“นั่งหนูเอ้ย ข้าไม่คิดเหมือนกัน ว่าชาญของเอ็งจะเพิ่มขึ้นมากถึงเพียงนี้ เห็นอดีตของตนเอง มองเห็นองค์นคราเองได้โดยที่ท่านไม่ได้อนุญาต ข้าละอึ้งจริงๆ”พ่อครูบอกออกมากับฟ้ามณีตามตรง
“ฟ้าเห็นจ๊ะพ่อครู ฟ้าเห็นแม้กระทั่ง ในชาติภพที่เป็นแม่หญิงมนทิรา ท่านคหบดีที่เป็นบิดาของฟ้า ก็คือพ่อครูไงละจ๊ะ หรือว่ามันไม่จริง” ฟ้ามณีถามออกมาเล่นเอาทุกคนในห้องนี้อึ้งไปกับสิ่งที่ฟ้ามณีเล่า
พ่อครูเมื่อได้ยินสิ่งที่ฟ้ามณีพูด ก็หวนคิดถึงอดีต ในคราวที่เจอฟ้ามณีครั้งแรก ที่มาเที่ยวบ้าน ตอนที่เธอนั้นเรียนอยู่ชั้นปี 1 มาในฐานะเพื่อนของน้ำมนต์ ในตอนนั้นเธอมาพร้อมกับเนยกรอบ พ่อครูรู้ได้ในทันที ว่าเด็กสามคนนี้ผูกพันธ์กันมาหลายภพหลายชาติ และมีชาตินึงที่ฟ้ามณีเป็นบุตรของตน พ่อครูรู้ดีอยู่แล้ว ว่าตนเองนั้นพูกพันธ์กับเด็กทั้งสามคนนี้ มาหลายภพหลายชาติเช่นกัน
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าอุตสาห์ไม่เล่า” พ่อครูสลัดความคิด แล้วบอกออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ว้าวมากอะ พ่อครูเคยเป็นพ่อของดวงมณี ในชาติก่อนๆ แล้วชาตินี้คือพ่อของเรา” น้ำมนต์หันหน้ามาคุยกับฟ้ามณี
“มีเรื่องว้าวมากกว่านั้น” ฟ้ามณีบอกออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“อะไรเหรอยัยฟ้า ฉันลุ้น” เนยกรอบถามออกมาอย่างอยากรู้เรื่องราวต่อ
“ในภพขององค์นครา พ่อครูก็คือบิดาของ กรรณิการ์” ฟ้ามณีบอกออกมาแล้วส่งยิ้มให้เนยกรอบ
“จริงดิ เหลือจะเชื่อ” เนยกรอบบอกออกมาอึ้งๆ พร้อมกับมองหน้าพ่อครู เนยกรอบ และฟ้ามณี สลับไปมา
“อืม จริง” พ่อครูตอบข้อสงสัยของเนยกรอบ
“อ้าว แล้วพ่อครูรู้ตั้งแต่แรกแล้วทำไมไม่เล่าให้พวกเราฟังบ้างละคะ” เนยกรอบยังคงตั้งคำถามอย่างสงสัย
“นั่งหนูเอ้ย คนเราทุกคนเกิดมาล้วนมีกรรม และมีหน้าที่ เมื่อสิ้นภพจบชาติไปแล้ว เราทราบอดีตเพื่อให้ทราบเท่านั้น อดีตมันล้วนกับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ และหากข้าที่เป็นพ่อครูมาบอกกับลูกศิษย์ที่ร้อนรนใจที่จะมาขอความช่วยเหลือแบบนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความจริง หากข้าบอกไปมันก็ไม่ต่างอะไรจากที่เขานั้นเป็นข่าวกันนั่นแหละ ข้าไม่อยากให้คนงมงายแบบนั้น ” พ่อครูบอกออกมาแล้วยิ้มอย่างเอ็นดูให้เด็กทั้งสามคนที่ล้วนเคยเกิดเป็นบุตรของตนทั้งสิ้น
“แล้วยัยฟ้า แกรู้บางไหม ว่าฉันนั้นมีหน้าที่อะไร” เนยกรอบถามออกมาเมื่อได้ฟังคำพูดของพ่อครู
มันทำให้เธอเองนึกสงสัยและอยากรู้
“ทั้งแกและน้ำมนต์ ในภพขององค์ครานั้น เมื่อพระนางมันทกาถอดถอนดวงจิตจากมาแล้วนั้น ได้ขออนุญาตองค์นครา ติดตามดวงจิตของพระนางมันทกาเพื่อมาดูแลพระนางทุกภพทุกชาติด้วยความจงรักภัคดี” ฟ้ามณีคลายข้อสงสัย ของเพื่อนรัก
“ส่วนพี่ธนัส หรืออินทุมาลาในตอนนั้น ก็ได้รับคำสั่ง ให้มาตามติดดูแลเพื่อครองคู่กับพระนางมันทกา ในภพชาติมนุษย์ และมันก็เป็นแบบนั้นมาหลายภพชาติแล้ว”ฟ้ามณีบอกออกมาให้ธนัสได้ฟัง
ธนัสนั้น พอได้ฟังที่ฟ้ามณีบอก ภาพเหตุการณ์ต่างๆประมวลเข้ามาในสมองของธนัส
พรึบ!!
“เจ้ารักพระแม่เมืองใช่หรือไม่”องค์นครา เอ่ยปากถามอินทุมาลา หลังจากที่ตั้งสติขึ้นมาได้
“พระองค์โปรดฟังก่อน เกล้ากระหม่อมมิกล้า หากถามว่าหลงในพระสิริโฉมตั้งแต่แรกภพ ก็หาได้มีอันใดต้องปฎิเสธไม่ แต่พอเกล้ากระหม่อมทราบว่าคือนางคือดวงใจของพระองค์ เกล้ากระหม่อมก็มิกล้าอาจเอื้อมแม้แต่น้อย ได้แต่เฝ้ามองและอารักอย่างปรารถนาดี และบริสุทธิ์ใจ” อินทุมาลา หมอบกราบและทูลบอกเจ้านายตามตรง ด้วยเกรงว่าเจ้านายจักเข้าใจผิด แล้วยิ่งพระองค์นั้นทรงโศกเศร้าอยู่ด้วย จึงเกรงกลัวในความโมโหที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
“เรารู้ แล้วเราก็รู้มานานแล้วด้วย ว่าเจ้าชอบน้องมันทกา ตั้งแต่แรกเจอ เราหาได้ถือความอันใดในตัวเจ้าไม่”องค์นคราบอกแก่อินทุมาตามตรง พระองค์ทรงทราบตั้งแต่แรก เพราะพระองค์ทรงเห็นอินทุมาลา ลอบมองพระชายาอยู่บ่อยครั้ง แต่มันเป็นการมองดูด้วยความปรารถนาดี เพราะองค์จึงทรงไม่ถือสาอันใด
“เป็นพระมหากรุณาพระเจ้าข้า”
“เรามีเรื่องที่จะสังให้เจ้าทำ”องค์นคราบอกแก่อินทุมาลาด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น หนักแน่น แต่แฝงไปด้วยควาามเจ็บปวด และชั่งใจ
“พระองค์ทรงรับสั่งเถิดพระเจ้าข้า” อินทุมาลารีบบอกออกมากับเจ้านาย เพื่อแบ่งเบาภาระของพระองค์
“เจ้าจงไปจุติในครรภ์มนุษย์ เพื่อตามดูแลน้องหญิงมันทกา ในฐานะคู่ชีวิต โดยที่เจ้าจักไม่มีสิทธิรักหญิงใดมากไปกว่า น้องมันทกาในฐานะคู่ชีวิตของเจ้า และจักไม่มีสิทธิ์มีหญิงอื่น” องค์นคราเอ่ยออกด้วยความเจ็บปวด ราวกับเอามีดนับพันเล่ม มากรีดที่หัวใจของพระองค์ ด้วยภาระและหน้าที่ พระองค์ตามหญิงอันเป็นที่รักไปเกิดมิได้ ทำได้ดีที่สุดคือส่งคนสนิทและไว้ใจให้ตามติดนางอันเป็นที่รักของพระองค์เพียงเท่านั้น พระองค์จะยอมเจ็บปวดมองดูหญิงอันเป็นที่รักครองคู่กับชายอื่น ขอแค่เพียงได้เห็นนางอันเป็นที่รักมีรอยยิ้มมีความสุข และไม่ทนทุกข์ในเรื่องเดิมๆ
“พระองค์ เกล้ากระหม่อมมิกล้า”อินทุมาลาบอกออกมาพร้อมกับความตกใจในคำสั่งขององค์นครา
“เจ้าจงทำตามคำขอของเราเสียเถิด ข้ารักนางมาก เจ้าเองก็รักนางมากเฉกเช่นเดียวกัน นางควรได้รับความรักที่ดี รักที่มีเพียงรักเดียว ไม่ต้องพบต้องเจอกับความเสียใจเฉกเช่นนี้”องค์นคราบอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าจับหัวใจ และพระองค์นั้นเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่รักษาความรักเอาไว้มิได้
“พระองค์ทรงตรองดูอีกทีเถิดพระเจ้าข้า พระองค์แน่ใจหรือ” มนตรา ทูลถามเจ้านาย ด้วยทราบดี ว่าเรื่องนี้ผู้ที่ต้องทนช้ำที่สุดคือองค์นครา
“เราคิดดีแล้ว เราปล่อยให้น้องมันทกา เผชิญโลกมนุษย์เพียงลำพังมิได้ เรายินดีที่จะรับความเจ็บปวดที่ทนมองคนรัก มีคู่ชีวิตอื่น เราเองจะยินดีมาก ว่าคู่ชิวิตผู้นั้นจะรักหญิงที่เรารักสุดหัวใจ” องค์นครา บอกออกมาอย่างแน่แน่ว
อินทุมาลา มองหน้ามนตราและนิลภัทรอย่างลำบากใจ ด้วยชายาของเจ้านายนั้นสูงเกินเอื้อม กลัวจะเกินปัญญาที่จะดูแลให้ดีพอ
“เราเชื่อในความรักอันบริสุทธิ์ของเจ้า จงทำตามคำเราเถิด” องค์นคราย้ำอีกครั้ง แม้ว่าในใจของพระองค์นั้นจะเจ็บปวดรวดร้าวมากเหลือจะบรรยาย
“ พระเจ้าข้า ข้าอินทุมาลา ขอรับคำสั่งนายเหนือหัว จักตามไปจุติยังครรภ์มนุษย์ เพื่อครองคู่กับพระนางมันทกา ขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะไม่รักและชายตามองหญิงใด นอกจากพระนาง และจะมีพระนางเป็นคู่ชีวิตเพียงผู้เดียว”สิ้นเสียงอินทุมาลา เขาได้ทำการใช้กรงเล็บ จิกลูกกระเดือกตัวเอง เพื่อทำการสละละทิ้งกายนี้ แล้วตั้งมั่นตามจิตของพระนางมันทกาไป
พรึบ!!!
สิ้นภาพเหล่านั้น ธนัส มองหน้าขององค์นคราก่อนจะกล่าวออกมา
“ผมยินดีในภาระกินครั้งนี้มากๆ ครับพระองค์ท่าน”
องค์นครา เมื่อได้ฟังเช่นนั้นก็ได้ยิ้มบางๆออกมาให้ธนัส หนึ่งในลูกน้องคนสนิท ที่พระองค์ได้ฝากให้ดูแลดวงใจของพระองค์