ตอนที่8

2413 คำ
“มีอะไรหรือเปล่าพันนี” อรินดาถามพันนีด้วยความร้อนใจเพราะโทรมาดึกแบบนี้กลัวลูกชายจะไม่สบาย “คือน้องอินไม่ยอมนอนจะคุยกับพี่อิ๋นให้ได้ค่ะ” พันนีรายงานเจ้านายสาวไม่ว่าจะหลอกล่อน้องอินยังไงก็ไม่ยอมเข้านอนและเธอก็กลัวจะรบกวานเวลาทำงานของอรินดา “งั้นเดี๋ยวพี่วีดีโอคอลไปนะ” อรินดาพูดจบก็วางสายแล้วโทรวีดีโอคอลหาลูกชายทันทีเพราะนี่เกือบเที่ยงคืนแล้ว “มามี้ค้าบเมื่อไหร่จะกลับบ้านค้าบ” น้องอินเห็นแม่ก็ถามทันทีเพราะเขาไม่ได้ฟังแม่เล่านิทานก่อนนอนถึงแม้พี่เลี้ยงจะเล่าให้ฟังแต่ไม่เหมือนแม่เล่า “น้องอินฟังมามี้นะครับลูก ตอนนี้มามี้ทำงานอยู่กว่าจะเสร็จก็ดึกแล้วมามี้กลับบ้านไม่ได้เพราะมันอันตราย เจ้านายของมามี้ก็ให้พักที่โรงแรมแล้วพรุ่งนี้เช้ามามี้จะรีบกลับบ้านเรานะครับ ตอนนี้ดึกแล้วน้องอินรีบเข้านอนนะครับเด็กดีของมามี้” อรินดาพูดกับลูกชายอย่างอ่อนโยน แล้วอดยิ้มไม่ได้เพราะเจ้าตัวเล็กของเธอตาแทบจะปิดอยู่แล้ว “อินอยากฟังมามี้เล่านิทานค้าบ” “งั้นมามี้จะเล่านิทานให้ฟังดีมั้ย” “ดีค้าบ” “กาลละครั้งหนึ่ง..” น้ำหนึ่งเล่านิทานให้ลูกชายฟังยังไม่ถึงสามนาทีน้องอินก็หลับปุ๋ยทำให้คนเป็นแม่ยิ้มอย่างอ็นดู “ดูน้องด้วยพัน พรุ่งนี้เช้าพี่จะรีบกลับ” “ค่ะพี่อิ๋น” พันนีตอบเจ้านายสาวแล้วปิดโทรศัพท์ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างน้องอินเพราะถ้าอรินดาติดธุระหรือมีงานเลี้ยงตอนกลางคืนเธอก็จะมานอนเป็นเพื่อนน้องอินที่ห้องนอนใหญ่แต่ปกติจะไม่ไปค้างที่ไหนหรือถ้างค้างเธอกับน้องอินก็จะไปค้างที่บ้านคุณยายสมรแม่ของบุษบาเจ้านายอีกคนของเธอ อรินดาวางสายจากลูกชายแล้วยิ้มใจจริงก็อยากกลับไปนอนกอดลูกชายแต่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบงานจนกว่าจะจบอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของเจ้านายสาวที่ตอนนี้เจ้าบ่าวพากลับห้องไปแล้วเพราะเมามาก “อุ้ย ขอโทษค่ะ” อรินดาหันหลังกลับไปชนกับร่างสูงจึงขอโทษเขาเบาๆ “ไม่เป็นไรครับ ไม่ทราบว่าคุณ..” “อรินดาค่ะ” อรินดาจำต้องแนะนำตัวเองตามมารยาท “ยินดีที่ได้รู้จักคุณอรินดาครับ ผมพัสกรครับ เป็นเพื่อนกับน้องชายของเจ้าสาวครับ แล้วคุณอรินดามาทำอะไรตรงนี้ครับ” พัสกรกำลังจะเดินออกไปสูบบุหรี่พอเดินออกมาก็เกือบชนกับสาวสวยดีที่เขาหยุดเท้าได้ทัน “พอดีฉันมาโทรหาลูกชายค่ะ และฉันรับผิดชอบดูแลงานนี้ด้วยค่ะ” “งั้นเหรอครับ ถ้าไม่รังเกียจไปดื่มด้วยกันมั้ยครับ” พัสกรมองสาวสวยที่เขาดูไม่ออกว่ามีลูกแล้วอย่างชื่นชมถึงแม้เธอจะอยู่ในชุดเรียบร้อยแต่รูปร่างสัดส่วนของเธอเรียกได้ว่าเตะตาผู้ชายต้องมองเหลียวหลังเลยทีเดียวและยังไม่ได้มีท่าทีจะอ่อยเขาด้วยทั้งที่เขาบอกไปแล้วว่าเป็นเพื่อนกับน้องชายของเจ้าบ่าวและแน่นอนว่าต้องร่ำรวย “ฉันต้องขอตัวนะคะ พอดีฉันดื่มไม่เป็นค่ะ” อรินดาตอบคำถามเดิมครั้งที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้แล้ว “จริงเหรอครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนดื่มไม่เป็น” พัสกรมองสาวสวยที่บอกว่าดื่มไม่เป็นอย้างแปลกใจและไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนดื่มไม่เป็นแบบนี้ด้วย “ขอบคุณที่ให้เกียรติฉันนะคะ เชิญคุณพัสกรตามสบายค่ะ เดี๋ยวฉันต้องไปดูแลงานต่อแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ” อรินดายิ้มให้หนุ่มหล่อมาดดีสุภาพทั้งที่เป็นเสือร้ายของวงการธุรกิจที่มีสาวๆล้อมหน้าล้มหลังไม่ขาดเพราะงานอดิเรกของพวกเขาคือนักแข่งรถมือสมัครเล่นแลพลงสนามไหนก็ชนะทุกครั้ง “งั้นผมขอเบอร์โทรได้มั้ยหรือแอดไลน์ก็ได้ครับ” พัสกรอยากรู้จักสาวสวยมากกว่านี้และไม่เชื่อว่าเธอจะมีลูกอาจจะพูดเพื่อให้หนุ่มๆไม่กล้าจีบก็ได้ “ต้องขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่สะดวกจริงๆค่ะ ขอตัวนะคะ” อรินดาพูดจบก็เดินเข้าไปในงาน พัสกรมองตามหลังสาวสวยตาละห้อยเมื่อฝ่ายหญิงปฏิเสธจะสานสัมพันธ์กับเขาทั้งที่เป็นหนุ่มหล่อเพียบพร้อมด้วยฐานะชื่อเสียงชาติตระกูลและฐานะร่ำรวยติดอันดับท็อปเท็นในเมืองไทย ก่อนจะเดินไปสูบบุหรี่ อรินดาเดินเข้าไปในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้เสียงเพลงดังกระหึ่มทุกคนกำลังดื่มกินกันอย่างสนุกสนานจนกระทั่งเวลาผ่านไปตีหนึ่งกว่าทุกคนก็มึนเมาได้ที่กันจึงสนุกกันสุดเหวี่ยงร้องเพลงเสียดังลั่น แล้วก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นแล้วพฤทธิ์ก็หิ้วปีกของญาติหนุ่มออกจากห้องอาฟเตอร์ปาร์ตี้เพื่อไม่ให้รบกวนความสนุกในปาร์ตี้ของพี่สาวที่ทุกคนดื่มกินเต้นรำกันอย่างสนุกสนานและอยู่ในสายตาของอรินดาแต่เธอไม่ได้เข้าไปยุ่งและคิดว่าน้องชายเจ้านายจัดการได้เพราะมีเพื่อนๆตามไปหลายคน “พวกมึงจะรุมกูเหรอวะไอ้พอร์ช” สุริยนต์ตวาดใส่ญาติหนุ่มเสียงดังเมื่อถูกพฤทธิ์กับเพื่อนหิ้วมาในห้องน้ำเพราะฝ่ายเขามีแค่สองคนแล้วฝ่ายพฤทธิ์มีตั้งห้าคน “กูไม่รุมมึงหรอกไอ้มิกซ์ แล้วมึงจะเอายังไงกูว่ามาอย่ามาก่อกวนในงานแต่งงานของพี่สาวกู..” พฤทธิ์ถามญาติหนุ่มเสียงเข้มด้วยความโกรธที่มันก่อกวนอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของพี่สาว “กูไปกวนอะไรของมึงวะไอ้พอร์ช กูกำลังสนุกมากเลยต่างหากล่ะ หึหึๆๆ..” สิริยนต์พูดแล้วหัวเราะเพราะเขาไม่ชอบมันสองพี่น้องจึงมาก่อกวนงานแต่งงานของพัชรวลัย “สนุกมึงคนเดียวน่ะสิ ไสหัวกลับบ้านไปเลยก่อนที่มึงจะเละคาตีนกู”พฤทธิ์พูดด้วยความโกรธเพราะสุริยนต์หยิบแก้วเครื่องดื่มแล้วเทราดไปทั่วทำความลำบากให้พนักงานและทำให้แขกในงานเหยียบเขาก็กลัวแขกในงานจะลื่นล้มบาดเจ็บและกเตือนมันแล้วแต่มันไม่ฟังก็ยังทำอีกเขาจึงลากมันออกมาจัดการในห้องน้ำเพื่อไม่อยากให้ทุกคนหมดสนุก “ก็เอาสิวะ กูก็อยากรู้เหมือนกันว่ามึงจะแน่แค่ไหน” สุริยนต์พูดท้าทายญาติหนุ่มที่เก่งกว่าเขาทุกอย่างทั้งหน้าที่การงานและเรื่องสาวๆที่ต่างพากันชื่นชมมันมาตั้งแต่สมัยเรียนตั้งแต่ประถมยันมัธยมต้นและแตกหักกันเรื่องผู้หญิง “กูว่ามึงเมาแล้วกลับเถอะไอ้มิกซ์ อย่ามีเรื่องกันเลย” นนทวัฒน์พูดอย่างใจเย็นเพราะไม่อยากให้มีเรื่องกันยังไงทั้งสองก็เป็นญาติกัน “ถุย คิดว่าจะแน่..” สุริยนต์ถุยน้ำลายลงตรงหน้าของพฤทธิ์กับเพื่อนๆ “ผลั้วะๆๆ..” “โอ้ยย..” สุริยนต์ร้องออกมาทันทีที่พูดจบเพราะถูกกำปั้นกระแทกกรามแกร่งสองครั้งจนหน้าหันและเซจะล้ม “ไอ้พอร์ช..” นนทวัฒน์ วิกรม พัสกร สก็อต เรียกเพื่อนเสียงดังเพราะมันบอกพวกเขาให้ใจเย็นแต่มันกลับฟาดหน้าไอ้มิกซ์ก่อน “พวกมึงรุมไอ้มิกซ์นี่หว่า” อัศนัยเพื่อนของสุริยนต์ที่มางานด้วยกันก็ว่าพฤทธิ์กับเพื่อนก่อนจะประคองเพื่อนที่เซจะล้ม “มึงคิดว่ากูจะยอมให้มึงต่อยกูคนเดียวหรือไงไอ้พอร์ช” สุริยน์พูดจบก็ง้างกำปั้นถลาไปหาพฤทธิ์เพื่อจะชกเขาแต่ถูกสวนกลับมาก่อน “ผลั้วะๆๆ ตุ้บๆๆ..” สองหนุ่มก็ตะลุมบอนกันในห้องน้ำโดยที่เพื่อนทั้งสี่ของพฤทธิ์คุมตัวเพื่อนของสุริยนต์ไว้เพื่อให้ทั้งสองจัดการกันเอง “ปล่อยสิวะ มึงจะดูไอ้มิกซ์มัยถูกไอ้พอร์ชซ้อมหรือไงวะ” อัศนัยว่าอดีตเพื่อนร่วมโรงเรียนก่อนที่จะมีปัญหากันเรื่องผู้หญิงที่พาชื่นชมพฤทธิ์มากกว่าสุริยนต์และไม่ว่าสุริยนต์จะชอบผู้หญิงคนไหนเธอก็ปฏิเสธบอกว่าชอบพฤทธิ์ทำให้สุริยนต์มีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกับพฤทธิ์และหลังจากนั้นพวกเขาก็แบ่งพรรคแบ่งพวกไม่ถูกกันเจอหน้ากันก็มีเรื่องตลอดจนกระทั่งจบมัธยมสามก็แยกย้ายกันไปเรียนต่อและกลุ่มของพฤทธิ์ไปเรียนที่อเมริกา ส่วนกลุ่มของเขาไปเรียนที่อังกฤษแต่พอกลับมาเจอกันก็ยังไม่ถูกกันเหมือนเดิมแต่เวลางานสุริยนต์ไม่กล้าออกหน้าให้อาของพฤทธิ์ออกหน้าตลอดและงานนี้สุริยนต์ตั้งใจจะก่อกวนและเขาก็ห้ามไว้เพราะยังไงก็สู่พฤทธิ์ไม่ได้ “พอแล้วไอ้พอร์ช” สก็อตไปรั้งตัวเพื่อนไว้เมื่อเห็นสุริยนต์ล้มลงไปกองกับพื้น “กูบอกแล้วว่าอย่ามาก่อกวนในงานของพี่สาวกู พามันส่งโรงบาลด้วยนะไอ้อัต” พฤทธิ์เช็ดเลือดมุมปากแล้วพูดกับสุริยนต์ที่นั่งบนพื้นอย่างหมดสภาพหน้าแตกยับเลือดเปรอะเต็มหน้าและเสื้อผ้า “กูจะฟ้องคุณยาย รับรองมึงกระเด็นจากตำแหน่งแน่คอยดู อู้ยย..” สุริยนต์เค้นเสียงว่าพฤทธิ์ด้วยความเคียดแค้นที่แพ้มัน “ถ้ามึงคิดว่าทำได้ก็เชิญ” พฤทธิ์พูดจบก็เดินไปที่อ่างล้างหน้าแล้ววักน้ำล้างหน้าที่มีคราบเลือดออกจนหมดก่อนจะล้วงเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าจนแห้ง “ฝากไว้ก่อนเถอะกูจะเอาคืนมึงแน่ไอ้พอร์ช” สุริยนต์พูดใส่หน้าพฤทธิ์ทั้งที่ตัวเองลุกไม่ขึ้นด้วยซ้ำ “ยินดีทุกเมื่อ ไปดื่มกันต่อเถอะพวกเรา” พฤทธิ์เดินนำเพื่อนๆออกไปจากห้องน้ำอย่างไม่สนใจสุริยนต์ก่อนจะบอกให้เจ้าหน้าที่รปภ.เข้าไปช่วยพาสุริยนต์ไปส่งโรงพยาบาล “ไอ้มิกซ์มันไม่เข็ดจริงๆเลยว่ะ” นนทวัฒน์พูดขึ้นหากลงมือลงไม้กันเมื่อไหร่สุริยนต์ก็จะเจ็บทุกครั้งไม่เคยชนะพฤทธิ์แต่พอโตมาก็จะมีแค่ปากเสียงกันและไม่ค่อยได้เจอกันและเที่ยวคนละที่แต่ครั้งนี้พฤทธิ์คงทนไม่ไหวจริงๆ ดีที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นห้องไปแล้ว อีกอย่างทุกคนก็เมามากจึงไม่มีใครสนใจ “ปล่อยมันเถอะ คราวนี้มันคงเข็ดไปอีกนานว่ะ” วิกรมคิดว่าสุริยนต์คงเข็ดกำปั้นของพฤทธิ์ไปอีกนานเลยทีเดียวและที่มันทำได้คือฟ้องยายเหมือนทุกครั้งที่ทะเลาะกัน “เข็ดก็ดีสิวะ ไอ้มิกซ์มันเหมือนหมาบ้าที่กัดไม่เลือกหน้าเดี๋ยวเจอกันมันก็เอาอีก” เขาไม่เห็นมันจะเข็ดเลยเจอหน้าก็ฮึ่มฮ่ำเข้าใส่เหมือนหมาบ้าและถูกเขาซัดหน้างายไปทุกครั้ง “นั่นสิวะ ขนาดหน้าแหกมันยังไม่เข็ดแล้วไอ้ลูกแง่อย่างมันจะทำอะไรได้นอกจากฟ้องยาย” “มึงทนได้ยังไงวะไอ้พอร์ช” สก็อตถามเพื่อนเพราะสุริยนต์ทำงานในบริษัทของพฤทธิ์ “งานคืองาน ถ้ามันไม่มีความสามารถกูก็ไม่เอาไว้หรอก ดื่มกันดีกว่าอย่าไปเสียเวลากับมันเลย” เขาแยกแยะได้เพราะเรื่องงานของสุริยนต์ไม่มีปัญหาและตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารก็ยังมีผู้จัดการดูแลอีกขั้นหนึ่งและเขาก็ตรวจทานงานทุกอย่างละเอียดยิบทำให้สุริยนต์ไม่กล้าหือในบริษัทแต่ก็ยังอวดเบ่งว่าเป็นหลานชายเจ้าของบริษัททั้งที่เขากับปริตาและปวรรธ์เป็นหลานแท้ๆยังไม่อวดอ้างตัวเองเลย เวลาผ่านไปทุกคนต่างก็มึนเมาทำให้อรินดาต้องดูแลจัดการทั้งที่ง่วงก็ง่วงแต่หน้าที่ต้องมาก่อนจึงจัดการดูแลแขกไปส่งห้องพักได้ก็ทำให้อรินดาแทบหมดแรงจึงเผลอคว้าแก้ววิสกี้มาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว “แค่กกๆๆ..” “พี่อิ๋นเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” พนักงานสาวที่ช่วยอรินดาดูแลแขกถามเบาๆเมื่อเห็นหญิงสาวสำลัก “มะ ไม่เป็นไรจ้ะ พอดีพี่หยิบแก้ววิสกี้คิดว่าเป็นแก้วน้ำ พี่ขอตัวก่อนนะ” อรินดาบอกพนักงานเธอกลัวจะเมาและในงานก็ยังมีแขกเหลืออยู่ไม่มากแล้ว “ได้ค่ะ ให้หนูไปส่งมั้ย” “ไม่เป็นไรจ้ะ พี่ไปเองได้” อรินดารู้สึกร้อนวูบวาบในช่องท้องเหมือนแอลกอฮอล์กำลังทำงานทำให้เธอต้องรีบกลับห้องก่อนที่มันจะออกฤทธิ์เพราะถ้าเมาเธอไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ร่างเพรียวอวบอิ่มสมส่วนแม้จะอยู่ในชุดเรียบร้อยแต่ก็ยังโดดเด่นในสายตาของผู้ชายที่ชอบมองของสวยๆงามๆโดยเฉพาะผู้หญิงทำให้อรินดารีบเดินตรงดิ่งไปที่ลิฟต์อย่างรวดเร็วเพราะดึกแล้วผู้คนก็บางตาและในลิฟต์มีแต่พนักงานกดลิฟต์ “ชั้นไหนครับคุณผู้หญิง” “อืม ยี่สิบเก้าค่ะ” อรินดาบอกพนักงานแล้วประตูลิฟต์ปิดลงตัวเลขก็เคลื่อนไปจนถึงชั้นยี่สิบเก้าที่เธอเธอพัก “ชั้นยี่สิบเก้าครับคุณผู้หญิง” พนักงานบอกลูกค้าของโรงแรมที่ยืนนิ่ง “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ” อรินดาสะบัดใบหน้าไปมาแล้วเดินออกจากลิฟต์ตรงไปที่ห้องพักของเธอ ก่อนจะล้วงการ์ดออกมาเปิดประตูห้องแล้วเดินเซเข้าไปในห้องตรงดิ่งไปที่ตู้เย็นเพื่อดื่มน้ำเย็นแล้วเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำจะได้สร่างเมา ฝ่ายพฤทธิ์ก็เมามากพอสมควรแต่ก็ยังมีสติจึงพาเพื่อนๆไปส่งที่ห้องพักก่อนจะกลับห้องพักของตัวเองแล้วเคาะประตูห้องที่แฟนสาวพักเพราะเอาการ์ดแตะแล้วเปิดประตูไม่ได้ “ก๊อกกๆๆ..”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม