" ผัวคุณโฉมก็น่าอีทนะ ลองไหม? "
ไม่รู้ผีห่าตนไหนมันเข้าสิงให้เขาปากเปราะพูดอะไรกับเมียที่แต่งงานกันมา 5 ปี แต่ไม่เคยแม้แต่จะพิศวาสกันแบบนั้น แล้วยัยโฉมฉายดันไม่ยอมตายไมค์ สวนกลับมาอย่างรวดเร็วว่า หนุ่มฮ่องกงคนนั้นน่ะเป็นอนาคตผัวและพ่อของลูก ส่วนชวินพัฒน์นั่นแหละที่ต่อไปนี้จะกลายเป็นแค่ชายชู้
ฮึ่ม ! ก็ดี ! พูดได้ดี !
ศึกขนาดย่อมคืนนั้นจบลงด้วยต่างคนต่างหน้าหันหลังนอนคนละฟากเตียง แต่พอผ่านไปได้ค่อนคืนก็ยังนอนไม่หลับ สุดท้ายก็ขยับมานอนใกล้กันตรงกลางเตียงเหมือนเดิมถึงได้หลับไป น่าแปลกที่นอนดิ้นทั้งคู่ แต่ไม่เคยฟาดมือไม้โดนกันเลยสักครั้ง ตื่นมาขาไปทางหัวไปทางกันคนละข้างอย่างลงตัว
" กูว่ามึงอยู่กับคุณโฉมมา 5 ปี มันก็ต้องมีรู้สึกอะไรกันบ้าง อย่ามาพูดว่าไม่มีหน่อยเลย "
พายุใช้ฝ่ามือใหญ่เขย่าแก้วอเมริกาโน่ในมือไปมา ในที่สุดเมล็ดพันธุ์ที่เขา คุณอชิ และคุณลินดา กำลังทดลองหว่านลงในใจของสองผัวเมียที่กำลังจะหย่ากันในอีก 4 เดือนข้างหน้า ก็เหมือนจะมีวี่แววว่าเห็นผล เมื่อจู่ ๆ ชวินพัฒน์ก็เกิดอยากจะนัดมาปรึกษาปัญหาครอบครัว ว่าด้วยช่วงนี้เริ่มมองเมียไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
" ก็มึงนั่นแหละเสือกมาเป่าหูกูว่าคุณโฉมสวย พอมองว่าสวยไปทีหนึ่ง มันก็ไม่เหมือนเดิมดิวะ "
เออ...กูก็ไม่ใช่พระไหม ชวินพัฒน์ใช้มือเสยผมลวก ๆ หนึ่งอาทิตย์มานี้ไม่สงบสุขเหมือนเก่า เมียจะขยับซ้ายก็สวย ขยับขวาก็สวย ใส่กางเกงขายาวรัดรูปก็ดูโป๊ ใส่กระโปรงก็ขาขาวเนียน เมื่อก่อนคุณโฉมใส่อะไรเขาไม่เคยสนใจมองด้วยซ้ำ
" เหมือนพวกมึงหลอกตัวเองตั้งแต่วันแต่งงานจนถึงวันนี้อ่ะ ว่าแบบสักวันก็หย่ากัน อย่าไปอะไรมาก ต่างคนต่างอยู่ แต่จริง ๆ แล้วมันดีใช่ไหมล่ะ ชีวิตแต่งงานอ่ะ "
เชี่ย...ไอ้พายุมันพูดได้เป๊ะเหมือนเข้ามานั่งอยู่ในใจ ถ้านอกจากเรื่องบนเตียงที่เขาตกลงกับคุณโฉมไว้ว่าจะไม่ล่วงเกินกัน เรื่องอื่นก็ถือว่าดีหมด ต่างคนต่างช่วยดูแลกันตามที่ถนัด ไม่มากไม่น้อยจนอึดอัด แถมยังได้เถียงกันทุกวันไม่เหงาปากอีกด้วย ส่วนเรื่องทะเลาะจริงจังยังไม่เคยมีสักครั้งเดียว
ชวินพัฒน์คิดภาพตัวเองตอนไม่มีคุณโฉมไม่ออกเลย...ถ้าวันหนึ่งต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นเขาไม่แต่งดีกว่า กลัวเจอคนประเภทตามจิกเช้าจิกเย็น
" อ่ะ กูหลอกตัวเองแล้วยังไงต่อ ? "
" ก็ไม่ยังไง ตอนนี้คิดแบบไหนก็แค่ทำไปแบบนั้น อยากชมคุณโฉมว่าสวยก็ชม เมียสวยอยากมองก็มอง จะมาทำเป็นไม่มองไปทำไม "
มันทำจนเป็นนิสัยแล้ว เพราะรู้ว่าวันหนึ่งต้องหย่ากันอยู่ดี ก็เลยพยายามไม่สนใจคุณโฉมมากนัก ให้ไปรับไปส่งก็ไปอย่างนั้น ให้โอนตังค์ให้ก็โอน แบบที่ไม่เคยคิดอกุศลอะไรในหัว มันเป็นไปเองเพราะทำจนชิน
" เดี๋ยวคุณโฉมก็ว่ากูเป็นบ้า "
" ใครจะไปรู้ คุณโฉมอาจจะชอบที่ผัวเป็นผู้เป็นคนขึ้นก็ได้ "
" ไม่อ่ะ เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว "
" แล้วแต่มึงเหอะไอ้ชายชู้ ถึงวันหย่ามึงอย่ามาร้องไห้กอดขาคุณโฉมให้กูเห็นนะ "
เวรเอ๊ย....
" ฝนจะตกไหมนะคะเนี่ย คุณชวินพาโฉมมาทานข้าว "
เมียรักในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนขับผิว กำลังเปิดตลับแป้งพับส่องกระจกสำรวจใบหน้า หลังจากพึ่งดินเนอร์กับสามีมาหมาด ๆ เพียงสองต่อสองในรอบหลายปี ปกติถ้าไม่ใช่งานครอบครัวหรือบริษัท แทบจะไม่ได้ออกมาทำอะไรแบบนี้ด้วยกันเลย
" แล้วมันจะทำไมครับ มีกฎห้ามผมเลี้ยงข้าวคุณโฉมเหรอ "
" ไม่มีค่ะ เลี้ยงอีกบ่อย ๆ นะคะ เวลามีน้อยค่ะ "
ยัยโฉมฉายหันมาทำหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ ไม่รู้ตัวว่าสายเข็มขัดนิรภัยมันคาดทับหน้าอกจนเนินเนื้ออิ่มเด่นชัดขนาดไหน ชวินพัฒน์ถอนหายใจ เอื้อมมือไปหยิบเสื้อสูทที่เบาะหลังมากางออกเพื่อคลุมตัวให้เมีย ก่อนขับรถออกจากร้านอาหาร เขาต้องการสมาธิเป็นอย่างมาก ดังนั้นยัยโฉมฉายจะมายั่วยวนกันไม่ได้
" อะไรของคุณชวินเนี่ย โฉมร้อนนะคะ "
" ใส่ ๆ ไปเถอะ ผมก็เป็นผู้ชายนะคุณโฉม "
นี่เป็นประกาศเตือนครั้งสุดท้ายจากใจสามีหนุ่ม ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นมานั่งตัวขาวอยู่หน้ารถแบบนี้ ไม่พ้นชวินพัฒน์จะวาดวงแขนกักเอาไว้แล้วอ้อนเอาจูบสักหน่อยแล้ว นี่ยังยับยั้งชั่งใจอยู่ว่าเป็นเมียที่ยกไว้บนหิ้ง จะมาทำทะลึ่งตามอำเภอใจแบบผู้หญิงคนอื่นที่จ่ายเงินซื้อไม่ได้
" ก็จริงค่ะ ผู้ชายแบบคุณชวินนอกจากโฉมคงไม่มีใครมาแต่งด้วยแล้ว "
" ผมมันทำไมครับ ? "
" นอนกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว "
เถียงไม่ได้เสียด้วย ดันเป็นเรื่องจริง 100 % แต่เขาไม่เคยสานสัมพันธ์กับใครต่อ ฟิน จบ แตก แยกทางทั้งนั้น เผลอ ๆ ถ้าบังเอิญเจอกันชวินพัฒน์อาจจะจำสาว ๆ พวกนั้นไม่ได้เสียด้วยซ้ำ แต่ว่าตั้งแต่แต่งงานมา 5 ปี เรื่องพวกนี้ก็เกิดขึ้นน้อยลงมากแล้ว ถ้ามันเกินจะฝืนความต้องการจริง ๆ ถึงจะมีบ้าง
" ก็ผมโสดนี่ครับ คุณโฉมหึงเหรอ ? "
" ไม่สักนิดค่ะ ! "
" แน่ใจนะ สามีคุณโฉมเป็นของแรร์ไอเท็มรู้ไว้ "
" สามีโฉมคือหนุ่มรูปหล่อลูกครึ่งฮ่องกงคนนั้นค่ะ ! อีกไม่นานคุณชวินจะเป็นแค่ชู้เท่านั้นแหละ ! "
คำก็อีกไม่นาน สองคำก็อีกไม่นาน ถ้าเขาไม่เซ็นใบหย่า ดูสิว่ายัยโฉมฉายจะไปไหนได้ ท้าทายกันเขาไปเถอะ เดี๋ยวได้รู้เรื่องเลยแม่คนนี้
" แล้วอยากลองเล่นชู้ดูไหมครับ อร่อยนะ "
ชวินพัฒน์กระซิบข้างหูเมียเสียงแหบพร่าจนยัยโฉมฉายนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ คงคิดไม่ถึงว่าจะโดนสามีหยอกแรงขนาดนี้ ฝ่ามือใหญ่ที่กำลังจะปลดล็อกเบรกมือเพื่อเตรียมออกตัวรถในตอนแรกหยุดชะงัก เปลี่ยนมาดึงเสื้อสูทที่ตัวเองเป็นคนกางคลุมให้เมียออกช้า ๆ จนเผยผิวขาว
" คุณชวิน... "
ปลายนิ้วยาวเชยคางเล็กให้เงยหน้าขึ้น ดวงตาจ้องมองไปทั่วใบหน้าหวาน ยัยโฉมฉายตัวน้อยที่วิ่งตามเขาตั้งแต่เด็กคนนั้นไม่มีอีกแล้ว ตอนนี้กลายเป็นสาวสะพรั่งวัย 27 ปี ที่สวยหยาดเยิ้ม ใครมันพูดว่าคุณโฉมหน้าวอกเหมือนตูดเด็กไปเมื่ออาทิตย์ก่อน มีตาแต่ไม่มีแววเอาซะเลย
" อ๊ะ... "
ริมฝีปากหยักประทับจูบเบา ๆ ยังไม่ได้ล่วงล้ำ ภาพซ้อนทับในวันแต่งงานเมื่อ 5 ปีที่แล้วเข้ามาแทนที่ จำได้ว่าหลังจากจุ๊บกันเบา ๆ ต่อหน้าแขกในพิธีงานแต่งแล้ว คุณโฉมกลับมาถึงบ้านก็แปรงฟันอยู่ตลอดเวลา เช้า เที่ยง เย็น
รังเกียจผัวเข้าไปเถอะยัยโฉมฉาย เกลียดอะไรมันก็ได้แบบนั้น เหมือนในละครทีวีเป๊ะ จำไว้ !
" อืม.. "
จากที่ขบเม้มหยอกเย้าริมฝีปากอิ่มเนิบช้า ในที่สุดปลายลิ้นอุ่นที่ชำนาญการกว่า ก็สอดแลกลิ้นเข้าไปควานหาความอุ่นในโพรงปากหวานได้สำเร็จ คนมากประสบการณ์ป้อนจูบวาบหวามนุ่มนวลค่อย ๆ ต้อนให้เมียเขินจนตัวอ่อนระทวย ดูดดึงจนได้ยินเสียงเฉอะแฉะดังไปทั่วห้องโดยสารกว้าง
" แฮ่ก...เป็นไงครับ ชู้คุณโฉมลิ้นดีไหม ? "
ใบหน้าหล่อคมละออกจากเมียรัก คุณโฉมหน้าขึ้นสีแดงเถือก ดวงตากลมโตตื่นตระหนกน้อย ๆ แต่ไม่ได้ถอยหนี เป็นครั้งแรกที่พวกเราจูบกันลึกซึ้งถึงขั้นแลกลิ้น และชวินพัฒน์ได้รู้ความจริงว่าเมียไม่ขัดขืน...
คาดไม่ถึง...เขานึกว่าจะโดนยัยโฉมฉายตบหน้าเข้าให้สักฉาด กลายเป็นว่าคนปากแจ๋วได้แต่นั่งเหม่อ กะพริบตาปริบ ๆ
" กูว่ามึงอยู่กับคุณโฉมมา 5 ปี มันก็ต้องมีรู้สึกอะไรกันบ้าง อย่ามาพูดว่าไม่มีหน่อยเลย "
คำพูดมีเลศนัยของไอ้พายุแว่วเข้ามาในหูอีกครั้ง จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เหมือนฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้...
ก็ถ้าเขารู้สึก แล้วยัยโฉมจะไม่รู้สึกบ้างเหรอ...
5 ปี เลยนะที่นอนร่วมเตียงเดียวกัน
" คุณโฉม "
" หือ.. "
" ขอลองจูบอีกรอบได้ไหม "