ความเดิม- ..ค่ะอาจารย์.. ปรียาวรรณตอบรับเสียงอ่อย เพราะตอนนี้เธอเริ่มปวดแขนหนึบ ๆ มากขึ้นแล้ว
………………………………….
หลังจากที่ครูพยาบาลประคบน้ำแข็งและใช้ผ้าคล้องประคองแขนเพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเด็ก ๆ ทุกคนโทรหาผู้ปกครองของแต่ละคนแล้วเรียบร้อยและแยกย้ายกันกลับบ้าน ยกเว้นนนท์วนาและปรียาวรรณที่ต้องไปโรงพยาบาลก่อน ทั้งสองจึงขึ้นรถไปกับเกียรติพงษ์เพราะชายหนุ่มเป็นธุระไปส่งให้
ด้านนนท์วนารีบล้วงกระเป๋าเป้แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูปรากฎว่ามีสายไม่ได้รับจากมารดาจริง ๆ จึงได้แต่เงียบไว้ดีที่สุด แล้วก้มหน้างุดหลบสายตาใครบางคน
@บนรถ
..สองคนมีอะไรจะบอกพี่มั๊ย..
……… (เด็กสาวทั้งสองนั่งเงียบกริบ)
ด้านเทศกาลที่ทำหน้าที่เป็นพลขับได้แต่มองคนเจ็บผ่านกระจกมองหลังอย่างอึ้ง ๆ ปนรำคาญ ได้แต่บ่นในใจ ทำไมไม่พูดว่าถูกเขาอัดลูกบาสใส่ เขาเห็นกับตาแถมยังอัดคลิปวิดีโอไว้ได้ทันทุกช็อต
..ถ้าไม่บอกพี่จะส่งคลิปเรื่องเมื่อเย็นนี้ให้อานนกับอานานะลีอา.. เกียรติพงษ์พูดเน้น ๆ อย่างชัดถ้อยชัดคำ
..คือ บอกแล้วค่ะพี่เกียรติ คือเรามีเรื่องกันนิดหน่อยค่ะ ไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต ถ้าป๋ากับแม่รู้ความจริงลีอาก็ต้องโดนไม้เรียวอีกแน่ ๆ เลยค่ะ แต่นั่นไม่น่ากลัวเท่ากับการได้ไปอยู่กับป้าวนิดาที่กรุงเทพฯ หรอกนะคะ ขอร้องล่ะค่ะพี่เกียรติอย่าบอกป๋ากับแม่เลย ลีอาสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกแล้ว.. นนท์วนาพูดออดอ้อนอยู่ในที
..พูดดี ๆ ก็เป็นนิ่..ก็ได้ ไม่บอกก็ได้แต่เราต้องสัญญากับพี่ก่อนว่าจะไม่บวกกับใครแบบนี้ โดยเฉพาะผู้ชายยังไงก็ผู้ชาย เรายังไงก็ผู้หญิงยังไงก็ผู้หญิงมีแต่จะเสียกับเสีย เข้าใจมั๊ย.. เกียรติพงษ์พูดอย่างยืดยาวที่สุดเท่าที่เคยพูดมา
..ค่า..ถ้าเค้าไม่มาหาเรื่องลีอาอีก ลีอาก็ไม่บวกกับเค้าหรอกค่า.. เด็กสาวตอบอย่างตรงไปตรงมา
ด้านเกียรติพงษ์ถอนหายใจยาวอย่างต้องการจะระงับอารมณ์เมื่อได้ฟังเด็กสาวพูดตั้งแต่ต้นจนจบ
หึหึ.. (เสียงหัวเราะในลำคอของพลขับ) นั่นทำให้เกียรติพงษ์ปรายตามองเป็นการตำหนิลูกน้องคนสนิทแบบกลาย ๆ
เมื่อรถยนต์มาถึงโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง เทศกาลเข้าจอดที่ตึกฉุกเฉินทันที
"เป็นยังไงมาครับ" เจ้าหน้าที่เวรเข้ามาถามทันที
"ถูกลูกบาสเกตบอลอัดเข้าที่แขนค่ะ" นนท์วนารีบตอบทันทีเพราะเธออยู่ในเหตุการณ์
"เด็กอายุสิบห้าปีเท่านั้น มีผู้ปกครองมามั๊ยครับ" เจ้าหน้าที่หนุ่มเอ่ยถาม
"เอ่อ พอดีผู้ปกครองกำลังตามมาน่ะครับ พอดีคุณพ่อน้องบอกให้มาที่โรงพยาบาลนี้ บอกว่าแม่ของน้องเข้าเวรที่โรงพยาบาลนี้ครับ"
"ไหน ขอดูบัตรประชาชนหน่อยครับ"
"นี่ค่ะ"
"นางสาวปรียาวรรณ ประภาสกุล เอ.. นามสกุล ‘ประภาสกุล’ นี่ลูกสาวของพี่แป๋วเหรอ?"
"ใช่ค่ะ น้องเปรียวเองค่ะ"
"เอ้า..โตขนาดนี้แล้วเหรอ แม่เราเข้าเวรบ่ายพอดีเลย โน่น..กำลังฉีดยาให้คนไข้อยู่ทางโน้นพอดี จะให้บอกแม่เรามั๊ย"
"ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวพ่อก็มาแล้ว"
อีกด้านของผู้มาใหม่
//น้องเปรียว เป็นไงบ้างลุก
..เอ่อ ผมเป็นบิดาของคนป่วยครับ ต้องเซ็นอะไรมั๊ยครับ..
..สวัสดีครับพี่ ผมเป็นเพื่อนร่วมงานกับพี่แป๋วครับ พอดีน้องบอกว่าไม่ให้ตามแม่ เดี๋ยวพ่อมา..งั้นทำประวัติเสร็จไปรอที่ห้องฉุกเฉินทางโน้นนะครับ ถ้ายังไงจะมีเจ้าหน้าที่มาเรียกถ้าต้องเซ็นอะไร ขอให้ไม่ต้องเซ็นผ่าตัดนะครับ ผมขอตัวไปรับคนไข้ทางโน้นก่อน สวัสดีครับพี่.. เจ้าหน้าที่หนุ่มรีบยกมือไหว้ชายวัยกลางคนแล้วไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ
คุณครับ คุณครับ.. ปรีชาเรียกชายหนุ่มคนเดียวในกลุ่มแต่ไม่มีเสียงตอบรับ
ด้านเกียรติพงษ์ที่เคยอคติกับระบบบริหารสถานพยาบาลภาครัฐที่ช้า และเจ้าหน้าที่พูดไม่ค่อยดี ตอนนี้ทัศนคติเก่า ๆ ถูกลบหายไปหมดแล้วเมื่อไม่กี่นาทีนี้เอง มีก็เพียงแต่การบริการที่หนาแน่นเพราะเป็นสิทธิฟรีจำเป็นต้องมีคิวรออันนั้นเขาพอเข้าใจได้ เขายิ้มในหน้าและมองดูเจ้าหน้าที่แต่ละคนปฏิบัติงานกันอย่างกระตือรือร้น จนมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรู้สึกเหมือนมีใครมาสะกิดที่แขน
..พี่เกียรติคะ พ่อของเพื่อนลีอาเรียกพี่ค่ะ.. นนท์วนาสะกิดแขนชายหนุ่มแล้วบอก
..อ้อ..ครับ.ว่ายังไงนะครับน้องลีอา..
..พ่อของเพื่อนลีอาเรียกพี่ค่ะ..คนนี้ค่ะ..
..อ้อ..ครับ..สวัสดีครับคุณอา..
..คือผมขอบคุณ คุณมากนะครับที่ช่วยเป็นธุระให้ ยังไงคุณพาน้องสาวกลับได้เลยนะครับ ทางนี้ไม่มีอะไรแล้ว..
..คุณพ่อคะ หนูชื่อลีอาค่ะ เป็นเพื่อนของยัยเปรียวค่ะ รู้จักกันตั้งแต่เปิดเรียน ก็อาทิตย์นึงพอดีค่ะ พอดีอาจารย์เค้าบอกมาว่า เบิกประกันอุบัติเหตุของโรงเรียนได้นะคะ แค่ขอใบรับรองแพทย์ค่ะ แล้วให้ยัยเปรียวไปยื่นที่โรงเรียนค่ะ..
..เหรอลูก..ขอบใจหนูมากนะที่มีน้ำใจกับยัยกุ้งแห้งพ่อ กลับบ้านเถอะนะ ป่านนี้คุณพ่อคุณแม่คงรอแย่แล้ว..
..ค่ะ…งั้นหนูลาตรงนี้เลยนะคะ..สวัสดีค่ะ/เราไปนะยัยเปรียว ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องไปเรียนหรอก เดี๋ยวเราจดเลคเชอร์ให้ บาย.. นนท์วนายกมือกระพุ่มไหว้บิดาของเพื่อนและร่ำลาเพื่อนสาว แล้วเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินที่แสนจะวุ่นวายอย่างนึกโล่งใจ
ด้านเกียรติพงษ์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดอะไรบางอย่างแล้วจูงมือคนตัวเล็กเดินออกมา สักพักก็เห็นรถยนต์คันหรูขับมาเทียบจอด
"ปะ..เรา..ขึ้นรถ เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้าน ป่านนี้อานนท์อานากับอาลีรอแย่แล้ว"
"ค่ะ.."
ใช้เวลาไม่นานนักรถยนต์คันหรูก็เข้ามาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ เกียรติพงษ์ลงจากรถเพื่อจะมาเปิดประตูให้นนท์วนาแต่เด็กสาวเปิดประตูออกก่อนแล้วก้าวลงอย่างกระฉับกระเฉง
"ขอบใจมากนะพ่อเกียรติ ขอบใจมากนะพ่อหนุ่มที่อุตส่าห์ไปรับน้องมาให้ รบกวนเราแย่เลย เข้าบ้านดื่มน้ำดื่มท่าเข้าห้องน้ำห้องท่ากันก่อนดีมั๊ย" วนาลีรู้สึกขอบคุณสองหนุ่มอย่างมากถึงกับเอ่ยปากชวนเข้าบ้าน