ตอนที่ 4

1155 คำ
“แค่เด็กล้างจานจริงเหรอว่ะ” “ให้ผมสืบให้ไหมครับนาย” “อืม ขอแบบละเอียด แล้วก็คืนนี้ฉันจะพักที่นี่” “ครับนาย” รถคันหรูเลี้ยวเข้าสู่ลานจอดรถ ถึงแม้ว่าเธอจะหายเข้าไปในลิฟต์ก่อนที่เขาจะมาถึง แต่นั่นก็ทำให้เขารู้ว่าเธอพักอยู่ชั้นเดียวกับเขา “น่าสนใจดี มีเงินซื้อห้องหรูราคาสิบล้าน แต่ทำงานเป็นเด็กล้างจาน” ยิ่งเขาตามเธอมากเท่าไร ยิ่งทำให้เขาหลงใหลในตัวเธอมากขึ้นเท่านั้น แถมเป็นความหลงใหลแบบที่เขาไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่าถลำลึกไปถึงไหนแล้ว เที่ยงของวันต่อมา ณัชชาตื่นขึ้นด้วยความเมื่อยล้า สงสัยเมื่อวานเธอจะล้างจานเยอะมากจนทำให้วันนี้ร่างกายของเธอปวดเมื่อยเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ “เมื่อยจัง…ดีนะที่วันนี้ได้หยุด ออกไปหาอะไรกินดีกว่า” คิดได้เช่นนั้นเธอคว้ากุญแจรถพร้อมกระเป๋าสะพายเดินออกจากห้องในทันที “อือ..อืมม…อืออ” ณัชชาเดินฮัมเพลงอย่างสบายใจโดยไม่รู้เลยว่า มีใครบางคนกำลังเดินตามเธออยู่ด้านหลัง “อารมณ์ดีจังเลยนะ ทำไงดีฉันเป็นคนไม่ชอบเห็นใครมีความสุขซะด้วยสิ” ลูคัสบ่นงึมงำ ยกยิ้มมุมปาก ยอมรับเลยว่าเธอเป็นคนตรงกันข้ามที่เขาเกลียดชัง พวกที่มีความสุขไปวันๆ ไม่ควรมีอยู่บนโลกนี้ “กินอะไรดีน๊า” ของหวานในตู้ตรงหน้าคือของชอบที่เธอโปรดปรานเป็นที่สุด ไม่ว่าวันนั้นจะอยู่ในอารมณ์ไหนเธอก็มักจะมีมันติดตู้เย็นไว้เสมอ “เอาอันนี้สิดูน่าอร่อยนะครับ” “คุณชูก้า” เธอแหงนหน้ามองเจ้าของเสียง พร้อมส่งรอยยิ้มที่สดใสให้เขาเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน “ยังยิ้มสวยเหมือนเดิมเลยนะครับ” “ขอบคุณค่ะ…ว่าแต่คุณชูก้ามาทำอะไรที่นี่คะ” “เรียกชูก้าเฉยๆ ก็พอครับมีคุณแล้วมันดูห่างเหิน เรามาสนิทกันดีกว่ายังไงก็คงได้เจอกันบ่อยๆ” “ได้ค่ะไม่มีปัญหา” หลังจากซื้อขนมเสร็จทั้งคู่พากันเดินต่อไปที่ร้านอาหาร ท่าทางที่ดูสนิทสนมกันของทั้งคู่อยู่ในสายตาของใครบางคนที่มองด้วยความอิจฉาและเกลียดชัง “มึงมันเป็นมารของกูทุกที่จริงๆ” สันกรามนูนขบเข้าหากันแน่น สายตาดุดันมองทั้งคู่เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ “นายครับ” ก่อนที่ลูกน้องคนสนิทของเขาจะเอ่ยทักขึ้น พร้อมซองเอกสารในมือที่มีข้อมูลของหญิงสาวทั้งหมดส่งมาให้ “ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินอะไรครับ แปลกที่เธอยอมทำงานลำบากขนาดนี้ ใช่ว่าเธอจะถูกส่งมาให้สืบหรือทำบางอย่างกับนายเหรอครับ” “นี่คือทั้งหมดที่หาได้เหรอ” “ครับ…ผมให้แฮกเกอร์ฝีมือดีแฮกข้อมูลบางส่วนของเธอ ดูเหมือนก่อนหน้าเธอทำงานให้ตระกูลใหญ่ที่เคยเป็นคู่แข่งกับพ่อของนายด้วยครับ” “น่าสนใจ” เขายกยิ้มร้ายขึ้นอีกครั้งจ้องมองใบยังหญิงสาวที่มีใบหน้าสดใส ชักจะอยากทำให้เธอแปดเปื้อนซะแล้วสิ รอยยิ้มโง่ๆ นั่น ฉันจะได้ไม่ต้องเห็นมันอีก ว่าจบเขาก็เดินออกไปพร้อมลูกน้องที่เดินตามหลังตรงไปยังร้านอาหารที่พวกเขาสองคนนั่งอยู่ “สเต๊กดูน่าอร่อยจังนะ” เสียงเข้มของผู้มาใหม่พร้อมรอยยิ้มร้ายที่ หันไปมองน้องชายต่างสายเลือด มือหนายกมีดหันสเต๊กตรงหน้าจิ้มเข้าปากชิ้นใหญ่ “คุณ…คนเมื่อคืนหนิค่ะ” เธอส่งยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร ทว่าเขาที่หันมามองกลับไม่ชอบรอยยิ้มนั้นเอาซะเลย “นี่พี่ชายเราเอง ลูคัส เป็นเจ้าของผับไง” “จริงเหรอคะ ฉันไม่เคยเจอคุณมาก่อน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” น่าหงุดหงิดชะมัดทำไมเธอเอาแต่ส่งยิ้มโง่ๆ นั่นอยู่ได้ ลูคัสได้แต่คิดอยู่ในใจแต่ถึงอย่างนั้นรอยยิ้มของเธอก็ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา “อืม” เขาตอบเธอแค่นั้นก่อนจะเดินออกไปจากร้าน พิลึกคน เมื่อคืนดูท่าทางก็ดีๆ อยู่ วันนี้ดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ช่างเถอะเธอคงคิดมากไปเอง “เป็นอะไรรึเปล่าชูก้า” “เปล่านะ พอดีพี่ลูคัสเขาไม่ค่อยชอบเรา” “ก็ว่าอยู่ว่าต้องไม่ถูกกัน เอาน๊า...พี่น้องส่วนมากก็เป็นแบบนี้แหละมีทั้งรักกันและเกลียดกันอย่าคิดมากเลย” “มองโลกในแง่ดีจังเลยนะ สงสัยเราคงต้องให้เธอสอนเรื่องนั้นบ้าง” “ได้อยู่แล้วก็เราเพื่อนกัน” เพื่อนหมาดๆ หลังจากทั้งคู่ตกลงเป็นเพื่อนกันเพราะคุยกันถูกคอ ไม่รู้ว่าเพราะเธอมองโลกในแง่ดี หรืออีกฝ่ายมีคารมคมคายที่ชวนให้คล้อยตามกันแน่เธอจึงหลงตอบตกลงเป็นเพื่อนกับเขาอย่างง่ายดาย หลังจากที่ณัชชาได้ใช้วันหยุดของเธออย่างเต็มที่ทั้งกินทั้งเที่ยวและเคลียร์งานทั้งหมด เธอก็ต้องกลับมาทำงานล้างจานต่อ “มาแล้วเหรอ เมื่อวานน้ำชาไม่มา ไทเหงามาก” “เหงาปากรึไง คนเมาท์ด้วยออกจะเยอะแยะ” “ก็ใช่จะคุยถูกคอเท่าน้ำชาหนิ…ว่าแต่วันหยุดไปทำอะไรมา” “ไปกินของอร่อยมา” “ไม่เห็นซื้อมาฝากไทบ้าง” “โอ๋ๆ นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ซื้อมาฝาก ตอนนี้ไปทำงานได้แล้ว ผู้จัดการมองตาเขียวแล้ว” “อุ้ย! มาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ยผู้จัดการ” “เพราะรู้มามึงจะแอบมาอยู่ตรงนี้ไงเลยตามมา” “รู้ทันตลอด…เดี๋ยวมาหาใหม่นะ” ประโยคหลังแทนไทพูดเสียงเบา แต่ก็ไม่รอดพ้นความหูไวของผู้จัดการที่จับใบหูของเขาลากดึงออกไปทำงานเป็นที่เรียบร้อย หนึ่งชั่วโมงให้หลังเหลือมีจานให้หญิงสาวล้างอีกไม่เยอะ ทำให้เธอพอได้นั่งพักอยู่บ้าง แต่กลับมีชายคนหนึ่งในชุดสูทสีดำเดินเข้ามาตามเธอเสียก่อน “คุณน้ำชาครับ คุณลูคัสให้มาตามไปพบ” “ตอนนี้เหรอคะ” “ครับตอนนี้” ณัชชาจำใจเดินตามชายชุดดำไปตลอดทางที่ไม่มีผู้คน สงสัยจะเป็นทางลัดสินะ เธอได้แต่คิดในใจไม่พูดออกไป เดินตามคนตรงหน้าไปอย่างเงียบๆ ประตูห้องถูกเปิดออกเผยให้เห็นร่างสูงของลูคัสที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ มองดูเธอเดินเข้าไปหาด้วยสายตาเรียบนิ่ง เธอจึงยกรอยยิ้มขึ้นสู้ก่อนเดินเข้าใกล้ชายหนุ่มมากขึ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม