"ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
"นายให้มาตาม ลงไปกิน เอ้ยทานอาหารเช้าเดี๋ยวนี้"
รชนิชลที่ยังนอนไม่อิ่มใบหน้าอิฐโรย เดินมาเปิดประตูห้องออกมาเจอกับลูกน้องของพยัคฆ์ กว่าเธอจะได้นอนก็ตีสามแล้วนี่เพิ่งจะเจ็ดโมงเช้าเขาก็ใช้คนมาเคาะหรือทุบประตูห้องเรียกเธอให้ลงไปร่วมโต๊ะอาหารกับเขา
"ไม่ไป นัดสิบโมงไม่ใช่เหรอ"
"อะไรวะ นายสั่ง ห้ามขัด เอ้ยอย่าขัดคำสั่งนายเลยครับ"
หนุ่มหล่อหน้าใสแต่พูดจาไม่ดีพอๆกับเจ้านายโวยวายเสียงดังอย่างลืมตัวต่อหน้าแขกของนาย เพราะบ้านนี้มีแต่ผู้ชายจะมีผู้หญิงก็แค่สองคนคือแม่บ้านใหญ่กับเด็กช่วยงานแม่บ้าน รวมเธอคนนี้ด้วยก็เป็นสาม ทำให้คิมทำตัวแทบไม่ถูกเลยและเธอยังสวยจนเขาเองยังประหม่า
"เฮ้ออออ งั้นรอก่อนจะรีบลงไป เดี๋ยวก่อนพูดกับฉันปกติแบบที่เคยพูดนั่นแหละ ฉันรับได้ไม่ต้องฝืนทำอะไรหรอก"
คิมเป็นลูกน้องที่พยัคฆ์ไว้ใจมากคนหนึ่งเลย เขามีหน้าที่ใหม่คือต้องคอยดูแลรชนิชลไม่ให้เธอก่อเรื่องให้เจ้านายต้องปวดหัวเหมือนเรื่องทุบกระจกรถจนร้าว และอย่างที่นายบอกรชนิชลเป็นปีศาจให้ระวังก็จริงของนายเธออาจทำให้ใครหลงเสน่ห์เธอก็ได้ ก็เธอสวยขนาดนี้
"แน่ใจนะว่ารับได้"
"แน่ใจดิว่ะ"
เสียงหวานเอ่ยตอบไปเพราะอยากผูกมิตรมากกว่าสร้างศัตรู ลำพังจะสู้กับพยัคฆ์คนเดียวก็เหนื่อยเต็มทน ถ้าได้ลูกน้องของพยัคฆ์มาอยู่ข้างเธอบ้างก็คงดี ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนาน
......
"ช้า จนข้าวต้มบูด"
"บ้านก็ใหญ่โต ฐานะก็ดี จะทนกินของบูดก็เชิญเลยค่ะคุณพยัคฆ์"
"ยัยขยะเปียก"
"อ้าวยังไม่รีบกินอีก มัวแต่ฟึดฟัดอะไรอีกละ"
รชนิชลหันมาพูดกับอีกฝ่ายเมื่อเธอเริ่มตักข้าวต้มเข้าปาก แต่พยัคฆ์ยังคงนั่งขบกรามดวงตาแววโรธด้วยความโกรธเธอ จนเธอแทบหลุดขำออกมา อยากตามมากินข้าวด้วยดีนักก็ต้องแกล้งซะให้หมดอร่อยไปเลย
"พวกมึงยิ้มอะไรกัน"
เขาโมโหเธอที่กล้าต่อปากต่อคำกับเขาจนหันหน้าไปทางอื่นแต่เจอลูกน้องที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักพากันยิ้มจนเห็นฟันขาว
"เอ่อ คือ"
คิมและพรรคพวกไม่รู้จะตอบผู้เป็นนายยังไงเพราะพวกเขาไม่เคยเห็นใครกล้าต่อปากต่อคำกับนายของพวกเขาแบบนี้มาก่อน จนอดยิ้มไม่ได้แต่ถ้าพูดออกไปนายคงโมโหมากกว่าเดิม
"เสียมารยาท เสียงดังบนโต๊ะอาหาร"
"เธอ"
"ทำไม"
"ควรจะมีมารยาทกับฉันด้วย ฉันว่าจะไม่พูดกับเธอเรื่องนี้แล้วนะ"
"มารยาท"
"ใช่ ควรพูดจากับฉันให้มันดีๆหน่อย ยังไงฉันก็อายุเยอะกว่าเธอ"
"อ้อ แก่ กว่านะเหรอ"
เธอตั้งใจเน้นย้ำคำว่าแก่อย่างชัดถ้อยชัดคำ
"รชนิชล"
"ได้ค่ะคุณพยัคฆ์ ต่อไปดิฉันจะมีมารยาทให้มากกว่านี้ ที่ผ่านมาต้องขอโทษด้วยนะคะ"
"นายครับคุณซีโทรมาครับ เธอบอกเรื่องด่วนต้องคุณกับนาย"
พยัคฆ์รับโทรศัพท์จากลูกน้องก่อนที่จะหันหน้าไปจ้องเธอแบบคาดโทษเอาไว้ก่อน เขาจะมีอีกเบอร์ไว้สำหรับเรื่องงานส่วนเบอร์ที่พกติดตัวจะมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เบอร์ ใบหน้าเข้มที่หนวดเคราเริ่มขึ้นแซมออกมามีสีหน้าเข้มขึ้นไปอีกเมื่อปลายสายที่เป็นเลขาหน้าห้องและคู่ขาของเขาบ้างบางเวลารายงานอะไรบางอย่างกับเขา
"บ้าชิบ"
เสียงใหญ่สบถออกมาทำให้รชนิชลที่ไม่ได้ตั้งตัวสะดุ้งตกใจ
"แคร๊กๆๆ"
"สมน้ำหน้า มูมมามดีนัก"
"แคร๊กกก"
เธอหยิบขวดพริกไทยที่วางอยู่ใกล้มือขว้างใส่เขา เพราะตอนนี้สำลักน้ำข้าวต้มจนหน้าดำหน้าแดง
"เฮ้ยย นี้เธอมันจะมากไปแล้วนะ"
"นายใจเย็นๆๆนะครับ"
คิมเห็นท่าไม่ดีเพราะพยัคฆ์ลุกพรวดพราดจะเข้าไปหารชนิชลที่นั่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลยนอกจากกินต่อ
"ช่วยไม่ได้ อยากมาสมน้ำหน้าฉันทำไม คุณนั้นและเสียงดังจนฉันตกใจสำลักข้าวต้ม"
"เธอนี่มัน เฮ้ออ เอาไว้ฉันจะกลับมาชำระความกับเธอแน่หลังจากเสร็จธุระ ออกรถไปบริษัทเดี๋ยวนี้"
"แล้วนัดไปหาหมอละ"
"นัดได้ก็ยกเลิกได้"
"อะไรกัน เลื่อนออกไปเหรอ"
"แล้วอย่าวุ่นวาย บ้านฉันไม่ใช่บ้านของเธอ"
"ชิร์ ไอ้ขี้เก๊ก"
ร่างใหญ่ของพยัคฆ์เดินออกจากโต๊ะอาหารทั้งที่อีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจเขาเลยก้มหน้าลงกินข้าวต้มต่อ พยัคฆ์เดินออกไปเร็วเท่าความคิดที่เพราะตอนนี้เขามีประชุมด่วน โครงการใหญ่ของบริษัทกำลังมีปัญหา คงต้องกลับมาจัดการกับเธอที่หลัง
"ไอ้คิม มึงกำชับคนเรื่องรชนิชลหรือยัง"
ก่อนจะก้าวขึ้นรถออกไป พยัคฆ์หันมาคุยกับลูกน้อง เขาไม่อยากให้ใครมารับรู้เรื่องการเปิดพินัยกรรมเขาไม่อยากให้มีปัญหาวุ่นวายอะไรตามมาอีก แค่ที่ต้องเผชิญอยู่ก็หนักหนาเต็มทนอยู่แล้ว
"เรียบร้อยครับ"
"เอ่อดีแล้ว มึงดูให้ดีละ อย่าให้ไอ้อีริคมันมาแหกอกกูได้"
"ครับนาย"
"แล้วอย่าให้ออกไปไหน"
"ครับนาย แต่เธอก็ฤทธิ์เยอะน่าดู"
"มึงกลัวใครล่ะ เลือกเอาว่ากูหรือยัยขยะเปียกนั้น"
"เหอะๆๆ นายสิครับ"
.......
"ยิ้มอะไร กวนประสาทเหมือนเจ้านายเหรอ"
"เปล่า แค่ไม่เคยเห็นใครกล้าเถียงนายนะ แม้แต่คุณอีริคก็ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน"
"คุณพยัคฆ์นะเหรอ พวกนายไม่เคยเถียงเจ้านายเหรอ ใช่สิเขาคงจะบ้าอำนาจมาก"
"จะเอาอะไรเพิ่มอีกไหมจะได้ให้คนทำมาให้"
คิมสังเกตเห็นรชนิชลกินข้าวต้มหมดชามแล้ว และจะได้ให้เธอหยุดว่าเจ้านายของเขาสักที ยิ่งพูดก็เหมือนจะตรงไปเสียทุกอย่าง
"ไม่ละ ว่าจะไปนอนต่อยังง่วงอยู่เลย แต่เดี๋ยวบ่ายๆจะออกไปหาเพื่อนซะหน่อย"
"นายสั่งว่าไม่ให้ออกไปไหน"
คิมรีบห้ามทันทีเขาไม่อยากโดนนายกระทืบ
"ฉันจะไป ใครก็อย่ามาห้าม"
"อย่าขัดคำสั่งนายเลย"
"ทำไมจะขัดไม่ได้ ฉันไม่ใช่นักโทษนะ"
"นายไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ อยู่แต่ในบ้านนี้แหละ แล้วจะเอาอะไรก็บอกมา"
น้ำเสียงห้าวของคิมเริ่มตึงขึ้นเมื่ออีกฝ่ายไม่ฟังอะไรทั้งนั้นยังยืนยันจะออกไปข้างนอกอย่างเดียว
"ฉันจะออกไปหาเพื่อน"
"ถ้าคุณขัดคำสั่ง คงต้องรายงานนายพยัคฆ์"
"หยุดพูด เดี๋ยวฉันจัดการเอง"