ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ฉันผล็อยหลับไประหว่างที่นั่งรอพี่ทศทำงาน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่สัมผัสได้ถึงอะไรอุ่นๆ ที่ถูกพ่นลงมากระทบกับใบหน้า
ฉันรู้สึกตัวแล้วแต่ยังไม่ได้ลืมตา มันยังง่วงอยู่หน่อยๆ น่ะ
แต่แล้วพอนึกขึ้นได้ว่าวันนี้จะต้องไปทัวร์บริษัทก่อนเริ่มทำงานฉันก็รีบเปิดเปลือกตาขึ้นทันที
เฮือก!
นะ…นี่มันอะไรเนี่ย
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
หัวใจของฉันมีอัตราการเต้นที่เร็วรัวขึ้นมาก เมื่อสิ่งแรกที่เห็นหลังจากลืมตาก็คือใบหน้าหล่อเหลาของพี่ทศที่ตอนนี้อยู่ใกล้กับใบหน้าของฉันเอามากๆ
ความรู้สึกอุ่นๆ เมื่อกี้คงจะมาจากลมหายใจของเขาที่เป่ารดลงมา
ละ…แล้ว…ว่าแต่…ขะ…เขาจะทำอะไรทำไมถึงได้เอาหน้ามาใกล้ขนาดนี้
ไม่รู้หรือไงว่ามันทำให้ฉันเขินมากขนาดไหน…
แม้จนตอนนี้ที่เห็นฉันลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพี่ทศก็ยังไม่ยอมถอยห่างออกไป มิหนำซ้ำยังขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนปลายจมูกของเราแตะกันเฉียดๆ
ให้ตายสิ ทั้งๆ ที่คิดว่าตัวเองจะมาเป็นฝ่ายรุกเขาแท้ๆ แต่พอเขาเป็นฝ่ายเข้าใกล้ก่อนมันก็ทำตัวไม่ถูกเลยแฮะ
“อะ…เอ่อ…” ฉันเกริ่นขึ้นเพื่อหวังจะให้เขาถอยออกไป แต่ก็เงียบลงเมื่อเห็นหัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเป็นปม คล้ายไม่พอใจกับการเอ่ยของฉัน
เขาเอียงใบหน้าไปด้านข้างแก้มแล้วโน้มเข้ามาใกล้ฉันอีกครั้ง ฉันได้แต่หลับตาปี๋เพราะไม่อาจทนดาเมจเขาได้ไหว
นะ…นี่เขากำลังจะหอมแก้มฉันอย่างนั้นเหรอ…อื้ออ
“นอนน้ำลายยืด น่าเกลียด”
ฮะ! อะไรนะ!
น้ำเสียงเรียบนิ่งดังขึ้นใกล้ใบหู ก่อนที่ร่างสูงจะผละตัวออกห่าง แล้วมองฉันอย่างรังเกียจ ฉันรีบดีดตัวลุกขึ้นยืนพร้อมหันหลังหยิบกระจกออกมาส่องใบหน้าของตัวเอง
กรี๊ดดดดดดด! ฉันนอนน้ำลายไหลจริงๆ ด้วย
ฮือ อยากหายไปตอนนี้เลยได้ไหม อายชะมัดเลย!
ฉันจัดการใช้ทิชชู่เช็ดทำความสะอาดขอบปากและข้างแก้มของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วหันหน้ากลับไปหาเขา
เอายังไงดีเนี่ย วันแรกของการเจอกันไม่มีอะไรที่น่าประทับใจเลยสักอย่าง แถมฉันยังมานอนน้ำลายยืดต่อหน้าเขาอีก
“สะ…เสร็จงานแล้วเหรอคะ…” เพราะเขาเองก็เอาแต่เงียบฉันจึงเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน ถ้าฉันไม่พูดเขาก็จะยืนนิ่งเป็นรูปปั้นอยู่แบบนี้เลยใช่ไหม
“อืม” พี่ทศเอ่ยตอบเพียงสั้นๆ ไม่สิ แบบนี้ไม่ได้เรียกตอบหรอก เรียกว่าขากเสมหะในลำคอมากกว่า!
“งะ…งั้นเราไปกันเถอะค่ะ” ฉันหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาคล้องบ่าเพื่อเตรียมตัวไปทัวร์บริษัท พยายามจะลืมเรื่องน่าอายที่ทำเอาไว้ เพราะคิดมากไปตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้
พี่ทศน่ะชอบคนทำงานเก่ง ดังนั้นฉันจะต้องเป็นทุกอย่างที่เขาชอบ ในเมื่อวันนี้ทำให้เขาประทับใจในเรื่องรูปร่างหน้าตาไม่ได้แล้ว ก็เอาเรื่องการงานนี่แหละ
“จะไปไหน?”
“ก็ไปทัวร์บริษัทไงคะ เฟลมตื่นเต้นมากเลยนะ อยากรีบทำงานเร็วๆ แล้วค่ะ” ฉันคลี่ยิ้มสดใสทำราวกับว่างานคือสิ่งที่ฉันรักมากที่สุดในชีวิต
แม้ความจริงฉันจะโคตรขี้เกียจเลยก็ตาม…
“เธอมีตาหรือเปล่า เห็นไหมว่ามันกี่โมงแล้ว?”
ฉันรีบก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วก็พบว่าตอนนี้เกือบจะหกโมงเย็นแล้ว มาถึงตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ นี่แปลว่าฉันหลับไปนานเหมือนกันนะเนี่ย
คือต้องเข้าใจนะว่าเวลามันเปลี่ยนปุปปับ ฉันเองก็ยังตั้งตัวไม่ค่อยทันน่ะ
“จะหกโมงแล้วค่ะ”
“เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พี่ทศบอกเสียงเข้มพลางยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ อดคิดไม่ได้ว่าถ้าฉันยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บปากเขาขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้น
“แล้วอย่ามาหลับในห้องทำงานฉันอีก ฉันไม่ชอบ”