จัดหนัก

1899 คำ
Talk​ดาว​ เขาจับฉันนอนหงายแล้วเอานิ้วดันเข้าออกที่รูสวาทของฉัน​เร็วๆ ฉันกรีดร้องเพราะเขาใช้สามนิ้วใหญ่ๆดันมันเข้ามาทีเดียว มันเจ็บมาก​แต่ฉันก็รู้สึกเสียวมาก เขารัวนิ้วส่วนปากของเขาก็ดูดดื่มที่ทรวงอกของฉันอย่างเมามัน ฉันร้องจนแทบไม่มีเสียง เพราะมันเจ็บมาก ฉันพยายามคิดว่าเดี๋ยวมันก็ชิน แต่มันไม่ชินเลย มันเจ็บจะขาดใจตาย ไอ้ผีบ้า "ลุกขึ้น" คุณเสือจับตัวฉัน​ขึ้นนั่ง เขาถอดเสื้อผ้ากางเกงของเขาออก​ มือหนาจับท่อนเอ็นมาตีทีปากของฉัน​หนึ่งที ก่อนจะยัดมันเข้าไปในปากของฉัน​ มือหนาทั้งสองข้างกำผมของฉันอย่างแน่น เอวของเขาก็กระแทกท่อนเอ็นเข้าปากฉัน น้ำตาฉันไหลเพราะมันเข้ามาลึกมาก​ เขายังไม่หยุดอยู่แค่นั้น​ เขายังคงยัดท่อนเอ็นเขากระแทกรัวเร็ว มือของเขาจับหัวของฉันไว้แน่น​ ฉันตาเหลือกทุกครั้งที่ท่อนเอ็นใหญ่กระแทกมาแรงๆจนถึงคอหอย ปึก!ปึก!ปึก! "อ๊า ปากเธอนี่สุดยอดจริงๆ" เขารัวสะโพกกระแทกคอหอยฉันแทบขาดใจ แค๊ก​ แค๊ก​ แค๊ก​ ฉันยังไม่ได้ตั้งตัวเขาจับฉันยืนขึ้น​ พร้อมกับเอามะเขือยาว​ออกมา ไม่รู้เอามาจากไหน​ฉันไม่ทันมอง เขาถูไถเล็กน้อยแล้วยัดมะเขือยาวเข้ามาในรูของฉัน​ แล้วก็ดันมันเข้าออก​ “อ้า​ เสียวมากเลย" ฉันร้องครางเพราะมันทั้งเจ็บทั้งเสียว​ มืออีกก็บีบเค้นเนินอกของฉัน​อย่างเมามัน​ มันเสียวซ่านสะใจทุกครั้งที่เขารัวมะเขือเข้ามา "อ๊า" หลังจากเสร็จจากมะเขือยาว​ เขาเปิดหน้าต่างออกแล้วก็พาฉัน​ ไปยืนที่ระเบียงจับขาฉันอีกข้างขึ้นไว้บนโต๊ะส่วนขาอีกข้างอยู่ที่พื้น​ เขาดันแก่นกายเข้ามาจากทางด้านหลัง​ "อ๊า คุณเสือ" ฉันโคตรเสียวเลยเพราะท่านี้มันลึกมาก​ เขาจับแขนทั้งสองข้างของฉันไว้ แล้วเขาก็รีบรัวสะโพกกระแทกแก่นกายเข้าออกอย่างเร็ว "อ๊า คุณเสือดาวเสียวจังเลยค่ะ" ปัก​ ปัก​ ปัก​ ปึกๆ​ ปึกๆ​ เสียงเนื้อกระทบกันดังระงม เขาไม่สนใจมาว่ามีใครเห็นหรือมองอยู่​ เราสองคนบรรเลงเพลงรักใส่กันอย่างไม่ลืมหูลืมตา มันเสียวซ่านสะท้านทั้งกาย สายลมเยือกเย็นพัดแผ่วๆปะทะกายสาว แต่ไม่สามารถดับไฟสวาทของฉันกับคุณเสือได้ รถขับผ่านไปมา​ ระเบียงตรงนี้มันติดกับถนนใหญ่​ ใครจะเห็นไม่เห็นก็ช่าง​ แต่ขอกูมันก่อนแล้วกัน​ หลังจากที่จัดท่ายืนเสร็จ​ เขาก็เอาฉันนั่งลงที่โต๊ะ​จับขาฉันแยกออกกว้างๆ แล้วยัดท่อนเอ็นเข้ามาในรูสวาทฉันอีกรอบ​ ตอนนี้เขายืนแต่ฉันนอนราบไปกับโต๊ะ​ สองมือจับขาทั้งสองข้างฉันไว้แน่นมาก​ ก่อนที่เขาจะกระแทก​แก่นกายใส่ฉันอย่างเมามัน เขาอึดทึกทนมากฉันชอบนะ เอามันกีฉันแทบไฟลุก "อ้า​ เสียว​ อา​ คุณเสือ​ อ๊า”​ "ร้องชื่อกูแรงๆ”​ “อ๊า อ่า​ คุณเสือ”​ เราสองคนเปลี่ยนท่าเปลี่ยนที่กันไปมา​ หลายท่าหลายที่มาก​ จนมาหยุดอยู่ที่เตียงนอน​ฉันไม่เคยมีอะไรกับใคร​ ทั้งอึดถึกทนนานแบบนี้เลยจริงๆ​ มันสะใจสุดๆ Talk​เสือ​ หลายวันต่อมา​.... ตั้งแต่วันนั้น วันที่ผมกลับมาจากเกาหลี เหมยก็มาตามง้อผม อ้อนวอนคืนดีกับผมเกือบทุกๆวัน เธอร้องไห้น่าสงสาร แต่ผมก็ไม่ให้อภัย ผมไม่กลับไปคืนดีกับเธอหรอก ผมอยากให้เราต่างคนต่างไป ไม่ใช่ว่าผมไม่รักเธอ ผมรักเธอมากแต่สิ่งที่เธอทำกับผม ผมก็เจ็บมากเหมือนกัน ช่วงแรกๆผมก็ได้เจอเธอ แต่ช่วงหลังๆมานี้ผมไม่ได้เจอเธอเเล้ว สงสัยเธอคงจะถอดใจ เธอคงจะกลับไปหาผู้ชายคนนั้น เธอมีความสุขผมก็ยินดีด้วย แต่ถ้าจะให้ผมกลับไป ผมคงไม่กลับไปแน่ แรกๆผมก็รู้สึกเสียใจมาก​ แแต่ตอนนี้ผมเข้มแข็งแล้ว ผมไม่คิดมากเหมือนช่วงแรกๆ ตอนนี้ผมสบายใจไม่มีใครผมก็อยู่ได้​ และผมจะไม่ไขว่คว้าหาความรักอีก อยู่แบบนี้แหละสบายดีจะตาย แต่ในหัวผมกลับเเปลกไป ผมกลับคิดถึงผู้หญิงที่ผมมีเซ็กซ์​ด้วยวันนั้น​ เธอเด็ดมาก​ เธอสุดยอด​ ผมอาจจะรุนแรงกับเธอไปบ้าง แต่เธอก็ไม่ได้ติดใจเอาความผม​ เธอยังบอกผมว่า​ ของผมใหญ่สะใจดี​ ผมโคตรชอบเร่าร้อนเป็นบ้า “พรุ่งนี้ก็งานแต่งไอ้คิมแล้วนะ​ มึงเตรียมตัวหรือยัง​”​ ไอ้กายเดินตรงเข้ามาถามผม​ ผมถึงกับตกใจ​ที่อยู่ๆมันก็โพล่งขึ้นเสียงดัง "เฮ้ย​ ไอ้ห่านี้กูตกใจหมด”​ "แหม๋ตั้งแต่เลิกกับแฟนนี้ขวัญอ่อนนะมึง”​ “อย่าพูดถึงเรื่องเก่ากูไม่ชอบ มึงมีอะไรมึงก็พูดมา”​ "กูบอกว่าพรุ่งนี้งานแต่งไอ้คิม มึงเตรียมตัวเตรียมชุดหรือยังวะ”​ "กูไม่จำเป็นต้องเตรียมตัว เพราะถึงยังไงหน้าตากูก็ดีอยู่แล้ว”​ “ขี้โม้​ชิปหายเลยมึง”​ ไอ้กายมันด่าผม​ "...”​ ผมยักคิ้วให้มันก่อนที่ผมจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน​ ไอ้กายมันก็มานั่งมองหน้าผม มองเหมือนผมเป็นตัวตลกยังไงไม่รู้ ผมไม่ชอบให้ใครจ้องหน้าผมนานๆ เพราะผมจะอดขำไม่ได้ ผมเหมือนคนเป็นโรคบ้าจี้ เวลามีคนจ้องเวลามีคนจักจี้ ผมก็รู้สึกเสียวๆ แล้วก็อยากหัวเราะออกมาดังๆแต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้​ เดี๋ยวพวกมันจะรู้จุดอ่อนของผม​ พรุ่งนี้เป็นวันแต่งงานของไอ้คิมกับชิลลี่ แฟนที่มันคบกันมานานเกือบแปดปี มันหนักแน่นต่อความรักของมันมากมันก็เลยมีวันนี้ แต่ผมนี่สิ ขนาดหนักแน่น​ ไม่เคยคบซ้อนไม่เคยมีเรื่องผู้หญิง แต่แฟนผมมันก็ทำกับผมได้ลงคอ ทั้งเจ็บทั้งจุก ผมเลิกคิดแล้วเรื่องผู้หญิง ปล่อยวาง เดี๋ยวอะไรอะไรมันก็จะลงตัวเอง​ "พวกมึงกูมีเรื่องจะมาบอก​”​ ไอ้ยะวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาผม​กับไอ้กาย​ “มีอะไรวะ”​ ไอ้กายเอ่ยถามเพราะความสงสัย​ “คือ​... เจนนี่แฟนมึง​ ไอ้กาย​กูเห็นแฟนมึงไปกับคนอื่น”​ “ไม่จริง​ เจนนี่ไปต่างประเทศยังไม่กลับมา​ มึงจำผิดคนหรือเปล่าวะ”​ “กูไม่ได้จำผิดคน​ แต่กูเห็นเต็มสองตาว่ามันเป็นเจนนี่แฟนของมึงจริงๆ มึงดูในรูปแล้วมึงจะรู้เอง”​ ไอ้ยะมันเอารูปมาให้ผมกับไอ้กายดู​ ผมก็ได้แต่มองดู​ เพราะภาพมันเห็นหน้าผู้หญิงไม่ชัด แต่รูปร่างคือแฟนของไอ้กายเลย ผู้หญิงมันมีนิสัยเหมือนกันแบบนี้ทุกคนปะวะ​ เวลาที่จริงจังกับใคร แม่งก็โดนเททุกที “ไม่ใช่หรอก​ กูว่าคงจะเป็นคนหุ่นคล้ายๆกับแฟนกูก็ได้​”​ ไอ้กายแก้ตัวแทนแฟนมัน​ ที่จริงผมรู้ว่าไอ้กายมันดูออกว่านั่นคือแฟนมัน นั่นคือเจนนี่จริงๆไม่ใช่คนอื่น “มึงอย่าบอกนะว่ามึงดูแฟนมึงไม่ออก​ มึงไม่คิดจะโทรถามแฟนมึงเลยเหรอ หรือว่ามึงจะยอมให้เขาสวมเขาให้มึง เหมือนกับแฟนไอ้เสือที่แฟนมันสวมเขาให้กับมัน​”​ อ้าว​ เอากูเข้าไปเกี่ยวซะงั้น​ “เดี๋ยวกูโทรถามเอง​...” ไอ้กายมันแกล้งถือโทรศัพท์ออกไปข้างนอก แต่ที่จริงแล้วมันไม่ได้โทรหาเจนนี่หรอก มันรักเจนนี่มาก เจนนี่จะโกหกอะไรมันมันก็เชื่อไปหมด ไอ้นี่มันหลงผู้หญิงมากกว่าอะไรซะอีก แต่ก็ช่างมันเถอะชีวิตมัน ไม่ใช่ชีวิตผม มันอยากเจ็บก็ช่างมัน​ ต่อให้พยายามบอกมัน มันก็คงจะหลอกตัวเองต่อไป "ไอ้เสือมึงเชื่อกูป่ะ​ กูเห็นว่าเป็นเจนนี่ จริงๆนะมึง​ ”​ ไอ้ยะมันพยายามทำให้ผมเชื่อมัน​ ผมก็เลยพยักหน้า แล้วก็ยักคิ้วให้มัน แค่นี้มันก็รู้แล้วว่าผมเชื่อมัน​ “เอาไงดีวะ ถึงจะช่วยมันได้ กูว่าตอนนี้เจนนี่ กำลังหักหลังมันนะเว้ย”​ "มันอยากโง่ให้เขาหลอกมันต่อไป แล้วก็ปล่อยให้มันโง่ไป มึงคอยดูนะ ว่าเจนนี่จะหาข้อแก้ตัวอะไรมาแก้ตัวกับมัน ปล่อยมันไปเถอะมันเจ็บไม่เคยจำ มันอยากเป็นควายก็ช่างมัน​ กับผู้หญิงคนนี้มันให้อภัยเขามาเป็นสิบรอบแล้วมั้ง”​ "แต่กูอยากจะกระชากหน้ากากผู้หญิงคนนั้นออกมา ให้มันได้เห็นว่าผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักแล้วก็ไม่ได้จริงจังกับมันเลย”​ "พูดไปก็เหมือนสีซอให้ควายฟัง มันไม่เชื่อพวกเราหรอก มันต้องเจอกับตัวมัน ไปทำงานได้แล้วกูก็จะทำงาน" "เราควรช่วยไหมวะ!" "จะช่วยคนที่เขาไม่อยากให้ช่วยได้ยังไงเล่า อีกไม่นานหรอก ไอ้กายมันก็ได้ย้ายออกจากบริษัทเรา" "ย้ายไปทำไมวะ?" "ออกไปดำรงตำแหน่งประธานบริษัทแทนพ่อมันแล้ว​ เห็นมันบอกว่าพ่อมันไม่สบาย กูว่าผู้หญิงคนนี้มันต้องมีแผนอะไรแน่ๆ”​ "แผน... แผนจะจับไอ้กายไงล่ะ มึงก็รู้ว่าไอ้กายมันโง่ คอยดูนะถ้าแม่ของเจนนี่บอกให้ไอ้กายไปสู่ขอ ไอ้กายมันจะบีบบังคับแม่มันไปสู่ขอ​เจนนี่”​ “เออ!! มึงคิดเหมือนกูเลย​ แต่ก็ช่างแม่ง เพราะเงินมันไม่ใช่เงินเรา​ 55555” “เออ​! งั้นกูไปทำงานต่อดีกว่า”​ “โอเคเพื่อน​ มีอะไรไม่ต้องมาบอกกูนะ​ กูไม่อยากปลอบใจมัน​ เวลามันอกหัก​”​ “เหมือนกับมึงอกหักใช่ไหม​?”​ "เรื่องของกูมันนานมาแล้ว มึงไม่ควรที่จะเอามาพูด หัดเกรงใจกูบ้าง​ กูเพื่อนมึงนะเว้ย เดี๋ยวมึงจะโดนไม่ใช่น้อย”​ "เอออ!! ไอ้คนเก่ง​ เก่งจริงๆเลยมึง​”​ บางทีผมก็คิดว่าการที่ไม่มีความรักเลย มันก็สบายไปอีกแบบนะ มันสบายอกสบายใจไม่ต้องมาคิดให้ปวดสมอง ถ้ามีแล้วต้องมานั่งคิดมากเหมือนไอ้กาย ต้องมานั่งโกหกตัวเอง ต้องมานั่งปลอบใจตัวเองว่ามันไม่ใช่ ทั้งๆที่มันใช่ แบบนี้มันก็แย่อยู่นะ ผมเลือกถูกแล้ว อยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีใครเลย สบายใจไม่ต้องคิดไม่ต้องเครียด อยากกินอะไรก็กินอยากเที่ยวก็เที่ยว อยากนอนก็นอน เวลาทำงานก็คือทำงาน เวลาเงี่ย..นก็เที่ยวตีหรี่แค่นั้น​
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม