ตอนที่ 11

1403 คำ
ผมถอนจูบออกอย่างน่าเสียดายแต่ก็ยังจ้องมองริมฝีปากเล็กที่บวมแดงเพราะฝีมือตัวเอง เธอเขินอายหลบสายตา มือผมยังกอบกุมหน้าอกอวบอิ่มที่ล้นมือ คลึงมันเล่นไปมาเบาๆ “จะไปกินข้าวหรือ กินอย่างอื่น” ผมถามออกไปเป็นนัยย์ “ปะ ปล่อยได้แล้วค่ะ” “ขออีกนิดได้ไหม” ผมพูดเสียงแหบแห้งข้างใบหูเล็ก ใจจริงผมอยากถอดเสื้อของเธอทิ้งไปซะ อยากเห็นว่ามันจะสวยแค่ไหน แค่จับยังรู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่มแต่ก็มีความตั้งเต้าสวยงามแค่มองผ่านเสื้อสายเดียว “ไม่ค่ะ ปล่อยนะ คุณทำมากเกินไปแล้วนะ” เธอบ่นผมอีกครั้ง ผมไม่เคยอดทนใครขนาดนี้เลยจริงๆ ผมยังคงจับหน้าอกเธอแล้วคลึงเล่นก่อนที่จะสะกิดเข้าที่ยอดถันของเธอ “อ๊า อื้ม พอแล้ว ฉันจะไปกินข้าวกับคุณ” “ก็แค่นั้น” ก่อนปล่อยผมออกแรงมือเคล้นคลึงหนักมือไปที ก่อนปล่อยเธอให้เป็นอิสระ น่าเสียดาย!! ทำไมกูต้องมากดดันเรื่องแบบนี้ด้วย รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั้น “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้เวลา สิบนาที” ผมเดินออกมาจากห้องนอนของเธอ เพื่อตัดอารมณ์ที่กำลังก่อตัวขึ้น รอไม่นานคริสก็เดินออกมาจากห้อง เธอสวมชุดเดรสสายเดี่ยวกระโปรงยาวเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย “เสร็จแล้วค่ะ” เธอพูดขึ้น ผมเดินเข้าไปดึงมือเธอเดินออกจากห้อง เธอมีท่าทีขืนตัวเล็กน้อย แต่เมื่อเจอสายตาของผมเธอก็เดินตามมาอย่างว่าง่าย ผมขอแวะที่ห้องก่อนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอนั่งนิ่งรอผมในห้องรับแขกโดยไม่พูดอะไร ก่อนผมจะเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันมองไปรอบบริเวณห้องของเขา มันก็ไม่มีอะไรมาก เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างเป็นสีเทาไม่ก็ดำ ผู้ชายส่วนใหญ่เขาแต่งห้องกันแบบนี้เหรอ แตกต่างจากห้องของฉันลิบลับ ห้องครัวของเขาไม่ใหญ่มาก แต่ทุกอย่างดูลงตัว ฉันมองสำรวจห้องของเขาเพลินจนได้ยินเสียงเปิดประตูห้องออกมา เรสอยู่ในชุดกางเกงยีนขายาวขาดๆ สีดำ กับเสื้อยืดคอวีแขนสั้นสีขาว ยอมรับว่าเขาเป็นคนหล่อ ฉันจ้องเขาตาไม่กะพริบ จนเขาเดินเข้ามาใกล้ได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ จากตัวของเขา “จะกินอะไร” เขาเดินไปหยิบลูกกุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะข้างชั้นวางรองเท้าใกล้ประตูทางเข้า “อะไรก็ได้ค่ะ” ฉันตอบพร้อมลุกขึ้นเดินตาม เขาไม่ตอบอะไร เราสองคนลงมายังด้านล่าง เขาเดินไปที่รถสปอร์ตสีดำที่จอดอยู่ไม่ไกลจากหน้าลิฟต์ ก่อนที่เรสจะเปิดประตูให้ฉันขึ้นไปนั่งคู่กับคนขับ “มีอะไรที่อยากกินเป็นพิเศษไหม” เรสถามขึ้นในขณะที่กำลังขับรถอยู่ “ไม่ค่ะ” “ห้ามมาบ่นทีหลังแล้วกัน” “ค่ะ” “พรุ่งนี้ไปไหนไหม” เขาถามต่อ “ไม่ค่ะ” ฉันตอบเขาเสียงเบา “อืม ตอนนี้หิวไหม” “ไม่ค่ะ” “อืม” อะไรของเขาเนี่ย ฉันมองหน้าเขาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนเขาจะจดจ่ออยู่กับการขับรถ สองข้างทางเริ่มมืดสนิท เขาพาฉันขับรถมานานจะเข้าสองชั่วโมงแล้ว จะถามดีไหม เขากำลังพาฉันไปไหน คงไม่พาไปฆ่าทิ้งหรอกนะ ฉันถอนหายใจหนักออกมา “มีอะไรพูดมา” เขาถามขึ้นก่อนเลี้ยวรถเข้าจอดในปั๊มพร้อมเติมน้ำมัน “เรากำลังจะไปไหนคะ” “ไปถึงก็รู้เอง ลงไปเข้าห้องน้ำหน่อยไหม กว่าจะถึง เดี๋ยววิ่งขึ้นทางด่วนไม่มีห้องน้ำให้เข้านะ” “ค่ะ” ฉันตอบรับคำของเขาอีกครั้ง ก่อนเปิดประตูรถเดินลงไปเข้าห้องน้ำ ไม่ลืมหยิบกระเป๋าติดมือไปด้วย “เดี๋ยวจะเอากระเป๋าไปด้วยทำไม หรือคิดจะหนี” เหมือนเขารู้ความคิดของฉัน แต่จะให้หนียังไง รถโดยสารหรือแท็กซี่ซักคันก็ไม่มีวิ่งผ่าน “เปล่าค่ะ” ฉันเปลี่ยนมาหยิบเอาโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย อย่างน้อยก็ขอส่งข้อความบอกเพื่อนหน่อย เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้มีคนรู้ว่าอยู่ที่ไหน เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จฉันเดินตรงมาที่รถในทันที หน้าห้องน้ำมีแก๊งมอร์ไซต์นั่งรวมตัวกันอยู่พร้อมมองมาที่ฉันผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพร้อมร้อยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์เหมือนหมาป่าเจอเหยื่อ “หวัดดีน้องสาว ขอเบอร์ได้ไหม พี่ชอบน้องอยากทำความรู้จัก” เด็กหนุ่มหนึ่งในกลุ่มเดินเข้ามาดักหน้าของฉัน พร้อมยื่นโทรศัพท์ของเขาส่งมาให้ฉัน “ว่าไงครับ พี่ขอเบอร์หน่อย” “ขอโทษค่ะ ฉันมีแฟนแล้ว” “ไม่เอาน่า แค่ขอเบอร์โทรเองอย่าทำเป็นเล่นตัวหน่อยเลย” “มีอะไรกับแฟนฉัน” เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น เรสมายืนอยู่ด้านหลังของฉันตอนไหนไม่รู้ รู้เพียงตอนนี้เขากำลังกอดเอวของฉันเอาไว้ นี่เป็นความรู้สึกครั้งแรกที่ไม่อยากให้เขาปล่อยมือ “ไปเถอะ เดี๋ยวถึงดึก” เขาว่าแล้วก็พาฉันออกเดินมาที่รถทันที ฉันเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย ส่วนผู้ชายคนนั้น เดินกลับเข้ากลุ่ม แต่ก็ยังได้ยินเสียงดังที่แซวฉันไหล่หลังตามมา ประตูรถถูกเปิดออกด้วยมือของผม ตอนนี้ผมอารมณ์เสียมากๆ ผมยืนดูเธอกับผู้ชายคนนั้นชั่วครู่ แค่ได้ยินเธอพูดว่ามีแฟนแล้ว ขาของผมก็ก้าวยาว มือโอบรอบเอวเธอพร้อมดึงเข้าหาตัวเองแสดงความเป็นเจ้าของ ก่อนส่งสายตาอาฆาตให้กับผู้ชายตรงหน้า เป็นเชิงบอก “คนนี้ของกู มึงอย่างยุ่ง!! ไม่งั้นศพไม่สวย” “ล็อกรถด้วย” ผมบอกเธอ ก่อนเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ผมเดินเลือกซื้อของมามากมาย ทั้งของใช้ส่วนตัว เพราะคืนนี้เราจะค้างคืนข้างนอก แต่เธอคงไม่รู้ แต่ก็ช่างผมไม่สนใจ จะว่าผมเอาแต่ใจก็ได้นะ เพราะมันก็จริงไม่ปฏิเสธ เมื่อซื้อของเสร็จก็เดินกลับไปที่รถ จะเปิดประตูรถ รถเสือกล็อกอีก ไอ้คนที่นั่งอยู่ด้านในต้องแกล้งผมแน่ ผมจึงเคาะกระจกรถอยู่เป็นนาน กว่าเธอจะเปิด ยัง!! ยัง!! มาตีหน้าเฉยใส่ผมอีก “ทำไมไม่เปิดประตูรถ” “ใครบอกให้ล็อกรถคะ บอกให้ล็อกไม่ได้บอกให้เปิด” “หึ” กูไม่น่ามาเจอมุกบ้าบออะไรแบบนี้เลย พูดตรง!! “ให้ทำตามที่ฉันพูดทุกครั้งแล้วกัน” ผมวางถุงลงบนหน้าตักของเธอ คริสทำสีหน้าแปลกใจก่อนที่จะมองถุงสีขาวตรงหน้า “อะไรคะ ทำไมเยอะแยะมากมายแบบนี้คะ” “เผื่อหิว คืนนี้เราคงไม่ได้ทานข้าวกันแล้วล่ะ เอาไว้พรุ่งนี้จะชดเชยให้แล้วกัน” ผมพูดแค่นั้นเธอก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ คริสดีอย่างหนึ่งที่เธอไม่ถามอะไรมากมาย อยู่ด้วยแล้วไม่อึดอัด เธอไม่มีมารยาเหมือนผู้หญิงที่ผมเคยคบ แต่บางครั้งผมก็อยากให้เธอใช้มารยาหญิงกับผมซะงั้น ผมปรายตามองเธอเล็กน้อยก่อนขับรถมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทาง ติ่ง ติ่ง เสียงข้อความโทรศัพท์ ดังขึ้น ทำให้คริสหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมาเปิดอ่าน ทันทีที่เธออ่านข้อความนั้นสีหน้าของเธอก็ดูหม่นหมอง ดวงตาฉายแววเศร้า เธออ่านข้อความอยู่น่าน ก่อนที่จะเก็บมันเอาไว้ที่เดิม “มีอะไรหรือเปล่า” ผมถามเธอทันที ก็คนมันอดห่วงไม่ได้ “เปล่าค่ะ” “สีหน้าดูไม่ดี มีปัญหาอะไรหรือเปล่า บอกได้นะ” “ไม่มีหรอกค่ะ” ผมปรายตามองหน้าเธอเล็กน้อยบทสนทนาก็จบลงเพียงเท่านี้ ผมหันมาสนใจถนนเบื้องหน้าที่ตอนนี้ความมืดได้เข้ามายึดเอาแสงสว่างของพระอาทิตย์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม