“เปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยไหม พี่มีชุดนะ พึ่งซื้อมายังไม่ได้ใส่เลย” พูดจบร่างบางที่เต็มไปด้วยความงาม เอวบางร่างเล็ก ส่วนโค้งส่วนเว้าเห็นชัดเป็นสัดส่วนที่ลงตัว ถ้าชายใดได้มองจำต้องหันหลังกลับมามองซ้ำ ไม่ต่างจากเด็กสาวที่จ้องมองเรือนร่างอรชรของพี่สาวต่างสายเลือด ด้วยความชื่นชม
“มองพอแล้วมั้ง จะจ้องอะไรขนาดนั้น” โดนัทเอ่ยขึ้น ทำให้น้องสาวที่กำลังจินตนาการถึงนางเอกในนิยายของตัวเองต้องหยุดความคิด แล้วหันมาจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าแทน
“หนูถามหน่อย พี่ไม่หวั่นไหวกับพี่ลูกปลาเหรอคะ??” ลูกตาลตั้งคำถามกับพี่ชายของตนเอง เธอคิดอยู่หลายครั้ง ว่าถ้าพี่ชายมีใจให้กับพี่ลูกปลาคงดีไม่น้อย เธอยังคงจินตนาการไปถึงลูกของทั้งสองคน ว่าจะน่ารักน่าชังแค่ไหนกัน แต่แล้วความคิดเพ้อเจ้อของเธอก็ต้องถูกลบไป ด้วยนิ้วอันแข็งแรงของพี่ชาย ที่บีบเข้าตรงปลายจมูกรั้นเล็กของน้องสาวไม่แรงมากนัก เด็กสาวรีบเอามือปัดป้อง แล้วเขยิบหน้าออกห่าง เพื่อที่จะได้ไม่ถูกกระทำเหมือนเมื่อครู่เป็นครั้งที่สอง
“เลิกคิดอะไรเพ้อเจ้อสักที เราเหมือนครอบครัวเดียวกัน ต่อให้สวยแค่ไหนก็เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น” เขาตอบออกมาด้วยน้ำเสียงแสนธรรมดา ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อย แตกต่างจากหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังประตูบานใหญ่ เธอหยุดชะงักมือที่กำลังจะผลักประตูเข้ามาในห้องทำงานอีกครั้งเมื่อหยิบของที่ต้องการเสร็จเรียบร้อย
“เพื่อนกันก็รักกันได้ค่ะ ทุกวันนี้ไม่เห็นแปลก แต่ถ้าพี่กับพี่ลูกปลาชอบกันจริงๆ หนูว่า สองครอบครัวของเราคงดีใจมากแน่ๆ ค่ะ” ลูกตาลพูดขึ้น มือข้างหนึ่งยังคงจับช้อนอันเล็กตักขนมเค้กตรงหน้าทานอย่างเอร็ดอร่อย
เสียงรองเท้าส้นสูงดังกระทบกับพื้น ทำให้ทั้งสองคนหันไปมอง ลูกปลาถือถุงกระดาษหลากสีตรงเข้ามาหาเด็กสาว ก่อนวางมันลงที่โต๊ะตรงหน้าของลูกตาล
“ชอบชุดไหนเลือกได้ตามใจชอบเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวพี่ต้องลงไปดูงาน อยู่ในห้องห้ามออกไปไหนนะ ต้องการอะไรก็โทรลงไปข้างล่างสั่งให้เด็กเอาขึ้นมาให้”
“หนูขอลงไปข้างล่างได้ไหมคะ”
“ไม่ได้!!” น้ำเสียงดุดันดังขึ้นในทันที โดนัทจ้องมองน้องสาวที่กำลังทำหน้าออดอ้อนลูกปลา ก่อนหันไปส่งสายตาไม่ชอบใจให้กับเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็ก เพื่อนให้เธอบอกปฏิเสธน้องสาวของตัวเอง
“ได้สิ เดี๋ยวพี่ขอไปเคลียร์งานก่อนแล้วจะมารับลงไปด้านล่างดีไหม ตอนรอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยนะจ๊ะสาวน้อย” ลูกปลาใช้มือขยี้ผมเด็กสาวตรงหน้าด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหันหน้าไปทางโดนัท ที่นั่งหน้าบึ้งตึงไม่พอใจที่เธอไม่ทำตามสายตาขอร้องเมื่อครู่ หญิงสาวไหวไหล่ให้เขาเล็กน้อย ก่อนเดินออกจากห้องไป
“พี่สั่งห้าม ไม่ให้ลงไปข้างล่าง รู้ไหมมันไม่ดี น้องไม่ควรไปเจอสภาพแววล้อมแบบนั้น”
“แค่ครั้งเดียวนะคะ หนูจะเชื่อฟังพี่ลูกปลาจะไม่ทำให้พี่นัทเป็นห่วงนะ นะ..” น้ำเสียงแสนออดอ้อน ดวงตาที่มีแพรขนขึ้นงอนงามกะพริบขึ้นลงเป็นการขอร้อง โดนัททำได้เพียงถอนหายใจหนัก ใส่น้องสาวที่ดูภายนอกเหมือนจะไม่ดื้อไม่ซน แต่ก็ยังคงมีนิสัยรั้น และที่สำคัญเธออ้อนเก่งเป็นที่หนึ่งของบ้าน
“ทำตัวดีๆ รออยู่ข้างบนตามที่ลูกปลาบอก ถ้าไม่เชื่อฟัง พี่จะไม่พาไปไหนด้วยอีกแล้ว เข้าใจไหม”
“รับทราบเจ้าค่ะ” ลูกตาลยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวเรียงกันอย่างสวยงาม ความดีใจถูกส่งผ่านมาทางสีหน้า เด็กสาวรีบคว้าเค้กที่เหลือไม่มากในจานขึ้นมาตักเข้าปากทานต่อ อย่างเร่งรีบ
ในขณะที่เธอกำลังลิ้มรสความอร่อยของขนมหวานตรงหน้า ภายในห้องก็เงียบสงบ เพราะมีเพียงเธอที่อยู่ภายในห้องเพียงลำพัง ใบหน้าสวยฉายยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้เธอกำลังวาดภาพอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
สายไหมเคยถามเธอหลายต่อหลายครั้ง ว่าเคยเจอผู้ชายในบาร์โฮสต์แห่งนี้หรือไม่ แล้วผู้ชายที่ทำอาชีพนี้ต้องหล่อทุกคนไหม ซึ่งนั้นมันเป็นคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบจากลูกตาล เธอไม่สามารถตอบเพื่อนสนิทได้ เพราะเธอมาครั้งใดก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินลงไปด้านล่าง พี่ชายจะให้เหตุผลเสมอว่า เด็กไม่ควรรับรู้เรื่องพวกนี้ เธอยังเด็กมากนักเขาไม่อยากให้ลูกตาลต้องมามีประสบการณ์ที่ไม่จำเป็น
แต่หารู้ไหม ยิ่งห้ามมากเท่าใด เธอก็อยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเท่านั้น ถึงจะมองผ่านกระจกด้านบนห้องทำงานของพี่ มันก็ไม่ได้มองเห็นชัดเจนเหมือนอยู่ด้านล่าง แต่วันนี้ความปรารถนาของเธอใกล้เข้ามาแล้ว ครั้งนี้ต้องคว้าโอกาสเอาไว้ให้ดี เธอจะทำตัวเป็นเด็กดีเชื่อฟังพี่ๆ ทุกคน แล้วจะได้เอาประสบการณ์ที่ได้เจอไปเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง
ถุงกระดาษหลากสีถูกรื้อค้น ลูกตาลมองเสื้อผ้าในมือของตัวเองสลับกันไปมา ในใจของเธอดูว้าวุ่นและประหม่า ไม่รู้จะเลือกสวมใส่ชุดไหนดี ถึงจะเข้ากับบรรยากาศที่ต้องไปเจอ
“ตัวไหนดีนะ..สีนี้มันดูเข้ากับเราไหมนะ…” ลูกตาลลุกขึ้นถือเสื้อผ้าในมือ เดินไปที่หน้ากระจกบานใหญ่ที่อยู่ตรงมุมห้อง สองมือทาบทับเสื้อผ้าลงมาบนตัว ครั้งแล้วครั้งเล่า เด็กสาวก็ยังคงตัดสินใจเลือกชุดที่จะสวมใส่ไม่ได้เช่นเดิม เธอจึงตัดสินใจ วางชุดลงบนโซฟา แล้วใช้วิธีเลือกชุดให้ตัวเองด้วยการหลับตาแล้วใช้นิ้วจิ้มลงไป เหมือนกำลังเดาข้อสอบเมื่อไม่รู้คำตอบของคำถาม
ปลายนิ้วเรียวจิ้มลงไปที่ชุดสีฟ้าอ่อน ลูกตาลยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ เธอหยิบชุดขึ้นมาสวมใส่ด้วยความรวดเร็ว เกรงว่าเมื่อลูกปลาเข้ามาในห้องจะต้องมานั่งรอ เสียเวลากับเธอไปโดยเปล่าประโยชน์
ผมยาวเลยบ่าที่ถูกถักเปียก้างปลาเอาไว้เต็มศีรษะถูกปล่อยลงมา เส้นผมสีดำที่เหยียดตรงเงางามตอนนี้กลับหยักเป็นลอนเล็ก ทำให้เด็กสาวดูโตเป็นผู้ใหญ่กว่าปกติ เธอมองสำรวจตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่ ชุดเดรสสายเดี่ยวสีฟ้าอ่อนกระโปรงยาวเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อย อวดเรียวขาขาวเล็ก ยิ่งทำให้ร่างบางน่ามองมากยิ่งขึ้น
“เราก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย” เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง สายตามองตรงไปที่กระจกเงา ริมฝีปากก็ยังขยับเอ่ยชมตัวเองอยู่ไม่ขาดสาย
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ทำให้ลูกตาลที่ยืนส่องกระจกอยู่นานสองนานหันหน้าไปมอง ประตูใหญ่ถูกเปิดออก ก่อนร่างชายหุ่นกำยำหนึ่งคนจะเดินเข้ามาด้านใน เขาก้มศีรษะให้เธอเล็กน้อยเป็นการทักทาย
“คุณลูกปลาให้ผมมาตามลงไปข้างล่างครับ”
ลูกตาลเดินตามชายคนดังกล่าวออกไปด้านนอก เธอจ้องมองแผ่นหลังใหญ่นั้นด้วยความตื่นเต้น ชายคนนี้เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะเขาคือคนสนิทของพี่ชาย เด็กสาวเดินลงมาด้านล่าง สายตากลมโตเป็นประกายแวววาว ในใจของเธอก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
ดวงไฟน้อยใหญ่หลากหลายดวง สาดส่องไปมาชวนให้ลายตาไม่น้อย ลูกตาลต้องใช้สายตาในการเพ่งมองมากขึ้นหลายเท่า เพราะเธอยังคงไม่คุ้นชินกับที่แห่งนี้ มันเป็นสิ่งที่พบเจอเป็นครั้งแรกโดยสัมผัสจากประสบการณ์จริงของตัวเอง เสียงเพลงที่ดังแผ่วเบา บรรยากาศโดยรอบไม่ได้ดูแย่อย่างที่เธอคิดและไม่ได้ดูดีในเวลาเดียวกัน
เสียงพูดคุยของเหล่าบรรดานักท่องราตรี ดังแววออกมาเป็นระยะ เด็กสาวจึงละสายตาจากรอบบริเวณ จ้องมองแต่ทางเดินของตนเองในความมืดสลัวเกรงว่าจะสะดุดเท้าเข้ากับสิ่งกีดขวางเบื้องหน้า
“เชิญครับ คุณลูกปลาให้คุณลูกตาลรอที่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวผมจะรอเป็นเพื่อนครับ” คนสนิทของพี่ชายเอ่ยขึ้น เด็กสาวหันไปส่งยิ้มให้เขาเพียงเล็กน้อย ก่อนนั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่
“ขอบคุณค่ะ”
“จะดื่มอะไรดีครับ เดี๋ยวผมให้เด็กเตรียมให้”
“พี่ชื่ออะไรคะ” ลูกตาลเอ่ยถามขึ้น การเจอกันหลายต่อหลายครั้งโดยไม่รู้ชื่ออีกฝ่ายมันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนัก ถึงอย่างไรก็คงต้องพบเจอกันอยู่บ่อยครั้ง
“ผมชื่อสุชาติครับ หรือจะเรียกชาติ ก็ได้ครับ” ชายร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ไม่ห่างตอบคำถามของเธอ
“ค่ะพี่ชาติ ว่าแต่พี่นัทกับพี่ลูกปลาไปไหนคะ” เธอเอียงคอถามด้วยความสงสัย สายตาก็คอยมองหาคนทั้งสองที่เอ่ยชื่อถึงเมื่อครู่
“เฮียนัทกับคุณลูกปลา กำลังประชุมงานกับผู้จัดการอยู่ด้านบนครับ อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้วครับ” น้ำเสียงของสุชาติตอกย้ำให้เด็กสาวคลายความกังวล เมื่อเขาเห็นเธอนั่งเอามือกำชายกระโปรงแน่นจนเกิดรอยยับ
ลูกตาลสั่งเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์ เนื่องจากพี่ชายของเธอสั่งห้าม และอายุของเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในวันครบรอบสิบแปดปี เธอตั้งความหวังเอาไว้ว่า วันนั้นเธอจะดื่มของที่ต้องห้ามให้หนำใจ เพราะเธอได้รับปากครอบครัวเอาไว้ ถ้าอายุยังไม่ครบสิบแปดปี จะไม่แตะต้องอบายมุขเหล่านี้ รวมถึงการมีแฟน แต่หลังจากครบสิบแปดปีเด็กสาวอยากทำอะไรก็ตามแต่ใจ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะที่ควร
บิดามารดา ได้เรียกลูกทุกคนมาพูดคุยถึงเรื่องนี้ ทำข้อตกลงกัน ครอบครัวทุกครอบครัวเธอเชื่อว่าต้องมีกฎของบ้าน ครอบครัวของลูกตาลก็เช่นเดียวกัน การทำตามกฎของครอบครัวไม่ได้ลำบากอะไรสำหรับเธอแม้แต่น้อย เด็กสาวถูกสอนให้เป็นคนมีความรับผิดชอบ ถึงแม้จะไม่ได้ถูกเลี้ยงให้อยู่ในกรอบ ก็ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรได้ตามใจชอบ คำสอนของคนในครอบครัว เป็นสิ่งที่ดีเสมอ เธอจะต้องได้เรียนรู้อะไรอีกมากมาย
เสียงประกาศจากพิธีกรบนเวทีดังขึ้นในเวลาต่อมา ทำให้ทุกสายตาหันไปจดจ่ออยู่บนเวทีเป็นจุดจุดเดียว และลูกตาลก็เช่นกัน โต๊ะที่เธอนั่ง ถ้ามองดีๆ มันเป็นโต๊ะที่ตั้งอยู่กลางบาร์เป็นโต๊ะที่โดดเด่นที่สุด และองศามุมของการมองเห็นก็เด่นชัด ไม่ใกล้ไม่ไกลจนเกินไป