บทที่ 3 ผู้ชายหยาบคาย 1

1252 คำ
วายุเลิกคิ้วมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างแปลกใจว่าเหตุใดเธอคนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เพราะดูภาพรวมแล้วไม่น่าจะเป็นคนที่นัดเขาไว้ เพราะอะไรเขาถึงคิดว่าไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ...เพราะผู้หญิงตรงหน้าไม่ใช่คนประเภทที่เขาเห็นจนชินตา แถมการแต่งตัวก็ดูจะเรียบร้อยเกินกว่าที่จะมาในที่แบบนี้ “จะยืนมองหน้าฉันอีกนานไหมคะ” ทัดดาวถามขึ้นพร้อมกับมองชายหนุ่มหน้าดุที่ยืนมองหน้าเธออยู่นานแล้ว “เจอกันอีกแล้วนะครับ” วายุพูดแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามหญิงสาว ทัดดาวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินที่ชายหนุ่มพูด “ฉันกับคุณเคยเจอกันมาก่อนเหรอคะ” วายุชะงักไปนิดเมื่อได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนนี้ มันทำให้เขารู้สึกเสียหน้าไม่เคยมีใครโดยเฉพาะผู้หญิงคนไหนที่จำเขาไม่ได้สักคน หรือว่าเจ้าหล่อนจะแกล้งจำเขาไม่ได้เพื่อเรียกความสนใจ “มุกนี้ผมให้ผ่านนะ” เขาพูดเยาะๆ อย่างรู้ทัน “มุกอะไรของคุณ แล้วตกลงคุณเป็นใครแล้วเขามาในห้องนี้ได้ยังไง” ทัดดาวพูดและถามชายหนุ่มตรงหน้า “ก็ที่คุณทำเป็นเหมือนไม่รู้จักผมไง จะเรียกร้องความสนใจจากผมล่ะสิจะบอกให้นะลูกไม้ตื้น ๆ ใช้กันผมไม่ได้หรอก” “แล้วที่คุณถามว่าผมเป็นใคร ผมต่างหากที่ต้องถามว่าคุณเป็นใครมาทำอะไรที่นี่” วายุกอดอกมองผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังถลึงตาใส่เขาอยู่ “ฉันขอทำความเข้าใจก่อนที่คุณจะหลงตัวเองไปมากกว่านี้ก่อนนะ ข้อแรกฉันไม่เห็นว่าตัวเองมีความจำเป็นอะไรที่ต้องเรียกร้องความสนใจจากคุณ” คำพูดของหญิงสาวทำให้หางคิ้วเข้ม ๆ ของเขากระตุกเล็กน้อย “ข้อสองฉันมาหาเจ้าของที่นี่เพราะจะมาคุยธุระส่วนตัว ถ้าธุระที่คุณกับเจ้าของที่นี่ไม่ด่วนมากช่วยออกไปรอข้างนอกก่อนจะได้ไหมคะ” ทัดดาวพูดความจริงและอดหมั่นไส้ชายหนุ่มหน้าดุไม่ได้ที่หลงตัวเองคิดว่าเธอสนใจเขา ที่บอกไปว่าจำไม่ได้ว่าเคยเจอหน้าผู้ชายคนนี้ที่ไหน ที่จริงแล้วเธอจำเขาได้แต่เรื่องอะไรจะบอกให้คนหลงตัวเองเพิ่มอีโก้มากขึ้นไปอีกล่ะ วายุมองหน้านิ่ง ๆ ของผู้หญิงตากลมโตตรงหน้าแล้วอดขำในใจไม่ได้ นี่เจ้าหล่อนพูดไล่ให้เขาออกไปรอข้างนอกทั้งที่เขาคือคนที่เธอต้องการจะพบ เขาชักอยากรู้แล้วสิว่าเธอคนนี้เป็นใครกันแน่ “คุยกันมาตั้งนานผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย” “ถึงฉันจะคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องบอกชื่อตัวเองให้คุณรู้ แต่เพราะมันเป็นมารยาทฉันก็ต้องบอกใช่ไหม ฉันชื่อทัดดาวค่ะ” น้ำเสียงเรียบและดูธรรมดาแต่กลับคมกริบฟันแทงคนฟังซะเลือดซิบเลย วายุชะงักไปนิดแล้วต้องยกยิ้มน้อย ๆ ออกมาเมื่อได้ยินชื่อของหญิงสาวซึ่งมันเป็นคนเดียวกับที่นัดเขาเอาไว้ “ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องออกไปหรอกนะครับคุณทัดดาว” “หมายความว่ายังไง” ทัดดาวถามขึ้นมา “เพราะผมคือคนที่คุณอยากจะคุยด้วย หรือจะให้เข้าใจอะไรง่าย ๆ ก็คือผมเป็นเจ้าหนี้ของเพื่อนคุณและฐานะที่คุณเป็นคนค้ำประกันเงินก้อนนี้ให้เพื่อนก็เท่ากับว่าผมเป็นเจ้าเป็นหนี้คุณด้วยเหมือนกัน” วายุแกล้งพูดอะไรที่ดูเข้าใจยากเพื่อดูปฏิกิริยาของผู้หญิงตรงหน้า ทัดดาวได้ยินก็นิ่งไปนิดแล้วต้องถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพูดออกมา “ไม่ต้องพูดอะไรที่เข้าใจยากขนาดนั้นก็ได้นะ” วายุยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นเครื่องดื่มที่วางอยู่ตรงหน้าซึ่งมันไม่ได้พร่องเลยแถมยังดูเย็นชืดไปแล้ว “คุณอยากได้เครื่องดื่มแก้วใหม่ไหม เพราะเรื่องที่เราคุยกันน่าจะใช้เวลานาน” “ขอบคุณค่ะ แต่ฉันขอน้ำเปล่าที่เป็นขวดจะดีกว่า” “ทำไมล่ะหรือคุณไม่ชอบเครื่องดื่มที่ลูกน้องผมจัดมาให้ถึงไม่ดื่มเลย” เขาแกล้งถามไปอย่างนั้น แต่ต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้ฉลาดไม่น้อยเลย “ฉันไม่ดื่มเครื่องแอลกฮอล์เวลาอยู่ในที่ ๆ อันตราย” วายุยิ้มน้อย ๆ แล้วกดโทรศัพท์สั่งให้ลูกน้องเอาน้ำดื่มที่เป็นขวดมาให้แขกสาว ไม่นานน้ำดื่มขวดใหม่ก็มาวางอยู่ตรงหน้าพร้อมกับแก้ววิสกี้ของเขาที่ไม่ต้องบอกลูกน้องก็รู้ใจ “นี่ก็ดึกแล้วฉันขอคุยธุระเลยนะคะ” ทัดดาวพูดเมื่อดื่มน้ำดับกระหายแล้ว “เชิญครับ” เขาผายมือไปตรงหน้า “ฉันไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องที่มีชื่อตัวเองเซ็นค้ำประกันเงินกู้ให้จันทร์แรมค่ะ” เธอพูดตรง ๆ และใช้น้ำเสียงหนักแน่น “ไม่พูดง่ายเกินไปหน่อยเหรอ แล้วผมจะเชื่อคุณได้ยังไงในเมื่อชื่อคุณเด่นหราอยู่ในสัญญากู้เงิน” วายุถามเสียงขรึม “คุณก็เอาเอกสารฉบับนั้นมาเทียบกับลายเซ็นที่ฉันจะเซ็นให้คุณต่อหน้านี่สิ” คำพูดที่ทั้งฉลาดรอบคอบของทัดดาวทำให้เขานึกสนุกและสนใจแล้วสิ แม้จะยังไม่ได้เอาลายเซ็นมาเทียบแต่เขาก็มั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้ถูกแอบอ้าง เพราะคงไม่มีใครมากล้าขอให้เทียบลายเซ็นต่อหน้าเจ้าหนี้หรอก “ทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วย เอกสารพวกนั้นเป็นความลับจะเอามาให้คุณดูง่าย ๆ คงไม่ได้หรอกครับ” “ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับฉันน่ะสิ เรื่องนี้ฉันถูกแอบอ้างต้องมาใช้หนี้แทนจันทร์แรมแบบนี้” “คุณมั่นใจว่าตัวเองถูกแอบอ้างใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องเอาคนที่ชื่อจันทร์แรมมายืนยันความบริสุทธิ์ของคุณผมถึงจะเชื่อ” เขาแกล้งท้าไปแบบนั้นเพราะรู้คำตอบดีว่ายังไงทัดดาวก็ไม่มีทางตามหาผู้หญิงคนนั้นเจอแน่ “ถ้าฉันติดต่อหรือตามหาเขาได้ฉันจะมานั่งอยู่ที่นี่ทำไม” ทัดดาวพูดแล้วแอบทำหน้าเซ็งและด่าชายหนุ่มในใจ “นั่นมันเป็นปัญหาของคุณ ผมแค่ต้องการคนรับผิดชอบเรื่องเงินเท่านั้น” เขาพูดปัด “เรื่องนี้คุณก็มีส่วนผิดนะไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยหรือไง” ทัดดาวยังคงไม่ยอมแพ้ “รับผิดชอบเรื่องอะไร ในเมื่อผมไม่ได้ไปขอร้องให้เขาเข้ามาในนี้และไม่ได้จับมือเขาเซ็นเอกสารนะ” วายุพูดน้ำเสียงจริงจังเพราะรู้ว่าความรับผิดชอบที่หญิงสาวพูดถึงมันคืออะไร ทัดดาวถอนหายในออกมาแล้วคิดว่าไม่มีประโยชน์จะพูดต่อรองอะไร ในเมื่อผู้ชายคนนี้ไม่คิดจะช่วยเหลือหรือฟังอะไรเลย เห็นทีเงินเก็บต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง +++++
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม