CHAPTER 5

1161 คำ
ขณะนั้น นายแพทย์ปฐมเดชและคุณชนาภาอยู่บนเวที ท่านทั้งสองคนขึ้นไปพูดเพิ่มเพื่อคั่นเวลา เพราะปรมะหายไปไม่ยอมมาห้องจัดเลี้ยง ทุกคนวิ่งวุ่นหาหมอหนุ่ม แต่ก็ไม่มีใครตามปรมะเจอ เสียงฮือฮาเงียบลง ปรมะควงแขนมธุรดาพาเดินไปบนพรมแดงที่ปูยาวจนถึงเวที ขณะขึ้นบันไดวน มธุรดายังคงรู้สึกงุนงง เธอหันไปรอบด้านเพื่อมองหาตากล้องหรือทีมงาน แต่ไม่พบคนรู้จักแม้เงา “เดี๋ยวหมอ” เธอได้ยินเข็มพิณเรียกแบบนั้น นักแสดงสาวจึงเรียกตาม ปรมะก้มลงมาแล้วพรายยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาพามธุรดาเดินไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางสายตาของทุกคน ด้วยชายชุดที่ยาวรุ่มร่ามทำให้เดินไม่ค่อยสะดวก สุดท้ายก็สะดุดชายกระโปรง หน้ากำลังจะคะมำ “โอ๊ะ” ปรมะคว้าเอวคอดของเธอเอาไว้ได้ทัน ก่อนจะช้อนร่างของเธอขึ้น มธุรดาหน้าเหวอ นี่มันเหมือนฉากโรแมนติกในนิยายไม่มีผิด พริบตาแสงแฟลชก็สว่างวาบหลายต่อหลายทีจนตาแทบพร่า คุณชนาภาจ้างช่างภาพมาหลายเจ้า รวมถึงกล้องจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลด้วย ปรมะยืนนิ่ง มองเข้าไปในดวงตาของมธุรดาที่กำลังสับสนก่อนจะเอ่ยปาก “ผมจะแต่งงานกับคุณ” เขาพูดเสียงดังฟังชัด ใครอยู่ใกล้ล้วนได้ยินทุกคน “เอ่อ อะไรนะคะ” “คุณจำบทไม่ได้เหรอ” มธุรดาพยักหน้าเป็นคำตอบ ไม่รู้ว่าระหว่างที่ติดแหงกบนท้องถนน ทางผู้กำกับสั่งเปลี่ยนอะไรไปบ้าง ซีนนี้ถึงได้ต่างจากบทที่เธอเพียรท่องมาอย่างสิ้นเชิง “เราสองคนจะแต่งงานกันวันนี้ คุณจะเป็นเจ้าสาวของผม มธุรดา” ‘เขารู้จักชื่อฉัน บ้าน่า...นี่ไม่ใช่ชื่อตัวละครที่ถ่ายทำสักหน่อย’ นักแสดงสาวตกใจจนตาแทบถลนออกมา เธอยังคงตามสถานการณ์ไม่ทัน “ฉากนี้คุณไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ผมจะพูดทุกอย่างเอง คุณมีหน้าที่ยิ้ม ยิ้มอย่างเดียวที่รัก” “ค่ะ” ตอบรับอย่างเหม่อลอย เธอโดนสายตาคมกล้าของนายแพทย์ปรมะตกไปเต็มเปา สมัยเรียน ช่วงอายุยี่สิบต้น ๆ ทั่วมหาวิทยาลัยก็ขนานนามปรมะว่า พ่อเทพบุตรหน้าคม หล่อวัวตายควายล้ม และมธุรดากำลังตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ปรมะอุ้มนักแสดงสาวมาจนถึงขอบเวทีแล้วพาลงบันไดไป กระทั่งหยุดยืนต่อหน้าพ่อกับแม่ ทั้งนายแพทย์ปฐมเดชและคุณชนาภานิ่งค้างอยู่ในท่าเดิม ยังตกใจไม่หายว่าพ่อลูกชายสุดที่รักพาเจ้าสาวของเขามาเอง “นี่แก” แม่เปรยเสียงเบา “ผมจะแต่งงานกับคนที่ผมรักเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้มธุรดาหัวใจเต้นแรง “คุณหมอ” เธอเรียกเขาอีกครั้ง ในตอนที่ปรมะวางเธอลงอย่างนุ่มนวล ทั้งสองสบสายตากันเพียงแวบเดียว “ช่วยผมหน่อย ช่วยผมด้วย” มธุรดากลืนน้ำลาย นี่มันเรื่องอะไรกัน ปรมะเห็นแบบนั้นก็รีบกอดเอวของเธอ และยึดปลายคางของหญิงสาวไว้ จากนั้นก็ก้มลงไปแนบชิด มธุรดาตั้งตัวไม่ทัน ไม่คิดว่าอีกคนจะทำแบบนี้ นายแพทย์ปรมะฉกริมฝีปากลงมาปิดปากของเธอทันที ทุกคนถึงกับตะลึงไม่คิดว่าจะได้เห็นช็อตเด็ด หมอหนุ่มประกาศตัวอย่างแรงกล้า ท้าชนแผนการประกาศหมั้นของคุณพ่อคุณแม่แบบสุดเด็ดเผ็ดมัน จนแทบจะทำให้ทั้งสองคนเข่าอ่อน แต่หาได้เป็นแบบนั้นไม่ คุณชนาภากับนายแพทย์ปฐมเดชถึงกับจับมือกัน และมองตากัน “พี่หมอคะ เรื่องจริงใช่ไหม” “อื้อ พี่ก็เห็นเหมือนกันกับน้อง” “แล้วจะทำยังไงดี” สองสามีภรรยามองไปด้านล่างเวทีอย่างไม่ได้นัดหมาย สามพ่อแม่ลูกโกรธจนตัวสั่น เมื่อครึ่งเดือนก่อนคุณนายชนาภาเพิ่งตกลงกับคุณกิติยาเป็นมั่นเหมาะว่า จะให้ลูก ๆ หมั้นหมายกัน ใครจะไปคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เกวลิน คุณกิติยา และคุณปราบ หน้าแดงด้วยความโกรธ เหมือนถูกครอบครัวอัศวิเวชน์พามาหักหน้าต่อธารกำนัล ทำให้พวกเขาได้รับความอับอาย งานหมั้นไฉนกลายเป็นงานแต่งงานไปได้ แล้วเจ้าสาวก็ไม่ใช่เกวลินอีกด้วย ปรมะผละจูบออกจากกลีบปากของมธุรดาอย่างเสียดาย รสจุมพิตของเธอหวานละมุนกรุ่นไปทั้งปาก โดยทั่วไปแล้วปรมะไม่ค่อยได้มีอะไรกับใครนัก ยกเว้นตอนไปท่องเที่ยวต่างแดน หากเจอสาวถูกใจตามผับตามบาร์ ก็มีสนุกสนานบ้างบางครั้งคราวตามประสาชายโสด ประเทศที่เขาประทับใจและชอบไปสุดคือประเทศฝรั่งเศส สาวที่นี่แค่มองตา หากสปาร์กก็เดินตามกันไปเข้าโรงแรมได้เลย แต่ตอนอยู่เมืองไทยเหมือนหนังคนละม้วน การเป็นที่รู้จักในฐานะทายาทโรงพยาบาลชื่อดัง ทำให้ต้องระวังตัวอยู่มาก ไอ้พฤติกรรมชายโสด ถูกใจใครก็พากันไปหลับนอนจำต้องซุกเก็บไว้ แล้วอาศัยนิ้วทั้งห้ากับทำงานจนให้ลืมทุกอย่างแทน สำหรับบางคนเซ็กซ์อาจจะจำเป็นและขาดไม่ได้ แต่สำหรับปรมะเขาออกกำลังกายแทนเอาก็ได้ เตะฟุตบอล ตีแบด อะไรก็ว่าไป มธุรดาที่โดนยัดเยียดจูบดูดดื่มยืนตัวทื่อ พบหน้ากันครั้งแรกแต่ลิ้นกลับเกี่ยวกระหวัดราวสนิทสนมกันนักหนา กลิ่นควันบุหรี่จาง ๆ ผสมกลิ่นมินต์เจือทั่วในโพรงปาก ทั้งที่เธอควรต้องเตะผ่าหมากคนตรงหน้าให้จุก แต่ปลายเท้ากลับแข็งเหมือนถูกตรึงตอกเอาไว้กับที่ แถมยังเผลอคล้อยตามไปแวบหนึ่งจนแทบลืมหายใจ เมื่อเขาผละออกเธอก็รีบโกยอากาศเข้าปอด แข้งขาอ่อนแรงเหมือนจะลมลงไปให้ได้ ดีว่าปรมะช่วยรั้งและโอบรอบเอวของเธอเอาไว้ ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน ปรมะก็คว้าไมค์มาจากพิธีกร หมอหนุ่มปรายมองสามพ่อแม่ลูกที่หน้าแดงจัดเพราะโทสะ ตอนนี้ถ้ามีอะไรใช้คลุมหัวได้ พวกเขาก็คงทำแล้ว แต่ที่ยังไม่เดินออกไปจากที่นี่ ก็เพราะทั้งสามคนอยากรอดูก่อนว่า ปรมะจะทำอะไรต่อไป พิธีกรเองก็ฉงนไม่น้อยที่ทุกอย่างดูผิดแผนไม่เหมือนกับสคริปต์ในมือ งงได้แต่งานต้องดำเนินรายการต่อ ขณะที่ทำท่าจะคว้าไมค์คืนมาจากเจ้าบ่าว นายแพทย์ปฐมเดชและคุณชนาภาก็ได้ห้ามเอาไว้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม