EP.1 วิวาห์เหาะ

1261 คำ
EP.1 วิวาห์เหาะ เจ้าของไหล่บางเกลี้ยงเกลาห่มด้วยสไบแพรทึบสีครีม ห่มทับสไบทรงสะพักปักด้วยดิ้นทองงดงามชดช้อย เอวบางนุ่งผ้าไหมยกทองลำพูนจับจีบหน้านางรัดด้วยเข็มขัดทองคำแท้ทั้งเส้น เช่นเดียวกับเครื่องประดับอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นต่างหู สร้อยคอ สังวาล สร้อยข้อมือ หญิงสาวปล่อยผมยาวสลวยมิได้เกล้าขึ้นเปิดเปลือยใบหน้าหากแต่ทัดดอกจำปาไว้ที่ข้างหู หน้าผากมนเจิมด้วยดินสอพองสามจุด เธอยื่นมือลงวางบนหมอนรองรดน้ำสังข์ เจ้าบ่าวที่นั่งอยู่เคียงคู่แย้มยิ้มพลางลอบมองเจ้าสาวของตนเองตลอดเวลา เพราะวันนี้เป็นวันที่ผู้ชายทั้งจังหวัดเชียงใหม่จะต้องอิจฉาที่เขาได้สาวสวยที่สุดในจังหวัดไปครอบครอง “ขอให้รักกันจนแก่เฒ่า ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร หนักนิดเบาหน่อยขอให้อภัยแก่กัน” เสียงอวยพรพร้อมกับหยาดน้ำจากหอยสังข์หลั่งรินลงบนมือบาง แล้วไหลผ่านลงไปยังพานรองที่ประดับตกแต่งด้วยดอกรักและดอกกุหลาบสีชมพูหวานงดงามอยู่บนพานสีทอง หญิงสาวโน้มตัวก้มลงรับพรจากญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าบ่าว นึกอดสูใจที่ญาติของเธอนั้นมาร่วมงานเพียงน้อยนิด หรือหากมาร่วมงานก็ขลุกอยู่ในครัวมิกล้าขึ้นมาบนบ้านเรือนไทย เพราะอับอายแขกเหรื่อที่ล้วนแล้วแต่แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยผ้าไหมเนื้อดีสวมใส่สร้อยเพชรวาววับราวกับจะขนเอาออกมาใส่ประชันโฉม แก้วมุกดาเหลียวมองหามารดา ท่านยืนแอบอยู่อีกมุมจนตัวเล็กลีบ ถ่อมตนอยู่เป็นนิจ ท่านสบตาหญิงสาวแล้วยิ้มอย่างให้กำลังใจ เมื่อเจ้าสาวเห็นรอยยิ้มเพียงน้อยนิดของมารดา หัวใจที่กำลังแห้งแล้งก็พอจะชุ่มชื้นขึ้นมาบ้าง เธอเงยหน้าขึ้นฝืนยิ้มให้กับช่างภาพประจำจังหวัดที่มาทำข่าว แม้การแต่งงานในครั้งนี้มิได้มีการบีบบังคับหรือท้องก่อนแต่งใดๆ อย่างที่หลายๆ คนตั้งข้อสังเกต ทว่าหัวใจของเธอกลับรู้สึกเหี่ยวเฉาไร้ชีวิตชีวาอย่างที่เจ้าสาวควรจะเป็น เธอกล้ายอมรับอย่างหน้าไม่อายเลยว่าเธอไม่ได้ต้องการแต่งงานกับเขา แต่เธอแต่งงานกับความร่ำรวยของเขาต่างหาก ทว่าเรื่องนี้มารดาของเธอจะรู้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด ท่านไม่เห็นด้วยหากเธอคิดทำทุกอย่างเพื่อเงินโดยปราศจากความรัก ความรักเป็นสิ่งที่หญิงสาวโหยหามาตลอดชีวิต ทว่าตอนนี้เงินคือสิ่งที่จะทำให้ครอบครัวของเธอมีความสุข เธอจึงต้องเลือกระหว่างความรักกับความกตัญญู ซึ่งเธอเลือกอย่างหลัง สราวุธชายรูปร่างสูงขาวติดจะสำอาง เขามีใบหน้าหล่อเหลา ทั้งยังอ่อนโยนกับเธอเสมอต้นเสมอปลาย แม้ว่าบางครั้งเขาจะมีท่าทางรังเกียจครอบครัวยากจนของเธอบ้าง แต่เธอก็คิดเสียว่าเป็นเพราะเขาเกิดมาบนกองเงินกองทองจึงมักใช้หางตามองจิกคนที่ด้อยกว่าจนติดเป็นนิสัย ทว่าเนื้อแท้แล้วเขาก็ไม่ใช่คนหยาบกระด้างอะไร เขาอ่อนโยนและเสมอต้นเสมอปลายกับเธอมาโดยตลอด และที่สำคัญเขารักเธอ แล้วผู้หญิงอาภัพอย่างเธอยังต้องการอะไรอีก เธอควรจะดีใจแล้วยิ้มหน้าชื่น โดยเก็บสาเหตุที่แต่งงานกับเขาไว้เป็นความลับ เก็บไว้ให้ลึกที่สุด... “ฉันดีใจมากที่ในที่สุดแก้วก็ยอมแต่งงานกับฉัน” ชายหนุ่มมองหญิงสาวข้างกาย น้ำที่รินรดจากหอยสังข์ทำให้เขารู้สึกชุ่มชื่นหัวใจได้อย่างน่าประหลาด “แก้วก็ดีใจค่ะที่คุณวุธเลือกแก้ว ทั้งที่มีผู้หญิงอีกมากมายอยากมานั่งอยู่ข้างๆ คุณเช่นนี้” หญิงสาวยิ้มอ่อนหวาน ใบหน้ามนได้รูปเมื่อได้รับการแต่งแต้มเครื่องสำอางจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ขับให้หญิงสาวดูสวยโดดเด่นสะดุดตา เจ้าบ่าวพิศมองใบหน้าเจ้าสาวด้วยสายตาหยาดเยิ้ม แล้วมองไปรอบๆ ยิ่งเห็นหนุ่มๆ ในงานมองเจ้าสาวของเขาด้วยสายตาชื่นชม เขาก็ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจเป็นเท่าทวี เพราะแก้วมุกดาเป็นถึงนางงามจังหวัดเชียงใหม่ แถมยังเป็นนางนพมาศถึงสองปีซ้อน จึงไม่แปลกที่ใครๆ จะกล่าวถึงเจ้าสาวของเขา ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในเชียงใหม่ “ฉันจะทำให้ผู้หญิงทุกคนอิจฉาแก้ว” สราวุธเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง ไม่ว่าจะไปทางไหน ผู้หญิงต่างทอดสะพานหวังให้เขาเดินข้ามมาหา แตกต่างจากแก้วมุกดาที่ไม่มีทีท่าสนใจเขาเลยสักนิด เขาจึงเพียรจีบเพื่อหวังเอาชนะใจเธอ แล้วเขาก็ทำสำเร็จ... แก้วมุกดาตกมาอยู่ในมือเขาจนได้... “ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่ดีกับแก้ว” ทั้งสองส่งยิ้มแล้วมองลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย ฝ่ายชายนั้นสบตาหยาดเยิ้ม แต่แก้วมุกดาเพียงยิ้มอย่างเสียไม่ได้ทว่ากลับหวานจับใจคนมองเสียเหลือเกิน “ฉันต้องดีกับแก้วอยู่แล้ว เพราะแก้วเป็นเจ้าสาวและกำลังจะเป็นภรรยาของฉัน ต่อจากนี้ฉันจะดูแลแก้ว ไม่ให้แก้วลำบากอีก ฉันสัญญา...” ปัง! ปัง! ปัง! “กรี๊ด!” “ว้าย!” เสียงหวีดร้องจากด้านนอกดังขึ้น ผู้คนต่างแตกตื่นบ้างก็วิ่งหนีโกลาหล บ้างก็หมอบคลานหาที่หลบให้วุ่นไปหมด เจ้าบ่าวเจ้าสาวยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ตะลึงงันจ้องมองชายฉกรรจ์กว่าห้าคน สวมชุดดำและโม่งสีดำคลุมทับจนมองไม่เห็นใบหน้า “พวกแกเป็นใคร ต้องการอะไร” เจ้าบ่าวยืนขึ้นตะโกนถามอย่างไม่กลัวปลายกระบอกปืน แต่แล้วก็ต้องถอยหลังไปหลายก้าว เมื่อชายชุดดำหันกระบอกปืนมาทางต้นเสียงแล้วยิงเฉียดใบหูไปอย่างฉิวเฉียด สราวุธกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ด้วยไม่คาดคิดว่าคนร้ายจะกล้ายิงจริงๆ “ฉิบหาย! เอาจริงเหรอเนี่ย” สราวุธถอยกรูดอย่างรักตัวกลัวตาย “เงียบ!” ชายชุดดำคนเดิมตะโกนขึ้นด้วยเสียงดังกึกก้อง ส่งผลให้แขกเหรื่อที่ล้วนแล้วแต่เป็นคุณหญิงคุณนายมีฐานะร่ำรวยเงียบเสียงในทันที “ฉันไม่ได้มาปล้น ไม่ต้องแหกปากให้หนวกหู รับรองได้ว่าสร้อยเพชรของพวกคุณจะยังอยู่บนคอเหมือนเดิม” “ละ...แล้วพวกแกต้องการอะไร” เจ้าบ่าวตะโกนถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก แก้วมุกดาค่อยๆ ถอยหลังเข้าหลบหลังฉากที่ทำจากม่านสีโอลด์โรสนวลตาขณะมองหามารดาเพราะกลัวว่าจะโดนแขกเหรื่อในงานวิ่งหนีจนเบียดมารดาล้มลงตรงไหนไปเสียก่อน “ต้องการเจ้าสาวของแกยังไงล่ะ” ทันทีที่ชายชุดดำพูดจบ เขาก็เดินปราดเข้าประชิดร่างเจ้าสาวที่หันหลังเตรียมจะวิ่งหนี แต่กลับไม่ทันเสียแล้ว เมื่อแขนเรียวเล็กถูกคว้าเอาไว้แล้วกระชากแรงจนร่างบางเซเข้ามาในอ้อมกอดของโจรโฉด “ปล่อยฉันนะ!” เจ้าสาวแสนสวยพยายามดิ้นรนขัดขืน ทว่ามือหนากลับบีบข้อมือหญิงสาวเอาไว้แน่น ยิ่งดิ้นยิ่งบีบรัดจนหญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด เธอแน่ใจว่าเธอไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ ดวงตาของชายชุดดำที่มองเธอนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดไม่ต่างไปจากยามที่เขามองสราวุธ “ปล่อยแก้วนะ แกอยากได้อะไรก็เอาไป แต่อย่าทำร้ายผู้หญิง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม