“ขิง ๆ เบา ๆ”
“ม่าย~ เอามาให้หมดร้านเลย! เหล้าจ๋า~ มาหาขิงเร้ว~”
“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจของเพื่อนคนไหนดังลั่นร้านน้ำขิงคนนี้ไม่คิดจะแคร์ ตอนนี้แคร์แค่หัวใจตัวเองที่แหลกสลายเป็นฝุ่นแห้ง ๆ ในฤดูหนาวที่โคตรจะแล้งเท่านั้น
“เมิง~”
“เออ มีไรอีก พล่ามมา”
“โอกหัก! โร้ดชาติเหมือนน้ามล้างตีนเลยว่ะ!”
“ฮ่า ๆ ๆ อีบ้า”
“รสชาติแย่ฉิบหาย! เอาหล้าวมา! เอามาล้างน้ามล้างตีนในคอกูที~”
“เฮ้อ! คืนนี้คืนเดียวนะมึง คืนหลังห้ามเมานะขิง”
“เออ~ เอิ๊ก~ ให้กูแดกเถอะเพื่อนร้าก~ แดกให้ตายไปเลย ดื่มนี้เพื่อลืมไอ้ไทน์!”
-วันต่อมา-
“อื้อ~” เมื่อยจัง
เมื่อยไปหมดทั้งตัว ยิ่งบิดขี้เกียจก็ยิ่งเมื่อย แต่พอเริ่มรู้สึกตัวมากขึ้นก็เริ่มลังเลว่าตกลงฉันแค่ปวดเมื่อยหรือร่างกายระบมกันแน่
“ฮ้าว~ ซี๊ด~” ทำไมมันปวดไปทั้งร่างแบบนี้วะ
“ตื่นแล้วเหรอ?”
“...” เสียงบุคคลที่สองดังขึ้นทำให้ฉันที่กำลังบิดขี้เกียจอยู่ค้างไปเลย ค้างทุกท่าที่กำลังบิดเพราะมันเป็นเสียง...ผู้ชาย
บ้าน่ะ! นี่มันไม่ใช่นิยายรักที่นางเอกอกหักเพราะไปสารภาพรักเพื่อนสนิทแต่เขาไม่รับรักเลยอกหักไปซัดเหล้าทั้งกลมจนเมาเป็นหมาแล้วตัดภาพมาตอนเช้าที่นอนเปลือยอยู่บนเตียงกับผู้ชายหล่อ ๆ แบด ๆ หรอกนะ
ไม่เอานะฉันไม่อยากเป็นนางเอก! ฉันอยากเป็นแค่น้ำขิงคนธรรมดาที่ได้รับความรักจากไทน์ก็แค่นั้นเอง
“ขิง”
“...” รู้จักฉันเหรอ? เขาเป็นใคร? เขาเป็นใครทำไมรู้จักชื่อฉัน เขาเป็นใครทำไมเสียงคุ้น ๆ เหมือนได้ยินเกือบทุกวัน และที่สำคัญฉันเป็นอะไรเอาแต่สงสัยแต่ทำไมไม่ลืมตา!
พรึ่บ!
บอกตัวเองจบน้ำขิงคนนี้ก็ลืมตาพรึ่บ! ทันที
“ไง...ที่รัก”
“...เกรย์~”
“ฮึ ๆ ๆ นึกว่าจะอึ้งจนจำชื่อไม่ได้” เขาหัวเราะเบา ๆ ท่าทางอารมณ์ดีเหมาะกับสภาพเขาที่นั่งพิงหัวเตียงโชว์แผงอกล่ำ ๆ กับซิกแพคครึ่งหนึ่งเพราะอีกครึ่งอยู่ใต้ผ้าห่มเป็นบ้า
...ใต้ผ้าห่ม?
“...กรี๊ด!!!”
“ฮึ ๆ ๆ” ฉันกรี๊ดเพราะฉันก็นอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มไงแล้วมันก็เป็นผืนเดียวกันกับผ้าห่มของเขาด้วย! แต่ทั้งที่กรี๊ดจนลั่นเขากลับแค่หัวเราะแผ่วเบาในลำคอ
ก๊อก ๆ ๆ
“ไอ้เหี้ยเกรย์! มึงเอาผู้หญิงมาข่มขืนรึไง!”
“...” !!! จากที่กรี๊ดจนคอแทบแตกพอประตูห้องถูกเคาะรัวแรงแล้วก็มีเสียงตะโกนถามจากข้างนอกเข้ามาปากฉันก็หุบทันที
ปากหุบแล้วใจก็เต้นแรงแทนอย่างกับโดนสับสวิตช์
“เปล่า” ไอ้คนที่อยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับฉันตอบคนข้างนอกแต่ฉันว่าไม่ใช่นะ สภาพฉันตอนนี้ฉันว่าฉันโดนข่มขืน!
“แล้วผู้หญิงในห้องมึงกรี๊ดทำห่าอะไร! เบา ๆ หน่อยสิวะกูจะนอน!”
“เออ ๆ เดี๋ยวเบาโว้ย” เกรย์ตอบกลับไปแล้วหันมายิ้มให้ฉันที่ตอนนี้กำลังทำอะไรไม่ถูกนอกจากนอนมองหน้าเขาแล้วพยายามหลอกตัวเอง เอ้ย! บอกตัวเองว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงต่างหากล่ะ
“นอนต่อไหม?”
“นาย...ทำอะไรฉัน” เขาทำอะไรและฉันมาอยู่ในห้องเขาได้ยังไง
“เธอคิดว่าไง” เกรย์ถามด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีไม่ได้ดูสะทกสะท้านอะไรที่เอาเพื่อนมานอนร่วมเตียงในสภาพนี้เลยสักนิด
คือกูก็เข้าใจว่ามึงฟันผู้หญิงแบบไม่สานความสัมพันธ์ต่อมาเยอะแต่กูก็ไม่คิดไงว่ามึงจะลากเพื่อนที่เมามาฟันไงกูเลยไม่กล้าคิด T^T
“นายทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงเกรย์”
“ไม่เห็นต้องถาม คนเมากับคนเมาจะให้ทำยังไง”
“...”
“เอาน่า~ เรื่องมันผ่านมาแล้วย้อนเวลาไม่ได้”
“...”
เพี้ยะ!
ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วฟาดมือลงไปที่หน้าหล่อแต่ดูร้ายตลอดเวลาของเพื่อนร่วมคณะและที่สำคัญเขาเป็นเพื่อนสนิทของผู้ชายที่ฉันแอบชอบมาเทอมกว่า ๆ ด้วยความโกรธ
เขาลากฉันที่เมาจนภาพตัดมาที่ห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไหนจะท่าทางไม่สำนึกอะไรของเขาอีก มันทำให้ฉันโกรธมากจนตบเขาจนหน้าหัน
“พูดจาเหี้ย ๆ แบบนี้ได้ไงวะ...ฉันเพื่อนนายนะเกรย์”
“...ขอโทษ”
ฉันจ้องหน้าเกรย์ที่หันกลับมาช้า ๆ แล้วขอโทษเบา ๆ แต่คำพูดห่วยแตกแบบนี้เก็บไปเถอะไม่ต้องการ
“อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด” ฉันรู้ว่าเขาไม่ผูกมัดหรอกแต่ที่บอกเพราะกลัวเขาเอาไปอวดกันในหมู่ผู้ชายหมา ๆ ที่ได้ฟันใครก็เอาไปพูดโชว์เพาเวอร์ต่างหาก
“ไม่มีใครรู้หรอกไม่ต้องห่วง”
“ดี ขอให้เป็นอย่างที่พูดก็แล้วกัน!” ฉันพูดจบก็รวบผ้าห่มลุกขึ้นโดยที่ไม่สนว่าเขาจะอยู่ในสภาพไหนขอแค่ฉันไม่โป๊และฉันไม่มองเขามันก็จบจากนั้นก็รีบพาตัวเองเดินทุลักทุเลไปที่ห้องน้ำทันที
“ขิง” ก่อนที่ฉันจะเข้าไปในห้องน้ำเสียงไอ้เพื่อนชั่วก็เรียกฉันขึ้น
“มีห่าอะไรอีก” ฉันแทบจะไม่หยาบกับเพื่อนคนไหนเลยนะแต่วันนี้ไม่ไหว
“...คบกันไหม”