Ep.4 อีกคนเริ่มเข้าหา อีกคนเริ่มหวั่นไหว

1486 คำ
Ep.4 อีกคนเริ่มเข้าหา อีกคนเริ่มหวั่นไหว กอหญ้าหลุดออกจากภวังค์เมื่อได้ยินประโยคคำถามจากพอร์ช “เราเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใยและความอบอุ่นนั้น ทำเอาเธอเองก็หวั่นไหวไม่น้อย เพราะนิสัยแบบนี้ของเขานั้นแหละ ที่ทำให้เธอตกหลุมรักเขาในตอนนั้น รักจนตั้งความหวังและหวังจนเกินไปไกล แต่สุดท้ายก็คิดแบบนั้นอยู่ฝ่ายเดียว “มะ ไม่ค่ะ” “แต่นั่น… หน้าผากเรา?” “อ๊ะ” กอหญ้ายกมือขึ้นจับหน้าผากตัวเองเบาๆ ซึ่งรู้สึกเจ็บ และสัมผัสได้ว่าหน้าผากของเธอบวมปูดเกือบเท่าลูกมะนาว คงเป็นเพราะตอนที่เกิดอุบัติเหตุที่กอหญ้าเบรครถกะทันหัน ทำให้เธอเองก็ทรงตัวไม่อยู่ หัวคะมำไปโขกกับพวงมาลัยรถ “พี่ว่าไปหาหมอดีกว่า” “ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้เองเดี๋ยวก็หาย” “ไม่ดื้อสิครับ” แม้คำพูดจะเหมือนเป็นการดุ แต่เสียงอันไพเราะและนุ่มลึกนั้นมันกลับชวนทำให้เธอใจเต้นระรัว มาเล่นละครตบตาทำตาราวกับเป็นห่วง เธอไม่หวั่นไหวหรอกนะ… มั้ง … “ดูสภาพรถเราตอนนี้สิ ไฟหน้าแตกขนาดนั้น เดี๋ยวพี่ให้คนมาจัดการให้ ตอนนี้ไปโรงพยาบาลกับพี่ก่อนดีกว่า” ถึงแม้จะเป็นประโยคบอกเล่าแต่ก็เหมือนออกคำสั่ง ไม่รอช้า พอร์ชคว้าข้อมือบางของรุ่นน้องไปยังรถของตัวเองทันที ส่วนรถของกอหญ้าเดี๋ยวเขาให้คนของเขามาจัดการให้ทีหลัง โรงพยาบาลเอกชน xxx “หมอจะให้คนไข้นอนโรงพยาบาลหนึ่งคืนนะครับ” “ต้องนอนด้วยเหรอคะ คือหนูไม่ได้เจ็บอะไรตรงไหนเลยค่ะ” “นอนให้น้ำเกลือสักหน่อย เดี๋ยวหมอจะให้พยาบาลจัดวิตามินมาให้ พรุ่งนี้ค่อยออกจากโรงพยาบาล” “แต่คุณหมอคะ คือ…” “...” คุณหมอยิ้มอย่างใจดีเพื่อให้คนไข้รู้สึกเกรงใจและยอมตกลง เขาเองก็โดนสั่งมาเหมือนกันว่าทำยังไงก็ได้ให้ผู้หญิงคนนี้นอนพักที่นี่หนึ่งคืน และสุดท้ายก็เป็นผล กอหญ้ารู้สึกเกรงใจคนหมอจึงเลิกปฎิเสธและนอนโรงพยาบาลหนึ่งคืนตามที่คุณหมอบอกแต่โดยดี พอร์ช ที่นี่เป็นโรงพยาบาลของครอบครัวผมเอง และผมก็ได้โทรติดต่อกับจองห้องไว้หนึ่งห้องเพื่อสำหรับแอดมิทหนึ่งคืน ถ้าถามว่ากอหญ้าเจ็บตรงไหนเพิ่มเติมที่ทำให้เธอต้องนอนโรงพยาบาลหนึ่งคืน บอกเลยว่าไม่มี แต่นี่มันคือแผนของผมที่พยายามใกล้ชิดและเข้าหากอหญ้าอีกครั้ง ผมจะใช้ช่วงเวลานี้เข้าหาเธอ จะทำให้เธอใจอ่อนและหวั่นไหวกับผมอีกครั้งให้ได้ ผมอยากให้กอหญ้าตัดสินใจให้โอกาสผมใหม่อีกสักครั้ง ครั้งนี้ผมคิดว่าคงจะทำหน้าที่แฟนได้ดีกว่าเมื่อก่อน ตอนนั้นเราทั้งสองคนยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจคำว่ารัก และตอนนี้(คง)พร้อมแล้ว… “คืนนี้พี่จะอยู่เฝ้าเราเอง” “ไม่จำเป็นค่ะ” “กอหญ้า ไม่ดื้อนะครับ” “ไม่ได้ดื้อค่ะ ฉันอยู่คนเดียวได้” “...” “แล้วอีกอย่าง ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากด้วย” “อืม” พอร์ชกล่าวแค่นั้นก็เปิดไปปิดไฟและทิ้งตัวนอนบนเตียงสำรองทันที ตอนนี้กอหญ้าเปลี่ยนเป็นชุดของโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เขาเองไม่มีชุด แต่ก็ใช้สิทธิ์ลูกเจ้าของโรงพยาบาลใส่ชุดคนป่วยเหมือนกันกับเธอ และเขาก็ได้โทรบอกให้ลูกน้องของพ่อเอาชุดใหม่มาให้ในวันพรุ่งนี้เช้าแทน “นะ นี่ บอกให้กลับไปไง” “แบบนี้เรียกว่าดื้อครับ” “...” กอหญ้าไม่คิดว่าพอร์ชจะตีมึนใส่เธอขนาดนี้ เมื่อก่อนมีแค่เธอที่คอยตามใจเขา เอาใจเขาและตื้อเขา แต่ตอนนี้นั้นมัน… เธอได้แต่หวังว่าอย่ามาเล่นกับใจเธอเป็นอันขาด เพราะตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วเหมือนกันว่าที่ผ่านมานั้น เธอลืมได้แล้วจริงๆ หรือเปล่า เธอทิ้งตัวลงนอนอย่างจำยอม กอหญ้าไม่รู้ว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลของครอบครัวพอร์ช เธอรู้เพียงแค่ว่าบ้านพอร์ชทำธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ เธอไม่ได้รู้ลึกอะไรขนาดนั้น เพราะความรักในวัยเด็กนั้นไม่ได้สนเรื่องฐานะทางบ้าน สนแค่ความรักอย่างเดียว ความรักเท่านั้นที่สำคัญกับเธอ ในระหว่างที่ปิดไฟและเข้านอน ภายในห้องมีแต่ความเงียบงัน ทั้งสองไม่มีใครเอ่ยประโยคคำถามที่ต่างก็มีสิ่งที่อยู่ในใจและอยากจะถาม กอหญ้านอนหันหลังให้พอร์ช ส่วนพอร์ชนอนตะแคงข้างหันหน้าไปทางกอหญ้า เขานอนมองรุ่นน้องที่เห็นเพียงแผ่นหลังบาง พลันเกิดคำถามภายในใจหลายอย่างที่อยากถามออกมา แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง เขาอยากเข้าหากอหญ้า อยากเริ่มใหม่ อยากเป็นผู้ชายที่เธอให้ใจและเห็นความสำคัญเหมือนเมื่อก่อน เมื่อก่อนเขาคือคนแรกที่เธอนึกถึงเสมอ เขา… อยากได้ตำแหน่งคนสำคัญและคนโปรดนั้นกลับมาอีกครั้ง จะไม่ยอมแพ้ จะตื้อจนกว่าจะใจอ่อน และเขาก็มั่นใจพอตัวว่าจุดอ่อนของกอหญ้าคืออะไร เขาไม่แน่ใจว่ากอหญ้าหลับไปหรือยัง เพราะเงียบไปนานมาก แต่พอเขาชะโงกดูกลับเห็นแสงจากโทรศัพท์ เธอกำลังฟังเพลงและใส่หูฟังอยู่ ปิดกั้นและเมินกันขนาดนี้เลยเหรอ… ทำราวกับเขาไม่มีตัวตน กอหญ้ายังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เธอชอบฟังเพลงเกาหลีอะไรแบบนั้นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว และแอบเห็นเธอกับเพื่อนก็ชวนกันซ้อมเต้นอีกด้วย “หญ้า” “...” “กอหญ้าครับ” … “แล้วกูจะเรียกทำไมวะ น้องใส่หูฟังอยู่” พอร์ชลุกจากเตียงและเดินไปสะกิดไหล่กอหญ้า “มีอะไร” กอหญ้าชักสีหน้าใส่นิดหน่อย เธออุตส่าห์ใส่หูฟัง ต้องการความเป็นส่วนตัว ยังมาสะกิดเรียกเธออีก “ไปขับรถเล่นกัน” “ไม่” “พี่นอนไม่หลับ นี่มันเร็วเกินไป ยังไม่ใช่เวลานอนของพี่” “ก็กลับไปสิ” “ไล่เหรอ” “จะว่าแบบนั้นก็ได้” “ทำไมใจร้ายแบบนี้” “ยังไม่เท่าพี่หรอกค่ะ” จริงๆ พอร์ชไม่ได้อยากออกไปขับรถเล่นตามที่เขาพูดหรอก เขาแค่หาเรื่องกวนประสาทกอหญ้าก็เท่านั้น ซึ่งมันก็ได้ผล การที่กอหญ้าต่อปากต่อคำกับมันยังดีกว่าที่ต่างคนต่างเงียบ แบบนั้นมันน่าอึดอัดชะมัดเลย “งั้นแสดงว่ายังไม่ลืมเรื่องตอนนั้นจริงๆ สินะ” “...” “ขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้งได้ไหมครับ” “...” “นะครับ” “มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ เพราะตอนนั้นพี่ใจร้ายมากเลยนะ” กอหญ้าพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูยังไงก็ไม่ได้ปกติ เสียงสั่น น้ำตาเริ่มคลอ ถึงแม้ว่าตอนนี้ห้องจะปิดไฟ แต่กอหญ้าไม่ได้ปิดผ้าม่านปิดหน้าต่าง ทำให้ยังมีสว่างจากด้านนอกส่องเข้ามาจนเห็นใบหน้าสวยหวานตอนนี้มีน้ำตาซ่อนอยู่ จะว่าซ่อนก็ไม่ได้ เพราะตอนนี้น้ำตาของเธอร่วงเผาะไหลอาบแก้มเรียบร้อยแล้ว พอร์ชไม่รอช้า ลุกจากเตียงตัวเองเดินเข้าไปสวมกอดรุ่นน้องทันที เขาเองก็รู้สึกผิดกับเรื่องในอดีตไม่น้อย เขาไม่คิดว่าความรักในวัยนั้นจะทำให้เธอฝังใจเจ็บได้ขนาดนี้ เขามองอะไรผิดไปเยอะเลยจริงๆ “ให้โอกาสพี่อีกครั้งนะ พี่ย้อนเวลาไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตไม่ได้ แต่ต่อจากนี้ไป พี่จะไม่ทำให้เราเสียใจอีก” “ฮึก” “ถ้าพี่ทำให้กอหญ้าเสียใจอีก ด่าพี่ว่าไอ้ชาติหมาได้เลย” “ฮึก ไอ้ชาติหมา” “เฮ้ย ด่าพี่ทำไม” “ด่าย้อนหลังไง” “หึหึ เรานี่นะ” “แต่หญ้ายังไม่ได้ให้โอกาสพี่พอร์ชตอนนี้หรอกนะ” “ได้สิ แต่ไม่นานหรอก เราต้องใจอ่อนให้พี่แน่นอน พี่มั่นใจ” “มั่นหน้า” “ทำไมเดี๋ยวนี้ด่าเก่งจัง” “ประสบการณ์มันสอนให้รู้ว่าเงียบไปก็ไม่มีประโยชน์ มันต้องด่าเท่านั้นถึงจะดีขึ้น” “นี่ New look กอหญ้าสินะ” “ก็ตามนั้นค่ะ” ถึงแม้ว่าฉันจะหวั่นไหว แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะเปิดโอกาสให้เขาในตอนนี้ ฉันขอดูพฤติกรรม ขอดูอะไรๆ ให้ชัดเจนก่อน ที่เคยพูดย้ำกับตัวเองว่า ลืมได้แล้ว ไม่รักแล้ว มันไม่จริงเลยสินะ ฉันยังคงร้องไห้ง่ายๆ กับเรื่องเดิมๆ ที่ฝั่งใจมาตลอด ✨✨✨
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม