ตอนที่.5 พี่อิน

1907 คำ
เรื่อง: ไม่มีนิยามของคำว่ารัก ภาค 1 ตอนที่.5 พี่อิน โดย: srikarin2489 การเรียนชั่วโมงสุดท้ายสิ้นสุดลงท่ามกลางความโล่งใจของหลายคนหลังครูผู้สอนออกจากห้องไปแล้ว เสียงพูดคุยเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ บรรยากาศสนุกสนานหลังจากคร่ำเคร่งกับการเรียนมาทั้งวัน ปาลิดากำลังเก็บของใส่กระเป๋านักเรียนเมื่อณิชมนเข้ามาหา “ไปกันเถ่อะฟาง” “ไปไหน” ปาลิดาเงยหน้าเลิกคิ้วถามเพื่อน “ไปดูพี่ม.6ซ้อมบาส ที่เราคุยกันไว้เมื่อเช้าไง” ปาลิดาพยักหน้าจำได้ ทั้งสองเดินไปสนามบาสเกตบอลพร้อมเพื่อนคนอื่นอีกสามสี่คน ตลอดทางที่เดิน ไปปาลิดาลองนึกภาพของ”พี่อิน”คนดังว่าจะเป็นยังไงหน้าตาประมาณไหน เคยเห็นแต่สาวหล่อตอนอยู่โรงเรียนเดิม คิดว่าคงเป็นแบบนั้น “โอ้โห...เพิ่งเริ่มซ้อมวันแรกคนยังมารอดูเยอะ” ณิชมนอุทานเมื่อเดินมาถึงสนามเห็นมีคนมารอดูการซ้อมเยอะพอสมควร “ไม่แปลกหรอก พี่อินกับเพื่อนเขาหล่อกันทั้งทีม แต่พี่อินหล่อที่สุด” ณิชมนพูดด้วยรอยยิ้มเคลิ้มฝันจนเพื่อนยิ้มขำ เพื่อนพามายืนข้างสนาม ปาลิดามองดูกลุ่มนักเรียนสวมชุดกีฬาบาสเกตบอล เป็นเสื้อยืดแขนกุดกางเกงขาสั้นแบ่งเป็นสองทีม ยืนล้อมรอบครูผู้ชายที่เป็นโค้ชฝึกสอน เห็นแต่ด้านหลังแต่ละคนรูปร่างสูง ที่ทำให้ปาลิดาแปลกใจคิดว่าจะเป็นสาวหล่อผมสั้นกลับกลายเป็นผมยาวทุกคน เห็นแค่ด้านหลังยังรู้สึกว่าน่าจะเป็นสาวสวยมากกว่าสาวหล่อ นักกีฬาแบ่งเป็นสองทีม ทีมแรกสวมชุดสีขาวอีกทีมสีน้ำเงิน กระจายตัวลงสนามยืนตามตำแหน่งของตัวเอง แม้จะเห็นหน้าแล้วปาลิดายังเดาไม่ออกว่า คนไหนน่าจะเป็น”พี่อิน” หน้าตาดีทุกคนสูงน่าจะร้อยเจ็ดสิบขึ้นไป “ปี๊ด” โค้ชเป่านกหวีดเป็นสัญญาณเริ่มการฝึกซ้อม มีเสียงร้องเชียร์จากนักเรียนสาว ๆ ข้างสนาม ณิชมนตะโกนเรียก “พี่อิน” เป็นระยะ การฝึกซ้อมดำเนินไปได้สักระยะ ทีมชุดขาวชู้ตลูกบาสแต่ยังไม่ทันถึงห่วง ทีมชุดสีน้ำเงินกระโดดปัดออกก่อน ลูกบาสถูกปัดกระเด็นมาทางที่ปาลิดายืนอยู่ เพราะเคยเล่นบาสเกตบอลมาบ้าง ปาลิดาเอื้อมมือไปคว้าลูกบาสไว้ ขณะที่เธอยืนถือลูกบาสแบบงง ๆ เห็นพี่นักบาสร่างสูงในชุดสีขาวเดินตรงมาหา “น้อง...ขอลูกบาสคืนด้วย” “พี่อิน” เสียงณิชมนกรี๊ดอยู่ข้าง ๆ ทำให้ปาลิดารู้ว่าพี่คนนี้นี่เองคือ “พี่อิน” คนดัง เธอมัวแต่มองใบหน้านั้นนิ่ง ไม่ส่งลูกบาสคืนให้ เมื่อพี่นักบาสร่างสูงในชุดบาสเกตบอลสีขาวมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งฝ่ายนั้นยิ้มบาง ๆ ที่เห็นปาลิดามองนิ่ง แค่สบตาคู่นั้นทำให้หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นจนรู้สึกได้ มองหน้าพี่นักบาสร่างสูงนิ่งราวกับถูกสะกด ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตเป็นประกายสดใส มีชั้นตาชัดคิ้วเรียวค่อนข้างเข้ม จมูกโด่งปลายเชิดนิดกลมมน มีฮัมพ์เล็กน้อยกำลังสวย ริมฝีปากพอดีรูปหน้า เนื้อปากเนียนอิ่มได้รูป ขอบปากชัดมีสัดส่วนเท่ากันทั้งสองข้าง โครงหน้าเรียวยาวอย่างคนมีสายเลือดฝรั่งผสม จะมองว่าสวยก็ใช่ จะมองว่าหล่ออย่างผู้ชายก็ใช่ น่าแปลกที่ในคนคนเดียวมีทั้งความสวยและหล่อ เหมือนที่ณิชมนเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ รูปร่างสูงจนปาลิดาต้องแหงนหน้ามอง ผิวพรรณขาวสะอาดขาวพอ ๆ กับเธอเลย ผมสีน้ำตาลเข้มสีเดียวกับตา ยาวเกือบถึงกลางหลังถักเปียมัดด้วยริบบิ้นผ้าสีขาว ดูโดยรวมน่าจะมีเชื้อสายอื่นปนอยู่แต่ไม่ชัดมากขนาดลูกครึ่ง “ว่าไงน้อง เอาแต่มองไม่พูดอะไร เพื่อนแนนเหรอ” เมื่อปาลิดาไม่พูดและไม่คืนลูกบาสเกตบอลให้ พี่นักบาสจึงหันไปถามณิชมน “ค่ะพี่อิน” “ขอลูกบาสคืนได้มั้ยน้อง” พี่นักบาสหันมาบอกอีก พี่นักบาสพูดพร้อมยื่นมือมาขอ มองสบตาน้องม.4ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ปาลิดาได้สติรีบส่งลูกบาสคืนให้ ปลายนิ้วแตะสัมผัสกันทำให้ทั้งสองนิ่งไป ราวกับมีกระแสอะไรบางอย่างไหลผ่านกับสัมผัสแปลกใหม่ เกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ หลังจากส่งลูกบาสจากข้างสนาม ให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในสนามแล้ว ก่อนวิ่งกลับเข้าสนาม พี่นักบาสร่างสูงหันมามองปาลิดาด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ “ฟาง...นี่แหละพี่อินที่ฟางอยากเห็น พี่อินซื่อจริงว่าอินทิรา” ณิชมน บอกอยู่ข้าง ๆ สายตามองตามรุ่นพี่อย่างชื่นชอบ การฝึกซ้อมดำเนินต่อไป แต่คราวนี้จะเห็นว่าอินทิรา ชอบเลี้ยงลูกบาส มาทางที่ปาลิดายืนอยู่ และคอยส่งยิ้มมาให้หลายครั้ง ทำให้ปาลิดารู้สึกประหม่า ใจเต้นตึกตัก อย่างที่ไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้มาก่อน “อิน...เป็นอะไรวะวันนี้ เมื่อกี้ยังเล่นดี ๆ อยู่เลย ทำไมตอนนี้เหมือนคนไม่มีสมาธิ” อินทิรายิ้มแห้งกับเพื่อนเมื่อถูกเพื่อนโวยวายว่า มัวแต่มองไปทางกลุ่มน้องม.4 ทำให้เล่นผิดพลาดและชอบวิ่งมาแต่ทางกลุ่มน้องม.4 “อะไรของแกวะอิน เล่นผิดฟอร์มมากนะวันนี้ เล่นเหมือนคนใจลอย สติเพื่อน...สติอยู่ไหน” อินทิราพยายามดึงสติตัวเองกลับมา สนใจกับการฝึกซ้อม แต่ใจคอยแต่อยากมองไปทางน้องม.4 มีแปลกหน้าอยู่คนเดียวที่ไม่เคยเห็นนอกนั้นรู้จักหมด การฝึกซ้อมดำเนินต่อไปครู่ใหญ่ โค้ชให้นักกีฬาหยุดพักดื่มน้ำ และแนะการเล่นให้ทั้งสองทีม ระหว่างโค้ชแนะวิธีการเล่น อินทิราไม่ได้สนใจฟังคอยแต่มองไปทางน้องม.4เป็นระยะ แล้วยิ้มอยู่คนเดียว “ฟางเห็นพี่คนนั้นมั้ย” ปาลิดามองตามมือเพื่อน ที่ชี้ไปทางกลุ่มนักกีฬาบาสเกตบอล “คนที่คอยส่งขวดน้ำให้พี่นักบาส ตัวเล็กหน้าหมวยสวมแว่นเขาคือพี่บุษซื่อจริงบุษกร เพื่อนสนิทพี่อินและเคยเป็นเพื่อนคู่หูของพี่เนตร ตอนนี้แยกกันเรียนเลยห่าง ๆ กันไป” ปาลิดามองดูนักเรียนหญิงแต่งชุดม.ปลาย ตัวเล็กเตี้ยกว่าเธอเล็กน้อย สวมแว่นกรอบและเลนส์บาง ผิวขาวจัดหน้าตาบ่งบอกว่ามีเชื้อสายจีน แต่ตาโตแก้มป่องหน้าตาสวยน่ารัก บุษกรคอยเอาขวดน้ำมาแจกจ่ายให้เพื่อน แต่อินทิรา พิเศษกว่าคนอื่นมีผ้าให้เช็ดเหงื่อด้วย “คนที่ยืนข้างพี่อินคือพี่ตุล ซื่อจริงตุลยาเพื่อนสนิทอีกคนของพี่อิน สวยคมเพราะเป็นคนใต้ ฟางจะเห็นพี่อิน พี่บุษพี่ตุลตัวติดกันตลอด จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร อยากรู้อะไรอีกถามแนนได้” หลังจากดูพี่ม.6ซ้อมบาสเกตบอลแล้วแยกย้ายกันกลับ ปาลิดา มายืนรอแม่ตรงจุดที่ทางโรงเรียน จัดให้ผู้ปกครองขับรถเข้ามารับส่งนักเรียนได้ ความวุ่นวายพลุกพล่านจอแจหายไป นักเรียนกลับจวนหมดแล้ว ระหว่างยืนรอแม่อยู่เธอเห็นอินทิรา ยังอยู่ในชุดซ้อมบาสเกตบอลสีขาว มือหนึ่งหิ้วกระเป๋านักเรียนสีดำ มีเป้อีกใบสะพายไหล่เดินตรงมาทางที่เธอยืนอยู่ “ปี้นๆ..” รถยุโรปคันหรูสีดำมาชะลอใกล้แล้วบีบแตรให้ ทำให้อินทิราหยุดเดินหันไปดูแล้วหันมาทางปาลิดาทำท่าเหมือนลังเลอะไรสักอย่าง แต่ก็เปิดประตูขึ้นไปนั่งด้านหน้าข้างคนขับ รถวิ่งค่อนข้างช้าผ่านปาลิดาที่ยืนอยู่ กระจกถูกกดเลื่อนลงใบหน้าแจ่มใสยื่นออกมานอกรถมองสบตากัน ริมฝีปากอิ่มได้รูปคลี่ยิ้มอ่อน รวมทั้งดวงตาสีน้ำตาลเข้ม รอยยิ้มที่ทำให้ปาลิดาประหม่าใจเต้นตึกตักผิดจังหวะ แม้รถจะวิ่งผ่านมาแล้วอินทิรายังเอี้ยวคอกลับไปมองอยู่อย่างนั้น กำลังมองน้องม.4เพลิน ๆ รถมีอาการสะดุดเหมือนเบรกถูกเหยียบกะทันหัน ทำให้อินทิรา ดึงสติตัวเองกลับมาแล้วหันไปทางคนขับ ที่เหมือนสติจะหลุดไปหน่อยหนึ่ง แล้วหันกลับมาตั้งใจขับรถต่อ “รถเป็นอะไรคะแม่” “ไม่มีอะไรลูก แม่มัวคิดเรื่องงานเลยเผลอเหยียบเบรก” อโรชาตอบลูกแต่สายตามองกระจกมองหลัง ดูรถเก๋งญี่ปุ่นสีขาวที่วิ่งสวนเข้าไปด้วยแววตาครุ่นคิดสงสัย เหมือนเห็นคนคุ้นเคยแต่ไม่ชัด เพราะรถติดฟิล์มกรองแสงจึงไม่แน่ใจ “งานยุ่งมากหรือคะแม่ แม่ทำงานเหนื่อย ๆ แล้วยังต้องขับรถมารับอิน” “แม่ไหวไม่ต้องห่วงแม่หรอก แม่ขับรถรับส่งอินมาตั้งแต่อยู่อนุบาล วันนี้ซ้อมบาสเป็นยังไงบ้าง” “ปกติดีค่ะ” ปากตอบแม่ แต่ริมฝีปากแววตายิ้มบาง ๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าน้องม.4 ที่ไม่คุ้นหน้า แต่สะดุดตาสะดุดใจตั้งแต่แรกเห็น ทำให้ต้องแวะเวียนไปมองใกล้ ๆ “แม่เคยมีรักแรกพบมั้ยคะ” “ทำไมมาถามแม่เรื่องนี้ อินไปสะดุดรักแรกพบกับใครเหรอ” อโรชาหันมาถามลูกยิ้ม ๆ กึ่งแซว “เปล่า” คนเป็นลูกรีบปฏิเสธเสียงสูง แต่ยิ้มเขินมีพิรุธ “เปล่าทำไมเขิน” อโรชาหันมาแซวลูกอีก “ตอนแม่เรียนมัธยม อินคิดว่าแม่ต้องมีนักเรียนสาว ๆ มาชอบแน่ อินดูรูปแม่ตอนเรียนม.ปลาย แม่สวยเท่มาก มาดของกัปตันทีมบาสอินยังต้องยอมเลย” “สู้กัปตันคนปัจจุบันไม่ได้หรอก” อโรชาหันมายิ้มกับลูก “เพื่อนแม่ที่เป็นครู เคยบอกอินว่าแม่มีสาว ๆ แอบชอบเยอะ” “เยอะแค่ไหนก็สู้อินไม่ได้หรอก วันวาเลนไทน์แต่ละปี ได้ดอกกุหลาบเป็นหอบ ๆ ช็อกโกแลตอีกเยอะแยะ จนกินไม่ไหวต้องเอาไปแจกเด็ก สมัยแม่ได้ทีไม่กี่ดอก ส่วนมากไม่รู้ด้วยว่าใครให้ เขาแอบเอามาวางไว้ที่โต๊ะตอนแม่ไม่อยู่ แต่อินถูกสาวๆรุมชอบมาตั้งแต่เริ่มเข้าวัยรุ่น จนบางครั้งแม่ชักไม่แน่ใจ ว่าลูกแม่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ทำไมมีแต่ผู้หญิงมารุมชอบ อินจะชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย” คนเป็นลูกไม่ตอบทันทีแต่ทำท่าครุ่นคิด “อืม...ยังตอบไม่ได้ค่ะแม่ ไว้อินเจอคนที่ใช่จะรู้เอง แต่อินไม่เคยกำหนดว่าต้องเป็นหญิงหรือชาย อะไรก็ได้ที่สบายใจ” ปากตอบแม่แต่ใจกลับนึกถึงน้องม.4ที่เจอเป็นครั้งแรก แต่กลับจำได้ติดตาตรึงใจ แค่นึกถึงใบหน้าสวยน่ารักนั้นทำให้อินทิรายิ้มออกมาได้โดยไม่รู้ตัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม