"ฮันนี่..บอกซิว่าต้องการผม" ฉันถูกเขาจู่โจมหนักจากที่คิดว่าตนเองนั้นแข็งแกร่งแต่แล้วก็ต้องพ่ายแพ้กับชั้นเชิงที่เจนจัดของเขา อยากจะหลีกหนีความปั่นป่วนทั้งร่างกายร้อนผ่าวจนถึงหน้าท้อง
"บอกผมมาว่าฮันนี่ต้องการ"
ไซรัสพ่นลมหายใจอุ่นร้อนรดต้นคอ ใช้คางสากถูไถที่ซอกคอเบาๆ
มือเขาก็เลื่อนลูบไล้สัมผัสผิวบางไปทั่วร่างกาย กระโปรงยาวแค่เข่าร่นจนถึงเอว
ดีที่มีกางเกงขาสั้นอยู่ด้านในไม่อย่างนั้นมือหนาคงสัมผัสไปถึงไหนต่อไหน
"ไม่....ซันนี่ไม่"
แม้ว่าจะเคลิ้มกับรสจูบและสัมผัสนั้นแค่ไหนฉันก็ยังไม่พร้อมเรื่องแบบนั้นตอนนี้
ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก... คุณซันนี่ คุณซันนี่คะ
เสียงเคาะประตูด้านนอกเรียกทั้งสองให้ตื่นจากความรัญจวน
เขารีบผละจากร่างบางช่วยนางเอกสาวดูแลความเรียบร้อยของเสื้อผ้า
ชุดเดรสเว้าหลังคอวีลายดอกไม้สีฟ้าขาวเห็นผิวขาวเนียนตาเขามองจนน้ำลายแทบหก
จากที่ได้สัมผัสเมื่อสักครู่เขาก็ไม่อยากปล่อยมือจากแผ่นหลังนั้นอีก
"ค่ะ....รอแพรบค่ะ"
แอ๊ด..เมื่อซันนี่เปิดประตูก็พบกับผู้ช่วยผู้กำกับสาวยืนยิ้มอยู่หน้าประตู
"คุณซันนี่คะ ผู้กำกับเชนให้มาตามค่ะ"
"ค่ะ...ค่ะ ได้ค่ะ เดี๋ยวซันนี่ตามไปนะคะ"
"เขามาตามแล้วเหรอ ผมไปด้วยเราไปพร้อมกัน"
ฉันลังเลนิดหน่อยคว้ากระเป๋าสะพายกำลังจะบอกเขาให้ตามไปทีหลังก็ไม่ทันเสียแล้ว
มือหนายื่นมาเกาะกุมมือเล็กแล้วเดินไปด้วยกันอย่างเปิดเผย
เขาอยากประกาศให้โลกรู้ว่าผู้หญิงคนนี้...เขารักและหวงมาก
@ ชายหาดงานปาร์ตี้
บริเวณชายหาดหน้ารีสอร์ตใกล้กับที่พักถูกใช้เป็นสถานที่จัดปาร์ตี้สำหรับคืนนี้
และอีกหลายคืนที่นี่ มีอาหารทะเลปิ้งย่างวางเต็มเตาย่างส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกล
เครื่องดื่มน้ำเมาก็มีให้เลือกแล้วแต่จะชอบ
ทีมงานและดาราท่านอื่นกว่า 30 ชีวิตมองมาทางฉันกับคุณไซรัสเป็นตาเดียวกัน
ผู้กำกับก็อีกคนที่กำลังจิบไวน์เมื่อมองมาแล้วก็ต้องชะงักขยับแว่นเล็กน้อยแล้วพูดว่า
"คุณไซรัส"
"หวัดดีครับผู้กำกับเชน"
ไซรัสทักอย่างเป็นกันเองอันที่จริงพวกเขารู้จักกันมานานมากน้อยคนนักที่จะรู้
ฉันทำตัวไม่ค่อยจะถูกทั้งที่เคยเป็นสาวมั่นมาตลอดเมื่อเขาไม่ยอมปล่อยมือแล้วยังทำตัวเหมือนเป็นคู่รักที่รักกันมากมายเขาขยับเก้าอี้ให้นั่งข้างเขาฉันจึงต้องนั่งลงทั้งที่อยากจะไปโต๊ะเดียวกับนักแสดงท่านอื่น
พอได้นั่งลงเขาก็วาดแขนโอบไว้หลวมๆแสดงความเป็นเจ้าของในทันที จนผู้กำกับขยิบตาล้อเลียน
"คุณไซรัส คุณมาถึงที่นี่ได้ยังไงเนี่ย"
"ความรักว่ะเพื่อน ความรักพามา"
ฉันฟังแล้วอยากจะอ้วกเขาช่างพูดออกมาได้ไม่อายปาก
เรื่องข่าวฉาวฉันไม่ค่อยซีเรียสแต่พอได้มาอยู่ท่ามกลางผู้ชายสี่ห้าคนแบบนี้ก็รู้สึกเขินอยู่เหมือนกัน
พอเขาได้ที่ก็สั่งเครื่องดื่มทันที "เอาเข้มๆ"
จากนั้นแก้วเหล้าของเขาก็ไม่เคยพร่องไม่เคยพอจนตาหวานเชื่อมมือไม้ไต่เป็นปลาหมึกยุบยับ
"ซันนี่ไปย่างปลาหมึกก่อนนะคะ"
"ผมไปด้วย.."
"ซันนี่เอามาให้ค่ะ
คุณอยู่กับผู้กำกับเถอะค่ะ"
ฉันรีบปลีกตัวออกมารู้สึกอึดอัดอยู่บ้างเหมือนกันอยากเม้าท์มอยกับผู้หญิงบ้าง
"ผมช่วย"
"อ้าว....คุณตรี เอาอะไรคะ"
"ผมจะเอาปูกับกุ้ง"
"น่าสนปูนะคะตัวใหญ่กล้ามโตเชียวค่ะ"
"มาผมทุบให้"
ขณะที่ฉันกับคุณตรีกำลังปิ้งหมึกกับปูตัวโตคุยกำลังถูกคอ
โดยไม่ทันได้ระวังตัวเงยหน้าไปพบกับสายตาอำมหิตของคุณไซรัสมองมา
"อุ๊ย!....." ฉันสะดุ้งโหยงไม่ได้กลัวแต่ตกใจแล้วทำทีไม่สนใจคุยกับพระเอกสุดหล่อของฉันต่อ
พอได้หมึกกับปูตัวโตและกุ้งก้ามกรามเต็มจานฉันก็แยกย้ายกับคุณตรีระหว่างที่กำลังจะถึงโต๊ะ
สายตาก็เหลือบไปเห็นคุณกุ๊กไก่นางร้ายสาวสวยทำสายตาหวานเชื่อมไปทางคุณไซรัส บางครั้งบางคราคุณไซรัสก็ทำสายตาแบบที่ฉันรู้ว่าเขา
"ยังไม่ทิ้งลายเสือ"
ส่วนนางร้ายหน้าสวยก็ไม่แปลกใจที่ซันนี่มาพร้อมกับเขา
ข่าวกอสซิปก็คงจะใช่เรื่องจริงสินะ...แต่เธอไม่แคร์ใครจะสนในเมื่อเขาทั้งหล่อทั้งรวยงานดีแบบนี้เธอชอบถ้าได้กินสักครั้งชาตินี้ก็ไม่เสียชาติเกิด
อาศัยจังหวะที่เขากวาดตาไปรอบๆ
จนมาหยุดที่เธอเหมือนมีกระแสไฟขั้วลบและขั้วบวกสปาร์คกันอย่างจังยามที่เธอสบตากับเขา
ใจมันหวิวเสียวท้องน้อยบอกไม่ถูก ....เขามันคาสโนว่าตัวพ่อขนาดมีซันนี่อยู่ทั้งคนเขายังสบตากับเธอจนร้อนวูบวาบไปทั้งร่างกาย
ฉันเป็นคนซาดิสม์ชอบดูซีรีส์ปีนต้นงิ้วเป็นที่สุด
จริตส่วนตัวของฉันแบบนี้แหละจึงได้ยืนมองสองคนนี้สื่อสารกันจนพอใจ
"หมึกมาแล้วค่ะ....คุณไซรัส"
"ครับ..ขอบคุณครับ"
"ไวน์หน่อยไหมฮันนี่"
"ดีเหมือนกันค่ะ...."
ความเป็นสุภาพบุรุษของเขาที่คอยเทคแคร์นั้นเกือบทำให้ตัวลอย
หลงไปกับท่าทีเสแสร้งนั้น
ฉันจึงดื่มไวน์ไปหลายแก้วพอให้ได้กับบรรยากาศเริ่มคุยสนุกขึ้นแต่ก็ทันได้เห็นสายตาแบบนั้นของทั้งสองคนตลอดเวลา
เมื่อฉันกินข้าวอิ่มแล้วหนังตาเริ่มหย่อนจึงขอตัวกลับห้องจะดีกว่า
"ผู้กำกับคะซันนี่ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ"
"ผมไปส่ง"
"ไม่เป็นไรค่ะ...ซันนี่เดินกลับเองได้สบายมากค่ะ
คุณไซรัสอยู่สนุกต่อเถอะค่ะ"
"อ้าว..ซันนี่กลับแล้วเหรอคะกำลังสนุกเลย"
"ซันนี่ต้องนอนตามเวลาค่ะ...ตื่นเช้ามาจะได้สวยเลย"
"อ้อ...เป็นแบบนี้นี่เองนะคะ"
"ซันนี่ไปแล้วกุ๊กไก่ขอนั่งแทนละกันนะคะ"
"ได้ค่ะ...ตามสบายซันนี่ไม่ถือค่ะ"
แวบแรกฉันเห็นคุณไซรัสเหมือนจะตามฉันมาแต่ผู้กำกับเชนติดลมซะ แล้วผู้ชายพวกนี้เป็นคนจำพวกขี้เกรงใจไซรัสเขาถูกจับขาเขาเอาไว้
"นั่งกินด้วยกันก่อน ซันนี่เขาไปได้"
"บายนะคะ"
ฉันโบกมือลาในใจคิดได้ว่า
ถ้าเขาผ่านคืนนี้ไปได้ไม่โดนกุ๊กไก่กินตับถือว่าเขาเก่งเขาทำได้ตามที่ได้เคยพูดไว้
ขณะที่ฉันเดินกลับห้องพักก็ได้ยินเสียงคุยสนุกสนานดังแว่วมาหนึ่งในนั้นคุณกุ๊กไก่ก็ร่วมวงด้วย
เช้าวันรุ่งขึ้น
เช้านี้อากาศสดชื่นมากฉันตื่นแต่ตี5.วิ่งจ๊อกกิ้งริมหาดพอให้ได้เหงื่อจึงกลับห้องพัก
ในใจลังเลว่าจะแวะไปทักทายเขาก่อนดีหรือไม่ แต่แล้วเหมือนมีอะไรดึงดูดให้ต้องแวะ
ปิ๊งป่อง......ปิ๊งป่อง.....ปิ๊งป่อง....
แอ๊ด....ประตูเปิดออกกว้างพร้อมกับร่างใหญ่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอว
"ฮันนี่คิดถึงผมแต่เช้าเลย"
ฉันแอบมองไปด้านในห้องแต่ก็ไม่มีชีวิตสิ่งอื่นนอกจากเขา
"เอ่อ..พอดีผ่านมาค่ะ...ซันนี่ไปก่อนนะคะ"
ฉันเห็นเขายิ้มเผล่ยืนอวดกล้ามอวดซิกแพคทำหน้าหล่ออยู่แบบนั้น
"เดี๋ยวเจอกันนะครับฮันนี่"
"ค่ะ..." ฉันรีบวิ่งมาด้วยความอาย
นี่เราจิตอกุศลไปเองหรือเปล่า
ด้านไซรัสหากเขาเป็นคนมักมากเหมือนแต่ก่อน
ซันนี่คงหลุดมือไปจากเขาแบบไม่มีทางได้คืน
บอกแล้วว่าเขาจะเป็นพ่อพระ.....
@@@@@@@@@
ออนไรท์