เรื่อง: ไม่มีนิยามของคำว่ารัก ภาค 1
ตอนที่.8น้องม.4พี่ม.6 (2)
โดย: srikarin2489
“มาเงียบๆตกใจหมด อะไรของแกวะตุล” ทำเสียงโวยวายใส่เพื่อน แต่ตุลยาไม่ตอบดึงโทรศัพท์จากมือเพื่อนมาดูรูป
“แกชอบน้องม.4คนนี้หรืออิน” อินทิรายิ้มเขิน เมื่อเพื่อนเงยหน้ามาตั้งคำถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ม.1 ที่ผ่านมาฉันรู้ว่ามีคนมาชอบแกเยอะ แต่แกไม่เคยมีอาการแบบนี้กับใครเลย มิน่าล่ะ...ทุกเช้าแกชอบมาป้วนเปี้ยวแถวบันได ที่แท้แอบมาดักรอน้องม.4คนนี้นี่เอง ชอบเขาจริง ๆ หรืออิน” ยื่นหน้าไปถามใกล้เพื่อน ฝ่ายเพื่อนยิ้มเขินแต่พยักหน้ายอมรับ
“น้องเขาสวยน่ารักดี รู้สึกว่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเนตรใช่มั้ย”
“ใช่ เป็นเพื่อนน้องแนนด้วย” ตุลยายิ้มขำเมื่อเห็นเพื่อนออกอาการเขิน อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“น่าสงสารน้องแนนวิ่งตามตื๊อแกมาตั้งแต่อยู่ม.1 สุดท้ายแกดันไปชอบเพื่อนเขา เรื่องนี้ต้องเป็นความลับนะอิน อย่าให้ไอ้บุษมันรู้เด็ดขาด ไม่งั้นมันจะบ่นโวยวายจนแกร้อนหู ฉันจะช่วยแกปิดเป็นความลับเอง เป็นความลับสุดยอดของเราสองคน” อินทิราได้แต่ยิ้มเมื่อเพื่อนเข้ามากอดคอบอก คืนโทรศัพท์ใส่มือให้
“ขอบใจนะตุล ที่แกเข้าใจฉัน”
“ไม่เป็นไรเพื่อนรัก ไปห้องเรียนกันเถ่อะ” ทั้งสองยิ้มให้กันแล้วเดินขึ้นบันไดไปห้องเรียน
“สำหรับชั่วโมงนี้พอแค่นี้ก่อน ครูมีเรื่องจะให้พวกเธอช่วยกันออกความเห็น” คุณครูที่ทำการสอนปิดหนังสือ แล้วบอกก่อนจะหมดชั่วโมง นอกจากสอนแล้วยังเป็นครูที่ปรึกษาของห้องด้วย
“โรงเรียนเราจะมีงาน ต้องมีการแสดงของโรงเรียนเหมือนทุกปี แต่ปีนี้พิเศษหน่อย จะให้น้องม.4กับพี่ม.6ทำการแสดงร่วมกัน” จบคำพูดของคุณครูผู้หญิงวัยกลางคน เสียงนักเรียนพูดคุยกันดังเซ็งแซ่ขึ้น
“อย่าพึ่งคุยกัน ห้องเราต้องส่งตัวแทนไปร่วมแสดงด้วย มีมติมาให้ส่งตัวแทนห้องละสองคน มาช่วยกันเลือกว่าจะให้ใครเป็นตัวแทนห้อง ไปทำการแสดงร่วมกับพี่ม.6”
“ให้เกียรติเพื่อนใหม่ค่ะคุณครู” เพื่อนคนหนึ่งยกมือขึ้นแล้วเสนอความคิดชี้มือไปทางปาลิดา นักเรียนในห้องทั้งหมดเป็นนักเรียนเก่าจบม.3จากที่นี่ มีปาลิดาคนเดียวเป็นนักเรียนใหม่จบม.3มาจากที่อื่น
“ว่าไงปาลิดา เพื่อนเขาเสนอเธอ” ปาลิดามองหน้าคุณครูแล้วหันไปดูเพื่อน ๆ ในห้อง ทุกคนต่างเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้
“แล้วแต่คุณครูค่ะ”
“มาช่วยกันเลือกเพิ่มอีกคน” ปรากฏว่าณิชมนได้รับเลือกเป็นตัวแทนห้องอีกคน
“แนนรู้มั้ยว่าจะได้แสดงอะไร”
“ไม่รู้ แต่ไม่มีอะไรมากหรอกฟาง ไม่เต้นรำก็ฟ้อนรำเหมือนทุกปี ได้แสดงร่วมกับพี่ม.6แบบนี้ น่าจะเป็นเต้นหรือไม่ก็ฟ้อนรำ ฟางหนักใจมั้ยล่ะ” ปาลิดาสั่นหน้า
“ตอนอยู่โรงเรียนเก่า ฟางแสดงงานโรงเรียนบ่อยไม่ใช่เหรอ”
“ทุกปีตั้งแต่อยู่อนุบาลเลย”
“แบบนี้คงไม่ตื่นเวทีหรอก พรุ่งนี้เราไปประชุมร่วมกับพี่ม.6 จะรู้เองว่าต้องแสดงอะไร”
คุณครูผู้หญิงวัยสาว2คนเดินเข้ามาในห้อง ใช้เป็นที่ประชุมเรื่องการแสดงงานโรงเรียน นักเรียนชั้นม.4 มารอกันอยู่แล้วเหลือแต่พี่ม.6 ระหว่างนั่งรอคุยกันเสียงค่อนข้างดัง ถึงจะต่างห้องแต่ส่วนมากเป็นนักเรียนเก่าจึงคุ้นเคยกันดี แม้แต่ณิชมนยังหันไปพูดคุยกับเพื่อนคนนั้นคนนี้ ส่วนปาลิดา นั่งดูคนอื่นเขาคุยกัน เพราะเป็นเด็กใหม่ยังไม่คุ้นเคยกับเพื่อนต่างห้องนัก
“เงียบ ๆ หน่อย” คุณครูที่กำลังเตรียมการ ด้วยการเขียนซื่อน้องม.4ใส่กระดาษแล้วม้วนเอาใส่กล่อง เคาะโต๊ะเป็นการปรามเห็นนักเรียนคุยกันเสียงดัง
“ทุกคนนั่งแล้วเว้นเก้าอี้ไว้ตัวหนึ่ง เอาไว้ให้พี่ม.6นั่งด้วย” ณิชมน ตอนแรกนั่งกับปาลิดาต้องแยกกันนั่ง
“พี่ม.6มาแล้ว”
นักเรียนชั้นม.6 ทยอยเดินเข้ามาในห้อง เสียงคุยของน้องม.4เงียบลงทันที น้องม.4มีท่าทางตื่นเต้นเมื่อเห็นพี่ม.6เดินเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาของโรงเรียน โดยเฉพาะนักบาสเกตบอลที่ได้ขึ้นซื่อว่าหน้าตาดีกันทั้งทีม แต่ละคนรูปร่างสูงหน้าตาดีเหมาะจะทำการแสดงเป็นฝ่ายชาย
“พี่อินก็มาด้วย”
ณิชมนกรี๊ดเบาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นอินทิราเดินเข้ามาเกือบเป็นคนสุดท้าย ตามด้วยตุลยาเพื่อนสนิท
“พี่ม.6ยืนรอก่อน” คุณครูหนึ่งในสองหันมาบอก
“ครูจะให้จับฉลากก่อน ในกล่องกระดาษนี้เป็นซื่อของน้องม.4 ใครจับได้ซื่อใครจะได้แสดงคู่กัน มาเริ่มจับกันเลย” พี่ม.6คนแรกเดินมาล้วงมือลงในกล่องกระดาษ แล้วหยิบม้วนกระดาษเล็ก ๆ ออกมา
“อ่านซื่อดัง ๆ น้องม.4เป็นซื่อใครให้ยกมือขึ้น พี่เขาจะได้รู้ว่าคนไหนแล้วไปนั่งด้วยกัน”
ณิชมนทำหน้าผิดหวังเมื่อซื่อตัวเองถูกจับได้ด้วยพี่คนอื่น ไม่ใช่อินทิรา อย่างที่แอบลุ้นอยู่ ได้แต่พยายามยิ้มด้วยเมื่อพี่คนที่จับซื่อได้เดินยิ้มเข้ามาหานั่งลงข้างๆ
“เหลือสองคนสุดท้ายแล้ว อินทิราเธอมาจับก่อน” อินทิราเดินมาล้วงมือลงในกล่องกระดาษ ที่คุณครูถืออยู่แล้วหยิบม้วนกระดาษออกมา
“อ่านดัง ๆ อินทิรา ให้น้องเขาได้ยินด้วย” พอคลี่กระดาษออกเห็นซื่อ ทำให้อินทิราถึงกับยิ้มตาเป็นประกายดีใจ
“ปาลิดาค่ะคุณครู”
“ฟางได้แสดงคู่กับพี่อิน” ณิชมนบ่นอุบอิบ ตัวเองแอบลุ้นหวังได้แสดงคู่กับอินทิรา แต่กลับกลายเป็นเพื่อนได้แสดงแทน
อินทิรายิ้มพยายามเก็บอาการดีใจ แต่แววตาออกอาการเด่นชัด เมื่อเดินมานั่งลงข้างน้องม.4หน้าใหม่สุดในห้อง ตุลยาไม่ต้องจับเพราะเหลือเป็นคนสุดท้ายแล้ว
“ยิ้มอะไรพี่อิน” ปาลิดาทำหน้านิ่งถาม เมื่อพี่ม.6คนดังมานั่งข้างๆ แล้วหันมายิ้มด้วยแต่ไม่พูดอะไร
“รู้แล้วนะว่าใครได้แสดงคู่กับใคร ให้ทำความรู้จักคุ้นเคยกันไว้” เสียงคุณครูบอก
“ดีใจนะที่ได้แสดงคู่กับน้องฟาง ฟางล่ะดีใจมั้ยที่ได้แสดงคู่กับพี่” ยื่นหน้ามาถามด้วยรอยยิ้มสดใสตาเป็นประกาย
“เฉย ๆ ” คนตอบทำหน้านิ่งบอก แต่ไม่หันไปสบตาพี่ม.6 รู้ว่าอีกฝ่ายมองอยู่ ในใจเริ่มปั่นป่วนเขินเมื่อปรายตาดูเห็นพี่ม.6เอาแต่นั่งมองแล้วยิ้ม
“ใจเราไม่ตรงกันเลยเนอะ รูปที่แถมให้พี่วันนั้น พี่เปิดดูทุกวันเลย”
“อินทิรา”
เสียงคุณครูที่กำลังพูดรายละเอียดของการแสดง ร้องเรียกดังมาจากหน้าห้อง ทำเอาอินทิราเกือบสะดุ้งเพราะกำลังพูดเพลิน
“คุยอะไรกัน”
“ก็...คุณครูบอกให้ทำความคุ้นเคยกับน้อง หนูก็ทำตามนั้น”
“ไม่ใช่ตอนนี้ ฟังรายละเอียดเรื่องการแสดงก่อน ทำความคุ้นเคยเอาไว้ทีหลัง”
ปาลิดายิ้มนิดเมื่อเห็นพี่ม.6คนดัง ทำหน้าจ๋อยถูกคุณครูตำหนิ อินทิรา ไม่คุยก็จริงแต่ใช้วิธีนั่งเอียงคอมองคนนั่งข้างแล้วยิ้ม แม้จะถูกน้องม.4ทำหน้านิ่งใส่แต่ยังยิ้มหลิ่วตาให้
“พี่อิน...หันไปฟังคุณครู เดี๋ยวไม่เข้าใจทำการแสดงไม่ได้” ปาลิดาทำเสียงเข้มในลำคอ พอได้ยินกันสองคน
“เรื่องการแสดงสำหรับพี่สบาย พี่แสดงงานโรงเรียนมาตั้งแต่อนุบาลแล้ว” ปาลิดามองค้อนกับคำคุยโอ่นั้น
หลังจากประชุมกันอยู่ครู่ใหญ่ คุณครูบอกเลิกการประชุม เพื่อให้นักเรียนกลับเข้าห้องเรียนภาคบ่าย ก่อนลุกอินทิราเอียงหน้าไปบอกคนนั่งข้างพอได้ยินกันสองคน
“วันจันทร์ พี่จะไปรอตรงบันไดอีกนะ” บอกแล้วลุกไปหาตุลยาที่ยืนรออยู่ ปาลิดามองตามร่างสูงของพี่ม.6แล้วยิ้มมุมปาก
ในเช้าวันจันทร์ปาลิดามาถึงโรงเรียนเร็วกว่าทุกวัน อินทิราบอกว่าจะมาดักรอเธอจึงให้แม่มาส่งเร็วกว่าปกติ แต่กลับต้องผิดหวัง เมื่อเร่งรีบเดินมาที่บันไดขึ้นอาคารเรียน กลับไม่พบพี่ม.6คนดังดักรออยู่เช่นทุกวัน ปาลิดาหยุดเดินเหลียวมองหาคิดว่าเพราะตัวเองมาเช้าเกินไปหรือเปล่า อินทิราอาจจะยังมาไม่ถึงจึงเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวบันไดคอยมองหา
“ฟาง...มานานแล้วเหรอ” ณิชมนร้องทักเมื่อมาถึงโรงเรียน เห็นเพื่อนยืนอยู่แถวบันไดทางขึ้นอาคารเรียน
“สักครู่” ปาลิดาขึ้นบันไดไปกับเพื่อน รู้สึกผิดหวังไม่เห็นพี่ม.6มาดักรออย่างที่บอกไว้
ปาลิดาแทบไม่มีสมาธิเรียน คอยเฝ้ามองหาพี่ม.6แต่กลับไม่เห็น ทั้งที่ปกติพี่ม.6คนดังมักมาป้วนเปี้ยนอยู่ในสายตาเสมอ จนถึงเวลาพักเที่ยง เมื่อเห็นกลุ่มเพื่อนสนิทของอินทิรามาโรงอาหาร ปาลิดาพยายามมองหาแต่ต้องผิดหวังอีก เมื่อไม่เห็นอินทิรามากับเพื่อนด้วย
“Fc.เบอร์1 รู้หรือเปล่าว่าวันนี้พี่อินไม่มาโรงเรียน”
“เออใช่...แนนแปลกใจอยู่เหมือนกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นพี่อินขาดเรียน ต้องมีธุระสำคัญแน่” ณิชมนมองไปทางกลุ่มเพื่อนสนิทของอินทิรา
“เดี๋ยวแนนไปถามเพื่อนพี่อินก่อน”
ณิชมนลุกเดินไปหากลุ่มเพื่อนสนิทของอินทิรา นั่งทานอาหารกลางวันกันอยู่ถัดไปไม่ไกล เป็นโต๊ะตัวยาวมีเก้าอี้นั่งหันหน้าเข้าหากัน ตอนพักเที่ยงโรงอาหาร ค่อนข้างเสียงดัง มีนักเรียนมาทานอาหารพร้อมกันเยอะ เป็นช่วงเวลาที่หลายคนรอคอยหลังจากคร่ำเคร่งกับการเรียนมาตลอดช่วงเช้า ได้ทานอาหารทานขนมพูดคุยกันสบาย ๆ ปาลิดาเฝ้ามองตามร่างเพื่อนอยากรู้เหมือนกันว่า ทำไมอินทิราไม่มาโรงเรียน ณิชมนเข้าไปพูดคุยสอบถามกับเพื่อนสนิทของอินทิรา ท่าทางณิชมนคุ้นเคยกับเพื่อนของอินทิราพอสมควร
“เพื่อนพี่อินว่ายังไงแนน” เพื่อน ๆ พากันร้องถามเมื่อณิชมนเดินกลับมา
“พี่ตุลบอกว่า พี่อินมีแอคซิเดนนิดหน่อย”
“เป็นอะไร” เพื่อนพากันถามเซ็งแซ่ ส่วนปาลิดานิ่งเงียบก็จริงแต่เงี่ยหูฟังอย่างสนใจ
“พี่ตุลบอกแค่นี้ แต่คงไม่เป็นอะไรมากมั้ง” ณิชมนตอบแล้วนั่งลงข้างปาลิดา
“เพราะถ้าเป็นอะไรมาก พี่บุษคงขาดเรียนไปดูแล้ว”
ตลอดภาคบ่ายปาลิดารู้สึกว่าตัวเองไม่มีสมาธิเรียนนัก เป็นห่วงเมื่อรู้ว่าพี่ม.6เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นอุบัติเหตุอะไรยังไง พอวันอังคารยังไม่เห็นอินทิรามาโรงเรียน จนถึงวันพุธปาลิดามาโรงเรียนแต่เช้าหวังว่าจะได้เจอพี่ม.6มายืนดักรอแต่ต้องผิดหวังจนต้องหยุดยืนตรงทางขึ้นบันไดแล้วเหลียวมองหา เฝ้ารอตรงบันไดทางขึ้นอาคารเรียนเป็นครู่ใหญ่ยังไม่เห็นอินทิรามา มีเสียงถอนใจเบาแล้วขึ้นบันไดไปด้วยอาการเซ็งเบื่อ
“ฟาง...” ณิชมนมาถึงแล้วกำลังนั่งคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อน หันมาร้องทักปาลิดายิ้มตอบไม่สดใสนัก
เพื่อนพูดคุยกันเสียงดังอยู่ในห้องเรียน บางครั้งแทบจะแย่งกันพูด รอเวลาเคารพธงชาติและเข้าเรียนในภาคเช้า ปาลิดานั่งอยู่ในกลุ่มด้วยท่าทางเหม่อใจลอย ไม่ได้สนใจฟังเพื่อนคุยกัน รู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่างเมื่อมาโรงเรียนแล้วไม่เห็นพี่ม.6 มาดักรอตรงบันได เพื่อนยังพูดคุยกันสนุกสนานเป็นปกติรวมทั้งณิชมนด้วย
“ข้างนอกมีอะไรกัน”
เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้น ทั้งหมดเงียบเสียงคุยพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดดังมาจากทางระเบียงหน้าห้องเรียน แล้วรีบวิ่งกรูกันออกไปตรงระเบียงหน้าห้อง โดยมีปาลิดาเดินรั้งท้าย เห็นนักเรียนยืนออกันเต็มระเบียงชี้ไม้ชี้มือไปข้างล่างตรงหน้าอาคารเรียน
“พี่อิน...”