บทที่ 3 ครอบครัวแสนอบอุ่น

1350 คำ
[CARROT TALK] หลังจากลงมาจากรถเมล์ ฉันก็หยิบมือถือพร้อมแอร์พอดขึ้นมาใส่และกดเล่นเพลงโปรดปล่อยใจไปตามเสียงเพลง แล้วเดินเข้าซอยมาเรื่อยๆ เหลียวตามองทางเข้าซอยแยกซอยหนึ่งเหมือนทุกครั้ง ฉันพึ่งย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงปี ซอยนั้นทำฉันสงสัยไม่น้อยทุกครั้งที่เดินผ่าน เพราะมันดูอลังการลึกลับอย่างบอกไม่ถูก และที่สำคัญห้ามให้คนนอกเข้าไป ฉันก็เลยอดรู้เลยว่าในซอยนั้นมีอะไรบ้าง อาจจะเป็นบ้านมาเฟียหรืออภิมหาเศรษฐีก็ได้ ฉันเดินตรงมาที่บ้านของตัวเอง ซึ่งเป็นบ้านจัดสรรเล็กๆ ในซอยแยก ดีที่บ้านฉันอยู่หน้าสุดของโครงการนี้ ก็เลยพอเดินไหว เมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้านก็เห็นคุณแม่ที่กำลังใส่ผ้ากันเปื้อนถือตะหลิวทำกับข้าวอยู่ในครัว และน้องสาวที่กำลังตั้งใจทำการบ้านอยู่ตรงโซฟาห้องรับแขก "กลับมาแล้วค่ะ" "กลับมาแล้วเหรอแครอท รอคุณแม่ทำกับข้าวก่อนน้าา" "ได้ค่าา" ฉันตะโกนตอบคุณแม่ไป แล้วเดินตรงไปหาน้องสาวด้วยความอยากรู้ว่ากำลังทำการบ้านวิชาอะไรอยู่ "ว่าไงเจ้าหนู ทำการบ้านเหรอจ๊ะ?" "สอนผักชีหน่อยได้มุ้ย เรียนไม่เข้าใจเลย" 'ผักชี' น้องสาววัย 13 ปีของฉัน ทำหน้ามุ่ยส่ายหน้าไปมาพลางส่งสายตาปริบๆ ให้ฉันเห็นใจ ด้วยความใจดีและรักน้องเป็นที่หนึ่ง ฉันจึงยอมช่วยสอนให้เหมือนทุกครั้ง ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง "เรื่องสมการเหรอ..ได้สิ" "เย้~" เมื่อได้ยินฉันตกปากรับคำจะสอนให้ เจ้าเด็กน้อยแก้มยุ้ยก็ฉีกยิ้มตาหยีด้วยความดีใจ ยื่นแบบฝึกหัดของตัวเองมาให้ฉันสอน "มา พี่จะอธิบายข้อนี้ให้ฟัง 3X+2=14 จงหาค่า X ว่าเท่ากับเท่าไร..." ฉันสอนการบ้านให้ผักชีไปเรื่อยๆ โดยยึดตามหนังสือแบบฝึกหัดของน้องเป็นหลัก อาจจะดูเหมือนฉันเก่ง แต่ความเป็นจริงไม่เลยสักนิด ฉันแค่เคยเรียนผ่านมาแล้วและมันง่ายเท่านั้นเอง "ทำไมพี่แครอทเก่งจัง...แต่จะว่าไปหนูไม่เห็นพี่ทำการบ้านของตัวเองเลยอ่ะ" น้องสาวสุดน่ารักเอ่ยชมฉันด้วยใบหน้าแห่งความนับถือ ซึ่งฉันก็เพียงแค่ยิ้มแหยๆ ให้ผักชีไป และใช่ค่ะ ฉันสอนการบ้านน้อง ส่วนการบ้านของตัวเองที่ยากๆ ฉันก็ทำเองไม่เป็น ต้องรอไปลอกเพื่อนที่โรงเรียนตลอด แฮะๆ "กับข้าวเสร็จแล้วจ้ะสองสาว" "ไปกินข้าวก่อน" ฉันเอ่ยชวนผักชีเมื่อได้ยินเสียงคุณแม่พูดบอก เราจึงวางมือจากการบ้าน แล้วพากันลุกไปที่โต๊ะทานข้าวที่เต็มไปด้วยอาหารมากมาย "ไม่รอคุณพ่อเหรอคะ?" ผักชีเอ่ยถามคุณแม่ ซึ่งฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน เพราะปกติเราจะรอทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งบ้าน "วันนี้คุณพ่อเลิกงานดึก พวกเราทานกันก่อนเลยจ้ะ" เราสองคนพยักหน้าเข้าใจให้คุณแม่ ก่อนจะลงมือทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ฝีมือการทำอาหารของคุณแม่คือนัมเบอร์วันในใจ จนฉันต้องยกนิ้วโป้งให้บ่อยๆ "นี่แครอทจ้ะ หนูคิดไว้รึยังลูกว่าซัมเมอร์นี้จะทำอะไร?" "ยังไม่รู้เลยค่ะ แต่หนูไม่เรียนพิเศษแล้วนะ" ฉันพูดพลางส่ายมือส่ายหัวไปมา เป็นตายร้ายดียังไงปิดเทอมซัมเมอร์นี้ฉันก็ไม่เรียนพิเศษเด็ดขาด เรียนมาตั้งหลายปีแล้ว ฉันก็ไม่พัฒนาเท่าไหร่ สู้ไปหาอะไรทำสนุกๆ ยังจะดีซะกว่า "ไม่อยากเรียนแล้วเหรอจ๊ะ?" "ใช่ค่ะ หนูอยากพักผ่อนทำสิ่งที่ชอบ" ฉันพูดตอบคุณแม่ไป ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูรูปภาพท้องฟ้าในแต่ละวันที่ตัวเองถ่ายเก็บสะสมไว้พลางตักข้าวกินไปด้วย แค่ได้ดูรูปถ่ายท้องฟ้าที่ตัวเองถ่ายก็มีความสุขมากแล้ว "งั้นหนูก็ค่อยๆ คิดละกันนะจ๊ะ แต่อย่าคิดจนลืมอ่านหนังสือเตรียมสอบไฟนอลล่ะ" "ได้เลยค่าาา~" ฉันเงยหน้าขึ้นมาฉีกยิ้มให้คุณแม่ คุณแม่เองก็ยิ้มให้ฉันอย่างเอ็นดู การมีคุณพ่อคุณแม่สนับสนุนสิ่งที่ตัวเองอยากทำมันดีมากจริงๆ ฉันรักพวกท่านทั้งสองที่สุด [CARROT END] บ้านของคิมหันต์ "สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่" คิมหันต์เดินเข้ามาในบ้าน เมื่อเห็นพ่อ แม่ และเหมันต์นั่งอยู่ห้องรับแขกแบบพร้อมหน้าพร้อมตา เขาก็ยกมือไหว้ทำความเคารพ สายตากวาดมองทั้งสามก่อนจะไปหยุดอยู่ที่เหมันต์ที่กำลังนั่งทานแอปเปิลเปลือกเสร็จแล้วอย่างอารมณ์ดี ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าแม่เป็นคนเปลือกให้เขาทาน "กินป่ะ?" "ไม่" เหมันต์เอ่ยถามเมื่อเห็นคิมหันต์ยืนมองเขา แต่คิมหันต์ก็ส่ายหน้าตอบก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงโซฟา แล้วหันไปมองผู้เป็นพ่อที่กำลังนั่งทำหน้าเคร่งเครียดดูอะไรบางอย่างในไอแพดอยู่ ส่วนผู้เป็นแม่เมื่อเห็นลูกชายกลับมาเหนื่อยๆ ก็ลุกขึ้นไปเทน้ำเปล่าใส่แก้วถือมาให้ดื่ม "น้ำจ้ะ..วันนี้เล่นบาสจนเหงื่อซกอีกแล้วนะคิมหันต์" ใบหม่อนเอ่ยแซวลูกชายที่ตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อพร้อมรอยยิ้มหวานเชิงเอ็นดู "ขอบคุณครับ..ไอ้มาร์คมันชวนเล่นยาวๆ" "พักบ้างสักวันก็ได้นะลูก แม่อยากเห็นคิมหันต์กลับบ้านพร้อมเหมันต์บ้าง" "เดี๋ยวมันก็ต้องพักแล้วล่ะคุณแม่ ใกล้สอบไฟนอลแล้ว" "แม่คาดหวังผลสอบกับเกรดได้ไหมเนี่ย?" "อย่าคาดหวังเลยดีกว่าครับ..ฮ่าๆๆๆ" ทั้งสามหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี ตัดไปที่ผู้เป็นพ่อที่ยังคงนั่งทำหน้าเครียด ไม่ได้เอ็นจอยไปกับบรรดาลูกๆ และภรรยาเลยสักนิด "คิมหันต์" เสียงเอ่ยเรียกฝาแฝดคนพี่ของผู้เป็นพ่อ ทำให้ทั้งสามคนหยุดหัวเราะและหันไปมองคนเอ่ยเรียกอย่างพร้อมเพรียงกัน คิมหันต์ขานรับด้วยสีหน้าลุ้นระทึกว่าผู้เป็นพ่อจะพูดอะไรกับเขา "ครับคุณพ่อ" "พรุ่งนี้ไปตีแบดกับคุณพ่อไหม? เหมันต์มันไม่ยอมไปกับคุณพ่อ" ผู้เป็นพ่อพูดพลางทำหน้ามุ่ยใส่ลูกชายฝาแฝดคนเล็กด้วยความน้อยใจที่ไม่ยอมไปตีแบดมินตันด้วย "ไปสิครับ" คิมหันต์ตอบรับไปโดยไม่ต้องคิดให้มาก เพราะเขาชอบเล่นกีฬาอยู่แล้ว เรื่องเล่นกีฬาเขาไม่เคยปฏิเสธ "ให้มันได้อย่างนี้สิลูกรักของคุณพ่อ" อีธานยิ้มร่าด้วยความปลื้มอกปลื้มใจในคิมหันต์ ลูกชายที่ไม่เคยปฏิเสธเขาเลยสักครั้ง ทำเอาเหมันต์นึกขำให้ผู้เป็นพ่อที่นิสัยเด็ก เขาเอ่ยถามไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ "คุณพ่องอนผมจริงดิ?" "เปล่าาา" อีธานเบือนหน้าหนี คำพูดและการกระทำสวนทางกันแบบสุดๆ ทำเอาผู้เป็นแม่อย่างใบหม่อนเอือมระอากับความนิสัยเด็กและนับวันยิ่งขี้งอนกับเรื่องไม่เป็นเรื่องของสามี จนต้องเอ่ยปากพูดแทนลูก "อย่างอนเหมันต์เลยนะพี่อีธาน พี่ก็รู้นิ่ว่าลูกไม่ชอบเล่นกีฬาเท่าไหร่" "รู้น่าา อย่างน้อยก็ไปด้วยกันหน่อย คุณพ่อก็อยากควงลูกชายสุดหล่อสองคนไปให้สาวๆ กรี๊ดบ้าง" "ใครเห็นพี่กับลูกคงนึกว่าแฝดสาม" ใบหม่อนส่ายหน้าไปมาอย่างระอาให้สามี ก่อนจะเดินเข้าห้องครัวไปเตรียมอาหารเย็น "ผมไปก็ได้ แต่แค่ไปนั่งเชียร์นะ" เมื่อเห็นผู้เป็นพ่ออยากให้ไปด้วย เหมันต์ก็จำยอมตามใจและตอบตกลงไป "ดีมากไอ้ลูกชาย" อีธานที่ได้ยินลูกชายฝาแฝดคนน้องตกปากรับคำยอมตกลงไปด้วยกันก็ยิ้มกริ่มด้วยความชอบใจ ใบหน้าดูเบิกบานดีใจแบบสุดๆ ทำเอาสองแฝดหันมองหน้ากันแบบเอือมๆ ให้ผู้เป็นพ่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม