รักตัวเองให้มาก

1545 คำ
มาเบลล์ลากกระเป๋าเดินตามผู้เป็นแม่ขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน แค่ก! แค่ก! เธอไอออกมาเพราะรู้สึกระคายเคียงจมูกจากฝุ่นภายในบ้านเด็กสาวเป็นภูมิแพ้มาตั้งแต่เกิด ฝุ่นคือตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวกายขาวเนียนของเธอแดงไปทั้งตัว พวงแก้มขาวๆก็แดงกรั่มไม่แพ้กัน เธอเริ่มคันตามผิวหนังยุบยิบ ลมหายใจค่อยๆติดขัด ความอึดอัดในร่างกายค่อยๆแทรกซึมเข้ามา “ แค่ก! แค่ก! มะ แม่จะให้หนูนอนห้องไหนคะ ” เธอเอ่ยถามดวงตากลมโตค่อยๆหรี่ลงเปลือกตาแทบจะลืมตาไม่ขึ้นแล้วในตอนนี้ เธอหันไปมองแม่ด้วยสายตาแห่งความผิดหวัง เสียใจแม่ที่เคยดูแลประคบประหงมเธอมาอย่างดีวันนี้เขาดูเฉยชา บางครั้งยังแสดงท่าทีหงุดหงิดใส่ ทำราวกับว่าเธอไม่ใช่ลูก เขารู้ว่าตอนนี้อาการป่วยของเธอกำลังกำเริบขึ้นแต่เขาก็เลือกที่จะเมินเฉย “ ห้องนั้นก็แล้วกัน ” มุกดาชี้ไปยังห้องนอนเล็กซ้ายมือ บ้านใหม่มีห้องนอนเพียงสองห้องเท่านั้นความสะดวกสบายอะไรแทบจะไม่มีเลย “ ค่ะ ” มาเบลล์เดินเข้าห้องไป ในห้องปิดหน้าต่างมืดสนิทมีเพียงเศษฝุ่นเล็กๆที่ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ เมื่อแสงของหลอดไฟในห้องสว่างขึ้นมาเบลล์รีบไปเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศทันทีเธอยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่างสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆหลังจากที่รู้สึกว่าตัวเองอึดอัด หายใจติดขัดมากเหลือเกินทว่าภูมิแพ้กำลังเล่นงานเธออย่างหนักจนร่างบางล้มตึงลงกับพื้น มาเบลล์นอนราบอยู่บนพื้นในห้องเด็กสาวหมดสติไปนานนับชั่วโมงจนเวลาผ่านไปดวงตาคู่สวยค่อยๆลืมตาขึ้นเธอหยัดกายลุกขึ้นนั่งก่อนจะก้มมองตามร่างกายของตัวเองที่แดงไปทั้งตัวและหน้าก็บวมขึ้น มาเบลล์รีบรื้อกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อหายาแก้แพ้ที่มีอยู่มากิน “ เหลือ 5 เม็ดแล้วเหรอ ” เด็กสาวเอ่ยพึมพำขณะเห็นเม็ดยา 5 เม็ดถ้าหมดนี่ปัญญาจะไปหาหมอเอายามากินอีกคงไม่มีแล้ว โรงพยาบาลเอกชนหรูใช่ว่าจะเข้าไปรักษาขอยาได้ง่ายๆต้องมีเงินในกระเป๋ามากพออย่างที่ผ่านมา ดร. ให้มาเบลล์รักษาอาการภูมิแพ้มาโดยตลอดด้วยแพทย์เฉพาะทางที่มีชื่อเสียงค่ารักษา ค่ายาแพงหูฉีกแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลย มาเบลล์กำยา 1 เม็ดเดินออกจากห้องนอนลงไปยังห้องครัวของบ้านที่มีตู้เย็นเก่าๆกลับน้ำเปล่าเพียงไม่กี่ขวด ภายในบ้านเงียบเชียบราวกับเธออยู่ที่นี่คนเดียวแต่นั่นมันเป็นแค่ความคิดของเธอ เมื่อกินยาแล้วมาเบลล์ถือแก้วน้ำเดินตรงไปยังอ่างล้างจานเพื่อที่จะล้างแก้วเก็บโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าด้านหลังมีชายอีกคนที่ยืนมองเธออยู่เงียบๆเขาลากสายตามองที่ขาขาวๆของเธอแม้จะมีรอยจ้ำแดงๆแต่มันก็ยังขาวเนียนเอามากๆ กลิ่นกายของเด็กสาวลอยฟรุ้งเข้าจมูกเขาก่อนที่เขาจะค่อยๆสาวเท้าเดินเข้าไปหามาเบลล์ที่กำลังล้างแก้วอยู่อย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ หมับ! กรี๊ดดดดด! เพล้ง! สองแขนแกร่งของคนด้านหลังโอบกอดเธอแน่นจนเด็กสาวร้องกรี๊ดด้วยความตกใจแก้วในมือหล่นแตกในอ่างล้างจาน “ อ้าว…หนูเบลล์เหรอลุงคิดว่าโจรที่ไหน ” ป้องภพเอ่ยขึ้นทำราวกับว่ามาเบลล์จะรู้ไม่ทันมุกตื้นๆของเขา เด็กสาวรีบสะบัดตัวเองออกจากอ้อมแขนของป้องภพมือเรียวสองข้างปัดๆตามร่างกายตัวเองด้วยความเกลียดชังเธอเกลียดสายตาที่เขาจ้องมองเธออย่างลวนลาม เกลียดน้ำเสียงของเขา เกลียดทุกอย่างของชายตรงหน้า “ นี่หนูเป็นอะไรทำไมตัวแดงขนาดนี้ให้ลุงพาไปหาหมอไหม ” “ อย่ามาจับตัวหนู ” ป้อมภพเอื้อมมือไปจะจับแขนเล็กของเธอ มาเบลล์รีบถอยหนีพร้อมกับเอ่ยบอกเขาด้วยความไม่พอใจ เธอไม่เคยอยากฉีกหน้าใครเท่ากับผู้ชายคนนี้มาก่อนเลย ถ้าทำได้เธอจะฉีกหน้าเขาให้แหกและควักเอาลูกตาคู่นี้ออกมา “ แต่เราจะต้องอยู่บ้านเดียวกันไปอีกนาน เราควรทำความรู้จัก สนิทสนมกันเอาไว้นะจ๊ะ มาสิขอลุงดูหน่อย “ สองเท้าเล็กๆถอยหลังหนีเมื่อคนตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ก่อนที่เธอจะหมุนตัววิ่งออกจากห้องครัวไปด้วยความเร็ว ป้องภพได้แต่มองตามมาเบลล์กับรอยยิ้มมุมปากหากเขาจะจัดการกับเด็กสาวคนนี้จริงๆมันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยแต่คงต้องรอเวลาเพราะเขาเองก็ไม่อยากจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์เหมือนกัน เมื่อขึ้นมาถึงห้องนอนมาเบลล์ล๊อกห้องแน่นหนาและรีบถอดเสื้อผ้าออกวิ่งเข้าไปอาบน้ำล้างความสกปรกที่มาจากชายคนนั้นออกจากตัวเธอ ฮือ!!!! “ แด๊ดข๋า หนูจะทำยังไงดี ” มาเบลล์ร้องไห้โฮออกมามือก็ไม่อยู่เปล่าถูเนื้อตัวของตัวเองแรงๆ เธอทั้งทุกข์ ทั้งเครียดกับเรื่องการเรียน เรื่องแม่และเรื่องความปลอดภัยของตัวเธอเองที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับชายชั่วคนนั้น - 1 เดือนผ่านไป - แค่ก! แค่ก! แค่ก! มาเบลล์ไอแบบนี้มาเป็นเดือนเพราะภูมิแพ้ที่ไม่ยอมหาย ร่างกายซูบผอมลงจนดูผิดหูผิดตาไป มือถือหรืออุปกรณ์สื่อสารเธอก็ไม่มีเธอขาดการติดต่อกับมาวินตั้งแต่วันที่เดินออกจากโรงเรียนในวันนั้นจนถึงวันนี้ เช้านี้เธอจะไปสัมภาษณ์งานที่ร้านกาแฟหน้าโรงเรียนที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเธอมากนักหลังจากที่มาเบลล์เดินหางานระเวิกบ้านไม่กี่วันเธอก็เจอเข้ากับร้านกาแฟเล็กๆแห่งนี้ 09:00 น. เด็กสาวที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จยืนมองตัวเองที่หน้ากระจก ชุดเดรสแบรนด์ดังที่ผู้เป็นพ่อซื้อให้มันยังสวยเหมือนเดิมแม้มันจะตกรุ่นไปแล้ว เสื้อผ้ากับกระเป๋าแพงๆคงเป็นของมีค่าอย่างเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้กับเงินไม่กี่พันบาทที่เหลือติดบัญชีเอาไว้ ทุกอย่างเธอต้องแอบไม่ให้มุกดาเห็นไม่งั้นเขาคงจะเอาของเธอไปขาย มุกดาบังคับเอาเงินเก็บของมาเบลล์ไปจนเกือบหมดอ้างว่าต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายภายในบ้านทั้งที่ทั้งบ้านมีเพียงตู้เย็นกับพัดลมห้องละตัว แอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆไม่มีเลยในบ้านหลังนี้ มาเบลล์เก็บของเข้ากระเป๋าพร้อมกับมีดเล่มเล็กที่เธอติดตัวเอาไว้ตลอดๆเธอไม่ได้ป้องกันตัวเองจากใครแต่เธอป้องกันตัวเองจากป้องภพที่มารู้ในภายหลังว่าเป็น สามีใหม่ ของแม่เธอ เธอเสียใจกับเรื่องนี้อยู่หลายวันกว่าจะทำใจได้เธอต้องหาเหตุผลมากมายมาหักล้างกับความเสียใจ มาเบลล์ค่อยๆเปิดประตูและเดินออกจากห้องเงียบๆดวงตาคู่สวยกวาดสายตามองหาคนชั่วที่มักจะรุ่มร่ามกับเธออยู่บ่อยครั้ง เธอพยายามหลีกหนีไม่เจอกับเขา เมื่อไม่เห็นใครมาเบลล์รีบสาวเท้าวิ่งลงบันไดบ้านไปด้วยความรวดเร็ว แฮ่ก! แฮ่ก! แฮ่ก! เด็กสาววิ่งออกจากบ้านมาไกลจนแน่ใจว่าปลอดภัยเธอจึงหยุดฝีเท้าของตัวเองลง คนตัวเล็กยืนหอบหายใจหนักๆอยู่ใต้ร่มไม้ริมถนนในซอยบ้านมีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาคงออกไปใช้ชีวิต ทำงาน หาเงินอย่างที่เธอกำลังจะทำ ” สู้ๆนะเบลล์คนอื่นเขาก็เหนื่อยเหมือนกัน ยังมีคนอีกมากมายที่ลำบากหรือเขาอาจจะลำบากกว่าเราก็ได้ “ มาเบลล์เอ่ยขึ้นเธอให้กำลังใจตัวเองทุกวัน เพราะวันนี้มันทำให้เธอรู้แล้วว่า ชีวิตที่เหลือหลังจากนี้จะมีแค่ตัวเธอเท่านั้นแม่ที่เคยรักใคร่สนิทสนมห่างเหินกันออกไปทุกที หลายๆวันเธอจะเจอกับมุกดาสักครั้งไม่มีคำถามแห่งความห่วงใย ไม่มีกำลังใจให้กันสิ่งเดียวที่มุกดาจะพูดกับลูกสาวทุกครั้งที่เจอหน้ากันคือ ‘เมื่อไหร่จะไปหางานหาการทำช่วยเหลือค่าใช้จ่ายบ้าง ให้ฉันลำบากหาอยู่คนเดียวฉันก็เหนื่อยพ่อแกตายไปทิ้งแกไว้เป็นภาระให้กับฉัน’ จากลูกสาวที่เคยรักกลายเป็นภาระของเธอ อะไรที่ทำให้มุกดาเปลี่ยนไปขนาดนี้มาเบลล์ก็ไม่รู้สิ่งเดียวที่เธอรู้คือ เขาไม่ได้เห็นเธอเป็นลูกและไม่ได้รักเธออีกแล้ว ดังนั้นเธอควรรักตัวเองให้มาก ^^
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม