EPISODE 02
ตัวตนที่แท้จริง
ช่วงสายของวันหนึ่ง ภายในบ้านหลังใหญ่แห่งนี้มีผู้พักอาศัยอยู่ไม่กี่คน คนหนึ่งเป็นพี่ชายคนโตคนละแม่ แล้วก็มีเจเดนเป็นน้องชายคนเล็ก นอกนั้นก็มีแม่บ้านและคนขับรถ
หากพูดถึงความสัมพันธ์ของพี่น้องต่างแม่ที่กล่าวมา ดูจากรูปการณ์อาจคิดไปได้ว่าเจเดนเป็นลูกเมียน้อยเพราะเกิดทีหลัง ทำให้ใครต่อใครเข้าใจส่วนนี้ผิดไปมาก ทั้งที่ความจริงแล้วพี่ชายเขาต่างหากที่เป็นลูกเมียน้อย เพราะพ่อแต่งงานกับภรรยาเพียงคนเดียวคือแม่ของเจเดน แต่กลับทำผู้หญิงอีกคนท้องเสียก่อน
ซึ่งแน่นอนว่าเหตุผลดังกล่าวก็ทำให้พี่น้องไม่ถูกกัน เกลียดขี้หน้าจนไม่อยากจะหายใจใกล้กันเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่พ่อป่วยแล้วรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล พวกเขาพี่น้องอยู่บ้านด้วยกันตามลำพังมานับปีแต่เลี่ยงเจอหน้ากันมาตลอด
คนพี่ออกไปทำงานแต่เช้า กลับเข้ามาก็เย็น คนน้องก็ตื่นสาย ช่วงกลางวันก็เดินลัดเลาะไปบ้านหลังเล็กที่สร้างเอาไว้เพื่อกักเก็บความสุขส่วนตัว ดึกหน่อยค่อยเข้าบ้านใหญ่ นั่นทำให้ช่วงเวลาของพี่น้องไม่ตรงกันเลย พวกเขาไม่เคยกินข้าวร่วมโต๊ะอาหารกันสักมื้อตั้งแต่พ่อป่วยแล้วต้องไปอยู่โรงพยาบาล
ทว่าช่วงสายวันนี้เจเดนไม่ได้มุ่งตรงไปยังบ้านหลังเล็กเป็นอย่างแรก เพราะมีอย่างอื่นต้องทำ กิจกรรมส่วนตัวต้องงดไว้ก่อน เขาเปิดผ้าม่านมองจากชั้นสองของบ้านเพื่อดูว่าบ้านหลังเล็กของเขาที่อยู่ด้านหลังปกติดีหรือไม่ มีใครมาหาไหม
ซึ่งมองจากตรงนี้ก็ไม่เห็นฝั่งประตูรั้วหรอก แต่ก็มองเพื่อความสบายใจไว้ก่อน เพราะที่นั่นคือสมบัติชิ้นเดียวที่เขาเป็นเจ้าของและควบคุมทุกอย่างได้
ตึก ตึก ตึก
“คุณเจจะรับกาแฟหรืออาหารเช้าดีคะ”
“อาหารเช้าแล้วกันครับ อ้อ รบกวนเข้าไปทำความสะอาดบ้านเล็กให้ผมหน่อยสิ เปลี่ยนชุดเครื่องนอนให้ใหม่หน่อยนะ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าไปจัดการให้ แล้ววันนี้แต่งตัวหล่อจะออกไปไหนคะ จะเข้าบริษัทกับคุณเจียร์หรือเปล่า ป้าจะได้บอกคนขับรถให้รอคุณเจด้วย”
เจเดนขมวดคิ้ว เขาพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ตอนนี้ก็สิบโมงแล้วทำไมพี่ชายต่างแม่ของเขาถึงยังไม่ไปทำงานอีก ปกติถ้าเขาตื่นป่านนี้จะต้องไม่เจอหน้ากันแล้วสิ
“ไอ้เจียร์ยังอยู่เหรอครับป้า งั้นผมไม่เอาอาหารเช้าแล้ว ไม่อยากลงไปเจอหน้ามัน”
“คุณเจ...”
“ผมจะขับรถไปเอง ไม่ต้องเตรียมรถให้ผมแล้ว”
ร่างสูงรีบลงบันไดเพราะคิดว่าถ้ารีบออกจะได้ไม่ต้องเจอคนที่เขาไม่อยากเจอ แต่พอมาถึงชั้นล่างสายตาก็สบกันจนได้ ‘เจียร์’ พี่ชายคนละแม่กำลังจะเดินออกจากบ้านพอดี
“มึงรีบร้อนไปไหนไอ้เจ?”
“กูต้องรายงานมึงเหรอ?”
พวกเขาไม่เคยคุยกันดี ๆ เลยสักครั้ง เป็นแบบนี้มาตลอดหลายปี และมันจะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปไม่มีวันจบสิ้น
เจเดนเดินแซงออกไปข้างนอกเพื่อตรงไปยังรถหรูของเขา จากนั้นจึงขับออกไปยังโรงพยาบาลที่พ่อรักษาตัวอยู่ทันที นอกจากจะมาหาพ่อแล้ว เขายังแอบนัดเลขาฯ ของพ่อให้มาหาที่นั่นด้วย เพื่อให้แผนการที่วางไว้แนบเนียน อย่างน้อยก็ตบตาเจียร์ที่คอยส่งคนมาสอดแนมได้บ้าง
พี่ชายของเขาร้อนรนเสมอถ้าได้รู้ว่าเจเดนสนใจงานในบริษัท เพราะตอนนี้บริษัททำสื่อโฆษณาและการตลาดที่เป็นธุรกิจของผู้เป็นพ่อถูกพี่ชายยึดไปทันทีหลังจากที่พ่อป่วย
พ่อของพวกเขาเส้นเลือดในสมองแตกและเข้ารับการผ่านตัดถึงสองครั้ง หลังจากผ่าตัดครั้งที่สองร่างกายก็แย่ลง ทั้งพูดไม่ได้ และร่างกายท่อนล่างก็ขยับไม่ได้เลย ท่อนบนยังพอขยับได้อยู่แต่ก็อ่อนแรงกว่าเดิมมากจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อย่างเคย
เมื่อถึงเวลาต้องเลือกประธานบริษัทคนใหม่ จู่ ๆ พี่ชายตัวดีก็ได้ขึ้นเป็นประธานบริษัทเพราะบอร์ดบริหารค่อนข้างเชื่อใจในฐานะลูกชายคนโตของพ่อ ทั้งที่พ่อไม่เคยสนับสนุนเจียร์เรื่องนี้เลย
การประชุมครั้งสุดท้ายก่อนพ่อจะเข้ารับการผ่าตัดได้พูดถึงการผลักดันให้เจเดนขึ้นมาบริหารแทน ไม่ใช่เจียร์ แต่เพราะตัวเจเดนไม่เคยเข้ามามีบทบาทเรื่องงาน คนเลยไม่เชื่อถือเท่ากับพี่ชายที่วางตัวเป็นคนสุขุมและฉลาด แต่ที่จริงก็แค่ใช้เปลือกนอกตบตาพวกบอร์ดบริหารเพื่อถีบตัวเองให้ขึ้นไปยืนจุดสูงสุดก็เท่านั้น
ความโลภของเจียร์กำลังพาให้บริษัทเปลี่ยนไปในทิศทางที่แย่ลงเพราะเขาไม่มีประสบการณ์ ไม่เก่งพอ แถมยังทะนงตนเกินเยียวยา
ความตั้งใจที่จะมายืนจุดนี้ก็เพื่ออำนาจและเงินเท่านั้น อยากยกตัวเองขึ้นไปแทนพ่อ และเหยียบน้องชายคนละแม่ให้จมดิน กีดกันทุกทางไม่ให้เจเดนเข้ามาทำงานในบริษัทเพราะกลัวว่าจะสร้างอำนาจภายในแข่งกับเขา
ทั้งหมดคือความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้ เป็นพี่น้องที่ชิงดีชิงเด่นกันได้ตลอดเวลา...
เจเดนขับรถมาถึงโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย เขาคุ้นชินกับสถานที่แห่งนี้ดีราวกับเป็นบ้านอีกหลัง เพราะต้องมาเยี่ยมผู้เป็นพ่อบ่อย ๆ อย่างน้อยก็สัปดาห์ละสองถึงสามครั้ง
ทว่าโดยปกติอยากมาเวลาไหนก็มา ขอแค่อยู่ในช่วงเวลาที่เข้าเยี่ยมได้ แต่วันนี้พิเศษหน่อยตรงที่นัดเลขาฯ ของพ่อเอาไว้ จึงต้องมาพบกันในช่วงเวลาที่พ่อของเขาทำกายภาพบำบัด เพราะห้องพักผู้ป่วยจะว่าง ทำให้สะดวกต่อการพูดคุยและพบปะกันโดยไม่ให้คนของเจียร์สงสัย
ตึก ตึก ตึก
ฝ่าเท้าใหญ่ก้าวเข้าไปนั่งบนโซฟาห้องพักผู้ป่วย เห็นว่าเลขาฯ ของพ่อยังไม่มา เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นโซเชียลฯ รอ โดยสลับเข้าแอ็กเคานต์ลับเป็นอย่างแรก
กิจกรรมของเขาในแอ็กลับนี้ก็จะมีอยู่ไม่กี่อย่าง ไม่ลงคลิปเองก็ไปส่องคลิปโป๊ของคนอื่นเพื่อเพิ่มความกำหนัด แต่ตอนนี้เขาว่าจะลงคลิปที่ถ่ายไว้เมื่อหลายวันก่อนเพื่อเรียกกระแสสักหน่อย
นิ้วโป้งเลื่อนดูในอัลบั้มภาพ กดเลือกคลิปหนึ่งที่ยังไม่เคยลง เป็นคลิปสั้นประมาณยี่สิบวินาที ภาพเคลื่อนไหวในนั้นก็เป็นตอนที่เจเดนสอดใส่แกนกายของเขาเข้าไปในช่องทางคับแคบ ขยับเข้าออกเชื่องช้า แถมควงเอวเป็นวงกลมแล้วช้อนเอวแทงเข้าไปเพื่อให้ท่อนเนื้อขูดกับผนังโพรงภายใน แน่นอนว่าฝ่ายรับของเขาวันนั้นครางออกมาเสียงหวานจับใจเลย
เขาเลือกลงคลิปนี้ พร้อมแคปชันสั้น ๆ ง่าย ๆ ‘เด็กดีคนนี้ร้องดีมาก ฟังแล้วเงี่ยx’
เพียงแค่โพสต์ลงไปไม่ถึงนาที แอ็กเคานต์ของ KingsXXL คนนี้ก็มีคนเข้ามากดหัวใจและคอมเมนต์อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นปกติของคนฮ็อตที่มีผู้ติดตามถึงสองแสนกว่าคน
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าดังกระชั้นมาที่หน้าห้อง เจเดนจึงรีบเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกง อึดใจต่อมาเลขาฯ คนสนิทของพ่อก็รีบร้อนเดินเข้ามาพอดี
‘คุณกร’ เลขาฯ คนสนิทที่ทำงานกับพ่อเขามาตลอดสามสิบปี แต่ตอนนี้ต้องยุติบทบาทในบริษัทหลังจากที่เจียร์ได้ขึ้นเป็นประธาน เจียร์เขี่ยคนของพ่อออกหมดแล้วสร้างอำนาจภายในขึ้นเสียใหม่ คุณกรเองก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกไล่ออกเป็นอันดับต้น ๆ เพราะเป็นคนของพ่อที่มีฝีมือการทำงานเก่งกาจ เรียกได้ว่าเป็นแขนขวาของพ่อเขายังได้เลย
“สวัสดีครับคุณเจ โทษทีผมมาช้าไปหน่อย พอดีไปส่งลูกสาวเรียนพิเศษมา แล้วนี่ท่านประธานออกไปทำกายภาพฯ นานหรือยังครับ?”
“น่าจะสักพักแล้วนะ ผมก็เพิ่งมา แต่เข้ามาก็ไม่เจอแล้ว อีกเดี๋ยวพยาบาลคงพาพ่อกลับเข้ามา งั้นเรารีบคุยกันเลยเถอะครับ ผมไม่อยากคุยต่อหน้าพ่อ”
“อ้อ ได้ครับ คือทางผมสืบมาได้ว่าคุณเจียร์มีการยักยอกเงินบริษัท แต่ส่วนนี้ไม่มีหลักฐานนะครับ คนของคุณเจียร์จัดการปกปิดหมดเลย ทางเราจับมือใครดมไม่ได้”
“แล้วรู้ได้ยังไงว่ามันยักยอกเงิน?”
“บัญชีบริษัทมันสวยงามผิดปกติครับ เซนส์ของผมมันบอกว่าถูกตกแต่งบัญชีมาแน่นอน ผมทำงานอยู่ที่นี่มานาน ผมรู้ทิศทางเรื่องงบประมาณกับค่าใช้จ่ายในบริษัทดี เพียงแต่ผมไม่มีหลักฐาน”
เจเดนแค่นหัวเราะ คิดไว้อยู่แล้วว่าสักวันพี่ชายตัวดีหางมันต้องโผล่ คนที่โลภในอำนาจและเงินทองมีหรือจะอดใจไหวหากมีโอกาสเข้าไปกอบโกย
“แล้วคุณกรได้กลิ่นเรื่องตกแต่งบัญชีตอนไหนเหรอ?”
“ผมมีโอกาสได้เห็นเอกสารการเคลื่อนไหวทางการเงินของไตรมาสก่อน พอเทียบกับก่อนหน้านี้ผมรู้สึกว่ามันแปลก ขอเวลาผมหาหลักฐานก่อน แต่ผมมั่นใจว่าคุณเจียร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินบริษัทแน่นอน แล้วต้องมีพนักงานรู้เห็นหลายคนด้วย”
“ฝากด้วยนะครับ ผมไม่มีอำนาจอะไรจะช่วยคุณกรได้เลย”
“ขอแค่คุณเจมุ่งมั่นจะล้มเขาแล้วขึ้นมาเป็นประธานแทน ขั้วอำนาจเดิมของคุณพ่อคุณก็พร้อมจะอุ้มชูคุณเจขึ้นมาอยู่จุดสูงสุด เพียงแค่พวกเขารอคุณพร้อมลุยไปด้วยกันก็เท่านั้น”
“ผมจะลุกขึ้นสู้ก็ต่อเมื่อผมมั่นใจว่าผมจะชนะเท่านั้นครับ”
เมื่อขั้วอำนาจเก่าถูกลดทอนและเหยียบย่ำด้วยขั้วอำนาจใหม่ มันมีสองแนวทางเท่านั้นที่จะทำได้ หนึ่งคือยอมถอยและยอมรับในการเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอดของตนเอง สองคือสร้างความแข็งแกร่งได้มากพอแล้วลุกขึ้นสู้กับขั้วอำนาจใหม่เพื่อกลับมายืนหยัดอยู่จุดเดิม
อย่างแรกที่กล่าวมามันทำได้ง่ายกว่ามาก ทุกวันนี้เจเดนก็ทำแบบนั้นอยู่ เขายอมถอยให้พี่ชายต่างแม่คนนั้นจนสุดทางแล้ว ไม่ก้าวก่ายเรื่องงานในบริษัท ไม่แสดงอำนาจเพื่อต่อต้าน และไม่ทำงานอะไรเลยด้วย แต่ละเดือนมีเงินเดือนที่เจียร์ให้คือสองแสนบาท เหมือนค่าจ้างให้อยู่เฉย ๆ เพื่อกันเจเดนให้ห่างตัว จะได้ทำอะไรได้สะดวก
ซึ่งการใช้ชีวิตอย่างนี้มันสบายสำหรับทุกฝ่าย เว้นเสียแต่ว่าขั้วอำนาจเดิมของพ่อไม่ยอมสยบ ทุกคนพร้อมผลักดันเจเดนขึ้น เพียงเพราะก่อนที่พ่อจะป่วยหนักจนทำอะไรไม่ได้ เรื่องสุดท้ายที่พ่อพูดในที่ประชุมคือตั้งใจจะปูทางให้เจเดนเข้ามารับตำแหน่งแทน
เวลาผ่านมานับปีที่พ่อป่วยก็ยังไม่มีใครรู้เหตุผลว่าทำไมต้องให้ลูกชายคนเล็กขึ้นแทน แต่คำพูดนั้นกลับกลายเป็นความหวังของทุกคนในวันนี้ ขอแค่เจเดนพร้อมลุย พร้อมสู้กับเจียร์ ทุกคนจะอยู่ข้างเขาและสร้างอำนาจให้เหมือนกับที่เคยสนับสนุนพ่อของเขาในอดีต
“ผมจะหาหลักฐานล้มคุณเจียร์ให้ได้ ถึงวันนั้นคุณเจก็ช่วยฮึดสู้กับพวกเราเถอะครับ บริษัทกำลังมีแนวโน้มไม่ค่อยดีนัก คาดว่าไม่เกินสามปีนี้คุณเจียร์จะบริหารจนขาดทุนย่อยยับแน่”
“มีหลักฐานล้มไอ้เจียร์ได้เมื่อไรค่อยมาคุยกันครับ ผมก็จะพยายามสอดส่องมันให้อีกทางหนึ่งแล้วกัน”
เราคุยกันต่ออีกนิดหน่อยแล้วผู้เป็นพ่อก็ถูกพาเข้ามาส่งในห้องพัก และถูกย้ายจากรถเข็นขึ้นมาบนเตียงแทน ทางพยาบาลรายงานว่า การกายภาพฯ วันนี้ก็เหมือนทุกวันที่ผ่านมา ไม่มีอะไรคืบหน้า ทุกอย่างทรงตัวอยู่เท่าเดิม ร่างกายพ่อของเขาไม่มีวันเหมือนเดิมอีกแล้ว ทั้งพูดไม่ได้ เดินก็ไม่ได้ แต่ที่ยังต้องกายภาพอยู่ก็เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อลีบเท่านั้น
“วันนี้หน้าตาสดใสนะครับท่านประธาน”
เปลือกตาของคู่สนทนาค่อย ๆ หลับและลืมขึ้น ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย จากนั้นมือข้างหนึ่งก็ขยับยกขึ้นราวกับต้องการจะเรียกลูกชายคนเล็กเข้าไปหาอย่างทุกที เจเดนจึงยอบศีรษะลงเพื่อให้ผู้เป็นพ่อได้ลูบอย่างที่ชอบทำ
ถึงร่างกายของพ่อจะไม่เหมือนเดิม ท่อนล่างเดินไม่ได้ ท่อนบนขยับได้นิดหน่อย แต่ก็ยังพอสื่อสารกันได้จากภาษากาย อย่างเช่นตอนนี้ที่มือชรานี้ลูบศีรษะลูกชายลงมาถึงใบหู ก่อนจะออกแรงหยิก ถึงจะเป็นแรงไม่มากแต่ก็รู้ว่าต้องการจะทำอะไร
“พ่อหยิกผมทำไม ผมไม่ได้ดื้อสักหน่อย ผมเป็นเด็กดีจะตาย”
หลังลูกชายคนเล็กผงกหัวขึ้นบ่น ก็ได้ยินเสียงครืด ๆ ในลำคอของผู้เป็นพ่อราวกับกำลังหัวเราะ เพียงแต่เสียงที่ออกมาไม่ดังเหมือนเสียงคนทั่วไปหัวเราะ อีกทั้งถ้าสังเกตสีหน้าก็จะรู้ได้เลยว่าดูสดใสขึ้นมาก แววตานั้นมองมาอย่างมีความสุขด้วย พ่อลูกก็ชอบหยอกล้อกันประมาณนี้
ทว่าอึดใจต่อมาดวงตาของคนป่วยก็เหลือบมองมาที่เลขาฯ ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับมีคำถามที่จะถาม และคุณกรก็รู้ดีว่าพ่อต้องการจะถามอะไร เขาจึงรีบตอบออกไปทันที
“ท่านประธานไม่ต้องห่วงนะครับ เรื่องในบริษัทก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ”
พ่อมือสั่นผละออกจากใบหน้าของลูกชาย ทำท่าจะเอื้อมมาหาเลขาฯ คนสนิท แต่เลขาฯ รู้ทันจึงรีบส่งมือไปกุมไว้เสียก่อน จากนั้นก็จะเล่าความเป็นไปในบริษัทให้เจ้านายฟังเพื่อให้เจ้านายสบายใจ แต่เรื่องทั้งหมดที่พูดออกไปก็จริงครึ่งหนึ่ง และโกหกอีกครึ่งหนึ่ง
ทุกคนปิดบังคนป่วยเรื่องของเจียร์กันหมด แม้แต่ตัวเจียร์เองก็ไม่บอกพ่อว่าเขากำจัดคนของพ่อออกแล้วเข้าไปจัดการแทน เชื่อว่าถ้าพ่อรู้อาการอาจจะแย่ลงได้
ทำให้ผู้เป็นพ่อเข้าใจไปเองว่าทุกวันนี้ลูกชายคนเล็กได้รับการช่วยเหลือจากคนเก่าคนแก่จนบริหารบริษัทได้ดี ทุกคนโกหกเพื่อให้คนป่วยสบายใจเท่านั้น เพราะถ้าอาการทรุดลงอีกคงรับมือกันไม่ไหว
เจเดนกับเลขาฯ เข้าเยี่ยมต่ออีกประมาณสองชั่วโมงก่อนจะแยกย้ายกันกลับเพื่อให้คนป่วยได้พักผ่อน โดยทั้งหมดจะถูกรายงานให้เจียร์รับรู้ด้วย
เจียร์สั่งคนคอยเฝ้าอยู่หน้าห้องพักของพ่อตลอดเพราะอยากรู้ว่ามีใครมาหาบ้าง คงกลัวคนจะบอกเรื่องไม่ดีกับพ่อ แต่อันที่จริงไม่ว่าใครจะคุยอะไรในห้องนั้นลูกน้องที่อยู่ข้างนอกก็ไม่ได้ยินหรอก คงรายงานได้แค่ว่าใครมาเยี่ยมบ้างและมากี่โมง กลับไปกี่โมงก็เท่านั้น
ไม่ใช่แค่เจียร์ส่งคนมาเฝ้าหน้าห้องผู้ป่วย แต่ยังส่งคนคอยตามเจเดนอยู่บ่อย ๆ ไม่รู้จะระแวงอะไรเขานักหนา แต่คนถูกตามก็รู้ตัวเช่นกันจึงนัดพบกับเลขาฯ ที่โรงพยาบาลอย่างเดียว เพื่อจะอ้างว่ามาเยี่ยมพ่อแล้วบังเอิญเจอ
นอกจากออกมาเยี่ยมพ่อ เขาก็ออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่ตอนกลางคืนบ้าง เดินห้างบ้าง แต่ส่วนมากจะไม่ค่อยออกไปไหน จะอยู่ในบ้านเล็กแล้วทำกิจกรรมส่วนตัว ทำให้ช่วงหลังมานี้เจียร์คงลดละเรื่องสั่งคนตามติดเจเดนบ้างแล้ว เพราะวัน ๆ เขาก็อยู่แต่บ้านเล็ก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คนของเจียร์ไม่สามารถเข้ามาสอดแนมได้
วันนี้ก็เช่นกันที่เจเดนไม่รู้จะทำอะไร หลังจากเยี่ยมพ่อเสร็จเขาก็ขับรถกลับบ้าน แล้วก็เดินตรงไปที่ประตูรั้วด้านหลัง จากนั้นก็เปิดมันออกแล้วก้าวออกไปให้พ้นบริเวณบ้านใหญ่
เดินลัดพงหญ้าที่ถางไว้ให้เป็นทางเดินอีกประมาณสองร้อยเมตรก็จะถึงบ้านหลังเล็กของเขา เจเดนจะเข้าทางประตูหลังของบ้านเล็กเพราะเป็นทางที่เดินตรงจากบ้านใหญ่มาได้เลย
เมื่อมาถึงเขาเดินเข้าไปหยิบหน้ากากมาสวมเพื่อจะออกไปแปะสติกเกอร์สีเขียวบริเวณกริ่งหน้าบ้าน เป็นสัญญาณว่าเขาพร้อมรับแขกแล้ว
ร่างสูงเดินผิวปากกลับเข้ามาในห้องโถงของบ้านพัก เขาวางหน้ากากลงบนโต๊ะ จากนั้นก็เดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบเบียร์สองกระป๋องติดมือกลับมานั่งที่โซฟาด้วยท่าทางผ่อนคลาย
บ้านหลังเล็กของเขามีขนาดกะทัดรัด ข้าวของไม่ได้มากมายอะไร เพียงแค่แบ่งสัดส่วนให้พอพักผ่อนได้ก็เท่านั้น ไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากเท่าที่ควร โดยในบ้านจะแบ่งเป็นโถงด้านนอกที่มีทีวี โซฟา โต๊ะกระจกเล็กหน้าโซฟา ตู้เย็น โต๊ะสนุกเกอร์ และห้องน้ำ
โดยโถงนี้จะเชื่อมกับห้องนอนห้องหนึ่งที่เขาตั้งใจจะให้เป็นห้องเชือด ไว้ต้อนรับคนแปลกหน้านั่นแหละ ในห้องนอนก็จะมีห้องน้ำในตัวอีกห้องหนึ่ง เพื่อจะได้สะดวกต่อการทำความสะอาดร่างกายของเด็กดีหลาย ๆ คนที่มาเยือน
และเมื่อเสร็จกิจในห้องนี้ก็ออกจากห้องได้ง่ายเพราะประตูห้องนอนจะไม่ไกลจากรั้ว เหมาะกับการหมุนเวียนแขกได้อย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าบ้านหลังนี้ความตั้งใจแรกก็เพื่อนัดคนมามีเซ็กซ์กันนี่แหละ เจเดนสนุกไปกับความสัมพันธ์ชั่วคราวแบบนี้ แถมเซ็กซ์ก็เป็นเรื่องที่เขาชื่นชอบ รู้สึกผ่อนคลายไปกับมันทุกครั้งที่ได้ทำ หลังจากที่ต้องแบกรับความกดดันในชีวิตจริงหลายอย่าง การมีเซ็กซ์ก็เหมือนเป็นสิ่งเดียวที่ให้ความสุขกับเขาได้
อาจเพราะเป็นเจเดนในชีวิตจริงแล้วไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรนัก แต่พอสวมบทบาทเป็น KingsXXL แล้วกลับมีความสุขมากกว่า เขาชอบโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องกามารมณ์ที่สุดเพราะมันทำให้เขาผ่อนคลาย
เมื่อได้อยู่คนเดียวในบ้านแบบนี้เจเดนจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กความเคลื่อนไหวในแอ็กลับ ซึ่งคลิปที่เขาลงไปเมื่อช่วงสายฟีดแบ็กค่อนข้างน่าพอใจ มีคนคอมเมนต์ชื่นชมเยอะแยะมากมาย ชมทั้งฝ่ายรุกและฝ่ายรับ และมีอีกหลายคนที่ทักข้อความมาชื่นชมส่วนตัว หรือไม่ก็ชวนคุย บางคนก็ส่งรูปเรือนร่างมายั่วยวน แน่นอนว่าเจเดนกดดูทุกรูป คุยกับทุกคน
จากนั้นเขาก็ค้นรูปเก่าของตนเองที่ถ่ายส่วนสงวนกำลังแข็งตัว เลือกรูปที่ดูดีหน่อยโพสต์ลงอีกครั้งด้วยแคปชันว่า ‘เงี่ยxมาก ขอคนพร้อมเย็xสักคนมาหาหน่อย’
ในแอ็กลับนี้จะพูดเรื่องลามกด้วยถ้อยคำตรงไปตรงมาเสมอ แล้วมันก็จะดึงดูดคนที่มีความสนใจในเซ็กซ์มาเจอกัน คอยติดตาม คอยคอมเมนต์ ให้ความสนใจความเคลื่อนไหวของเขาอยู่เสมอ ครู่เดียวก็มีคนทักมาหาเขาเพื่อสนองความต้องการแล้ว
‘เอาคนนี้ดีกว่า จำได้ว่าเด็ด’
เขาเลือกตอบข้อความคนหนึ่งที่เคยมาที่นี่สองครั้ง เมื่อตกลงกันเรียบร้อยว่าจะมาในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า เขาก็โพสต์หน้าไทม์ไลน์ของตัวเองใหม่อีกครั้งว่าได้คนที่จะมาทำเรื่องอย่างว่าแล้ว ขอให้ทุกคนหยุดทักมา และรอดูคลิปได้เลย
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เขาจะได้ผ่อนคลาย...
เจเดนสวมหน้ากากครึ่งหน้าปิดช่วงตาเอาไว้อย่างเช่นทุกครั้ง ใช้พลาสเตอร์ปิดรอยสักเหนือไหปลาร้าด้านซ้ายไว้อย่างเคย เขาไม่ยอมเปิดเผยตัวตนซึ่งเป็นที่จดจำได้ง่ายออกมาเด็ดขาด ไม่ว่าคนตรงหน้าจะเคยมาแลกเปลี่ยนสัมผัสกันบนเตียงแห่งนี้กี่ครั้งก็ตาม
วันนี้ฝ่ายที่มาหาแสดงความต้องการชัดเจน เป็นฝ่ายเริ่มกระโจนหาเจ้าของห้องเองโดยไม่ต้องให้เขาร้องขอ ยิ่งเปิดเผยความต้องการแบบตรงไปตรงมาแบบนี้ เจเดนก็ยิ่งชอบใจ
“เด็กดี ใจร้อนจังเลยนะ”
“ผมไม่ได้ปลดปล่อยมาหลายวันแล้ว เป็นเกียรติจริง ๆ ที่ได้มาปลดปล่อยกับคุณคิงส์”
‘คิงส์’ กลายเป็นนามแฝงของเขาไปแล้ว คนในแอ็กลับเข้าใจว่าเขาชื่อนี้ คงบิดเบือนมาจากชื่อแอ็กที่ว่า KingsXXL
“ยินดีให้บริการนะ ถ้าทำดีเดี๋ยวผมเบิลให้สองน้ำเลย คุณขับรถมานี่ กลับค่ำหน่อยคงไม่มีปัญหา”
พูดจบ อีกฝ่ายก็ก้มลงใช้ปากให้เขาด้วยความเชี่ยวชาญ จังหวะดูดดุนและใช้ลิ้นเก่งเหลือเกิน ผ่านไปไม่กี่นาทีก็เร้าอารมณ์ของเจเดนให้ทะยานสูงขึ้น และเป็นเขาที่ต้องกระโจนฟัดคนตัวเล็กเพื่อระบายอารมณ์บ้าง
ใบหน้าหล่อซุกไซ้ซอกคอขาวก่อนใช้ไรฟันขบเบา ๆ ลากลงมาจนถึงไหปลาร้า สลับกับใช้ปลายลิ้นสัมผัสผิวเนียนเคลื่อนลงมาถึงยอดอก และวนเวียนทั้งอกซ้ายและอกขวาอยู่อย่างนั้นนานหลายนาที
“คุณคิงส์ ผมเตรียมตัวมาดีมาก ทำเลยได้ไหม ผมเงี่ยx”
“ได้ ผมก็เงี่ยx”
สีหน้าและแววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา เจเดนชอบคนที่กล้าพูดกล้าทำแบบนี้ที่สุด ชอบที่จะได้ยินอีกฝ่ายแสดงความต้องการออกมาอย่างชัดเจน พูดตรงไปตรงมาว่าอยากให้ทำอะไร ต้องการแบบไหน มันทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าเวลาได้พูดคำลามกแบบเต็มปากเต็มคำ
แกนกายใหญ่ที่ฝังมุกสองเม็ดถูกสวมทับด้วยถุงยางอนามัยขนาด XXL Large แบบบาง 0.001 มิลลิเมตร ความบางจะเพิ่มความรู้สึกในทุกสัมผัสได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเขาใช้แบบนี้มาโดยตลอด
จากนั้นเจลหล่อลื่นจำนวนหนึ่งก็ถูกบีบใส่ปลายนิ้ว เขานำไปชโลมที่ช่องทางด้านหลังให้อีกฝ่ายจนชุ่ม สอดนิ้วนำทางเข้าไปก่อนสองนิ้ว แล้วเปลี่ยนจากนิ้วเป็นแกนกายใหญ่แทนเมื่ออีกฝ่ายปรับตัวได้แล้ว
“อ๊า!! ฮู่ ใหญ่จัง ค่อย ๆ ขยับนะครับ”
“รูโคตรแน่น ตอดดีมากเลย”
“คุณคิงส์ชอบไหม ซี้ดดด เหมือนของผมจะต้อนรับของคุณดีมาก”
“ดีครับ ดีมาก ผมชอบรูฟิต ๆ แบบนี้แหละ”
เมื่อฝากฝังตัวตนเข้าไปได้จนสุดทาง เอวสอบจึงออกแรงขยับทันที เริ่มต้นด้วยความถี่และความเร็วตามคลื่นอารมณ์ที่สอดประสานกันเป็นหนึ่ง สองขาเรียวถูกกางออกกว้าง ดวงตาคมหลุบมองคนตรงหน้าที่ตัวเล็ก ผิวขาว เสียงหวาน ยิ่งมองก็ยิ่งมีอารมณ์
“อ๊ะ อื้อ เสียวมาก”
“ซี้ดดด ร้องดัง ๆ หน่อย”
เสียงครวญครางดังขึ้นกว่าเดิมอีกหน่อย ยิ่งเสียงดังเจเดนก็ยิ่งกระแทกแรงขึ้น ช่างเป็นกิจกรรมที่ร้อนแรงตั้งแต่เริ่ม
“มุกที่คุณฝังทำผมรู้สึกดีมากเลยครับ”
“เสียวมากเหรอ ข้างในตอดผมไม่หยุดเลย”
“ผมเสียว”
บทสนทนาที่ตรงไปตรงมาอย่างนี้เร้าอารมณ์มากขึ้นจนเจเดนโถมแรงกระหน่ำราวกับพายุคลั่ง เสียงเนินเนื้อดังลั่นห้องปะปนไปกับเสียงครางหวาน
ครู่ต่อมาพวกเขาก็เปลี่ยนท่าทางกันบ้าง โดยฝ่ายผู้มาเยือนเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมด้านบน ใช้ช่องทางด้านหลังครอบความใหญ่โตพร้อมกดสะโพกลงมา แล้วก็ยกสะโพกขึ้น ความต้องการที่สูงตั้งแต่แรกทำให้เขาขยับสะโพกถี่และเร็วไม่ต่างจากตอนที่เจเดนทำให้เมื่อครู่เลยสักนิด
‘เสียวฉิบหาย คนนี้เอวดีมาก’
เจ้าของห้องผงกหัวมองแล้วถึงกับต้องเอ่ยชื่นชมอยู่ในใจ มีความสัมพันธ์กับคนนี้สามครั้งก็ดีทั้งสามครั้ง ตามกฎแล้วครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย เจเดนจึงคิดว่าจะเบิลอีกสักยกหนึ่งเพื่อทิ้งทวน ก่อนจะจากลากันไปและผลัดเปลี่ยนเป็นคนอื่นมาแทน
แม้ทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาจะไม่ได้เก่งกาจเท่าคนนี้ก็ไม่นึกเสียดาย เพราะเรื่องบนเตียงสำหรับเขา มันใช้แค่ร่างกายไม่ต้องใช้ความรู้สึก ใครเข้ามาก็แค่มีเซ็กซ์กันแล้วจบ ถือว่าครั้งหนึ่งเคยมอบความสุขให้กันและกันก็เท่านั้นเอง
แต่มันก็มีอยู่คนหนึ่งที่ยังไม่ได้เรื่อง เทียบกับคนนี้ยังห่างชั้นกันอยู่มาก ถ้าคนที่เจเดนนึกถึงกลับมาที่นี่อีก เขาคงจะต้องติวเข้มให้เก่งได้สักครึ่งหนึ่งของคนนี้เสียแล้ว