2 ลูซิเฟอร์

809 คำ
2 ลูซิเฟอร์ ภายในห้องตรวจ ยังไม่ทันที่เขาจะเค้นถามความจริงจากปากของลิลิธ ดราก้อนก็จำต้องรีบเดินตามหมอเข้ามาเพื่อทำการตรวจเจาะไขกระดูกของเขาไปเช็กให้แน่ใจก่อนว่า สามารถเข้ากับเด็กที่ป่วยอยู่ได้หรือไม่ ดราก้อนทิ้งตัวนอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล แม้ว่าภายในห้องจะเงียบสงบดี แต่ภายในใจของเขาตอนนี้มันว้าวุ่นไปหมด อดีตคู่หมั้นที่ไม่ได้เจอกันมานานเกือบสี่ถึงห้าปี จู่ ๆ ก็เดินกลับเข้ามาในชีวิตของเขา พร้อมกับมาขอให้เขาช่วยมาบริจาคเลือดและไขกระดูกให้กับเด็กคนหนึ่งที่... “อะ...อ๊า!” ดราก้อนร้องเบา ๆ ด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบที่จุดหนึ่งตรงกระดูกเชิงกรานค่อย ๆ แผ่ซ่านเมื่อหมอเริ่มขั้นตอนการเจาะไขกระดูก ดวงตาของเขาเบิกโต เพ่งมองขึ้นไปที่เพดานห้องที่เต็มไปด้วยแสงไฟสว่างจ้านั้น มันทั้งเจ็บทั้งทรมานมาก ๆ ช่วงขณะหนึ่งเลย “อืม” เขาสัมผัสถึงความเย็นเฉียบของเครื่องมือที่แทงเข้าไปลึกผ่านผิวหนังลงถึงกระดูก ความเจ็บปวดเหมือนกับมีดที่กรีดลงตรงจุดนั้น “จะเจ็บหน่อยนะครับคุณ” หมอเตือนเบา ๆ ก่อนจะเริ่มกระบวนการดูดไขกระดูก ความเจ็บปวดแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย แต่ดราก้อนเม้มปากแน่น และพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดนั้นเงียบ ๆ ในตอนที่เขาเจ็บจนแทบทนไม่ได้ จู่ ๆ เขาก็นึกถึงคำที่หมอพูดก่อนหน้านี้ว่า แม่ของเด็กเคยตรวจแล้วแต่ใช้กับลูกไม่ได้ จึงต้องมาลองไขกระดูกของฝั่งผู้เป็นพ่อแทน “ใจเสาะแบบลิลิธ ทนเจ็บขนาดนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย?”​ ดราก้อนพึมพำเบา ๆ มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น จนกระทั่งวินาทีที่เข็มปลายแหลมค่อย ๆ ถอนออกไปจนหมด “เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวเชิญคุณดราก้อนไปรอฟังผลที่ด้านนอกได้เลยนะครับ” ความเจ็บปวดทุกอย่างหยุดลงในทันที ในตอนที่หมอวางเครื่องมือทุกอย่างลงและเตรียมส่งผลไปตรวจที่แล็บ “คนที่สามารถบริจาคไขกระดูกให้กันได้...ต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องทางพันธุกรรมแบบตรง ๆ ใช่ไหม?” หมอหันมามองดราก้อนเล็กน้อย ความเงียบครอบงำชั่วขณะก่อนที่หมอจะถอนหายใจ พยักหน้าเล็กน้อย “ถ้าคุณไม่ตอบผมตรง ๆ ผมก็มีสิทธิ์ฟ้องคุณเหมือนกันใช่ไหม?” ดราก้อนจงใจแกล้งขู่ ๆ ไปเพื่อให้อีกฝ่ายยอมเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมด เพราะรู้ดีว่าออกไปเค้นถามจากลิลิธก็คงเปล่าประโยชน์ “ตามจริงคุณแม่ของน้องขอผมเอาไว้น่ะครับ ว่าไม่ให้บอกใคร...” “และผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า...ผมไม่ได้กลัวคุณฟ้องหรอก” “แต่ที่ผมยอมบอกเพราะอย่างน้อยคุณก็ยอมมาบริจาคไขกระดูกเพื่อคนไข้เด็กคนนี้ของผม” “และคนที่บริจาคให้ได้...ต้องเป็นพ่อแม่ หรือพี่น้องสายเลือดเดียวกันที่ไขกระดูกสามารถเข้ากันได้ ซึ่งตรวจกับของแม่แล้วมันเข้ากันไม่ได้” เขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ดังนั้นพ่อจึงเป็น...ตัวเลือกเดียวและสุดท้าย ที่ช่วยเขาได้” คำตอบของหมอทำให้ดราก้อนรู้สึกจุกอก และไม่สามารถที่จะอ้าปากถามอะไรต่อได้เลย “แต่ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าใช่ลูกตัวเองไหม...เดี๋ยวรอผลตรวจสักพักเราก็จะได้รู้แน่ชัดแล้วครับ” ดราก้อนแทบไม่ได้ฟังที่หมอพูดเลย เขารู้สึกเหมือนโลกตัวเองหยุดหมุนอย่างกะทันหัน ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองควรจะดีใจ เสียใจ หรือควรจะรู้สึกยังไงกันแน่ “แล้วเด็กคนนั้น…ชื่ออะไร?” ดราก้อนเอ่ยถามไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “เขาชื่อ...ลูซิเฟอร์ ครับ” หมอเหลือบมองแฟ้มข้อมูลในมือ ดราก้อนยิ้มมุมปากบาง ๆ เมื่อได้ยินชื่อ เขาพยักหน้ารับและค่อย ๆ เดินออกจากห้องตรวจอย่างช้า ๆ ขาทั้งสองข้างมันเหมือนไม่มีแรง มือสั่น และเหมือนหายใจไม่ออก “ลูซิเฟอร์…งั้นเหรอ?” เขาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ เหมือนคนที่ขาดสติไปชั่วขณะหนึ่ง ทางด้านลิลิธ เธอยังคงยืนยกมือขึ้นภาวนาให้ลูกชายของตัวเองและยืนเฝ้าหน้าห้อง ICU ไม่ห่าง “ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ...ตอนนี้!” ดราก้อนเดินมาถึงตัวของเธอและคว้าเข้าที่ข้อมือเล็กของเธอและลากคนตัวเล็กเดินตรงไปทางบันไดหนีไฟที่เงียบสงัด “แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุย!” ลิลิธพยายามสะบัดมือของเขาออก 🐉____🧝🏻‍♀️ สามารถเพิ่มเติมความฟิน รีวิว ฟังเพลงได้ที่ TT #อยู่ในตะเกียงแก้ว #lilithsdragonพันธะสวาทมังกร #พันธะสวาทมังกร #เพลงลิลิธถึงดราก้อน #ลิลิธดราก้อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม