CHAPTER 05
หมอหลุดปาก
“ตี๋ ทำไมเดินแบบนั้นวะ”
“อย่ายุ่งน่าเฮียคิน”
อาการเดินเหินไม่ค่อยถนัดของน้องชายทำให้ภคินไถ่ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย เพียงแต่คำถามนี้มันทำให้ภภีมหน้าร้อนผ่าวได้อีกครั้ง ถ้าพี่ชายของเขายังสังเกตเห็น แสดงว่าคนอื่นในบ้านก็ต้องสงสัยเป็นแน่เรื่องราวครั้งนี้มันเดือดเนื้อร้อนใจมากกว่าคราวก่อน เพราะหลักฐานจากคลิปวิดีโอนั่นมันเห็นตำตาว่าระหว่างเขากับหมอเมฆมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นบ้าง
น่าเจ็บใจที่ตัวเขาเป็นฝ่ายเริ่มทุกอย่างซะเอง...
ความโกรธและเคียดแค้นมันประดังเข้ามาจนตัวเขาแทบจะนั่งไม่ติด คำถามในหัวที่พร่ำถามตัวเองว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้ดี และคำตอบมันก็มีคือต้องฆ่าทิ้งซะ แต่ปัญหาอยู่ที่จะทำยังไงให้เขาลืมเรื่องที่เกิดขึ้น จะต้อง เลิกคิดเรื่องพวกนี้ด้วยวิธีไหน พอคิดแบบนี้ก็เกลียดตัวเองที่ไม่รักดี ไม่ยอม
ควบคุมสติตัวเองจนเรื่องเลยเถิด
“เฉิน!! มันอยู่ไหน ทำอะไรอยู่ตอนนี้”
เขาร้อนใจอยากจะจัดการเร็วนี้เร็วๆจึงเอ่ยถามลูกน้องเพื่อติดตามข่าวคราวของหมอเมฆ
“ทำงานครับคุณหนู”
“ดูมึงร้อนรนนะไอ้ตี๋ ไปทำอะไรมาให้เฮียช่วยเคลียร์ไหม?”
“เฮียนี่จะยุ่งทุกเรื่องเลยหรือไง ไม่ออกไปไหนเหรอ?”
“ไม่อ่ะ”
พักหลังๆภคินไม่ค่อยออกไปไหนจนภภีมเริ่มแปลกใจ คนอยู่บ้านไม่ติดแบบนั้นแต่อยู่บ้านเฉยๆเป็นอาทิตย์ แต่ช่างเถอะเพราะสิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดคือชีวิตหมอเมฆ อยากจะจัดการไม่ให้มีหน้าไปป่าวประกาศเรื่องบัดสีระหว่างพวกเขาให้บุคคลที่สามรู้ลองนึกดูว่าถ้าที่ใครล่วงรู้ถึงเรื่องนี้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ได้เรื่องละขึ้นไปปลุกกูบนห้องนะ!!”
“ครับ คุณหนู”
เมื่อภภีมย่างเยื้องขึ้นไปชั้นบนของบ้านอย่างคนหมดแรง ยิ่งชวนให้คนเป็นพี่สงสัยว่าน้องชายของเขาเป็นอะไร ปกติไม่เคยมีอาการแบบนี้ เพราะไม่ว่าเกิดปัญหาอะไรภภีมจะจัดการเองได้ทั้งหมด ไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจเหมือนที่เป็นโดยเฉพาะเรื่องหลังๆมานี้เห็นว่าน้องชายมีเรื่องกวนใจมากมาย
คล้อยหลังภภีมไป ภคินจึงตัดสินใจเอ่ยถามเฉินลูกน้องคนสนิทของภภีมทันที
“มันเป็นอะไรของมันไอ้เฉิน แล้วมันสั่งให้ตามใคร?”
“เอ่อ...”
“ไม่ต้องกลัวมันยิงหรอก บอกกูกูจะไปบอกใครวะ มีแต่จะช่วยมันสิไม่ว่า เอ้า บอกมาสักที”
“นายอย่าบอกคุณหนูนะครับว่าผมเอางานที่ได้รับมอบหมายมา บอกนาย คือ...”
ความกดดันเข้าจู่โจมความรู้สึกของคนเป็นลูกน้องจนต้อง ถอนหายใจออกมา นายของบ้านนี้อย่างภคินจะไม่ค่อยยุ่งอะไรกับน้องชาย เพียงแต่ครั้งนี้เกิดอยากจะรู้ขึ้นมาทำให้คนเป็นบ่าวอย่างเฉินลำบากใจ
“รีบบอกมาสิวะ ไม่ต้องรอไอ้ภีมยิงมึงหรอก กูนี่แหละจะยิงเอง อ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้!!”
พี่น้องบ้านนี้ทั้งสองคนเก่งเรื่องขู่เข็ญซะเหลือเกิน...
“คุณหนูให้ตามติดหมอเมฆครับ เป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนไม่ไกลจากอาบอบนวดของนาย ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเวลาพวกเขาเจอกันคุณหนูจะไม่เอาลูกน้องไปด้วย”
คำตอบที่ได้มาชวนให้ภคินสงสัยและครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“มันจะมาหมกมุ่นอะไรวะ ช่วงนี้มันไม่ไปขยายอาณาเขตบ้าบออะไรของมันเหรอ?”
“ไม่เลยครับ คุณหนูไม่ได้สั่งงานให้รวมแก๊งเลย มีแต่ให้ตาม หมอเมฆอย่างเดียวครับ”
“หมอเมฆ... มีรูปไหม?”
เฉินจัดการค้นหารูปหมอเมฆจากไอแพดก่อนจะหันจอให้ภคินดู เพียงแค่แวบแรกที่สายตาคมจ้องมองเขาก็ต้องเบิกตากว้างทันที
“นี่คือหมอเมฆที่ไอ้ภีมสั่งให้ตามเหรอ?”
“ครับ คนนี้แหละครับ แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่คนของแก๊งไหนอย่างที่
คุณหนูกังวล”
“แก๊งไหนห่าอะไร นี่ไอ้เมฆเพื่อนกูเอง!!”
____________________
ก๊อก ก๊อก
ร่างสูงของเฉินย่างก้าวเข้ามาภายในห้องนอนกว้างที่มีร่างบางนอนหลับอยู่ภายใต้ผ้านวมผืนหนา จะว่าไปแล้วเขาก็อยู่ข้างกายคุณหนูของเขามาตั้งหลายปีแล้วนะ ความซื่อสัตย์ที่เขามีไม่ทำให้คนเป็นนายชายตามองเขาแบบอื่นนอกจากลูกน้องเลยสักครั้ง
ใช่แล้วล่ะ เฉินเก็บความรู้สึกส่วนตัวไว้ตลอดเวลา รู้ว่าควรหักห้ามใจไม่ให้คิดเกินเลยกับเจ้านายตัวเอง บางทีมันเหมือนรักต้องห้ามเพราะมันไม่มีวันเป็นจริงได้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยินดีจะอยู่ข้างกายในหน้าที่ลูกน้อง คนสนิทตลอดไป อย่างน้อยๆเขาก็ได้ดูแลร่างบางไม่ห่างสายตาไปไหน หากวันหนึ่งที่ภภีมมีนายหญิงเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาเขาก็อาจจะไปจากที่นี่ เพราะคงจะมีคนดูแลร่างบางต่อจากเขา แต่ตราบใดที่ภภีมยังตัวคนเดียวเขาก็จะขอดูแลผ่านหน้าที่ไปแบบนี้แหละ
“คุณหนูครับ คุณหนู”
“อื้อ”
มาเฟียหนุ่มตอบรับเสียงที่คุ้นเคยโดยที่ยังไม่ลืมตาตื่น
“หมอเมฆกำลังไปที่โกดังตามที่คุณหนูสั่ง ตอนนี้คนของเราจับตัวมาได้แล้วนะครับ”
“เตรียมรถที เดี๋ยวกูลงไป”
เฉินคำนับรับคำสั่งจากเจ้านายก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ภภีม รีบดีดตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา จัดการเสื้อผ้าที่ใส่ให้เข้าที่เข้าทางด้วยความเร่งรีบ โดยที่ไม่ลืมจะหยิบอาวุธคู่กายติดตัวไปด้วยเพราะต้องได้ใช้มันในไม่ช้านี้แน่
โกดังร้าง
เวลาประจวบเหมาะกัน…
เมื่อทั้งหมอเมฆและภภีมมาถึงที่นี่พร้อมกัน หมอเมฆมองเกมทุกอย่างออกหมดแต่หากถามว่ากลัวตายไหม ตอนนี้ก็กลัวเพราะเขาก็ไม่เคยเตรียมรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้ ไม่เคยมีใครโกรธที่เขาร่วมเพศด้วยเท่าภภีมมาก่อน
เขามองร่างบางที่คุ้นเคยกำลังลงจากรถและเดินปรี่เข้าไปด้านในโกดังร้างโดยไม่หันมาสบตาเขาแม้แต่น้อย ร่างสูงของหมอเมฆโดนพันธนาการโดยลูกน้องของภภีมที่ตอนนี้ล็อคแขนไว้ทั้งสองข้างจนไม่สามารถหนีไปไหนได้
หากแต่มาเฟียหนุ่มเองที่ใจเต้นตุ้มๆต่อมๆเพราะกลัวว่าหมอเมฆจะเผลอพูดอะไรออกมา แต่อีกใจก็คิดว่าคงไม่กล้าหลุดปากอะไรหรอกในเมื่อตกเป็นรองพวกเขาทุกทางขนาดนี้ ฉะนั้นคงจะต้องฆ่าให้ตายโดยเร็วจะได้จบเรื่องราวพวกนี้สักที
ร่างเล็กหามุมเหมาะๆก่อนจะลองเล็งไกปืนส่องมุมนั้นมุมนี้ดูความถนัดของตัวเอง
“จับมันมัดไว้ที่เสานั่นแหละ”
ภภีมออกคำสั่งกับลูกน้องอย่างห้าวหาญ...
ทว่าเพียงแค่หน้าหล่อหันมามองเขาด้วยสายตาดุดัน มือเรียวของมาเฟียหนุ่มก็กำชับกระบอกปืนแน่นขึ้นทันที ยิ่งเห็นหมอเมฆไม่ขัดขืนเลยแถมยังยิ้มมุมปากแบบนั้นทำให้เป็นเขาเองที่ประหม่า ฝ่ามือเล็กเกิดชื้นเหงื่อเพราะเริ่มประหม่าจนเสียอาการ
“จะยิงผัวได้ลงคอเหรอครับ!”
เพียงแค่ประโยคแรกที่หมอเมฆพูดออกมาก็ทำให้แขนของภภีมแทบจะหมดแรงลงดื้อๆ มือสั่นจนควบคุมไม่ได้ เมื่อสายตาของลูกน้องนับสิบจ้องมองพวกเขาสองคนด้วยความสงสัย
“หุบปาก!!!”
ปัง!
ใจอยากจะยิงคนปากพร่อยให้ตายซะตรงนี้ แต่อาการมือสั่นทำให้ยิงพลาดไปโดนผนังด้านหลังแทนที่จะยิงตัดขั้วหัวใจคนตรงหน้า น้ำลายเหนียวถูกกลืนลงคออย่างยากลำบาก มือไม้อ่อนแรงจนกระบอกปืนในมือร่วงลงพื้นอย่างช่วยไมได้
“ไม่อยากให้ใครรู้เหรอว่าคุณเป็นเมียผม?”
เพราะคนฉลาดอย่างหมอเมฆรู้ว่าเขาต้องทำยังไงเขาถึงจะรอด รู้ว่าภภีมกำลังกลัวอะไรและควรทำยังไงให้คนตัวเล็กตรงหน้ายอมสยบโดยที่เขาไม่ต้องเหนื่อยอะไรมาก
“พูดอะไรของมึงหมอ.. เมียบ้าบออะไร อยากตายเหรอ!!”
“ถ้าตายคาอกคุณเหมือนคืนนั้นก็โอเคนะ ผมยอม”
“กะ กูไม่เคยทำอะไรกับมึงทั้งนั้นแหละ!!”
เขาแทบจะไม่กล้าสบตาลูกน้องที่มาด้วยเลยสักคน เพียงแต่มือเล็กเอื้อมไปคว้าปืนที่เอวของเฉินที่ตอนนี้ยืนตัวแข็งทื่อกับสิ่งที่ได้ยินก่อนจะจ่อไปยังหมอเมฆอีกครั้ง
“เห็นก็ชอบที่ผมทำ คุณแอ่นรับจนผมเข้าไปได้สุดทาง คุณเสียวผมก็เสียว เรามีความสุขกันจะตาย แล้วทำไมนายทำกับผัวคนนี้ได้ลงคอ”
สรรพนามที่หมอเมฆใช้เริ่มเปลี่ยนไปตามความเจ้าเล่ห์ หน้าหล่อเริ่มตีหน้าเศร้าอย่างน่าสงสารประหนึ่งว่าจะโดนเมียทิ้งไปจริงๆ สิ่งที่เขาพูดทำให้มาเฟียหนุ่มอึ้งไปเลย ไม่คิดว่าหมอเมฆจะมาพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าลูกน้องของเขา ไม่คิดว่าจะกล้าทำแบบนี้ แต่เขาคงประเมินคนเป็นหมอผิดไปพอสมควร
“พูดไร้สาระอะไรของมึง?”
“อายเหรอที่เป็นเมียผม งั้นยิงให้ผมตายไปเลยสิ ความโมโหของคุณมันจะยิ่งตอกย้ำคำพูดของผมนะ อืมมม บางทีผมตายแต่หลักฐานเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็ไม่ได้ตายตามผมไปหรอก หึ”
“พวกมึงออกไปก่อนไป กูขอคุยกับไอ้หมอเวรนี่ตามลำพัง”
ลูกน้องปล่อยพันธนาการของหมอเมฆจนคนเจ้าเล่ห์เป็นอิสระ ชายชุดดำหลายคนเริ่มถอยทัพออกไปรอคนเป็นนายข้างนอกตามคำสั่ง
“ผมขออยู่กับคุณหนูได้ไหมครับ”
ร่างกำยำของเฉินก้าวมายืนข้างคุณหนูของเขาด้วยความเป็นห่วง ในทีแรกก็คิดว่าคนอย่างหมอเมฆไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไร แต่จากที่เขาเห็นปฏิกิริยาในวันนี้นั้นก็มั่นใจว่าเขาคิดผิด
“ออกไป กูอยู่คนเดียวได้น่ะเฉิน”
คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดใส่ลูกน้องคนสนิท เฉินได้แต่ก้ม
หน้าคำนับรับคำสั่งแล้วก้าวเดินออกจากตรงนี้ไป ทว่าเขาก็ยืนแอบฟังอยู่ที่กำแพงอีกฝั่งอยู่ดี
“มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ เมีย..”
“มึงจะเอายังไง ทำยังไงมึงถึงจะเลิกพูดไอ้เรื่องระยำที่เกิดขึ้นสักที กูไม่อยากให้ใครรู้มึงเข้าใจไหม?!!”
“ก็เลยจับตัวผมมาเพื่อฆ่าว่างั้น? ผมก็ไม่อยากจะอะไรหรอกนะแต่ผมก็ไม่ยอมตายเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขระหว่างเราต่อจากนี้มากกว่า...ความลับของเราที่ผมเป็นคนกุมมันอยู่ หึๆ”
น้ำเสียงเนิบนาบของหมอเมฆทำให้ภภีมร้อนใจเป็นอย่างมาก ความคิดภายในหัวตอนนี้คือคนตรงหน้าอยากได้อะไรเขาก็จะหามาให้ ขอแค่เรื่องนั้นมันจบสักที
“เงิน ทอง บ้าน รถ ที่ดิน อยากได้อะไรมึงพูดมาเลยหมอ”
แววตาใสเบิกกว้างอย่างมีความหวังเมื่อเขาเสนอสิ่งที่คิดออกไปแล้วคนตรงหน้าส่งยิ้มมาให้ ร่างสูงค่อยๆเดินก้าวเข้ามาหามาเฟียหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“มาเป็นนางบำเรอผมซะสิ แลกกับความลับระหว่างเรา...ผมยอมรับว่าหลงใหลในร่างกายคุณนะ”
“พูดเชี่ยอะไรเนี่ย กูเป็นผู้ชายแท้ๆอย่ามาพูดดูถูกกูแบบนี้นะไอ้หมอ!! นางบำเรอบ้าบออะไรกูต้องยอมมึงจนตายเลยรึไง เวร!!”
สองเท้าของร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ที่ปลายเท้าคนตัวเล็กก่อนจะเอื้อมมือไปล้วงกระเป๋าหลังของมาเฟียหนุ่มเพื่อจะหยิบมือถือออกมา เมื่อภภีมจะตวัดเอาของตัวเองคืนก็ไม่ทันความไวของหมอเมฆอยู่ดีเลยต้องยอมให้ร่างสูง
ทำอะไรตามใจ
ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเจ้าเล่ห์เอามือถือของเขาไปกดดูอะไร แต่ที่แน่ใจคือเขาไม่ได้มีรหัสเพื่อปลดล็อคอะไรหรอก เพราะปกติก็ไม่มีใครมายุ่งกับของส่วนตัวอยู่แล้ว เพิ่งจะมีก็ครั้งนี้แหละ
“เสร็จละ”
เขายื่นมือถือคืนร่างเล็กตรงหน้าพร้อมกับขยิบตาหนึ่งที...
“เสร็จอะไร? แล้วสรุปนี่ยังไง อยากได้อะไรก็บอกอย่ามาเล่นลิ้นไปหน่อยเลย เกาะทั้งเกาะกูก็ซื้อให้มึงได้นะหมอ แลกกับความลับเรื่องนั้นอ่ะ”
“ที่ผมต้องการคือร่างกายคุณ ผมติดใจน่ะ มาเป็นนางบำเรอของผมสิ ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแต่ก็จนกว่าผมจะเบื่อ”
คำพูดเห็นแก่ตัวที่หมอเมฆพ่นออกมาทำให้ภภีมหน้าชาอีกครั้ง ไอร้อนระบายออกทางใบหน้าเนื่องจากความโกรธมันปะทุ มือเล็กกำหมัดแน่นทั้งสองข้าง
นางบำเรอบ้าบออะไรนี่มันใช้เรียกผู้ชายได้ด้วยเหรอ!!
“ถ้ากูไม่ยอมล่ะ ถ้ากูจะฆ่ามึงให้ตายตอนนี้ล่ะหมอ?”
“คิดว่าผมไม่สำรองข้อมูลไว้ที่ไหนเลยเหรอ? ถ้าผมยังอยู่มันก็ยังจะเป็นความลับต่อไปเพียงคุณทำตามข้อตกลง แต่ถ้าผมตาย...ก็จะไม่มีใครคอยกุมความลับนะ เอาสิ คุณจะยอมแลกไหมล่ะ”
ร่างสูงก้มไปเก็บปืนกระบอกที่หล่นลงพื้นมาจ่อที่ขมับตัวเองแบบพร้อมจะเหนี่ยวไกได้ทุกเมื่อ
“ไอ้..”
“ถ้าผมหายไปสองวัน คลิปคืนนั้นจะเผยแพร่ลงอินเทอร์เน็ตทันที ถ้าคุณโอเคผมก็พร้อมจะตาย เอาไงดีล่ะคนสวย”
หน้าตาของหมอเมฆตอนนี้ต่างจากคนเจ้าเล่ห์เมื่อครู่ลิบลับ ใบหน้า
หล่อเผยความดุดันและเด็ดเดี่ยวแบบที่คนตัวเล็กไม่มีวันเดาใจเขาถูกว่าตอนนี้เขาคิดอะไรกันแน่
ปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่นอย่างกดดัน ไม่มีใครอยากตกเป็นนางบำเรอหรอกใช่ไหม? เขาก็เหมือนกัน หัวใจดวงน้อยเต้นถี่เร็วพร้อมทั้ง ลมหายใจที่กระตุกห้วงด้วยความโกรธ ใจลึกๆอยากจะปล่อยให้คนตรงหน้าเหนี่ยวไกยิงตัวเองให้ตายไปเลยคงจะสะใจน่าดู แต่ผลที่จะตามมาเห็นว่าจะไม่คุ้ม
“อย่ายิง มึงอ่ะห้ามตายไอ้หมอ ถ้ามึงจะตายกูต้องเป็นคนฆ่ามึงเอง ต้องเป็นกูเท่านั้นที่ได้ฆ่ามึง!!”
ภภีมรีบเข้าประชิดตัวหมอเมฆแล้วคว้ากระบอกปืนมาจากมือใหญ่ ทว่าความไวของหมอก็เร็วกว่าอยู่ดี อ้อมแขนใหญ่โอบกอดร่างเล็กที่เข้ามาประชิดตัวโดยไวแบบที่ภภีมไม่ทันจะตั้งตัว ภภีมเงยหน้ามองอย่างไม่พอใจที่โดนกอด ก่อนจะดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดด้วยความอึดอัด
“เป็นห่วงผม? กลัวผมตายว่างั้นเถอะ”
“ปล่อย!! มากอดทำไมกูรังเกียจ”
“ปากแข็งจังนะ”
“กูไม่ได้ปากแข็ง!! ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ไอ้หมอเดี๋ยวลูกน้องกูมาเห็น!! จิ๊!!”
สายตาคนตัวเล็กมองหน้าหล่อสลับกับกรอบประตูที่ลูกน้องรออยู่ด้านนอก หากมีใครมาเห็นตนเองโดนผู้ชายด้วยกันกอดจะทำยังไง เสียการควบคุมหมดกันพอดี
“ปากไม่แข็งจริงเหรอ? ไหนมาชิมสิ”
อุ๊บ!!
“อื้อออออออออออออ ไอ่อ๋อออออออออ”
ไม่รีรอที่เขาจะลิ้มรสริมฝีปากบาง หมอเมฆรีบก้มลงมาประกบปากคนตัวเล็กทันที มือใหญ่จับที่ท้ายทอยเพื่อยึดไม่ให้ร่างบางดิ้นจนหลุดจากพันธนาการของเขา ริมฝีปากหนาดูดเม้มรุนแรงจนภภีมต้องเบ้หน้าเมื่อปลายลิ้นเริ่มรับรสเค็มปร่าของเลือด มือเล็กเอื้อมไปด้านหลังของร่างสูง เขาทั้งออกแรงทุบตีแผ่นหลังกว้างเป็นการปฏิเสธการกระทำอุกอาจนี้แต่หมอเมฆก็ไม่สนใจที่จะหยุดมัน
ไรฟันคอยงับลิ้นอุ่นชื้นที่สอดเข้ามาหลายต่อหลายทีทว่าหมอเมฆก็หลีกเลี่ยงได้ทุกครั้งไป เขาเชี่ยวชาญเรื่องแบบนี้จนคนตัวเล็กนึกไม่ถึงเลยล่ะ
“อื้อ ไม่แข็งจริงด้วย นุ่มนิ่มดีนะครับ”
นานหลายนาทีที่เขาใช้เวลาจูบอันดูดดื่มนั่นก่อนที่เขาจะผละออกเพื่อให้มาเฟียหนุ่มเป็นอิสระ ร่างบางเกิดอาการหอบเมื่อโดนช่วงชิง ลมหายใจระหว่างจูบกันจนแทบจะขาดอากาศหายใจอยู่แล้ว หมอเมฆไม่เว้นจังหวะให้เขาได้หายใจเลยสักนิด
“มึงคิดว่ากูจะยอมมึงเหรอ ไม่มีทางหรอกหมอ กูต้องเป็นฝ่ายรุกเท่านั้นเว้ย!!”
เขาทำปากเก่งทั้งที่ก็ไม่เคยเป็นฝ่ายรุกกับผู้ชายด้วยกันมาก่อน มาเฟียหนุ่มหลบสายตาหมอเมฆที่มองมาทางเขา สายตาหวานเยิ้มประกอบกับรอยยิ้มกว้างนั่นมันทำให้เขาทำตัวไม่ถูก
“ก็เห็นแอ่นให้ผมตลอด รุกใครไม่ขึ้นหรอกคุณน่ะ”
“มึงลองให้กูรุกดูก่อนดิ กล้าปะ?”
“หึ! ต่อไปนี้ถ้าพูดกับผมไม่เพราะจะโดนฉีดยานะครับ”
“โทษทีว่ะ กูไม่กลัวเข็ม”
หมอเมฆล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างแล้วหันหลังเพื่อจะเดินออกจากกรอบประตู
“ไม่ใช่เข็มฉีดยา แต่มันคือเข็มในกางเกงผมนี่แหละ ถ้าเข็มของผมเข้าไปในปากคุณเมื่อไหร่ คุณจะไม่มีโอกาสได้พูดเลยนะ”
“ไอ้หมอ!!! มึงนี่นะ!!!”
“ฮ่ะๆๆ แล้วเจอกันใหม่นะนางบำเรอของผม อ่อ แล้วฝึกลูกน้องคุณใหม่หน่อยนะครับ จะมาแอบดูคนอื่นทั้งทีแต่หลบไม่เนียนเอาซะเลย”
หมอเมฆเปรยตาไปที่กรอบประตูอีกฝั่งเพื่อบอกให้คนตัวเล็กได้รับรู้ในสิ่งที่เขาพูดเขายังคงยืนอยู่ที่เดิมแต่เป็นมาเฟียหนุ่มเองที่รีบวิ่งออกไป ด้านนอก
“เฉิน!!!”
“เอ่อ ผมขอโทษครับคุณหนู ผมแค่เป็นห่วงกลัวว่าคุณหนูจะโดน ทำร้าย”
เฉินกุมมือทั้งสองข้างไว้ที่หน้าขาแล้วก้มหน้ามองพื้นเพื่อซ่อนอาการเจ็บปวดเอาไว้ เกรงว่าถ้าเขาเงยหน้ามองคุณหนูที่เขารักในตอนนี้เขาจะเก็บอาการไม่ไหว สิ่งที่เขาได้ยินและเห็นการกระทำของคนทั้งสองคนมันตอกย้ำความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ว่าเป็นความจริงอย่างที่หมอเมฆพูด
แต่เขาไม่มีวันยอมเด็ดขาด ไม่มีวันยอมให้คุณหนูของเขาต้องตกเป็นนางบำเรอของใคร เขาเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งหลายปีแค่แตะเนื้อต้องตัวยังไม่เคยเลยกลัวว่าจะทำให้คุณหนูของเขาเจ็บตัวได้ ผิดกับหมอเมฆที่เพิ่ง เจอกันไม่นานแต่ได้ร่างกายบอบบางนี้ไป หากมีทางไหนที่เขาจะขัดขวางสอง
คนนี้ได้เขาก็จะทำ!
“กูไม่ได้เป็นอะไร... มึงรู้ใช่ไหมว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความลับ”
เจ้าตัวก็ไม่อยากจะพูดออกไปแบบนี้ เพราะมันเป็นการยอมรับสิ่งที่หมอเมฆพูดทั้งหมดว่ามันเป็นความจริง
เฉินเม้มปากและหลับตาแน่นอย่างเจ็บปวดใจที่สุดท้ายแล้วคุณหนูของเขาก็ต้องยอมให้กับหมอเมฆจริงๆสินะ
“ครับ คุณหนู”
เสียงสั่นตอบรับคำสั่งแล้วเดินหันหลังไปจากตรงนี้เพื่อไปรอมาเฟียหนุ่มที่รถ เขากับภภีมอายุห่างกันแค่ปีเดียวโดยที่เขาเองแก่กว่า แต่ไม่เคยนึกโกรธเลยที่โดนมาเฟียหนุ่มเรียกใช้และพูดจาไม่เคยไพเราะกับเขา เพราะเขารู้พื้นฐานนิสัยของภภีมดีว่าเป็นคนอ่อนโยนแค่ไหน และเขาก็หวงความอ่อนโยนนั้นที่เขามักเห็นอยู่บ่อยๆโดยที่ใครหลายๆคนอาจยังไม่เคยเห็นมุมนี้
ภภีมทำท่าจะเดินตามเฉินออกไปทว่าหมอเมฆเอื้อมมือมาดึงแขนเขาไว้เสียก่อน จึงทำให้เขาต้องหยุดชะงักตามแรงดึง
“ไปส่งผมหน่อย”
“ไม่อ่ะ กลับเองดิ”
“ลักพาตัวผมมาแท้ๆ ไปส่งหน่อยนะครับ นะ”
หมอเมฆมายืนซ้อนอยู่ด้านหลังก่อนจะเกยคางไว้บนไหล่แล้วทำเสียงออดอ้อนอย่างน่าหมั่นไส้
“กู ไ ม่ ไ ป !”
“โอเค ถือว่าผิดคำสั่ง ไม่ตามใจผมงั้นก็กลับบ้านไปนอนรอดูข่าวตัวเองได้เลย มาเฟียหนุ่มขึ้นขย่มหมอ!! อุ๊บ”
ภภีมรีบใช้มือปิดปากหมอเมฆ เมื่อเขาตะโกนประโยคน่าเกียจนั่น
ออกมา
“เออๆ เดี๋ยวให้คนไปส่งละกัน”
“ผมไม่ยุ่งกับคนแปลกหน้า คุณต้องไปส่งผมเอง”
ร่างบางกัดฟันกรอดพร้อมทั้งถอนหายใจยาวพรืดอย่างข่มอารมณ์ เพียงเพราะผู้ชายตรงหน้าคนเดียวนี่ก็ทำให้เขาโมโหได้วันละหลายๆรอบ
“อือ ไปก็ไป”
“น่ารักที่สุด”
ฟอดดดด
“ไอ้เชี่ยหมอ!!”
มือเรียวยกขึ้นมาลูบแก้มตัวเองที่เพิ่งโดนร่างสูงฉวยโอกาสไปเมื่อครู่ ก่อนจะวิ่งมาเตะหมอเมฆดังป้าบใหญ่
“โอ้ย! ทำกับผมรุนแรงผมแบบนี้ ผมจะคิดทั้งต้นทั้งดอกทีเดียวนะ จะเอาให้ครางร้องชื่อผมไม่หยุดเลยคอยดู!”
หากคิดว่าหมอเมฆเริ่มกลายเป็นคนน่ารักมุ้งมิ้งขึ้นมาแล้วล่ะก็... คุณคิดผิดแล้วล่ะ เขาจะทำตัวน่ารักเฉพาะเวลาที่เขาได้ผลประโยชน์เท่านั้น พื้นฐานจิตใจไม่ใช่คนขาวสะอาดสักเท่าไร
“เฉิน กลับไปกันก่อนเลยนะ เดี๋ยวกูไปกับมัน”
“ไปไหนครับ? ให้ผมพาไปดีกว่านะครับคุณหนู”
“เออน่า รีบกลับกันไปได้แล้วอย่าถามมาก”
เมื่อเฉินเหยียดตามองมาที่ร่างสูงที่ยืนข้างคุณหนูของเขา หมอเมฆก็ยักไหล่พร้อมทั้งส่งยิ้มกวนประสาทกลับไปทันที คนไหวพริบดีอย่าง หมอเมฆมีหรือจะดูสถานการณ์ตรงหน้าไม่ออก เพียงแต่เขาก็เพิ่งรู้นี่แหละว่า
มีลูกน้องคิดไม่ซื่อกับคนตัวเล็กก็ตอนที่เห็นเงาคนโผล่มาตรงกรอบประตู ก็ไม่
คิดว่าจะเป็นลูกน้องคนสนิทคนนี้
ยิ่งเขาเห็นสายตาที่เฉินมองมายังเขานั่นหมอเมฆยิ่งรู้สึกอยากเอาชนะ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะชนะที่ได้ร่างกายของภภีมมาครอบครองแล้วก็ตาม แต่เชื่อสิว่าเขาจะทำให้เฉินรู้สึกเจ็บและพ่ายแพ้มากกว่านี้อีก เพราะของเล่นชิ้นโปรดอย่างภภีมมันอยู่ในกำมือเขา
ที่เขาจะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด....