กึก กึก กึก
เสียงรองเท้ากระทบพื้นทุกย่างก้าวล้วนเต็มไปด้วยความแน่วแน่มั่นคง เจ้าของร่างสูงโปร่ง แววตาเรียบนิ่งดูไร้ความรู้สึกแววตาคู่นั้นไม่เคยวอกแวกไปตามเสียงที่ดังมาจากรอบข้างก็ไม่อาจทำลายกำแพงสูงของเขาให้ทลายลงได้ สายตาคู่หวานฉ่ำหรือรวมกระทั่งสายตาคู่คมทุกคู่เพ่งพิศความหล่อที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูด ผู้คนรอบข้างต่างพากันซุบซิบเซ็งแซ่มาตลอดทาง บ้างกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจ บ้างถามไถ่ถึงเจ้าของความสูงว่าเป็นใครแน่ บ้างก็อยากวิ่งเข้าไปทำความรู้จักหรือตีสนิท
'แกนั่นพี่เพิร์ธใช่ไหมแกฉันไม่ได้ฝันไปใช่หรือเปล่า'
'แกพี่เพิร์ธมาทำอะไรที่คณะเรา'
'เป็นบุญตาที่ได้เห็นพี่เพิร์ธเต็มตาว่าแต่พี่เขามาหาใครหรือจะมาหาแฟน'
'บ้าน่าแกพี่เพิร์ธไม่มีแฟนฉันตามข่าวพี่เขาตลอดไม่เห็นว่ามีแฟนนะ'
เสียงส่วนใหญ่ที่พูดถึงเขาล้วนแต่เป็นผู้หญิงของคณะบริหารทุกคนต่างรู้จักเขาเป็นอย่างดี แต่มันน่าแปลกตรงที่เขาย่างกายมาคณะนี้ ปกติเพิร์ธจะเป็นคนที่เก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใครเข้าถึงยากมีเพียงเพื่อนสนิทคนเดียวไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย แต่วันนี้เขากลับปรากฏตัวนอกเหนือคณะวิศวะที่เขามักสิงและไม่เคยออกไปไหนที่ไม่ใช่คณะตัวเอง เขาป็นคนนิ่งเย็นชาเข้าถึงอยากแม้สาวๆหลายคนพยายามเข้าหา หรืออาจจะมีบ้างที่เห็นเขาอยู่กับสาวสวยระดับดาวคณะแต่แค่เพียงวันเดียวสาวๆเหล่านั้นก็ไม่เคยปรากฏข้างกายเขาอีกเลย
ร่างสูงโปร่งยังคงมีประสาทรับเสียงดีแต่เขากลับไม่สนใจคำพูดเหล่านั้นเขายังคงมุ่งตรงไปยังตึกสูงสีขาวเด่นตะหง่านตรงหน้า ในเวลานี้คงเป็นเวลาใกล้เที่ยง เพราะเหล่านักศึกษาชายหญิงดูพลุกพล่านเดินสวนกันไปมา แต่เมื่อหนุ่มหล่อร่างสูงโปร่งย่างกายเดินผ่านเข้ามาจึงเรียกสายตาทุกคู่มาจับจ้องอยู่ตรงใบหน้าอันหล่อเหลาสะกดทุกสายให้เฝ้ามองอย่างชื่นชมและหลงใหลเหมือนต้องมนต์สะกดตรึงเท้าให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่สามารถขยับออกไปจากภวังค์ฝันอันแสนหวาน
เสื้อช็อปสีแดงสะดุดตาคลุมทับอยู่บนเสื้อยืดสีดำสนิท กางเกงยีนส์สีเข้มสะกิดขาดตรงหน้าขารัดเข้ากับลำขายาวแนบสนิทเข้ากันได้อย่างลงตัว ยิ่งส่งให้ใบหน้าอันหล่อเหลากลายเป็นเป้าสายตาของเหล่านักศึกษาหญิงให้หันมองเจ้าของใบหน้าเรียบนิ่งราวน้ำแข็ง แววตาที่ดูแสนจะเย็นชาไร้ความรู้สึกไม่ได้ชายตามองความสวยของนักศึกษาหญิงที่คอยส่งสายตาทอดสะพานให้
หญิงสาวสวยเหล่านั้นหวังให้เขามีปฏิสัมพันธ์หรือให้ความสนใจแก่พวกเธอ แต่แล้วพวกเธอก็ได้พบกับความผิดหวังแม้จะพยายามเข้าหา เขายังยืนนิ่งราวกับเป็นรูปปั้นหินอยู่หน้าตึกเหมือนกำลังเฝ้ารอคอยการปรากฏตัวของใครบางคน
"ลียาเที่ยงนี้เรากินอะไรกันดี ฉันอยากกินอะไรที่เป็นเส้นๆเราไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านอร่อยที่คณะอักษรดีไหมเห็นใครๆต่างพูดถึงความอร่อยฉันอยากไปลองชิมน่ะ" เสียงใสแจ๋วชักชวนเพื่อนสนิทให้คล้อยตาม มิรากับลียาเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแม้จะเข้ามหาลัยพวกเขายังคงตัวติดกันเป็นปลาท่องโก๋ไม่ยอมแยกห่าง
"นี่คือการบังคับไม่ใช่ถามความเห็นใช่ไหม" ลียาถามเพื่อนสาวแกมหยิก มิรายิ้มแป้นไม่ปฏิเสธแม้จะรู้ว่าเพื่อนสาวกำลังประชัดประชัน สองสาวเดินคุยกันจนมาถึงหน้าตึกโดยไม่รู้ว่ามีสายตาคู่คมเฝ้ามองเธอตั้งแต่เดินลงจากบันไดมาจนกระทั่งผ่านหน้าของเขาไป
จากที่ยืนนิ่งเฉยราวรูปปั้นมาสักพักขาคู่ยาวก็ขยับก้าวเดินตามสองสาวไปติดๆไม่ให้คลาดสายตาเมื่อเจอเป้าหมายที่เขาแน่วแน่มั่นคง ส่วนสองสาวนั้นไม่สนใจฟังเสียงรอบข้างกรีดร้องออกอย่างตกตะลึงความหล่อของคนข้างหลัง
"น้องลียาใช่ไหมครับ" น้ำเสียงเรียบนิ่งดังมาจากข้างหลังทำให้ฉันชะงักเท้าหยุดยืนฟังพร้อมกับเพื่อนเพราะไม่แน่ใจว่าเสียงเรียกชื่อนั้ลนจะเป็นฉันหรือเปล่า เสียงฝีเท้าฉับๆเคลื่อนผ่านด้านข้างขึ้นมาหยุดยืนเผชิญหน้า แต่เพราะความสูงและสีเสื้อแตกต่างจากคณะของฉันทำให้รู้ว่ามันเป็นของคณะอะไร ฉันค่อยๆเลยหน้าขึ้นมองแล้วก็ต้องตาค้างตกอยู่ในภวังค์ สายตาคู่นั้นสะกดให้ฉันเฝ้ามองใบหน้าอันหล่อเหลาอย่างตะลึงและไม่อาจละสายตาจากใบหน้าเรียบนิ่งนั้นไปได้ ไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่ฉันไม่อยากก้าวเดินหรือถามไถ่เจ้าของร่างสูงว่าที่เอ่ยเรียกชื่อนั้นใช่ฉันหรือเปล่า เพราะเราสองคนไม่เคยรู้จักหรือเจอหน้ากันมาก่อนแล้วชื่อนั้นมันจะหมายถึงฉันหรืออย่างไร ฉันกับผู้ชายคนนั้นยังจ้องกันไม่ละสายตาได้มีเพียงความเงียบงันจนน่าอึดอัด
"พี่เรียกเพื่อนมิราหรือเปล่าคะ" เป็นเสียงของมิราที่พูดแทรกขึ้นมาท่ามกลางความเงียบทำให้ฉันได้สติและเฝ้ามองอย่างสงสัยแต่เต็มไปด้วยคำถามเพียงแต่ไม่ได้เอ่ยออกมาเพราะเพื่อนรักได้ถามแทนความในใจฉันไปหมดแล้ว ไม่แปลกที่มิราจะเรียกเขาว่าพี่เพราะถ้าเป็นปีหนึ่งรุ่นเดียวกันไม่ว่าจะคณะไหนๆ ปีหนึ่งทุกคนต้องแต่งกายให้เรียบร้อยสมกับเป็นเฟรชซี่ แต่เขาใส่กางเกงยีนส์ทำให้รู้ได้เลยว่าไม่ใช่ปีหนึ่งรุ่นเดียวกันแน่นอน
"ใช่ครับ" นอกจากคำตอบว่าใช่แล้วไม่มีคำพูดไหนที่เฉลยความสงสัยให้ฉันได้เลยว่าเราเคยรู้จักกัน ดูเหมือนพี่เขาจะพูดน้อยแล้วพี่เขาแทบจะไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมา ปกติฉันจะไม่ค่อยชอบยุ่งกับผู้ชายที่พยายามจะเข้าหา แต่พี่เขาดูยังไงก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้ชายพวกนั้นที่จู่โจมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ฉันอดรนทนเก็บความสงสัยอีกต่อไปไม่ไหว อยากรู้เต็มทีว่าเขาเรียกฉันทำไมยอมรับว่าพี่เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ดึงดูดให้ฉันต้องรีบถาม จากที่คิดว่าจะไม่ใส่ใจใคร
"เรียกลียา ไม่ทราบว่าเราสองคนเคยรู้จักกันด้วยเหรอคะ" เมื่อเขาสามารถดึงดูดฉันเข้าไปในโลกของพี่เขาจนเก็บความสงสัยไม่ไหวต้องรีบถาม
"ไม่เคยรู้จักกันครับ" คำตอบที่ฉันได้รับจากพี่เขายิ่งทำให้ฉันอยากค้นหาคำตอบมากยิ่งขึ้นไปอีก มันเป็นคำตอบสั้นๆแต่กลับดึงฉันให้เดินเข้าไปใกล้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
"อ้าว แล้ว.." ฉันงงแล้วงงอีกไม่สามารถถามอะไรไปได้มากกว่านี้เพราะสมองกำลังตีกันว่าพี่เขาต้องการอะไร
"ไม่เคยรู้จัก แต่กำลังจะมาทำความรู้จักให้มากขึ้น" ดูพี่เขาจะมั่นใจมากว่าฉันอยากจะรู้จักพี่เขา พี่เขาดูแปลกไม่เหมือนใครไม่ได้เร่งรัด บางครั้งเหมือนขยับห่างทำให้ฉันสงสัยอยากเดินเข้าไปหาคำตอบ แค่ไม่กี่นาทีที่เจอกันพี่เขาดึงฉันเข้าไปหาได้โดยไม่ต้องพูดอะไรมาก
"ลียาไม่ได้อยากรู้จัก" ฉันรีบปฏิเสธเสียงแข็งเพราะไม่อยากถูกดึงให้เข้าไปใกล้มากกว่านี้
"ไม่เป็นไร อีกหน่อยลียาก็อยากรู้จักพี่เองวันนี้พี่แค่แวะมาเจอ แต่หลังจากนี้เราจะเจอกันทุกวัน" พี่เขาไม่รอคำตอบว่าฉันต้องการให้มันเป็นอย่างนั้นไหม เพราะเมื่อพี่เขาพูดจบเขาก็เดินผ่านหน้าฉันจากไปโดยไม่พูดอะไร ฉันต้องหันหลังกลับไปมองแผ่นหลังของพี่เขาที่ค่อยๆห่างออกไปแล้วทิ้งความสงสัยกับคำถามมากมายให้ฉันค้นหาและคิดเอาเอง
"พี่เขาเป็นใคร เขามาจีบแกเหรอลียาพี่เขาหล่อยังกับเทพบุตรลึกลับน่าค้นหาสุดๆ ถ้าพี่เขาจีบแกฉันยกธงเขียวให้พี่เขาวิ่งลงสนามแกเลยนะ" มิราสะกิดแขนถามและเอ่ย
"แกจะบ้าเหรอยังไม่รู้ว่าพี่เขาเป็นใครด้วยซ้ำ เขาจะมาจีบฉันทำไมกัน แกเห็นแล้วนี่พี่เขาไม่ได้ขอช่องทางติดต่อฉันเหมือนคนอื่นๆสักหน่อย แปลกคน" ฉันยังคงยืนอยู่ที่เดิมมองเสื้อช็อปสีแดงค่อยๆหายไปและคุยกับมิราพร้อมหาคำตอบในใจไปด้วยว่าพี่เขาต้องการอะไรกันแน่ แต่สิ่งที่มิราพูดถูกต้องที่สุดคือพี่เขาหล่ออย่างเทพบุตรจริงๆ
"แกโดนพี่เขาตกเข้าให้แล้วล่ะ ฉันไม่เคยเห็นแกพูดถึงใครอย่างนี้เลย" ฉันสนิทกับมิรามากเสียจนไม่สามารถปกปิดอะไรจากมิราได้เลย
"บ้าสิ แกอย่าพูดมากอยากกินก๋วยเตี๋ยวไม่ใช่เหรอถ้าไม่รีบเดี๋ยวอด" ฉันหันหลังกลับมาโดยไม่พูดถึงพี่คนนั้นอีกลากแขนมิราเดินตรงไปคณะอักษรแล้วเก็บความสงสัยเกี่ยวกับพี่เขาไว้ในใจอย่างเดิม