บทที่ 2 แปลงโฉม!

2737 คำ
ฉันควรจะกลับบ้านทันทีหลังเลิกเรียนเพื่อช่วยเตรียมงานเลี้ยงวันเกิดครั้งใหญ่ของแฝดสามในคืนพรุ่งนี้ แต่ฉันต้องทำการบ้านของสาวๆ แล้วพวกเธอต้องจัดการแต่งองค์ทรงเครื่องฉันให้เสร็จ ฉันรู้ว่าฉันจะต้องโดนเล่นงานทีหลัง แต่ช่างมันเถอะ ครอบครัวธอร์นจ้างคนจัดงานมาไว้อยู่แล้ว ขาดนางซินเดอเรลล่าหมาป่าแบบฉันไปไม่กี่ชั่วโมงก็คงไม่เป็นไร ฉันแก้โจทย์ให้สาวๆจนเสร็จขณะนั่งรถไปห้าง มันง่ายมาก คณิตศาสตร์คือสิ่งที่ฉันชอบ ฉันจัดเป็นพวกเด็กเนิร์ดและฉันก็ภูมิใจกับสิ่งที่เป็น แม้ว่าสังคมมนุษย์หมาป่าจะให้ค่ากับความแข็งแกร่งและความงามมากกว่ามันสมองก็ตาม สาวๆดีอกดีใจ พวกเธอรีบลงมือจดลอกการบ้านกลางลานจอดรถเย็นเฉียบ พลางเปิดเครื่องทำความร้อนแก้หนาว มิน่าขับรถสปอร์ต ฉันไม่รู้ว่าเป็นรุ่นอะไร รู้เพียงแต่ว่ามิน่าและทีน่ารวยแทบจะพอๆกับอัลฟ่าและครอบครัวของเขา พวกเธอลากฉันเข้าห้าง ท่าทางกระดี๊กระด๊าตื่นเต้นเหมือนว่าฉันพาพวกเธอไปทำสิ่งที่โปรดปรานขณะพวกเธอจับฉันแปลงโฉม ฉันเตือนพวกเธอว่าฉันไม่มีเงินแม้แต่แดงเดียว พวกเธอกลอกตาย่างไม่ใส่ใจ ฉันเดาว่าเธอคงคิดว่าของแต่งตัวพวกนี้นับเป็นส่วนหนึ่งที่พวกเธอควรจะให้ฉัน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่ฉันทำการบ้านให้ ฉันลองเปลี่ยนชุด ชุดแล้วชุดเล่า ส่วนมิน่า ทีน่า คอยให้คะแนนชุดต่างๆอย่างสนุกสนาน นี่มันสนุกจริงๆด้วย สาวๆยุให้ฉันเลือกกระโปรงสั้นๆกับมินิเดรสเยอะๆ พวกเธอบอกว่าฉัน “ขาสวย” แม้ว่าสามแฝดจะชอบล้อฉันว่าอ้วนก็ตาม... พูดตามตรง เสื้อผ้าที่พวกเธอเลือกให้ฉันดูดีมาก แต่ฉันมีปัญหากับรองเท้าส้นสูง พวกเธอก็สอนให้ฉันซ้อมเดินเหมือนในร้านเป็นรันเวย์ แสร้งว่าอยู่บนแคทวอล์ก พวกเธออย่างเดินมั่นใจจนฉันตะลึง หลังจากนั้นพวกเธอสอนให้ฉันดูว่าควรแต่งหน้าแบบไหนและทำผมยังไงที่บ้านของทีน่า พวกเธอทำการทดสอบดูการเดินของฉัน ฉันมองตัวเองในกระจกยาวของทีน่าและถึงกับต้องอ้าปากค้าง ฉันใส่รองเท้าบูทส้นสูงสีดำ กระโปรงพลีทสั้นสีดำ สวมถุงน่องดำเพราะอากาศนั้นหนาวเกินไปสำหรับมนุษย์หมาป่า เสื้อแขนยาวคอวีเปิดอกทรงสวีทฮาร์ทสีขาวดูดีมาก ผมเงาของฉันม้วนเป็นลอนยาวถึงหลัง ผิวของฉันเปล่งประกาย กรีดตาเฉี่ยวแบบแคทอาย และริมฝีปากสีแดงก็ดูเหมาะกับฉันอย่างเหลือเชื่อ ฉันกอดมิน่าและทีน่า นี่ฉันได้เพื่อนใหม่เหรอเนี่ย? พวกเธอขับรถพาฉันมาส่งที่บ้านใหญ่ หวังว่าจะได้เจอแฝดสาม แต่พวกเขายังไม่กลับมา ขอบคุณพระเจ้า! ฉันเริ่มลงมือช่วยผู้จัดการงานเลี้ยง จัดเรียงของตกแต่งและอาหารทั้งหมดสำหรับคืนพรุ่งนี้ แต่ก็ยังมีเรื่องให้ทำอีกมาก ฉันทำการบ้านของตัวเองไปด้วยระหว่างจัดงานทั้งหมด ฉันเชี่ยวชาญอยู่แล้วเรื่องทำหลายอย่างพร้อมกัน ฉันได้ยินเสียงรถสามคันมาจอด แฝดสามนั่นเอง อัลฟ่าและลูน่าออกไปซื้อของขวัญเพิ่ม แม้ว่าฉันจะห่อของขวัญที่มีอยู่แล้วไปแล้วนับสิบๆชิ้นก็ตาม ผู้จัดการงานเลี้ยงเป็นสาวผมบลอนด์ซีดวัยสามสิบ ซึ่งเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับหุ่นล่ำบึกของแฝดสาม ดูเหมือนเธอจะไม่ชอบขี้หน้าฉันเท่าไหร่แม้ว่าฉันจะเป็นคนเดียวที่ช่วยเธอก็ตาม สัปดาห์นี้เธอยุ่งวุ่นวายทุกวันและพยายามทำให้ฉันดูแย่ต่อหน้าแฝดสามอยู่เสมอ ฉันอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าปกติพวกเขาก็เกลียดฉันอยู่แล้ว เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องคิดมากจนเกินไป เธอชื่อรอนดา อะไรสักอย่าง ฉันจำนามสกุลของเธอไม่ได้แล้ว แฝดสามเดินเข้ามา แต่ละคนเดินโอบไหล่สาวมาด้วย พวกเขาเปลี่ยนแฟนทุกๆสองเดือนหรือบางทีก็ถี่กว่านั้น มันดูไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะต้องมานั่งจำชื่อสาวใหม่อยู่ตลอด ยิ่งไปกว่านั้นแฝดสามยังดูกังวลกับการหาคู่แท้เป็นตัวเป็นตน เพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่าควรจะมีคู่แท้เป็นของตัวเองแบบแยกคู่ หรือควรจะมีสาวแค่คนเดียวแล้วแบ่งกันดี ฟังดูบ้าชะมัด แต่เมื่อพูดถึงแฝดที่มีลักษณะเหมือนกัน เช่น ฝาแฝดหรือแฝดสาม หลายกลุ่มมักจะแชร์คู่กันเอง เพราะพวกเขาเกิดจากไข่หนึ่งใบและสเปิร์มหนึ่งตัวที่แยกออกเป็นทวีคูณ ดังนั้นฝาแฝดหรือแฝดสามที่มีลักษณะเหมือนกันในทางทฤษฎีจึงเหมือนเป็นโคลนนิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ผู้หญิงทุกคนปรารถนาอยากจะเป็นคู่ของพวกเขาทั้งหมด ซึ่งนั่นก็บ้ามากสำหรับฉัน แฝดสามนั้นหล่อแต่ก็ประสาทสุดๆ และการต้องมีคู่ถึงสามคนก็ฟังดูซับซ้อนมาก รอนดาจ้องมองแฟนสาวของพวกเขา ความริษยาปรากฏชัดในตาแววของเธอ สาวๆไม่ได้อยู่นาน และเมื่อพวกเธอจากไป รอนดาก็รีบใส่ให้แฝดสามฟังว่าฉันมาช่วยเธอสาย ฉันถอนใจขณะแอบซุกตัวอยู่ใต้โต๊ะระหว่างห่อของขวัญเล็กๆที่เอาไว้แจกหน้าประตู สมาชิกฝูงทุกคนจะได้จับของขวัญปริศนาจากกล่องใหญ่ในวันพรุ่งนี้ ฉันคลานออกมาจากใต้โต๊ะ ปรากฏตัวให้เห็นก่อนที่พวกเขาจะพากันตามหาฉัน การซ่อนตัวจะทำให้พวกเขาโมโหไปเสียเปล่าๆ  แฝดทั้งสามจ้องมองมาที่ฉัน ดวงตาเบิกกว้างตกตะลึง พวกเขามองหน้ากัน ฉันจำการแต่งหน้าของฉันได้ แต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะสังเกตหรือสนใจด้วยซ้ำ อเล็กซ์เลียริมฝีปากของเขา ไล่สายตาตั้งแต่หัวจรดเท้า ฉันก้าวถอยหลัง เฟลิกซ์ดูงุนงง ส่วนคาลิกซ์ก็ยิ้มมุมปาก “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเราเลยรอนดา” เฟลิกซ์พูด พลางยิ้มเยาะหยิ่งผยองตามปกติ “เราจะลงโทษเธอเอง” รอนดายิ้มสะใจ เธอเป็นผู้ใหญ่ที่ไร้วุฒิภาวะที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา รวมทั้งแฝดสามที่กำลังพูดอะไรสักอย่างนั่นด้วย  แฝดสามดันฉันติดผนังห้องครัว “ฉันขอโทษค่ะ” ฉันพูด “ฉันต้องทำโจทย์เลขเพิ่มให้คุณจอห์นสันน่ะ” ไม่ถือว่าเป็นการโกหกเต็มประตูเสียทีเดียว แฝดสามรู้จักมิสเตอร์จอห์นสันอยู่แล้วเพราะพวกเขาก็เคยเป็นดาราในสนามบอลสมัยเรียนมัธยมปลาย แล้วพวกเขาก็รู้ด้วยว่าฉันเคยชนะการแข่งขันคณิตศาสตร์มาก่อน ซึ่งตอนนั้นพวกเขาสนุกสนานกับการกลั่นแกล้งฉันมาก “โอเค” เฟลิกซ์พูดเรียบๆ เขาก้าวเข้ามาใกล้ฉัน “แล้วทั้งหมดนี้คืออะไร?” เขาชี้ไปที่เสื้อผ้า การแต่งหน้า และผมของฉัน “พรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดครบสิบแปดของฉันเหมือนกัน ฉันแค่อยากลองดูว่าฉันอยากจะมีรูปร่างหน้าตาแบบไหน” ฉันพูดพร้อมมองต่ำ รอฟังคำดูถูกฉันหรือต่อว่าว่าฉันอ้วนตามเคย “เธอมีแฟน ใช่หรือเปล่า” อเล็กซ์ถามน้ำเสียงขุ่นมัว ทำไมเขาถึงต้องมาสนใจด้วยล่ะ? “ฉันอ้วนขนาดนี้ จะมีแฟนได้ไง จำได้ไม่ได้เหรอ?” ฉันย้อนตามคำสบประมาทคลาสสิกของพวกเขา “อย่ามาทำเป็นเล่นเกมกับเรา” เฟลิกซ์พูดเบา ๆ “ทั้งหมดนี้เธอทำเพื่อคู่แท้ของเธอใช่ไหม? เล็งหรือยังล่ะว่าเป็นใคร” "เปล่านะ!" ฉันสวน พวกเขาทำท่าแปลกๆ เหมือนฉันพูดอะไรผิดไป “พรุ่งนี้เดี๋ยวเธอก็รู้เองนั่นแหละ สัญชาตญาณหมาป่าในตัวเธอจะบอกเธอเองว่าเขาเป็นใคร” คาลิกซ์บอก “ฉันไม่ได้อยากมีแฟน” ฉันบอกตามตรง ฉันไม่เคยเจอผู้ชายที่ทำดีกับฉัน และฉันก็นึกภาพไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นยังไง “ทำไมล่ะ!” อเล็กซ์ถามราวกับคิดว่าฉันบ้าไปแล้วที่พูดแบบนั้น แฝดสามต่างกระตือรือร้นที่จะตามหาคู่แท้ของพวกเขา พวกเขาคุยกันเรื่องนี้ทุกวันเกิด บางทีก็ไปเยี่ยมฝูงอื่นเพื่อหวังว่าจะได้กลิ่นคู่แท้ของพวกเขา พวกเขาสันนิษฐานว่าคู่ของพวกเขาอาจจะอายุน้อยกว่าตัวเอง ซึ่งนั่นจะอธิบายได้ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ได้กลิ่นของเธอเสียที เพราะมีเพียงคนที่แตกสาวเต็มตัวแล้วเท่านั้นที่จะส่งกลิ่นได้ “เพราะพวกผู้ชายน่ะใจร้ายแล้วก็เอาแต่ล้อเลียน แล้วฉันก็ได้รับสิ่งนั้นจากพวกเธอมากพอแล้ว” ฉันตะคอก ที่จริงฉันไม่ควรที่จะตะคอก ตอนนี้ฉันกลัวนิดหน่อย แฝดสามไม่ได้ซ้อมฉันมานานตั้งแต่เรายังเด็ก การซัดกันครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเตอนฉันอายุสิบเอ็ดและพวกเขาอายุสิบสี่ ฉันชกคาลิกซ์จนจมูกหักเพราะเรียกฉันว่า "นังอ้วนน่ารังเกียจ" บวกกับล้อว่า "พ่อแม่ตาย" ซึ่งฉันก็ไม่เคยได้รับข่าวว่าพ่อแม่ฉันอยู่ที่ไหน หรือยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า หลังจากที่เขาร้องเสียงหลง เลือดไหลอาบและไปฟ้องบรรดาพี่ชายเรื่องจมูก อเล็กซ์ก็ตบฉัน ต่อด้วยเฟลิกซ์ คาลิกซ์เริ่มดูไม่สบายใจ แต่ไม่ทันแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็อัดฉัน  ลากฉันออกไปที่แม่น้ำหลังบ้านซึ่งเป็นน้ำแข็งเย็นเยือก ยังพอมีรูสำหรับตกปลาอยู่ตรงนั้น ซึ่งฉันก็ตัวเล็กพอที่จะจับยัดลงไปในรูช่องน้ำแข็ง พวกเขาจับฉันกดน้ำจนฉันสลบไป พ่อแม่ของพวกเขาโกรธจัด ส่งฉันไปโรงพยาบาลเพราะอุณหภูมิร่างกายต่ำเกินไป ฉันไม่เคยรู้เลยว่าการลงโทษของพวกเขาจะแรงขนาดนี้ แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่เคยตีกันแรงๆอีกเลย ไม่มีอะไรมากไปกว่าการผลัก “เธอโง่หรือเปล่าเนี่ย?” ถามอเล็กซ์ ฉันยักไหล่ “ไม่มีมนุษย์หมาป่าคนไหนจะดูถูกหรือใจร้ายใส่คู่ของตัวเองหรอก” เฟลิกซ์พูดพร้อมกลอกตา “นี่ไม่รู้จริงๆเหรอเนี่ย?” คาลิกซ์เสริม “โอเค ขอบคุณนะ เข้าใจแล้ว” ฉันตอบห้วนๆ “เธอแต่งตัวเพื่อเราใช่ไหมล่ะ” เฟลิกซ์ยิ้มๆพลางลูบคาง สองคนที่เหลือยิ้มตาม หัวใจแทบจะฉันกระโจนออกจากอกเมื่อเห็นลักยิ้มของพวกเขา ฉันส่ายหัวปฏิเสธ เกิดอะไรขึ้นกับฉัน? แฝดสามเป็นปีศาจแท้ๆและหน้าตาหล่อเหลาของพวกเขาก็ไม่ได้ช่วยพวกเขาพ้นจากการเป็นปีศาจ “ไม่ต้องให้เธอยอมรับหรอก” คาลิกซ์กล่าว “เธออายนะเฟลิกซ์” "ยอมรับมา! เธอทำแบบนี้เพื่อเรา!” เฟลิกซ์อแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายและเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ฉันถูกดันจนหลังติดกับเกาะกลางครัว อเล็กซ์นิ่งเงียบ ยิ้มจางๆยื่นตัวเข้ามามองฉันใกล้ๆ ฉันอยากจะให้พวกเขาหายไป ฉันหงุดหงิดมามากพอแล้วทั้งชีวิต พรุ่งนี้จะไม่มีของขวัญของฉันแม้แต่ชิ้นเดียว และไม่มีใครให้คำปรึกษาฉันเกี่ยวกับการกลายร่างของฉันที่จะเกิดขึ้นตอนเที่ยงคืน ซึ่งฉันกลัวมากๆ ฉันรู้ว่ามันคงเจ็บปวด และฉันไม่ต้องการความเจ็บปวดเพิ่มจากผีห่าซาตานทั้งสามนี่ พวกที่ไม่สมควรได้รับตำแหน่งอัลฟ่าเลย พวกเขาเป็นอัลฟ่าได้แค่ทางร่างกายแต่ไม่มีจิตสำนึกที่จะเป็นผู้นำฝูง บ้าบอ! สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจเล่นด้วย “ใช่ โอเค” ฉันพูดเบาๆ มองลงไปเพื่อแสร้งทำเป็นเขินอายและกอดตัวเองแน่น “ฉันแต่งตัวเพื่อพวกคุณค่ะ ฉันขอให้เด็กสาวสองคนที่โรงเรียนช่วยฉันแต่งตัว แต่ฉันก็มีโจทย์วิชาคณิตศาสตร์จริงๆ แล้วฉันก็แอบไปหัดแต่งหน้าหลังจากนั้น ก็เลยทำให้มาสาย ฉันเสียใจ" ฉันเอามือปิดหน้า กลั้นหัวเราะ ซึ่งดูเหมือนพวกเขาจะคิดว่าฉันกำลังร้องไห้ “เฮ้ รู้มั้ย เราไม่ใช่เด็กโง่อย่างตอนที่เราเคยตีกับเธอตอนเด็กๆนะ” อเล็กซ์พูดอย่างอ่อนโยน “เราจะรับช่วงต่อดูแลฝูงนับแต่วันพรุ่งนี้ และในเมื่อเธอเป็นส่วนหนึ่งของฝูง เราแค่ก็อยากจะว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ แค่นั้นแหละ” ฮะ? “หยุดร้องเถอะยัยเด็กโง่” เฟลิกซ์บ่น “ไอ้งั่งเอ้ย อย่าใช้คำดูถูกเธอเวลาเรากำลังจะปลอบใครได้ไหม” คาลิกซ์แว้งไปหาเฟลิกซ์ “แชซิตี้” คาลิกซ์พูดโดยเรียกชื่อจริงของฉันเป็นครั้งแรกในรอบเก้าปี ฉันมืออ่อน ตกใจ จ้องมองเขา “เธอน่ารักมาก โอเค๊” คาลิกซ์ขยิบตา หัวใจของฉันเต้นผิดจังหวะ เขากำลังโน้มตัวลง ใบหน้าจ่ออยู่ใกล้ฉัน “ขอบคุณที่แต่งตัวเพื่อเรานะ ฉันหวังว่าพรุ่งนี้เธอจะสวมกระโปรงสั้นกว่านี้อีก” เขาพูดเบาๆ พร้อมยิ้ม ฉันกลอกตา ขณะที่อเล็กซ์กับเฟลิกซ์ระเบิดเสียงหัวเราะ ฉันพยายามจะแทรกหนีพวกเขาไป แต่เฟลิกซ์คว้าแขนฉันแล้วดันฉันหลังพิงเกาะอีกครั้ง ฉันรู้สึกหายใจติดขัดอยู่ในลำคอ “ฉันบอกให้เธอออกไปได้แล้วหรือไง?” เขาถาม โน้มตัวยื่นจมูกมาชิดจมูกของฉัน ฉันดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้อ้อมแขนของเขา “เธอต้องเคารพอัลฟ่าของเธอกว่านี้นะ แชริตี้” อเล็กซ์พูดโดยใช้ชื่อเล่นน่าเกลียดนั่น มนต์สะกดที่คาลิกซ์ร่ายฉันไว้พังทลายลง “บ้าเอ๊ย!” ฉันกรีดร้อง. "ปล่อยฉันนะ! อัลฟ่าตัวผู้ 3 ตัวรุมโอเมก้าตัวเมียตัวเดียวนี่มันบ้าไปแล้วนะ ไม่มีเกียรติเลย” ฉันร้องไห้ขณะดิ้นสู้เฟลิกซ์ เขาปล่อยฉัน “แค่หยอกเฉยๆน่าแชริตี้!” เฟลิกซ์กล่าวว่า “โทษทีนะ! ไป! วิ่งหนีขึ้นไปข้างบนสิ!” ฉันวิ่งขึ้นไปชั้นบบหลบที่ห้องที่ห้องตัวเอง ล็อคประตูมิดชิด นั่งบนเปล กอดเข่าแนบอก เมื่อฟ้าเริ่มมืด อัลฟ่าและลูน่ามาเคาะประตูเรียกฉัน ฉันเปิดประตูออกไปหาพวกเขา “เกือบลืมไปแน่ะว่าเธอจะกลายร่างครั้งแรกคืนนี้ เป็นวันเดียวกับวันเกิดลูกๆของเรา” อัลฟ่า โรมิโอพูดพลางลูบท้ายทอย ฉันยิ้ม พวกเขาจะปรึกษาฉันหรือให้ของขวัญฉัน? “ใช่ เพราะฉะนั้นอย่าลืมออกจากบ้านอย่างน้อยก่อน 23.45 น. นะ เธอจะได้ไม่ต้องกังวลเกินไปตอนกลายร่างครั้งแรก” ลูน่า รอนนี่บอก ฉันพยักหน้ารับ และคิดว่านี่เป็นคำแนะนำที่ดี ฉันออกจากบ้านตอนห้าทุ่มครึ่ง สวมชุดเก่าๆ ฉันเดินผ่าหิมะซึ่งตอนนี้เป็นสีดำสนิท ฉันถอนใจ กังวลกลัวความเจ็บปวด ฉันหวังเหลือเกินว่าพ่อแม่จะอยู่เคียงข้างฉันตรงนี้ ในช่วงเก้าปีแรกของชีวิตฉัน พวกเขาเข้าออกสถานบำบัดเป็นว่าเล่น พวกเขาดูสติเสีย แต่ก็ยังดูเหมือนรักฉันมากเหมือนกัน พวกเขามักจะจัดวันเกิดและฉลองวันหยุดพิเศษให้ฉันเสมอแม้ว่าพวกเขาจะเมาแอ๋แค่ไหนก็ตาม และพวกเขายังดูรักกันอย่างลึกซึ้งในฐานะคู่ครอง ซึ่งทำให้ฉันอยากจะตั้งตารอที่จะมีคู่แท้ของตัวเองบ้าง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน ฉันไม่อยากฉีกเสื้อผ้าของฉันออก ฉันจึงค่อยๆปลดมันออกและยืนอยู่บนหิมะเปลือยเปล่ายันเท้า ปล่อยลอนผมยาวถึงเอว ถ้าฉันไม่ได้กลายร่างเป็นหมาป่า ฉันคงแข็งตายแน่นอน เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ฉันรู้สึกราวกับว่ากระดูกของฉันแตกหักเป็นเสี่ยงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม