คุณคนโหด 02 ซุกไซร้ 🔥

1885 คำ
CHAPTER 02 “ขอบคุณมากนะคะคุณหนูเมเบล วันและเวลาถ่ายแบบเดี๋ยวคุณเอลลี่จะประสานไปนะคะ” “ค่ะ” ฉันตอบคุณเมแกนสั้น ๆ ก็เดินนำหน้าฮาร์ดินบอดี้การ์ดที่ฉันยังโกรธแค้นเขาอยู่ ฮาร์ดินเปิดประตูรถให้ฉันแต่ฉันไม่ได้ขึ้นฝั่งที่เขาเปิดให้ ฉันเดินอ้อมไปอีกฝั่งแล้วเปิดประตูรถฝั่งนั้นด้วยตัวเองก่อนจะขึ้นไปนั่งแล้วปิดลงด้วยตัวเองเช่นกัน ฉันได้ยินเสียงฮาร์ดินหัวเราะอยู่ในคอ เขาเคาะนิ้วลงกับหลังคารถเป็นจังหวะเฉื่อยชาแล้วปิดประตูรถแล้วเดินมานั่งตำแหน่งคนขับรถของตัวเองไป ระหว่างนั่งรถกลับคอนโดไม่ได้มีใครพูดอะไรออกมา ถ้าจะมีคงมีเพียงสายตาของฮาร์ดินที่ลอบมองฉันผ่านกระจก เป็นแววตาที่กวนประสาทจนฉันต้องหยิบมือถือมาเล่นฆ่าเวลาจวบจนฮาร์ดินเลี้ยวรถเข้ามาในคอนโด “ต้องให้ผมอุ้มคุณหนูไปส่งมั้ยครับ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาทพอสมควร ฉันเงยหน้าจากมือถือแล้วจ้องบอดี้การ์ดที่ถือดีด้วยแววตาไม่พอใจ “ไอ้บอดี้การ์ดหน้าโง่” ด่าเสร็จก็เก็บมือถือใส่กระเป๋าแล้วส่าวเท้าขึ้นลิฟต์เพื่อมุ่งตรงขึ้นไปยังห้องของตัวเองทันที ห้องฉันอยู่ชั้น 4 เลขห้อง 413 แต่เวรกรรมมีจริงเชื่อเถอะ! ประตูลิฟต์กำลังจะปิดแต่มือหนาของใครบางคนกั้นเอาไว้ก่อน “รอด้วยสิครับ” เป็นฮาร์ดินที่อยู่คอนโดเดียวกันกับฉันเช่นกัน ฮาร์ดินไม่ใช่คนฐานะธรรมดาแต่กลับอยากเป็นบอดี้การ์ดทั้งที่นิสัยไม่มีทางผ่าน! แต่เวรกรรมคือฮาร์ดินอยู่ห้อง 414 ซึ่งมันตรงกันข้ามกับห้องฉัน ฮาร์ดินกระตุกยิ้มมุมปากแล้วเดินเข้ามาในลิฟต์ที่มีแค่เขากับฉัน ฉันขยับให้ตัวเองชิดริมมากที่สุด ไม่สบตา ไม่มอง ทำเหมือนบอดี้การ์ดเลว ๆ คนนี้ไร้ตัวตน “เมื่อกี้คุณด่าผม?” เสียงเท้าเดินเข้ามาใกล้ ฉันกำกระโปรงตัวเองเอาไว้แน่น ริมฝีปากเชิดขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่มองเขาไปอย่างท้าทาย “ฉันมีสิทธิ์ตำหนิบอดี้การ์ดของคู่หมั้นตัวเอง” ฮาร์ดินยืนห่างกับฉันประมาณสองก้าว พูดจบฉันก็ดึงมือตัวเองมากอดอกเอาไว้แน่น “งั้นเหรอครับ? “ เสียงฮาร์ดินถูกกลืนไปพอ ๆ กับเสียงลิฟต์เปิด ฉันรีบส่าวเท้าเดินออกจากลิฟต์ไปอย่างรวดเร็วโดยมีฮาร์ดินเดิมตามหลังด้วยการก้าวเดินปกติแต่กลับตามฉันทันเพราะเขาขายาว ปึ่ก! “อ๊ะ..” ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจที่จู่ ๆ ฝ่ามือหนาของฮาร์ดินก็ดันประตูที่ฉันกำลังเปิดออกให้ปิดลงไปอีกครั้งหนึ่ง “นี่!” ฉันพยายามระงับอารมณ์แต่ก็เผลอส่งเสียงขึ้นมาเมื่อถูกฮาร์ดินหาเรื่องไม่เลิก “คุณด่าผม” ฮาร์ดินกระซิบคำพูดเดิมที่ฉันเมิน ฉันขูดเล็บลงไปกับบานประตูที่อยู่ตรงหน้าโดยมีฮาร์ดินยืนซ้อนหลัง เขาขยับริมฝีปากชิดใบหูแล้วกระซิบจนไอความร้อนเป่ารดจนฉันขนลุกชัน “ปล่อย..” “ไม่” ฮาร์ดินกุมมือฉัน เขาเปิดประตูห้องฉันแล้วดันฉันเข้าไปโดยมีเขาเดินตามมาติด ๆ “อย่าเข้ามานะ” คำสั่งของฉันไม่มีค่าพอให้เขาฟังเพราะเจ้านายเขาให้ท้ายและให้อิสระฮาร์ดินในการดูแลฉันฮาร์ดินเลยกลายเป็นบอดี้การ์ดที่มีอำนาจเหนือฉันไปโดยปริยาย “ผมไม่มีความจำเป็นอะไรต้องฟังคุณ” ฮาร์ดินกดฉันแนบบานประตูห้องแล้วเขาก็ค้ำแขนทั้งสองข้างเพื่อกักขังกัน เขาโน้มใบหน้าลงมาระดับเดียวกัน ใบหน้านั้นเลิกคิ้วแล้วกระตุกยิ้มด้วยรอยยิ้มกวนประสาท “ฉันจะฟ้องพี่คริสให้ไล่นายออก” “คุณคิดว่าคุณคริสจะฟังใครครับ” ฉันกัดปากล่างเพื่อระงับอารมณ์ สองมือที่เป็นอิสระขยุ้มเล็บลงไปกับหน้าอกแกร่งที่อยู่ตรงหน้ากัน “คุณขยุ้มหน้าอกผมอยู่ ถ้างั้นผมก็คงขยุ้มหน้าอกคุณได้ ถูกต้องมั้ยครับ?” ฉันรีบชักมือตัวเองกลับทันที “นายมันโรคจิต ไอ้โรคจิต” ฮาร์ดินบิดยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ เขาขยับนิ้วโป้งขึ้นมาคลึงริมฝีปากฉันเบา ๆ “คุณด่าผมอีกแล้วนะครับคุณหนูเมเบล” ใบหน้าหล่อเลวนั้นขยับเข้ามาใกล้ทั้งที่นิ้วโป้งยังลูบไล้ริมฝีปากฉันอยู่ “ฮาร์ดิน ออกไป” ฉันดันปลายคางคนตรงหน้าเพื่อให้ริมฝีปากเขาขยับออกไป Rrtt ในระหว่างที่เรามองตากันอยู่เสียงมือถือฮาร์ดินก็ดังขึ้น ฉันผลักเขาออกแล้วเดินมานั่งบนโซฟารับแขกแต่ไอ้บ้านั้นเดินตามเข้ามานั่งข้าง ๆ ฉัน เขายังไม่รับสายแต่กลับอุ้มฉันขึ้นมานั่งบนตักตัวเอง “นี่! ฮาร์ดินปล่อย” ฉันดิ้นแต่ฮาร์ดินกลับรวบเอวฉันเอาไว้แล้วกัดใบหูฉันเบา ๆ เมื่อฉันเริ่มพยศหนักขึ้น “ครับคุณคริส” เขากดรับสายปลายสายแล้วเปิดสปีกเกอร์โฟนก่อนจะวางไว้บนโต๊ะหน้าเราสองคน “ (ฮาร์ดิน วันนี้นายไปรับเมเบลมาวันเกิดฉันด้วยนะแม่บ่นฉิบหายให้พามาให้ได้ โคตรรำคาญ บอกว่ารักไม่ชอบบังคับให้หมั้นบ้าบออะไรไม่รู้) ” ปลายสายบ่นอย่างไม่พอใจ คู่หมั้นเขาที่ฟังอยู่อย่างฉันร้อนผ่าวไปทั้งตัว “ได้ครับคุณคริส” “ (อื้ม รับมาแล้วนายก็ดูแลแล้วกันฉันไม่ว่างดูแล ไม่อยากดูแลด้วย นายจัดการทุกอย่างได้เลย แค่นี้แหละ) ” เสียงกดวางสายดังขึ้น ฉันเหมือนคนที่ถูกไม้หน้าสามอัดใส่กลางหน้า มันชา และค่อย ๆ ไต่ระดับเป็นความเจ็บปวด เสียงหัวเราะดังชิดริมหู ฮาร์ดินกอดฉันแน่นขึ้นแล้วเขาก็กระซิบถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “คุณคงได้ยินด้วยหูของคุณเองแล้วนะครับ คุณหนู” การเน้นย้ำจากฮาร์ดินยิ่งทำให้ฉันโกรธ ฉันจิกเล็บลงไปบนท่อนแขนที่รวบเอวฉันเอาไว้อยู่ จิกเล็บแล้วจิกมันขึ้นซ้ำ ๆ เพื่อระบายความโกรธที่อยู่ในใจ “คุณทำร้ายร่างกายผมอีกแล้ว” “นายสะใจมากใช่มั้ยที่เห็นฉันถูกทิ้งขว้าง” ฉันพยายามควบคุมไม่ให้ตัวเองน้ำตาไหล “ใช่ครับ คุณดูน่าสมเพชดีเวลาถูกทิ้ง” น่าสมเพชงั้นเหรอ หงุดหงิดชะมัด ฉันกัดปากจนแสบร้อนแล้วเลือกที่จะยกมือฮาร์ดินขึ้นมาแล้วกัดเพื่อระบายความโกรธของตัวเอง “เอาสิครับ คุณทำได้ผมก็ทำได้เหมือนกัน” “ฉันเกลียดนาย” เสียงพูดฉันแผ่วเบาแต่คนใกล้แน่นอนว่าต้องได้ยิน พูดจบฉันก็หันหน้าไปฝั่งเขี้ยวลงไปยังกึ่งกลางหน้าอกฮาร์ดินที่กระดุมเสื้อปลดอยู่สองเม็ด กัดลงไปจนจมเคี้ยวแต่เขากลับไปร้องสักนิด “คุณเคยโดนเอาคืนมั้ยครับ” “อ๊ะ.. นี่..” ฮาร์ดินดันฉันลงไปโซฟาขนาดใหญ่ที่สามารถนอนได้ทั้งตัว เขากดฉันจมโซฟาแล้วขึ้นมาคร่อมฉันอยู่ข้างบน ฉันดิ้น แต่พอดิ้นมือก็ถูกเขารวบขึ้นเหนือหัวด้วยมือเขาเพียงข้างเดียว “ผมชอบเอาคืนด้วยสิ” แววตาฮาร์ดินเจ้าเล่ห์ เขาขยับใบหน้าลงมาแล้วบิดยิ้มร้ายก่อนจะใช้มืออีกข้างปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาฉันออกไปสองเม็ดเหมือนที่เขาใส่อยู่ “ฮาร์ดดิน ปล่อย” ฉันเริ่มหวาดหวั่น แววตาแสดงออกถึงอาการสั่นไหวที่เก็บเอาไว้ไม่อยู่ “ผมจะปล่อยก็ต่อเมื่อผมเอาคืนคุณเรียบร้อยแล้ว” สายตาฮาร์ดินแน่วแน่ เขาขยับใบหน้าลงมาถึงกลางหน้าอกฉันแล้วค่อย ๆ ฝั่งเขี้ยวตัวเองลงไปบนหน้าอกฉันเหมือนที่ฉันเคยทำกับเขา “จะ เจ็บ..” ฉันน้ำตาเล็บเพราะความเจ็บทำให้ร่างกายเกร็งไปทุกสัดส่วน ฮาร์ดฝั่งลงไป เขาเน้นซี่ฟันจนจมเขี้ยวแล้วผละออกก่อนจะขยับไปทำเหมือนเดิมในบริเวณใกล้เคียงกัน “จะ เจ็บ อึก..” ฉันกำมือที่ถูกรวบขึ้นบนเข้าหากัน ขอบตาร้อนผ่าวเพราะหยดน้ำตาไหลรินจากความปวดร้าวที่ได้รับ “คุณบอกว่าคุณเจ็บ แล้วตอนที่คุณทำคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าผมก็เจ็บ?” ฮาร์ดินจ้องหน้ากันด้วยสายตาที่จริงจัง ฉันหันหน้าหนีเขาเพื่อหลีกเลี่ยงการจ้องมองแต่กลับถูกฮาร์ดันจับหันกลับมาสบตาเขา แววตาฮาร์ดินดุดันมากขึ้นเมื่อถูกขัดใจ “ผมถามทำไมคุณถึงตอบผมไม่ได้” “......” “หรือเพราะความจริงแล้วคุณก็เลวร้ายไม่ต่างจากคู่หมั้นตัวเองที่ยอมทนเพียงเพราะต้องการหมั้นเพื่อพยุงธุรกิจของครอบครัวตัวเอง” แววตาฉันสั่นสะท้าน ฉันจ้องลึกลงไปนัยน์ตาคู่ดุคู่นั้นแล้วยกหัวขึ้นไปกัดซอกคอเขาหนัก ๆ หนึ่งครั้งแล้วทิ้งตัวลงเหมือนเดิม “เป็นหมาหรือไงถึงชอบกัด” ‘การกัด’ เป็นการระบายอารมณ์ของฉันตั้งแต่เด็ก เมื่อไหร่ที่รู้สึกอยากระเบิดอารมณ์ฉันจะกัดตัวเองเพื่อระงับเอาไว้ ส่วนตอนนี้ฉันเลือกที่จะกัดฮาร์ดินเพื่อระงับความโกรธที่มีต่อเขา “เดี๋ยวผมจะลองเป็นหมาเหมือนคุณบ้าง” “อึ่ก..” ฉันสะดุ้งจนตัวเกร็ง ฮาร์ดินกัดซอกคอฉันเหมือนที่ฉันทำ เขาไล่กัดไปทั่วซอกคอก่อนจะขบเม้มตรงรอยกัดนั้นจนฉันแสบไปทั่วต้นคอ “ฮาร์ดิน ปล่อย “ พอฉันดิ้นฮาร์ดินก็กดตัวเองลงมาจนฉันดิ้นไม่ได้ พอฉันหันหน้าหนีก็เหมือนเป็นการยินยอมให้เขาซุกไซร้ซอกคอฉันได้อย่างง่ายดายมากขึ้น “อะ อื้อ..” จากแค่ซุกไซร้ตรงซอกคอฮาร์ดินเริ่มขยับขึ้นไปขบกัดใบหูฉันจนใบหน้าฉันร้อนผ่าว “ฮาร์ดิน พอได้แล้ว..” ฮาร์ดินเปลี่ยนจากกุมมือฉันไว้เหนือหัวเปลี่ยนเป็นสอดนิ้วทั้งสิบของเราให้ประสานเข้าหากันแล้วเขาก็กดมือฉันลงข้างลำตัว ฮาร์ดินผละใบหน้าออกมามองหน้ากัน แววตาเขาร้อนระอุกว่าทุกครั้ง “ยะ ยอมแพ้แล้ว” ฉันยอมยกธงขาวเพราะฮาร์ดินโน้มใบหน้าลงมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อฉันยอมริมฝีปากร้ายนั้นก็เหยียดยิ้มอย่างพอใจ คนเลว.. “รีบแต่งตัวนะครับ ถึงเวลาผมจะมารับ” ฮาร์ดินลุกขึ้นยืน เขาต้องมองฉันที่ค่อย ๆ หยัดตัวขึ้นมานั่งแล้วรีบจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง “อื้ม..” ฉันตอบเพียงเท่านั้นก็ก้มหน้างุดเพราะไม่กล้าสบตาผู้ชายที่เคยอยู่เหนือร่างตัวเองมาก่อน เสียงประตูถูกปิดลงเป็นสัญญาณบอกว่าฮาร์ดินไปแล้ว เมื่อตอนนั้นฉันโล่งอกจนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “คนนิสัยไม่ดี” Talk อันนี้แค่น้ำจิ้มของความฮอต บอกเลยคู่นี้ขั้นสุด เลือดไหลหมดตัว ครบ 10 เม้นมาอัปน้า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม