CHAPTER..4

1023 คำ
“งั้นตอนนี้หนูเป็นแฟนพี่แล้วนะคะ” อชิระย้ายตัวเองไปนั่งบนโซฟาตัวเดียวกันข้างๆ หญิงสาว “แฟนฉันด้วย” เมื่อเห็นว่าหลานชายตกลงกับหญิงสาวได้แล้วอธิศจึงเอ่ยออกมาพร้อมกับเดินไปนั่งลงข้างๆ หญิงสาวอีกฝั่ง “หมายความว่ายังไงคะท่านประธาน” เธอหันไปถามชายหนุ่มอีกคนที่นั่งเงียบมาตลอดตั้งแต่เธอเข้ามาในห้อง “อาลุค” เสียงเข้มของเขามาพร้อมกับสายตาจริงจังเอ่ยบอกให้เธอเรียกเขาด้วยสรรพนามที่ต้องการ ครั้นจะให้เธอเรียกเขาว่าพี่ด้วยอีกคนก็ดูเหมือนว่าอายุเด็กสาวกับตนเองจะห่างกันเกินไป เลยให้เธอเรียกอาแบบเดียวกับที่หลานชายเรียก เป็นอันว่าเธอต้องรับรู้ว่าเขาต้องการให้เธอเรียกขานว่าอย่างไร เขาเปิดมือถือกดเข้าเกมยื่นให้หญิงสาวดู “หรือจะเรียกว่าที่รัก อย่างที่อ้อนขอในเกมก็ได้” เขาบอกเธอเสียงเรียบพร้อมกับมองหน้าเธอนิ่ง สายตาเรียบนิ่งแบบนี้มันใช่สายตาของคนที่คิดจะจีบเธอแน่เหรอ ไม่ใช่เขาคิดจะฆ่าเธอหรอกใช่มั้ย “ไม่ได้นะ ถ้าหนูเรียกอาลุคว่าที่รักก็ต้องเรียกพี่ว่าที่รักด้วย” อชิระโวยวายออกมา ได้ไงกันเขาอุตส่าห์นั่งหลอกล่ออยู่ตั้งนาน อาจะมาพูดสองประโยคแล้วได้คำว่าที่รักไปเขาไม่ยอมหรอกนะ “ไม่เรียกทั้งคู่เลยค่ะ พวกคุณ...เอ่อ พวกพี่ปล่อยกะทิไปทำงานได้แล้วค่ะ” พูดจบหญิงสาวลุกขึ้นยืนเดินผ่านหน้าอชิระไปตั้งใจจะไปทำงานของตนเองต่อ ตอนนี้เธอไม่สามารถรับรู้เรื่องน่าตกใจอะไรได้อีกแล้ว “เย็นนี้พี่ไปส่งนะคะ” อชิระเอ่ยไล่บอกหญิงสาวก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป “น้องน่ารักเนอะอา”อชิระหันมาพูดกับอาหนุ่ม “อืม” “น่าแกล้งด้วย” “อืม” “น่าเอาด้วยเนอะอา” “อืม” อชิระส่ายหัวให้กับความนิ่งของคนข้างๆ เห็นด้วยทุกอย่างแบบนี้คงจะถูกใจสาวน้อยมากละสิ...หึ ทำมาเก๊กหน้านิ่ง เขารู้นะว่าอาอยากจะกินกะทิใจจะขาดแล้ว ด้วยความที่เขาโตมากับอธิศตั้งแต่เด็ก แม้นิสัยจะต่างกัน แต่ในบางครั้งทั้งสองก็ชอบของเล่นชิ้นเดียวกัน ชอบทำอะไรบางอย่างเหมือนกัน กระทั่งบางครั้งทั้งคู่เคยชอบผู้หญิงคนเดียวกันก็มี แต่ไม่เคยมีคนไหนที่ถูกใจเขาทั้งคู่เท่าสาวน้อยคนนี้ และเขามั่นใจว่าเขาและอาจะไม่ต่อยกันเพราะแย่งเธอแน่ แต่จะทำให้เธอชอบเขาทั้งสองคนพร้อมกันแทน แม้ใครหลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดแปลก แต่เขาทั้งคู่กลับไม่คิดอย่างนั้น เขามองว่าความรู้สึกดีมันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่มีความสัมพันธ์แบบไหนที่เรียกว่าผิดหรือถูก อยู่ที่พวกเขาจะมีความรู้สึกเดียวกันหรือเปล่า และทั้งเขาและเธอจะมีความสุขและยอมรับกับความสัมพันธ์แบบนี้ได้หรือไม่แค่นั้น “กะทิ กลับยังไงเย็นนี้ติดรถพี่ไปไหม” กิรณาที่กำลังรีบเดินออกจากแผนกเพราะกลัวว่าหากตนลงไปช้า คนที่รอรับเธออยู่จะตามมาหาถึงแผนก หญิงสาวจึงหันไปส่งยิ้มให้รุ่นพี่ร่วมงานที่ใจดี ก่อนจะเอ่ยบอกปัดไปเพราะวันนี้เธอคงกลับด้วยไม่ได้ “วันนี้กะทิมีนัดต่อค่ะพี่ฝัน อุ๊ย!! จะสายแล้วค่ะ งั้นกะทิรีบไปก่อนนะคะ” กิรณาเอ่ยลาสาวรุ่นพี่ก่อนจะรีบร้อนเดินออกไปจากแผนกตรงไปยังที่จอดรถ ที่ได้รับข้อความมาเมื่อครู่ เธอแอบสงสัยอยู่ครู่หนึ่งว่าพวกเขาเอาเบอร์มือถือเธอมาจากไหน แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น เธอก็คิดได้ว่าทั้งสองคนเป็นประธานบริษัทการหาเบอร์พนักงานตัวเล็กๆอย่างเธอไม่ใช่เรื่องยากอยู่แล้ว “เชิญค่ะ” อชิระที่ยืนรอหญิงสาวอยู่นอกรถเปิดประตูให้หญิงสาวเข้าไปนั่งตรงเบาะหลัง พร้อมกับตัวเขาที่ก้าวตามขึ้นไปโดยที่มีชายหนุ่มมาดนิ่งอีกคนเป็นคนขับ “เอ่อ...พวกพี่จะพากะทิไปไหนคะ” เธอดันแว่นที่ตกลงมาให้ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งเดิม ก่อนจะเอ่ยถามชายหนุ่มด้านข้างแล้วหันไปสบตาอีกคนผ่านกระจกมองหลัง “ไปบ้านพวกพี่ดีไหมคะ” อชิระหันหน้ามาจ้องดวงตาหวานที่อยู่หลังกรอบแว่นอันโต ยิ่งเห็นดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยเบิกกว้างขึ้นกับสิ่งที่เขาบอก ยิ่งทำให้เขายื่นหน้าเข้าไปมองเธอใกล้ขึ้นกว่าเดิม “ไม่ดีมั้งคะ เราไปทานข้าวแล้วแยกย้ายกันกลับดีกว่าค่ะ” เธอขยับตัวถอยห่างออกมาจากคนข้างๆ ที่เอาแต่ส่งยิ้มหวานพร้อมกับจ้องเธอไม่วางตา หากจ้องธรรมดาเธอจะไม่หนีเลย แต่นี่เขาเล่นจ้องซะใกล้จนจมูกโด่งๆนั่นจะชนเข้ากับจมูกเธอแล้ว “ดีสิคะ พวกพี่มีเวลาจีบหนูแค่สามอาทิตย์เองนะคะ ไม่ให้พี่รีบทำคะแนนตั้งแต่ตอนนี้แล้วพวกพี่จะจีบหนูติดเหรอ” “งั้นช่วยบอกกะทิก่อนได้ไหมคะว่าพวกพี่จะจีบกะทิยังไง” หวังว่าพวกเขาคงไม่หลอกเธอไปรุมข่มขืนกันหรอกใช่ไหม “หนูคิดลามกอยู่เหรอคะ หน้าแดงเชียว จมูกก็แดงน่ารักเป็นบ้าเลยค่ะ”อชิระอดไม่ได้ที่จะบีบจมูกของเธอเล่นเบาๆ เมื่อเห็นใบหน้าของเธอแดงขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ แต่ให้เขาเดาสาเหตุน่าจะมาจากความคิดของคนตัวเล็กที่กำลังนั่งกัดปากตัวเองอยู่ในตอนนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม