หลังจากรภีย้ำเตือนเธอจบเขาก็ออกจากบ้านไป ทิ้งไว้แค่เธอคนเดียวที่ต้องเดียวดายอย่างที่เคยเป็นมาตลอด แต่เธอจะทำอะไรได้ เรียกร้องจากใครได้
สุดท้ายก็ต้องพาร่างกายอันหนักอึ้งของตัวเองขึ้นห้องนอนของเธอกับรภีมาอย่างล่องลอย และเมื่ออยู่ภายในห้องคนเดียวน้ำตาแห่งความเจ็บปวดก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ไหลออกมาประจานความพ่ายแพ้และเสียใจของเธอ
ครืด! ความเจ็บปวดยังไม่ทันได้ระบายออกมาดีด้วยซ้ำ เสียงโทรศัพท์ของหงส์หยกก็ดังขึ้นเรียกสติของเธอกลับมาสู่โลกความจริง โลกความจริงที่โหดร้ายกว่าโลกในภวังค์นั่นเสียอีก
และยิ่งเห็นว่าใครโทรมามันก็ยิ่งทำให้เธอหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา หัวเราะเพื่อเย้ยหยันความน่าสมเพชของตัวเอง
“ค่ะพ่อ” แต่สุดท้ายหงส์หยกก็กดรับสายอย่างเลี่ยงไม่ได้ สายที่ถ้าเธอไม่รับจะมีผลเสียตามมามากมาย
(คุยกับรภีหรือยัง!) เสียงเข้มดังขึ้นห้วนๆ บอกได้อย่างดีว่าไม่อยากคุยกับเธอ และใช่ ถ้าปลายสายไม่มีธุระสำคัญที่เป็นผลประโยชน์ของตัวเองก็ไม่มีทางโทรหาลูกสาวนอกคอกอย่างเธอ
“พี่ภียังไม่กลับบ้านค่ะ ไว้กลับมาแล้วหงส์จะลองคุยดูนะคะ” คำโกหกได้เอ่ยออกไปทันที เพราะถ้าไม่พูดแบบนี้ก็คงไม่พ้นคำด่าทอที่หยาบคาย
(อย่าทำให้ฉันต้องผิดหวังล่ะ ไม่งั้นแกรู้นะว่าจะเป็นยังไง!) เสียงเข้มขู่ออกมาก่อนจะตัดสายไป ตัดสายไปพร้อมกับความกลัวที่กัดกินภายในใจของเธอ
น้ำตาที่เคยเหือดแห้งไปก่อนหน้าไหลออกมาอีกครั้ง ไหลออกมาบอกตัวเองว่าตอนนี้เธอเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยจนไม่อยากรับรู้อะไร เหนื่อยจนอยากจะพักให้สบาย ซึ่งวิธีที่สบายที่สุดมันก็คงไม่พ้นความตาย
เธออยากตายวันละหลายสิบรอบ อยากตายเป็นหมื่นเป็นแสนครั้งได้ตั้งแต่โตจนรู้ความถึงตอนนี้อายุยี่สิบห้าปี อยากตายจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็ว่าได้ แต่ความตายมันยังยากไปสำหรับเธอเลย เพราะถ้าเธอตายไป แม่ของเธอจะอยู่ยังไง
กลางดึกรภีกลับบ้านมาพร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอล์หึ่งไปทั้งตัว แม้ว่าเขาจะเข้าไปจัดการธุระส่วนตัวแล้วแต่ก็ยังมีกลิ่นจางๆ ให้คนนอนข้างๆ อย่างหงส์หยกได้กลิ่นมัน
นอกจากทะเบียนสมรสนี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าเธอกับรภีเป็นสามีภรรยากัน การนอนร่วมห้องแบบนี้นั่นเอง แม้จะเป็นคำสั่งของผู้เป็นปู่ของรภี แต่อย่างน้อยมันก็เป็นอีกหนึ่งความสุขของหงส์หยก
“พี่ภี” หงส์หยกที่รู้ว่ารภียังไม่หลับเพราะพึ่งล้มตัวนอนก็เรียกเขาขึ้นเพื่อจะพูดคุยบางอย่าง
“.....” รภียังคงนอนเงียบไม่ได้ตอบรับอะไร แต่เขาก็ได้ยินทุกอย่างเพราะยังไม่หลับ
“พอดี พ่อหงส์มีโครงการใหม่เกี่ยวกับศูนย์การค้า...”
“หุบปากไปซะ!” รภีที่รู้ว่าหงส์หยกจะพูดอะไรก็แทรกขึ้นทันที
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หงส์หยกมาขอให้เขาช่วยลงทุนกับธุรกิจครอบครัวเธอ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะโครงการเล็กกลาง หงส์หยกก็มาขอให้เขาร่วมลงทุนกับครอบครัวเธอตลอด แน่นอนว่ารภีไม่เคยคิดจะร่วมลงทุนกับครอบครัวเธอแม้แต่น้อย แต่สุดท้ายเขาก็ต้องทำตามคำสั่งของผู้เป็นปู่
เพียงแต่ครอบครัวนั้นได้คืบจะเอาศอกจริงๆ จากตอนแรกเริ่มขอความร่วมมือจากเขาในโครงการเล็กๆ พอได้ในสิ่งที่ต้องการก็เพิ่มขนาดของโครงการใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงตอนนี้ถึงขั้นจะมาให้เขาร่วมลงทุนศูนย์การค้าเลยอย่างนั้นเหรอ การลงทุนสร้างศูนย์การค้าใช้เงินหลักพันเลยนะ คิดว่าเขาจะยอมให้ครอบครัวนั้นถลุงเงินขนาดนี้ไปเล่นง่ายๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ
“พี่ภีดูรายละเอียดก่อนก็ได้นะคะ พ่อหงส์ร่างโครงการให้พี่ภีดูด้วย” หงส์หยกรีบพูดและลุกขึ้นเปิดโคมไฟลุกไปหยิบกระดาษที่พ่อเธอให้ติดมือมาในกระเป๋ามายื่นให้รภีได้อ่านรายละเอียดต่างๆ ก่อน
แต่...
แคว่ก! แคว่ก!
รภีที่หยิบมันไปจากมือของหงส์หยกก็ฉีกมันทิ้งโดยไม่แม้แต่จะอ่านอะไรในกระดาษหลายแผ่นที่เย็บติดกันมาแม้แต่ตัวเดียวพร้อมกับโยนเศษกระดาษในมือใส่หน้าหงส์หยกอย่างไม่แยแส
“ฉันพึ่งแน่ใจวันนี้แหละ ว่าความโลภของเธอมันได้มาจากสายเลือดจริงๆ” รภีพูดจบก็ลุกจากเตียงและเดินออกจากห้องนอนของเขาไปนอนห้องรับแขกทันที เพราะตอนนี้ปู่เขาไม่อยู่เลยไม่ใช่ปัญหาในการแยกห้องกันนอนกับหงส์หยกแบบนี้
“.....” หงส์หยกมองเศษกระดาษที่กระทบหน้าเธอก่อนหน้านี้และตกอยู่บนตักบนเตียงด้วยรอยยิ้มเวทนาตัวเอง
เธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมรภีถึงได้โกรธเธอขนาดนี้ ธุรกิจครอบครัวเธอที่ทำมาตั้งแต่รุ่นปู่ก็คือการเปิดตลาดให้เช่า ซึ่งตอนแรกก็มีแค่ตลาดสดสองแห่งเท่านั้น
แต่หลังจากเธอแต่งงานกับรภีครอบครัวเธอก็ผุดโครงการใหม่ๆ มาเรื่อยๆ จากตลาดสดสองแห่ง ก็เพิ่มตลาดติดแอร์จนตอนนี้เจาะเข้าตามพื้นที่ต่างๆ ที่มีความเจริญภายในสองปีก็จนเกือบครบสิบที่ได้ ด้วยงบที่มากกว่าตามมาด้วยความสะอาด ความครบครันในที่เดียว ความสะดวกในการเดินทางและที่จอดรถ นั่นจึงสามารถแข่งกับตลอดเก่าแก่ได้อย่างง่ายดาย แต่ทั้งหมดนี้ก็ได้ทุนมาจากรภีทั้งนั้น
แต่ตอนนี้ครอบครัวของเธอกำลังเล่นใหญ่เกินไป กำลังทำอะไรเกินกำลังและเกินความสามารถถึงขั้นจะสร้างศูนย์การค้าที่ต้องใช้งบเป็นพันๆ ล้านหรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งเธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ที่รภีจะตอบตกลง แต่หน้าที่ของเธอก็คือการทำให้รภีตกลงให้ได้ นั่นจึงทำให้เธอดึงดันต้องมาพูดเรื่องนี้กับเขาอีกแบบนี้
แต่สุดท้าย ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างจากที่คิดไว้