ตอน เพราะทะเลาะกับแฟนเลยโดน 1
เสียงประกาศลดราคานาทีทองดังก้องไปทั่วชั้นเครื่องสำอาง แสงไฟในห้างสว่างจ้าจนแสบตา ฉัน แคล พนักงานขายวัย 28 รูดบัตรตอกเวลาเลิกงานด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันต้องยืนยิ้มจนเหงือกแห้ง เท้าที่ถูกบีบอยู่ในรองเท้าคัทชูเริ่มประท้วง ฉันถอดชุดฟอร์มพนักงานขายที่รัดรูปออก เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีซีดกับกางเกงยีนส์ตัวเก่า รวบผมยาวอย่างลวกๆ แล้วมุ่งหน้ากลับ "บ้าน"
ฉันเรียกมันว่าบ้าน แต่ลึกๆ แล้ว มันคือบ้านของแม่พี่ตี๋
พี่ตี๋ แฟนของฉัน เขาเป็น โปรแกรมเมอร์ ที่เก่งกาจ เราคบกันมาห้าปี และ กำลังเก็บเงินแต่งงานกันในปีหน้า ด้วยความที่พ่อของพี่ตี๋เสียไปแล้ว และแม่ของเขาอยู่คนเดียว การที่ฉัน ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่บ้านครอบครัวของแฟน จึงเป็นทางออกที่ประหยัดที่สุดสำหรับเราที่กำลังสร้างตัว
ฉันเปิดประตูบ้านไม้สองชั้นหลังเก่าที่อยู่ในซอยลึก กลิ่นน้ำยาถูพื้นกลิ่นมะลิที่คุณแม่ชอบใช้ลอยมาปะทะจมูก ท่านนั่งดูละครหลังข่าวอยู่ที่โซฟาตัวเดิมในห้องรับแขก "กลับมาแล้วเหรอ" ท่านทักทายเสียงเรียบ ไม่ได้ละสายตาจากจอทีวี
"ค่ะแม่" ฉันตอบเบาๆ ยกมือไหว้ท่าน แล้วรีบเดินผ่านห้องรับแขกไปยังห้องนอนของเราที่อยู่ชั้นล่าง...อดีตเคยเป็นห้องเก็บของ
พี่ตี๋ยังไม่กลับ...เหมือนเคย
ฉันทิ้งตัวลงบนเตียงแข็งๆ ที่นอนของเรา เสียงพัดลมดังหึ่งๆ ฉันหลับตาลง นึกถึงภาพชุดเจ้าสาวที่ฉันแอบดูในอินเทอร์เน็ต...มันช่างไกลความจริงเหลือเกิน
แกร๊ก...
เสียงประตูเปิด
พี่ตี๋กลับมาแล้ว เขายังอยู่ในชุดทำงานออฟฟิศ เสื้อเชิ้ตยับๆ กับกางเกงสแลค ใบหน้าของเขาดูเหนื่อยล้าและเคร่งเครียด
"เหนื่อยไหมคะ" ฉันลุกขึ้นไปหา
"โคตรเหนื่อยเลยแคล" เขาบ่น พลางปลดเนคไทออก "โปรเจกต์ใหม่แม่งแก้ไม่จบ ลูกค้าเร่งยิกๆ"
"แล้วเรื่อง...ค่าจัดงานล่ะคะ...ร้านที่เราไปดูวันนั้น เขาเร่งให้เราไปมัดจำแล้วนะ" ฉันตัดสินใจพูดเรื่องที่ค้างคาใจ
พี่ตี๋ชะงัก เขาหันมามองฉันด้วยแววตาที่หงุดหงิด "โธ่แคล! พี่บอกแล้วไงว่าช่วงนี้ช็อต! งานพี่ก็เยอะ เงินมันยังไม่ออก!"
"แต่นี่มันสิ้นเดือนแล้วนะคะ" ฉันเริ่มเสียงแข็ง "แคลก็ทำงานนะพี่ตี๋ เงินเดือนแคลก็ให้แม่พี่เก็บไว้หมด...เราตกลงกันแล้วว่าจะช่วยกัน"
"ช่วยเหรอ!" เขาขึ้นเสียง "เงินเดือนพนักงานขายในห้างมันจะซักเท่าไหร่กัน! เทียบกับที่พี่หาได้ไหมล่ะ! แค่ค่าอยู่ค่ากินที่แคลมาอยู่บ้านพี่นี่ก็เท่าไหร่แล้ว!"
คำพูดนั้น...มันเหมือนมีดกรีดลงกลางใจฉัน
น้ำตา...มันเอ่อขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
"หมายความว่าไง...หมายความว่าแคลมาเกาะพี่กินเหรอ!"
"ก็พูดเองนะ!"
"ไอ้พี่ตี๋!"
"นี่! ทะเลาะอะไรกัน! เสียงดัง!" เสียงแม่พี่ตี๋ตะโกนมาจากห้องนั่งเล่น "คนจะหลับจะนอน! ถ้าจะทะเลาะกันก็ไสหัวไปทะเลาะกันที่อื่น!"
พี่ตี๋หันขวับไปทางประตู "ครับแม่! ขอโทษครับ!" แล้วเขาก็หันกลับมามองฉันด้วยสายตาตำหนิ "เห็นไหม! เพราะแคลเลย! พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเสียงดัง! นี่บ้านแม่พี่นะ!"
...บ้านแม่พี่...
คำนี้...มันตอกย้ำทุกอย่าง
ฉันไม่ใช่...เจ้าของที่นี่
ฉันเป็นแค่...ผู้อาศัย
"พอ!" ฉันตะโกนกลับไปทั้งน้ำตา "แคลพอแล้ว! ถ้าที่นี่มันอึดอัดนัก...แคลไปก็ได้!"
ฉันไม่รอให้เขาห้าม ฉันคว้ากระเป๋าเป้ใบเก่า ยัดเสื้อผ้าลงไปสองสามชิ้น...รวมถึงชุดนอนผ้าซาตินสีแดงที่ฉันไม่เคยกล้าใส่...ฉันคว้ากระเป๋าสตางค์...แล้ววิ่งออกจากห้อง
"แคล! จะไปไหน! มันดึกแล้วนะ!" พี่ตี๋วิ่งตามมา
"ไปให้พ้นๆ หน้าพี่! ไปให้พ้นจากบ้านนี้!"
ฉันกระแทกประตูบ้าน...วิ่งฝ่าความมืดในซอยออกมา...น้ำตาไหลอาบแก้ม...
ฉันยืนตัวสั่นอยู่ที่ป้ายรถเมล์...ฉันไม่มีที่ไป
ญาติพี่น้องฉันก็อยู่ต่างจังหวัดหมด
...ยกเว้น...
...คนเดียว...
ฉันหยิบมือถือขึ้นมา...กดเบอร์ที่คุ้นเคย
"ฮัลโหล...แอน"
"แอน...ฮึก...แคล...แคลทะเลาะกับพี่ตี๋...แคล...แคลขอไปนอนด้วย...ได้ไหม"
"มึง!" เสียงแอนดังลั่นออกมาจากโทรศัพท์ "อีนังผู้ชายเฮงซวย! มาเลย! หอพักกู...ประตูเปิดรอมึงเสมอ! แท็กซี่เลย! เดี๋ยวโอนค่ารถให้!"
น้ำตาฉันยิ่งไหลหนัก...
...แต่ครั้งนี้...มันคือน้ำตาแห่งความตื้นตัน
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
แท็กซี่ก็มาจอดหน้า หอพัก ...คอนโดมิเนียมหรู...ที่ดูสะอาดและทันสมัย
ฉันก้าวเข้าไปในล็อบบี้ที่เย็นฉ่ำ...
แอนยืนรอฉันอยู่หน้าลิฟต์
พระเจ้า...เพื่อนฉัน
แอนคือขั้วตรงข้ามของฉันอย่างสิ้นเชิง
เธอ... โสดและติดเซ็ก
ในขณะที่ฉันพยายามจะเป็นแม่บ้านศรีเรือน...แอนคือผีเสื้อกลางคืน
เธอยืนอยู่ตรงนั้น...ใน ชุดคลุมผ้าซาตินสีดำ...บางเบา...
สายเดี่ยว...รัดรูป...เผยให้เห็นร่องอกที่อวบอิ่ม
ผมสั้นดัดลอนของเธอ...ดูยุ่งเหยิงอย่าง...จงใจ
กลิ่นน้ำหอมฟุ้ง...จนฉันแสบจมูก
"โอ๋ๆๆๆๆ" แอนดึงฉันเข้าไปกอด...อ้อมกอดของเธอนุ่ม...และร้อน "ไม่เป็นไรนะมึง...มากอดกู"
เธอพาฉันขึ้นลิฟต์...ไปยังห้องของเธอ
ห้องของแอน...
...มันคือโลกอีกใบ
ผนังสีเทาเข้ม...ตัดกับโซฟากำมะหยี่สีแดงสด
กลิ่นเหล้า...กลิ่นบุหรี่...กลิ่น...ผู้ชาย...ปะปนกัน
เธอยื่นแก้วไวน์แดงให้ฉัน...แก้วใหญ่...จนฉันตกใจ
"ดื่ม" เธอบอก
"ดื่ม...แล้วลืมมันไปก่อน"
ฉันยกดื่มไวน์ฝาดๆ ไหลผ่านลำคอ...
มันช่วย...มันช่วยจริงๆ
ฉันเล่า...เล่าทุกอย่าง...ความอึดอัดเรื่องเงิน เรื่องแม่แฟน
เรื่องที่ฉัน...รู้สึกไร้ค่า
แอนนั่งฟังอย่างตั้งใจ...เธอไม่ตัดสิน
เธอแค่...รินไวน์...ให้ฉัน...แก้วแล้ว...แก้วเล่า...
จนฉันเริ่มมึน โลกเริ่มหมุน
"แอน...มึงดีจัง" ฉันพูดอ้อแอ้ "มึงไม่ต้อง...ทน...เหมือนกู"
แอนหัวเราะเบาๆ
เธอลุกขึ้น...
เดินไปเปิดเพลง...
เพลง R&B ที่จังหวะ... ยั่วยวน
เธอกลับมานั่งข้างฉัน
ใกล้...
จนไหล่เราเบียดกัน
"มึงรู้ไหม...แคล"
เธอกระซิบ...
ไอร้อนจากลมหายใจของเธอ...ผสมกลิ่นไวน์
"ผู้ชาย...มันก็เหมือนกันหมด
มันไม่เคย...พอ
มันไม่เคย...ทำให้เรา... พอ...ได้คนเดียวหรอก"
"มึง...เบื่อไหม"
เธอถาม...
มือของเธอ...เลื่อนมา...วางบนเข่าฉัน
"เบื่อ...ที่ต้องเป็น...เด็กดี...
เบื่อ...ที่ต้อง...อดทน...
เบื่อ...ที่...เสียว...แค่กับ...ไอ้ตี๋...คนเดียว"
"แอน! มึงพูดอะไร!"
ฉันผงะ...
แม้จะเมา...แต่คำพูดนั้น...มันแรงเกินไป
"กูพูดความจริง"
แอนยิ้ม...
รอยยิ้ม...ที่ทั้งสวยและ...อันตราย
"มึงอยาก... 'สนุกกับคนอื่น'...ไหม แคล"
เธอโน้มตัวเข้ามา...
"มึงอยากรู้ไหมว่าความสุขที่แท้จริงมันเป็นยังไง"