล้ว เธอก็เห็นเขาเดินลอยไปลอยมา ดีนะที่ปกติเธอสวมหมวกไอ้โม่งคลุมเสื้อแจ็คเก็ตปิดบังตัวแบบมิดชิด ไม่งั้นเขาคงไม่เห็นสีหน้าเอื้อมระอาที่เธอชอบมองเป็นประจำ ก็ชายหนุ่มเหมือนจะไม่ทำอะไรเลย คงสนิทกับนายหัวมาก ตกเย็นก็คงตั้งวงเหล้าเป็นประจำ เหมือนที่สาวๆ ตรงหน้ากำลังทำ “นี่ตั้งวงกันทุกวันเลยเหรอเนี่ย” เพราะปกติเลิกงานปุ๊บเธอก็กลับทันที บ้านอยู่ไกลไม่อยากกลับดึก เลยไม่รู้ว่ากิจกรรมหลังเลิกงานของคนที่นี่ทำอะไรกันบ้าง “ก็ไม่ทุกวันหรอกพี่ บางวันน่ะ” “ใช่พี่ ช่วงนี้พายุมันเข้าเราไม่มีอะไรทำเลยตั้งวงกัน…สักแก้วไหมล่ะ?” กำลังชงเหล้าอยู่พอดี เลยเอ่ยชวนสาวสวยที่เอาแต่นั่งมองเพียงอย่างเดียว “ไม่เป็นไร พี่ดื่มไม่เก่งน่ะ” นิตย์รดีรีบปฏิเสธ รู้ตัวว่าดื่มนิดเดียวก็เมาแล้ว และวันนี้ก็ฝนตกหนักไม่รู้จะยังไง เลยขอเลี่ยงนั่งดูอย่างเดียวดีกว่า กลัวจะเมาแล้วกลับไม่ได้ “สักแก้วนะพี่ วันนี้ดูท่าฝนจะตกหนัก” “ข่าวล่ามาแรง! ถนนขาดเรียบร้อยจ้า” “อ้าว แล้ววันนี้พี่จะกลับยังไงล่ะเนี่ย” เสียงของคนงานสาวที่วิ่งเข้ามาในสภาพเนื้อตัวเปียกปอน ทำให้เธอกังวลใจมาก ถนนขาดคงกลับไม่ได้เพราะน้ำไหลแรงกลัวจะเป็นอันตราย แล้วคืนนี้ยังไงต่อดี… “คงต้องค้างที่นี่แล้วแหละพี่ แต่นอนในออฟฟิศไม่ได้นายหัวไม่อนุญาต มีบ้านพักข้างๆ บ้านในหัวน่ะ ปกติอีน้อยพัก แต่มันลากลับบ้านสองวัน พี่เข้าไปนอนชั่วคราวได้” “ก็คงต้องอย่างนั้นแหละ ดีนะที่ยังมีบ้านว่าง” โชคดีแล้วมีห้องให้นอนพัก แต่ต่อให้ไม่มีเธอก็ว่าจะค้างที่นี่แหละ แม้นายหัวจะไม่อนุญาตก็ตาม ทำไงได้ล่ะมันไม่มีที่นอนนี่นา จะกลับก็กลับไม่ได้ด้วย “เวลาพายุเข้าก็แบบนี้แหละพี่ ถนนขาดบ่อย” “มาๆ พี่สักแก้วเถอะ ไปไหนไม่ได้แล้วนี่” “ก็ได้ แต่อย่าเข้มนักนะ พี่ดื่มไม่เก่ง” ไหนๆ ก็ไปไม่ได้เลยดื่มสักแก้วคงไม่เป็นไร บ้านพักก็อยู่ใกล้ๆ นี่เอง ถ้ารู้สึกมึนอยู่ต่อไม่ไหวก็แค่เดินกลับไปพัก “โอ๊ย ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวดูแลเอง” คำว่า ‘ดูแลเอง’ ไม่มีจริงเพราะยิ่งดึกพรรคพวกก็ยิ่งเมา นิตย์รดีดื่มไปแค่แก้วเดียวผสมค่อนข้างเจือจางด้วยซ้ำ แต่ก็รู้สึกมึนเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง ใครคุยอะไรก็ขำไปหมดรู้สึกว่ามันตลกมาก กระทั่งหัวเราะจนตัวโยกตัวโยน จึงรู้ตัวว่าไม่ไหวแล้วเลยขอตัวไปนอนพัก เดินตามทางที่คนงานสาวชี้โบ้ชี้เบ๊ให้ จนกระทั่งเดินมาถึงบ้านพักหลังหนึ่ง ที่มีกรงนกแขวนอยู่ที่ชานบ้าน นกตัวนั้นส่งเสียงเชิญชวน ‘สาวมาๆ’ นิตย์รดีเลยไม่รอช้าเดินขึ้นไปด้านบน แล้วยืนมองนกด้วยแววตาหยาดเยิ้ม “ฉลาดนะเราเนี่ย” จำไม่เห็นได้เลยว่าบ้านหลังที่น้องพนักงานบอกเลี้ยงนกไว้ด้วย นกอะไรไม่รู้แต่พูดเก่งชะมัด จ้องมองเธอด้วยดวงตากลมโต “สาวมาๆ” “เออ ก็มาแล้วไง” นิตย์รดีต่อปากต่อคำกับเจ้านกตัวน้อย ก่อนจะเปิดประตูเดินเข้าไปอย่างโงนเงน เธอไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน เดินฝ่าเข้าไปในความมืด แตะเท้าลงสะเปะสะปะ และเหมือนไปโดนอะไรบางอย่างที่มันนุ่มๆ กลมๆ เหมี๊ยวว “โอ๊ะ! มีแมวด้วยเหรอเนี่ย ขอโทษนะเจ้าเหมียวฉันมองไม่เห็น” ที่แท้ก็เตะแมว ว่าแต่เจ้าของบ้านไม่อยู่หลายวันไม่ใช่เหรอ แล้วใครดูแลสัตว์พวกนี้ล่ะ แล้วคำถามนั้นก็เลือนหายไป เพราะหญิงสาวแทบไม่มีสติรู้คิดแล้ว เหมือนสมองทำงานช้าลง กว่าจะประมวลผลอะไรสักอย่าง ก็แทบลืมความคิดนั้นไปแล้ว ความที่มันมืดมากเลยเดินสะเปะสะปะ แกว่งไม้แกว่งมือไปทั่วไม่รู้ทาง จนกระทั่งเตะเข้ากับขอบเตียง ร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความมึนเมาหายไป นิตย์รดีก้มตัวลงแล้วแตะดู รู้สึกว่ามันเป็นที่นอนก็เลยล้มตัวลงนอนแผ่อย่างหมดแรง ที่นอนนี่นุ่มดีจังเหมือนของราคาแพงเลย และอากาศคืนนี้ก็เย็นมากข้างนอกฝนยังไม่หยุดตก เนื้อตัวของนิตย์รดีมีความชื้น เพราะโดนละอองฝนมาตลอด แม้จะมีกันสาดคอยบังแต่ก็หลบไม่พ้นอยู่ดี บวกกับความเมาเลยเดินไม่ตรงทาง แต่ตอนนี้เธอไร้สติเกินกว่าจะจัดการกับตัวเอง ความนุ่ม ความเย็น และความเมา ทำให้เธอเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่รู้เลยว่าห้องที่เธอเข้ามาไม่ใช่ห้องของน้อย และตอนนี้เจ้าของห้องก็กลับมาแล้ว! ====================== เอาแล้วหล่าวววว หนูนิ้งง เข้าไปนอนห้องใครลูกกก อีกไม่กี่ตอนก็จะติดเหรียญแล้วนะคะที่รักก ขอแจ้งกติกาไว้ล่วงหน้า เปิดให้อ่านฟรี 3 ชั่วโมงก่อนติดเหรียญ ฉัตรติดตอนละ 5 บาท (ประมาณ 6 หน้า) นะคะ เพื่อไม่ให้ทิ้่งห่างจากในอีบุ๊กมากนัก หรือถ้าไม่อยากรอรายตอน กดซื้ออีบุ๊กได้เลยค้าบบบบบ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม