พอลลี่นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อรู้ความจริงจากปากของเพื่อนรัก เพราะทั้งสามคน ไม่ว่าระพีพัฒน์ นาวิน หรือรินลณีก็เป็นคนดังของมหาวิทยาลัย มีคนติดตามไอจีหลักแสนอยู่เหมือนกัน
“พอลลี่คิดอะไรอยู่ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ” รินลณีเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนทำหน้าเครียด
“เรื่องนี้มันไม่ง่ายเลยนะ” พอลลี่เอ่ยขึ้น รินลณีค่อนข้างตกใจกับสีหน้าของเพื่อน เพราะปกติเพื่อนเธอก็ไม่ได้จริงจังขนาดนี้
“พอมีคนรู้ว่าแกเลิกกับไอ้พี่วินแล้วมาคบกับพี่หมอพัฒน์ คนคงลือว่าแกทิ้งไอ้พี่วินนั่นมาหาพี่หมอพัฒน์ แล้วคงมองว่าพี่หมอพัฒน์เป็นมือที่สาม”
เรื่องนั้นเธอก็รู้ดี ถึงอยากให้เขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับอย่างไรล่ะ ปากคนคมยิ่งกว่ากรรไกร มันไม่ใช่ความผิดเขา ทำไมเขาต้องมารู้สึกแย่กับเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ก่อ อีกอย่างเรื่องวุ่นวายทั้งหมดก็เพราะอีพี่วินที่มันไปจูบเฮียของเธอนี่แหละ ไม่อย่างนั้นเรื่องมันคงไม่เป็นอย่างนี้…
“ฉันรู้พอลลี่ ก็เลยอยากให้เฮียพัฒน์เก็บเรื่องของเราสองคนไว้เป็นความลับก่อน ฉันไม่อยากให้เฮียคิดมาก” รินลณีพูดพร้อมทั้งถอนหายใจยาว
“มีห่วงผัว...ชิ!” ใบบัวแซวเพื่อนสาว
“ใบบัว! เดี๋ยวนี้แกกลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ฮึ” รินลณีหันไปแหวใส่เพื่อนสาวที่ก่อนหน้านี้เป็นคนเรียบร้อย สงบปากสงบคำ ตอนนี้ดูนางจะกลายเป็นพอลลี่สองเข้าไปทุกวันแล้ว
“ฉันแค่พูดตามความจริง แกห่วงพี่หมอพัฒน์ใช่ไหม” ใบบัวยังถามต่อด้วยใบหน้าใสซื่อ
“ก็ห่วง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะฉัน” รินลณีก้มลงมองมือตัวเองที่ประสานกันแน่น ยิ่งเขาพูดว่าชอบเธอ เธอยิ่งรู้สึกผิด ถ้ามีคนมาว่าเขาเป็นมือที่สาม
“แกก็ประกาศไปเลยว่าไอ้พี่วินมันเป็นเกย์” ใบเฟิร์นออกความคิดเห็น
“ไม่ได้!” พอลลี่พูดขึ้น
“ทำไม!” ทั้งสามสาวพูดขึ้นพร้อมกัน
“พวกแกนี่อ่อนต่อโลกจริงนะ ถ้ารินณีมันบอกว่าอีพี่วินเป็นเกย์แล้วมันไม่ยอมรับ แต่หาว่าที่รินณีทำแบบนี้เพราะอยากเลิกกับมันเพื่อจะมีคนใหม่ ทีนี้ทั้งรินณีทั้งพี่หมอพัฒน์ได้โดนเมาท์กระจายแน่” พอลลี่อธิบายยืดยาว สามสาวพยักหน้าเข้าใจในทันที
“แล้วฉันต้องทำยังไง” รินลณีถามพอลลี่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความรัก แต่อกหักมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
“เรื่องแกกับพี่หมอพัฒน์ก็ปิดไว้ก่อน ตอนนี้แกต้องประกาศในไอจีว่าเลิกกับอีพี่วินด้วยดี”
“หา!” รินลณีตกใจ เพราะเธอกับเขาไม่ได้เลิกกันด้วยดีสักหน่อย ขนาดหน้ายังไม่อยากมอง
“ใช่ แกต้องทำแบบนั้น บอกว่าทั้งสองคนหมดรักกันแล้ว แล้วแกก็ทำเหมือนคนอกหักโพสต์อะไรเศร้า ๆ”
“สรุปคือฉันต้องทำใช่ไหม” รินลณีอดถามเพื่อนไม่ได้
“ต้องทำ ถ้าแกเป็นห่วงผัว หรือแกจะยอมให้ผัวโดนเขาด่า” ใบบัวพูดขึ้นอีก รู้สึกว่าตอนนี้คำว่าผัวจากปากใบบัวจะพูดจนเป็นธรรมชาติไปแล้ว
“ใบบัว...” รินลณีมองหน้าเพื่อนที่พูดคำว่า ‘ผัว’ ได้เต็มปากเต็มคำ ไม่มีกระดากอายเหมือนเมื่อก่อน...ใบบัวเปลี่ยนไป
“จะรออะไรรินณี รีบโพสต์สิ” ใบเฟิร์นเร่งเพื่อน สนับสนุนคำพูดของพอลลี่เต็มที่
“ทำไมต้องรีบขนาดนั้น” รินลณีอดถามเพื่อนไม่ได้ เธอไม่เห็นความจำเป็นจะต้องรีบสักหน่อย
“ยิ่งรีบเลิก แกก็จะได้รีบเปิดตัวกับพี่หมอพัฒน์เร็วขึ้นไง”
เมื่อได้ยินเหตุผลจากพอลลี่แล้ว รินลณีก็หยิบมือถือเปิดแอปเข้าอินสตาแกรมทันที เพื่อนทั้งสามเบ้ปาก แม่คนปากแข็ง ไหนบอกว่าไม่ห่วงผัว อาการออกขนาดนี้...นี่คงฟาดเดือนมหาวิทยาลัยมาแล้วแน่นอน
‘ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเรา
หนูจะจดจำพี่ไว้ตลอดกาล’
แล้วเธอก็แท็กนาวิน เพียงไม่นานคอมเมนต์ในไอจีของเธอแทบถล่ม ยอดกดไลก์ขึ้นเกือบพันในเวลาเพียงไม่กี่นาที
จีบได้ไหมครับน้องรินลณีคนสวย
ของดีวิศวะโสดแล้วโว้ย
พี่นาวิน ทางนี้ยังว่างนะคะ
เสียใจด้วยนะคะ ไม่น่าเลิกกันเลย
มีคนดามใจรึยังเอ่ย
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่นะคะ ทั้งคู่เหมาะสมกันมาก
มิน่า เห็นพี่วินที่ร้านเหล้าหลังมอบ่อย ๆ
น้องรินณีใจร้าย
คอมเมนต์ตอบ...
น้องไม่ได้ใจร้าย คนเข้ากันไม่ได้ก็ต้องเลิกกันเป็นธรรมดา
ในคอมเมนต์พวกนั้น มีคอมเมนต์หนึ่งทำให้เธอตกใจ
จีบน้องได้ไหมครับ...Rapeephat_phat
“พอลลี่! ดูเมนต์เฮียพัฒน์สิ” รินลณีเรียกเพื่อนเสียงดังเพราะตกใจกับคอมเมนต์
“ตกลงผัวแกนี่ก็ออกตัวแรงล้อฟรีเลยนะ”
พอลลี่พูดขึ้นพร้อมทั้งส่ายหน้า คนคลั่งรักนี่ฉุดไม่อยู่จริง ๆ แต่ก็หัวไวใช้ได้
“พวกแกรีบเข้าไปกดไลก์คอมเมนต์พี่หมอพัฒน์เร็ว แล้วบอกเพื่อน ๆ เราให้ไปช่วยกันกดไลก์หน่อย”
“ผัวแกเนี่ยหัวไวน่าดูนะ สมแล้วที่เป็นหมอ” พอลลี่เอ่ยชม เพราะเธอแค่บอกแผนการคร่าว ๆ ไปกับพี่หมอเอกภพ แต่เหมือนพี่หมอพัฒน์จะฉลาดเป็นกรด สมแล้วกับที่หนึ่งของรุ่น
“คือแผนมันเป็นยังไงเหรอ ฉันไม่เข้าใจ” ใบบัวถามขึ้น
“อ้าว...ก็ถ้ารินณีมันโสดใช่ไหม ใครก็จีบได้เปล่าวะ แล้วก็ไม่แปลกไหมที่พี่หมอพัฒน์จะจีบมัน” พอลลี่พูด แต่ใบบัวยังทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ พอลลี่จึงพูดต่อ
“ทีนี้ก็จีบกันผ่านสื่อสักพัก ไอ้นี่มันเลยใจอ่อนไง คนกำลังอกหัก มีคนมาดามใจก็ลืมคนเก่าได้เร็ว ทีนี้เข้าใจหรือยังฮึ”
“อ๋อ เข้าใจแล้ว แบบนี้พี่พัฒน์ก็ไม่ใช่มือที่สามแล้วสิ” ใบเฟิร์นพูดขึ้น ทั้งใบบัวและพอลลี่พยักหน้าตาม