ตอน จับกล้วยว่าที่แฟนลูก
อาทิตย์ต่อมา
วันนี้ปิยะวัฒน์ สามีรักของอารียา กลับมาจากการคุมงานสร้างถนนทางด่วนที่ต่างจังหวัด อารียาดีใจมาก เธอโผเข้า กอดหอมสามีด้วย ความรักและความคิดถึงที่เต็มเปี่ยม ปิยะวัฒน์เองก็กอดตอบเธอแน่น สูดดมกลิ่นกายภรรยาที่เขาไม่ได้สัมผัสมานาน
“พี่คิดถึงอารียาที่สุดเลยรู้ไหม” ปิยะวัฒน์กระซิบเสียงหวาน
“อารียาก็คิดถึงพี่ค่ะ” เธอตอบพลางซบหน้ากับแผงอกของเขา บทสนทนาของทั้งคู่ หวานซึ้ง เต็มไปด้วยถ้อยคำที่แสดงความผูกพัน
ความเหงาที่ปลายเตียง
กลางคืน เมื่อทุกคนเข้านอนหมดแล้ว อารียาพยายามจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับสามี เธอเริ่ม จับแท่งเอ็นสามีที่กำลังอ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างแผ่วเบา ลูบไล้และเฟ้นคลึงมันจนแข็งขึ้นเต็มที่
“พี่คะ… คืนนี้เรามา… รักกันนะคะ” อารียาเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงยั่วยวน
แต่ปิยะวัฒน์กลับถอนหายใจออกมาเบาๆ “ขอโทษนะอารียา พี่เหนื่อยมากจริงๆ วันนี้ขับรถมาไกล ขอพี่ นอนพักผ่อนก่อนนะ”
คำปฏิเสธของสามีทำให้อารียารู้สึกเหมือนถูกเทน้ำเย็นราดใส่ เธอ พลิกหันหลังให้สามีที่หลับตาลงอย่างรวดเร็ว นอนไม่หลับด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว ภาพความร้อนรุ่มเมื่อตอนที่นัทเพื่อนลูกชายรุกล้ำเธอเมื่อคืนก่อนยังคงชัดเจนในหัว และที่เลวร้ายกว่านั้นคือภาพแท่งเอ็นของนัทจ่อตรงปากร่องสวาทอันเยิ้มเปียกน้ำหล่อลื่นของเธอกลับแจ่มชัดเจนยิ่งกว่า
เช้าวันต่อมาซึ่งเป็น วันหยุด อารียาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสับสน แต่เมื่อเห็นลูกสาวทั้งสองคือ นารีและนาดาว กำลัง ขอคุณพ่อให้ขับรถตู้พาไปเที่ยวทะเล เธอก็ดีใจขึ้นมาทันที
“พ่อคะ/พ่อขา! ไปเที่ยวทะเลกันนะ!” ลูกสาวทั้งสองอ้อนวอน
ปิยะวัฒน์ยิ้มรับ “ได้สิ พ่อตกลง”
อารียากับลูกๆดีใจที่จะได้ไปเที่ยวพร้อมหน้าทั้งครอบครัว พวกเธอรีบช่วยกัน ทำอาหารกล่อง แพ็คน้ำแข็งและเครื่องดื่มมากมาย ยกขึ้นหลังรถตู้คันใหญ่เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง
ขณะที่กำลังจัดของอยู่ นาดาว ลูกสาวคนโตก็หันมาบอกแม่ด้วยรอยยิ้ม “แม่คะ หนูชวน แป๊กไปด้วยนะคะ พ่อบอกว่าหนูชวนเพื่อนได้”
อารียาชะงักเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร นารี ลูกสาวคนเล็กก็เสริมขึ้นมาว่า “หนูก็ชวนเพื่อนผู้หญิงมาอีกคนชื่อ น้ำ แล้วก็เพื่อนผู้ชายมาอีกคนชื่อ นนท์ ด้วยค่ะ”
อารียาตกใจอย่างเห็นได้ชัด นึกว่าจะไปกันแค่ในครอบครัว แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธเพราะลูกๆ ได้ขออนุญาตสามีแล้ว
ไม่นานนัก เหล่าเพื่อนๆ ของลูกสาวก็ทยอยกันมาถึง รถตู้คันใหญ่บรรทุกคนเต็มคัน สามีขับรถอย่างใจเย็น อารียานั่งเบาะหน้าข้างคนขับ เด็กๆทั้งหมดนั่งอยู่เต็ม ห้องโดยสารด้านหลัง
รถตู้ออกเดินทาง บรรยายถึงความสนุกสนานและตื่นเต้นระหว่างทางอย่างละเอียด เสียงเพลงจากเครื่องเสียงดังกระหึ่ม เด็กๆ ร้องเพลง เล่นเกม และหัวเราะคิกคักกันตลอดทาง บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและสดใส อารียาหันไปมองลูกสาวและเพื่อนๆ ผ่านกระจกมองหลังอย่างมีความสุข แต่สายตาของเธอก็เผลอไปสบกับแป๊กที่นั่งอยู่ด้านหลังสุดของรถอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งที่สบตากัน หัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
จนมาถึงทะเลในช่วงบ่ายแก่ๆ แสงแดดสีทองสาดส่องลงกระทบผืนน้ำทะเลสีครามที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ทุกคนต่างส่งเสียงเฮด้วยความดีใจ รีบลงจากรถเพื่อสัมผัสหาดทรายขาวละเอียดทันที อารียาพยายามสลัดความคิดสับสนในใจ แล้วยิ้มรับความสุขของการได้มาเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนๆ ลูกสาวอย่างเต็มที่
ทุกคนจับจองพื้นที่ใต้ต้นมะพร้าวริมหาด ปูเสื่อผืนใหญ่แล้วจัดวาง อาหารทะเลนานาชนิดที่เพิ่งซื้อมาอย่างสดใหม่ ทั้งปลาเผา กุ้งเผา และหอยเผา ส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ พวกเขาเริ่ม ดื่มเบียร์ เหล้า และไวน์กันอย่างเอร็ดอร่อย เสียงหัวเราะและการ พูดคุยกันอย่างสนุกสนานดังไปทั่วบริเวณ
อารียาในวันนี้ดู เซ็กซี่กว่าปกติ เธอเปลี่ยนมาสวม ชุดเดรสสั้นผ้าฝ้ายสีขาวบางเบา เปิดไหล่เล็กน้อย ชุดที่เปียกน้ำทะเลได้ง่ายแต่ก็ขับผิวขาวผ่องของเธอให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เธอนั่งทานอาหารกับสามีอย่างมีความสุข พยายามไม่สนใจสายตาที่จ้องมองมาจากกลุ่มเพื่อนลูกๆ
เมื่อยามเย็นมาเยือน อาทิตย์เริ่มลับตา แสงสีส้มทองค่อยๆ เลือนหายไป ทิ้งไว้เพียงแสงสีม่วงครามที่ปกคลุมท้องฟ้า ทุกคนพากัน ลงมาเล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน ว่ายน้ำและลอยคอหยอกล้อกันอย่างครึกครื้น ทุกคนเริ่มเล่นโยนบอลเป็นวงอย่างสนุกสนาน
อารียาว่ายน้ำไม่เก่ง จึงขอตัว ออกมายืนห่างๆ วงโยนลูกบอล เธอปล่อยให้คลื่นซัดเบาๆ อยู่บริเวณน้ำตื้น สัมผัสความเย็นของน้ำทะเลที่โอบล้อมรอบตัว
จู่ๆ แป๊กก็ลอยคอมายืนข้างหลังอารียาอย่างเงียบเชียบ ใต้ผิวน้ำสีครามที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เขาแอบถอดกางเกงลงไปถึงหัวเข่าเรียบร้อยแล้ว แป๊กก้มหน้าลง กระซิบจากข้างหลังด้วยเสียงแหบพร่าเบาๆ
“คุณน้าครับ… คุณน้าสวยเซ็กซี่กว่าทุกคนในหาดนี้เลย”
อารียาหันไปมองแป๊กด้วยความตกใจ ใบหน้าของเธอแดงก่ำ ปฏิเสธอย่างเขินอาย “พูดอะไรน่ะหนูแป๊ก ไม่จริงหรอกจ้ะ”
“จริงสิครับ” แป๊กยังคงยืนยัน พอสบจังหวะที่ไม่มีใครมองมาทางพวกเขา แป๊กก็จับมืออารียาบีบเบาๆ อยู่ใต้ผิวน้ำ อารียาสะดุ้ง แต่ก็ไม่ได้ชักมือกลับ พอเห็นว่าอารียาไม่ว่าอะไรและไม่ชักมือกลับ แป๊กจึง ดึงมือน้อยๆ ของเธอมาบีบกำแท่งเอ็นลำโตที่ซ่อนตัวอยู่ในน้ำทะเล
“อุ๊ย!” อารียาตกใจจนเกือบจะหลุดเสียงร้องออกมา แต่เธอก็ คว้าหมับไม่ยอมปล่อยราวกับสัญชาตญาณบางอย่างเข้าครอบงำ เธอ เหลียวหลังมาเงยหน้าสบตาเพื่อนลูก ใบหน้าของแป๊กมีรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความปรารถนา อารียาเห็นว่าไม่มีใครสนใจ พวกเขากำลังสนุกกับการเล่นบอลกันอยู่
อารียาตัดสินใจที่จะกำจัดความลังเลทิ้งไป เธอเริ่ม กำรูดแท่งเอ็นของเขา ช้าๆ เบาๆ มือเรียวนุ่มลูบไล้ขึ้นลงอย่างแผ่วเบา สลับกับบีบคลึงส่วนหัวบานที่กำลังแข็งขืนเต็มที่ แท่งเอ็นลำโตที่เธอเคยเห็นเพียงเงาในกางเกง บัดนี้อยู่ในกำมือของเธออย่างสมบูรณ์
“อืมมม… คุณน้า… ดีครับ” แป๊กครางต่ำในลำคอ ซบหน้าลงกับไหล่ของอารียา ใบหน้าของเขาแดงก่ำไปด้วยความเสียวซ่าน อารียายิ้มเยาะให้กับความรู้สึกตื่นเต้นและผิดบาปที่แล่นปราดไปทั่วร่าง เธอเพิ่มความเร็วในการ กำรูดแท่งเอ็นให้ถี่กระชั้นขึ้นและหนักแน่นกว่าเดิม
“อ๊ะ! ซี๊ดดด! คุณน้าครับ!” แป๊กร้องเสียงกระเส่า ตัวสั่นอย่างรุนแรง เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว อารียารับรู้ได้ถึงความร้อนที่กำลังจะปะทุ กำรูดหนักๆ อีกครั้ง
น้ำรักอุ่นร้อนก็ แตกพุ่งออกมาในกำมือของอารียาอย่างรุนแรง ปนเปกับน้ำทะเลเย็นๆ อารียาไม่ปล่อยมือจนกระทั่งแป๊กคลายความเกร็งลง กำรูดแท่งเอ็นให้สะอาดเรียบร้อย ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยมือออก
แป๊กหอบหายใจแรงๆ ดวงตาของเขาฉายแววรักใคร่และชื่นชมมองมาที่อารียาอย่างไม่ปิดบัง อารียารีบถอยห่างจากเขาเล็กน้อย พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นใต้ผืนน้ำสีครามแห่งนี้