ตอนที่ 74
— “เช้าที่หัวใจเริ่มยอมรับ”
แสงแดดอุ่นอ่อน
ลอดผ่านผ้าม่านสีครีมเข้ามาในห้องรับแขก
พายณรีย์ขยับตัวเล็กน้อย
พลางสูดกลิ่นกาแฟที่ลอยอ้อยอิ่งในอากาศ
เธอลืมตาช้า ๆ ก่อนจะชะงักทันที —
เธอกำลังนอนซุกอยู่ในอ้อมแขนของคนิน
อ้อมแขนแข็งแรงนั้นโอบเธอไว้อย่างหลวม ๆ
ราวกับจะปกป้องไม่ให้โลกภายนอกเข้ามาทำร้าย
พายเม้มปากแน่น
หัวใจเต้นแรงจนแทบกลบเสียงนาฬิกา
ผ้าห่มสีเทาที่คลุมอยู่ครึ่งตัว
ถูกพาดร่วมกันราวกับคืนที่ผ่านมา...
พวกเขาหลับไปโดยไม่รู้ตัว
-“นี่ฉัน....
...เผลอนอนในอ้อมกอดเขาได้ยังไงกันนะ...”
เธอค่อย ๆ ขยับตัวออกอย่างเบามือ
แต่ปลายนิ้วกลับไปสัมผัสกับปลายแขนของคนิน
ความอุ่นนั้นทำให้เธอเผลอชะงัก —
เป็นอุ่นที่ไม่ใช่แค่จากกาย
แต่เหมือนมาจากใจที่กำลังค่อย ๆ เปิดออก
คนินยังหลับตาอยู่
ใบหน้าเขาดูสงบอย่างประหลาด
พายมองใบหน้าด้านข้างของเขา
เงียบ...แต่เต็มไปด้วยบางสิ่งที่พูดยาก
เธอรีบลุกขึ้นจากโซฟา สูดหายใจลึก
มองไปรอบห้องเพื่อเรียกสติกลับคืน
และทันทีที่สายตาเหลือบไปทางหน้าต่างบานใหญ่ —
เธอเห็น “พ่อและแม่ของคนิน”
ทั้งคู่กำลังกินอาหารเช้ากัน
อยู่ที่โต๊ะกลางสวนหลังบ้าน
แสงแดดเช้าส่องกระทบกลีบดอกชบา
ที่ปลิวไหวเบา ๆ
แม่ของคนินเงยหน้าขึ้น
เห็นพายที่ยืนอยู่หลังม่านกระจก
รอยยิ้มอบอุ่นของผู้หญิงวัยกลางคน
ปรากฏขึ้นทันที เธอโบกมือเบา ๆ
ราวกับทักทายลูกสาวคนหนึ่งของบ้าน
พายหน้าแดง เผลอยิ้มตอบกลับไปอย่างเขิน ๆ
หัวใจเธออบอุ่นจนพูดไม่ออก
-“บ้านนี้...อบอุ่นจัง...”
เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นด้านหลัง
>“แม่คงเห็นเราตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นแล้วล่ะ...
แม่คง..ไม่อยาก...รบกวนเรา..ที่หลับอยู่”
พายหันกลับมา เห็นคนินนั่งอยู่บนโซฟา
ดวงตาเขายังมีรอยอ่อนล้า
แต่ริมฝีปากกลับคลี่ยิ้มอบอุ่น
>“คุณหลับสบายไหมครับ..?”
>“ค่ะ...หลับดี...เกินไปหน่อยด้วยซ้ำ”
พายตอบพลางหลุบตา
คนินหัวเราะเบา ๆ
>“แม่ไม่ถือหรอกครับ ท่านบอกเองว่า
‘แค่เห็นเรามีความสุขก็สบายใจแล้ว’”
พายเม้มปาก แววตาสั่นไหว
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเขิน...
หรือเพราะคำว่า “เรา”
ที่คนินเผลอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว
เธอหันไปมองแสงเช้าที่ทอเข้ามาอีกครั้ง
และในจังหวะนั้นเอง เธอรู้ตัวว่า...
หัวใจเธอกำลังเริ่ม “ยอมให้ความอบอุ่น” นี้
เข้ามาอยู่ข้างในจริง ๆ
___
ตอนที่ 75
— “เงาของอดีตที่เริ่มกลับมา”
เช้าวันนั้น...
รถคันสีดำของคนินแล่นเข้ามาจอด
ในลานจอดรถของคณะอย่างเรียบสงบ
แสงแดดยามเช้ากระทบกระจกหน้ารถ
เผยให้เห็นใบหน้าของพายณรีย์
ที่ยิ้มบาง ๆ อยู่ข้างคนิน
เธอไม่คิดเลยว่าเช้านี้...
เธอจะมายืนอยู่ตรงนี้ พร้อมกับเขาในฐานะ
“ใครบางคนที่ใกล้ชิด”
จนใคร ๆ ก็เริ่มสังเกตเห็นได้
เมื่อทั้งคู่เดินเข้ามาในอาคารเรียน
เสียงกระซิบกระซาบเบา ๆ ดังขึ้น
จากกลุ่มอาจารย์และเจ้าหน้าที่ที่เดินสวนกันไปมา
>“อาจารย์พายกับอาจารย์คนิน..
มาพร้อมกันอีกแล้วนะ...”
>“ช่วงนี้ดูสนิทกันจังเลยนะคะ”
พายหน้าแดง
เผลอยกแฟ้มขึ้นมาบังหน้าอย่างเขิน ๆ
คนินมองเธอขำ ๆ แล้วเอ่ยเสียงเบา
>“อย่าสนใจเลยครับ ..
คนเขาเห็นเรายิ้มมากขึ้นก็เลยดีใจกัน”
>“คุณนี่...พูดอะไรแบบนั้นคะ”
>“ก็ความจริงไงครับ”
คนินตอบพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
จนพายต้องหลบตา
หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบกลบเสียงรอบข้าง
ตลอดทั้งเช้า
ทั้งสองคนต่างมีงานสอนและประชุมเต็มไปหมด
แต่ในทุกครั้งที่สายตาเผลอมองสบกัน
มันกลับมีบางอย่างอบอุ่นแล่นผ่านในอากาศ
เที่ยงวัน —
พายกลับมานั่งโต๊ะทำงานในห้องพักอาจารย์
เสียงแจ้งเตือนอีเมลดังขึ้น
เธอคลิกเปิดจดหมายจากฝ่ายวิจัย
ของมหาวิทยาลัย
“เรื่อง: ความร่วมมือโครงการวิจัยนานาชาติ
(ญี่ปุ่น-ไทย)”
“อาจารย์ผู้ร่วมงาน: Prof. Narita Mashino
และทีมงานจาก Tokyo University...”
เพียงแค่อ่านชื่อบรรทัดนั้น
มือของพายก็สั่นเล็กน้อย
สายตาเริ่มพร่าโดยไม่รู้ตัว
ชื่อที่เธอพยายามลืมมาหลายปี...กลับมาอีกครั้ง
-“นาริตะ มาชิโนะ...”
เสียงเรียกจากหน้าห้องดังขึ้น
>“อาจารย์พายครับ จะไปทานข้าวไหม?”
เสียงของคนินปลุกเธอจากภวังค์
พายรีบปิดหน้าจอ โน้ตบุ๊กลงอย่างรวดเร็ว
>“เอ่อ...ค่ะ แปปนึงนะคะ..
พายขอเคลียร์งานก่อน”
คนินขมวดคิ้วเล็กน้อย
สังเกตได้ถึงความสั่นในเสียงของเธอ
>“ทุกอย่างโอเค..ไหมครับ?”
พายฝืนยิ้มบาง ๆ
>“แค่...แค่มีอีเมลงานนิดหน่อยค่ะ ไม่มีอะไรค่ะ”
แต่ในใจของเธอกลับวุ่นวายเต็มไปหมด
อดีตที่เธอเคยหนี...กำลังจะกลับมาอีกครั้ง
และคราวนี้...เธอไม่แน่ใจเลยว่า
จะยังซ่อนความเจ็บนั้นจากคนินได้อีกนานแค่ไหน