น้ำเพชรยืนนิ่งมองสบตากับร่างสูงที่ไร้รอยยิ้ม เธอสังเกตอาการของเขาวันนี้เหมือนคนกำลังมีปัญหา แต่จะปัญหาอะไรมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ จึงเลือกที่จะเดินหนีไปอีกทาง
“เดี๋ยว” รามิลเอื้อมมือมาจับที่แขนเธอไว้ ก่อนจะดึงรั้งตัวเธอให้เข้าไปกระแทกกับตัวของเขาอย่างแรงจนใบหน้าสวยต้องเบ้ใบหน้า เพราะความเจ็บ
“อะไรของนาย ฉันเจ็บนะ”
“ไปไหนมา”
“เดินเล่น”
“เวลานี้?” มองดูนาฬิกาบ่งบอกเวลาสองทุ่ม
“นายมีอะไร” ช้อนแววตาสบตากับเขาอยากไม่คิดหลบ คนอื่นๆอาจจะรู้สึกกลัว แต่สำหรับเธอไม่ ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด
“อย่าทำตัวชิว อย่าลืมสถานะตัวเอง” ย้ำให้ชัดอีกครั้ง เผื่อเธอจะเผอเรอไปจนลืมสถานะตัวเองเข้า
“ไม่ต้องย้ำ ฉันรู้สถานะตัวเองดี”
จากที่อารมณ์ดีๆ กลับต้องมาเจอคำพูดของเขาจนทำให้ต้องหงุดหงิดขึ้นมา เขานี่มันเก่งเรื่องกวนอารมณ์คนอื่นจริงๆ อยากจะรู้นักว่าคนอื่นๆทนเขามาได้ยังไง
“ขึ้นไปรอฉันที่ห้อง ถอดเสื้อผ้าของเธอออกให้หมด เพราะฉันไม่อยากเสียเวลา”
“อีกแล้วเหรอ?” ร่างเล็กตาเบิกโพรง เพราะไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาหาเธออีกคืนนี้ “เปลี่ยนไปหาคนอื่นของนายบ้างได้ไหม”
“ทำไม หรือเธอไม่ไหว” เลิกคิ้วเอ่ยถาม ที่จริงเธอควรจะดีใจด้วยซ้ำที่เขาเลือกที่จะซ้ำกับเธอบ่อยๆ
“เมื่อคืนนายทำฉันทั้งคืนแล้วนะรามิล โน่นคนของนายอีกคน” ยื่นหน้าไปทางพลอยใสที่เดินลงมาได้เวลาพอดี
พลอยใสมองน้ำเพชรกับรามิลด้วยแววตาเศร้าๆ ภายในแววตานั้นซ่อนความหมายเอาไว้เป็นร้อยล้านความหมาย ทว่ากลับไม่มีใครเคยรู้เลยว่าที่จริงแล้วเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“ยัยนั่นมีสถานะเป็นของตายไปแล้ว ส่วนเธอยังเป็นของใหม่อยู่” พูดพร้อมกับใช้หางตามองไปทางหญิงสาวอีกคน ที่ตอนนี้กำลังยืนมองเขากอดกับน้ำเพชรอยู่ตรงหน้า
“นายนี่มันเลวเกินคนจริงๆนะรามิล” ผู้ชายที่มองผู้หญิงเป็นของตายได้ คงจะไม่เคยมีความรักให้ใครเลยแน่นอน
ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ที่เธอก้าวเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ เธอยังไม่เคยเห็นความดีของรามิลเลยแม่แต่ครั้งเดียว
“อย่าพูดมาก ฉันไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาด่าแบบนี้ได้บ่อยๆ”
“นายก็อย่าทำตัวให้น่าโดนด่าสิ”
“ปากแบบนี้ลองของหน่อยเป็นไง” รามิลดึงร่างเธอให้เข้ามาชิด พร้อมกับกระซิบไปที่ข้างหูของเธอที่เอาแต่จองหองใส่เขาไม่เลิก
น้ำเพชรช้อนสายตาขึ้นมองคนบาปอย่างรังเกียจ จากนั้นก็ผลักร่างสูงให้ออกจากตัว แล้วเลือกที่จะเดินหนีไปอย่างรำคาญทันที
วินาทีที่เดินผ่านหน้าพลอยใส เธอแอบเห็นแววตาของพลอยใสที่มองเธอแปลกไปจากเดิมอยู่พักหนึ่ง แต่เพราะความหงุดหงิดที่มีอยู่ตอนนี้ มันทำให้เธอเลือกที่จะไม่สนใจ แล้วเลือกที่จะกระทืบเท้าเดินกลับเข้าห้องไป พร้อมกับปิดประตูเสียงดังปัง!
“เสร็จงานแล้วก็กลับห้องของเธอไป” รามิลพูดขณะที่กำลังเดินผ่านร่างบางที่ยืนอยู่ตรงบันได เขาใช้น้ำเสียงและสายตาที่ไร้เยื่อใยมอง ก่อนที่เธอจะก้มหน้าแล้วพูดอะไรออกมาให้เขาได้ยินจนต้องหยุดชะงักแล้วหันมาพูดกับเธอต่อ
“เพราะกินพลอยจนอิ่มแล้วใช่ไหมคะ พลอยเลยไม่ได้อยู่ในสายตาของคุณแล้ว”
“อย่าทำตัวน่ารำคาญ ถ้าทนไม่ได้ก็ออกไปจากบ้านฉันซะ”
“พลอยยอมคุณหมดทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อคุณ…เพราะพลอยรักคุณจริงๆนะคะ คุณรามิลจะไม่เห็นค่าของพลอยตอนนี้ก็ได้ แต่พลอยอยากให้รู้ไว้ว่าพลอยยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อคุณ” พลอยใสพูดทั้งน้ำตา เงยหน้ามองคนที่เธอรักด้วยหัวใจที่วูบไหว
รามิลเดินเข้าไปกระชากตัวเธอให้เข้ามาใกล้ๆ มือหนาที่เคยจับแขนเลื่อนขึ้นมาบีบเข้าที่ลำคอจนพลอยใสมีสีหน้าไม่สู้ดี
“อย่าเอาคำพวกนี้มาใช้กับกูอีก มึงมันก็แค่ผู้หญิงที่อยากเป็นเมียกูจนตัวสั่น ยอมทิ้งแม้กระทั่งครอบครัวตัวเอง”
“อึก!”
รามิลสะบัดร่างของเธอออก แล้วเดินจากไปทิ้งให้พลอยใสมองเขาเดินจากไปด้วยน้ำตา
ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อคนคนหนึ่งได้ ต่อให้มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด เธอก็พร้อมจะยอมทำ ขอแค่ให้ได้เป็นใครสักคนที่อยู่ในสายตาของเขาบ้าง พลอยใสยอมได้ทุกอย่าง แม้จะต้องถูกตราหน้าว่าเป็นคนเลวก็ตาม
รามิลเดินเข้ามาในห้องของน้ำเพชร หูได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ร่างสูงไม่รอช้ารีบก้าวเข้าไปหาเธอในห้องน้ำทันที
แกร๊ก!!
เสียงเปิดประตูดังขึ้น ทำเอาคนตัวเล็กที่กำลังรีบอาบน้ำอยู่ต้องหันมามองด้วยความตกใจ
“นายเข้ามาได้ยังไง” เธอจำได้ว่าเธอล็อคประตูแล้วแน่นอน
“ฉันเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ เธอลืมหรือไง” พูดพร้อมกับหมุนพวงกุญแจให้เธอดู ก่อนจะโยนพวงกุญแจนั้นลง แล้วถอดเสื้อที่ใส่อยู่ พร้อมกับเดินเข้าไปหาเธอในโซนอาบน้ำทันที
“ฉะ ฉันอาบน้ำอยู่ นายออกไปรอข้างนอกสิ”
“อาบด้วยกัน ฉันช่วย”
“ไม่ต้อง” รีบล้างสบู่ออก แล้วปิดน้ำที่ไหลออกมาทางฟักบัวทันที
ขณะที่เธอกำลังจะเอื้อมหยิบผ้าเช็ดตัว รามิลก็เดินเข้ามาหาในสภาพเปลือยเปล่า พร้อมกับดันให้เธอถอยหลังจนไปติดกับกำแพง
ใบหน้าของสองเราอยู่ใกล้กันแค่คืบ หัวใจของน้ำเพชรเต้นแรงจนแทบจะถลนออกมาด้านนอก ทว่าเธอกลับทำเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร พลางบอกกับตัวเองให้ใจเย็นและไม่ให้แสดงอาการเหมือนคนเสียอาการอะไรออกมาให้เขาจับได้
“ฉันยังไม่ได้อาบเลย”
“ก็อาบไปสิ ฉันจะไปรอข้างนอก” สองมือดันอกแกร่งให้ถอยห่าง ทว่าเขากลับยึกข้อมือของเธอ แล้วดันมันไปติดกับกำแพงทั้งสองข้าง
กลายเป็นว่าตอนนี้เธออยู่ในสภาพที่ไร้การปกปิด ซึ่งไม่ได้ต่างจากเขาเท่าไหร่ เราสองคนแทบจะเนื้อถึงเนื้อ
รามิลเห็นเธอกำลังดูหวาดกลัว เขาเลยคิดแกล้งเธอด้วยการขยับร่างกายของตัวเองให้เข้าไปชิดเธอยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปแนบชิดกับใบหน้าของเธอจนปลายจมูกของเราสะกิดกัน
ส่วนร่างที่ไร้การปกปิดเกิดการถูไถจนร่างบางต้องเลือกยืนอยู่นิ่งๆ ความเล็กของส่วนล่างของเขาได้เริ่มขยายจนกลายเป็นท่อนลำใหญ่ขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“ถูหลังให้ฉันหน่อย” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นมาอย่างแผ่วเบา พลางใช้ปลายจมูกคลอเคลียลำคอของเธอ
“ไม่”
“อย่าขัดใจฉัน ฉันไม่ชอบคนขัดใจ”
“อย่ามัวแต่เล่นได้ไหม รีบทำแล้วก็รีบออกไปจากห้องฉันสักที” น้ำเพชรไม่ทนอีกต่อไป เธอแหวใส่เขาพร้อมกับหลบใบหน้าไปอีกทาง เพราะไม่อยากรับจูบของเขาที่กำลังจะพุ่งเข้ามาหาเธอ
แต่เลี่ยงไปก็เท่านั้น เพราะรามิลไม่ยอมให้อะไรมาขัดใจ เขาปล่อยมือที่จับข้อมือเธออยู่หนึ่งข้าง แล้วบีบคางเธอให้หันมารับจูบเขาอย่างที่เขาตั้งใจ
“อื้มมมม”
คนตัวเล็กพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการ ทว่ายิ่งดิ้นเขายิ่งดันร่างกายตัวเองเข้ามาดันเธอไว้ จนเธอรู้สึกได้ถึงสิ่งแข็งชันด้านล่าง มันกำลังสัมผัสกับส่วนล่างของเธออยู่เช่นกัน
หน้าอกอันอวบอิ่มของเธอถูกอกแกร่งของเขาบดเบียด มืออีกข้างของเขาปล่อยข้อมือเธอลง จากนั้นก็ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอ สัมผัสไปตามเนื้อเนียนขาวจนไม่วายจะเลื่อนริมฝีปากลงมาทำรอยเอาไว้บนร่างกายของเธอ เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
ขณะที่เขาและเธอกำลังเคลิ้มไปกับสิ่งตรงหน้า เสียงเคาะประตูดังสนั่นหวั่นไหวจากข้างนอกก็สะกิดให้รามิลต้องหยุดการกระทำนั้นลง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก…