ตอนที่ 2
คู่หมั้นหมาย
หกเดือนที่แล้ว
อรดา วิวัฒน์โรจน์ เดินฉับๆเข้ามายังห้องอาหารด้านในของโรงแรมเจแมริออท โรงแรมหรูห้าดาวที่ทางกลุ่มอนันตกรกุลมีหุ้นส่วนด้วย พนักงานด้านในโค้งต้อนรับเป็นอย่างดีเมื่อร่างบางในชุดเดรสสีโอรสย่างกรายเข้าไปยังห้องพิเศษที่จัดเตรียมไว้อยู่ก่อนแล้ว
“หนูออยทางนี้ลูก เดี๋ยวสักพักเจ้าธามก็มาถึง”
ศจี ภรรยาของเจ้าสัวย้งซึ่งนั่งคู่กับ สุรีมาศ แม่ของเธอเอ่ยขึ้น ทันทีที่เธอไปถึงวันนี้เป็นการนัดทานข้าวมื้อเย็นกับครอบครัวของเจ้าสัวย้งอย่างไม่เป็นทางการมากนัก เพราะทางเจ้าสัวและเสี่ยวัฒน์บิดาของเธอไม่ได้มาด้วย มีแต่มารดาของเธอกับมารดาของ ธาม ผู้เป็นคู่หมั้นของเธอเท่านั้น
“ช่วงนี้เจ้าธามค่อนข้างยุ่ง ตั้งแต่งานหมั้นเดือนแล้วก็วุ่นตลอดเลยคะคุณมาศ นี่เพิ่งจะบินกลับจากอินเดีย เห็นว่างานจะเร่งให้จบโปรเจคนี้ให้เร็วที่สุด”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณศจี ยายออยเข้าใจอยู่แล้วละเพราะพอมีเวลาคุณธามก็แวะเวียนมาหาพาน้องไปทานข้าวเป็นประจำอยู่แล้ว ใช่มั้ยละออย?”
อรดา ได้แต่พยักหน้ารับ ความจริงหลังจากงานหมั้นเธอกับธามแทบจะเจอกันนับครั้งได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเลยแม้แต่น้อย เพราะที่คู่หมั้นหนุ่มก็คอยติดต่อสื่อสารหาเธออยู่เป็นประจำ การหมั้นที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับลูกชายคนรองของอันตกรกุลนั้น หญิงสาวได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีอย่างที่พ่อกับแม่ของเธอมุ่งหวังเอาไว้
“ขอโทษทีนะออย ผมเพิ่งประชุมเสร็จ”
เสียงนุ้มทุ้มต่ำดังขึ้น ก่อนที่มือหนาของ ธาม คู่หมั้นของเธอจะเลื่อนจับพนักเก้าอี้และย่อกายลงนั่งข้างๆ ใบหน้าขาวตี๋สะอาดมองเธอด้วยความอ่อนโยน
ไม่ว่าจะเจอกันกี่ครั้งธามก็ยังคงมองเธอด้วยแววตาแบบนั้นตลอดมา และมันทำให้อรดาอบอุ่นใจเสมอ
“ไม่เป็นไรค่ะ ความจริงออยก็เพิ่งมาถึง”
“วันนี้ออยสวยจังครับ”
ธามเอ่ยชม เมื่อพินิจร่างบางของคู่หมั้นในวันนี้ที่แม้จะแต่งเพียงเล็กน้อย ทว่าหญิงสาวนั้นก็ยังคงน่ามอง ทั้งเรือนผมยาวสลวยถึงกลางหลังรับกับกรอบหน้าสวยจัดสะดุดตา
“ขอบคุณค่ะ คุณธามก็ดูดี”
“อะไรกันออย จะแต่งกับผมอยู่แล้วยังเรียกเป็นทางการแบบห่างเหินอีก เรียกว่าพี่ธามดีกว่ามั้ย”
“นั่นนะซิลูก เรียกว่าพี่ธามดีกว่ายังไงหนูก็เป็นน้อง”
ศจี เอ่ยสมทบนั่นทำให้เธอพยักหน้าตอบรับ ความจริงธามกับเธอเกิดปีเดียวกัน แต่ห่างกันไม่กี่เดือน ที่ผ่านมาเขากับเธอเหมือนเพื่อนที่ดีต่อกันมาตลอด แม้การเรียกเขาว่าพี่อาจไม่คุ้นชินเท่าใดนัก ทว่าก็ไม่ยากเย็นอะไร
“ค่ะพี่ธาม”
มื้ออาหารเย็นของสองครอบครัวดำเนินไปอย่างชื่นมื่น แม้อรดาจะแทบไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใดเท่าใดนัก ส่วนใหญ่จะเป็นแม่เธอกับแม่ของคู่หมั้นมากกว่าที่คุยกับด้วยสารพัดเรื่องสัพเพเหระ ส่วนเธอกับธามนั้นได้แต่นั่งกินเงียบๆ ทว่าเขาก็ยังคงเทคแคร์เอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี
ต้องยอมรับว่าธามทำหน้าที่นี้ได้ดี แม้การหมั้นหมายสายฟ้าแลบนี้จะเกิดจากความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ทว่าเขาเองก็มีความพึงพอใจเธออยู่พอควร
“เรื่องฤกษ์แต่งน่าจะไม่เกินปลายปีนี้นะคะคุณมาศ ยังไงส่วนนี้ดิฉันจะจัดการเองค่ะอยากจะให้เร็วที่สุด”
“คุณศจีว่ายังไงก็ว่ายังงั้นเลยค่ะ”
การสนทนานั้นจะเน้นน้ำหนักเอนเอียงไปทาง ศจี มารดาของคู่หมั้น ที่เป็นคนจัดการทุกอย่างที่เธอและแม่แทบจะต้องไม่ทำอะไรเลย และเหมือนอีกฝ่ายต้องการให้งานแต่งของเธอกับธามเกิดขึ้นเร็วที่สุด
ก็ดีเหมือนกัน เธอเองจะได้ลืมเรื่องเก่าๆเสียที
เหมือนทุกอย่างจะไปได้ดี แต่มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“อะไรกัน นัดทานมื้อเย็นไม่เห็นจะมีใครชวนผมสักคน”
น้ำเสียงทุ้มกังวานนั้น ทำให้ทุกคนชะงักและหันไปมองแทบจะทันที ขณะที่ อรดา นั่งตัวชาวาบและรู้สึกเหมือนขนอ่อนในกายลุกชูชัน แม้ไม่เห็นไปมองเจ้าของเสียงเธอก็รู้ว่านั่นคือใคร
“อ้าวพี่ธีร์”
ธาม เอ่ยทักเป็นคนแรกอย่างแปลกใจด้วยไม่คิดว่าจะเจอพี่ชายต่างมารดาในตอนนี้
“คุณธีร์กลับมาจากมิลานตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”
ศจี เอ่ยถามอย่างนอบน้อม แม้ ธีร์ อนันตกรกุล จะอายุมากกว่า ธาม ลูกชายของเธอเพียงแค่ห้าปี ทว่าบารมีที่ส่งต่อโดยตรงจากเจ้าสัวย้งผู้เป็นสามี ก็ยังคงทำให้เธอยังคงเกรงขามชายหนุ่มรุ่นลูกที่เป็นลูกชายของเมียเอกเจ้าสัวอยู่เสมอ
เพราะอย่างไร ธีร์ ก็ยังคงเป็นบุตรชายคนโตของเมียที่จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย แม้วาสนาแม่ของเขาจะตายไปหลายปีแล้วก็ตาม แต่ ธีร์ ก็ยังเป็นลูกรักของตระกูล ที่จะรับช่วงต่อธุรกิจในหลายส่วนของอนันตกรกุล หลังจากเรียนจบ
“กลับมาเมื่อวานนี้ครับคุณศจี เห็นว่าน้องชายนัดทานข้าวกับครอบครัวคู่หมั้น ผมเลยอยากแวะมาร่วมทานด้วย เพราะตอนวันหมั้นผมอยู่ต่างประเทศไม่ได้มา”
แม้จะตอบศจี แต่ดวงตาคู่สีนิลเข้มของใบหน้าหล่อเหลานั้นกลับหรี่มองร่างระหงในชุดเดรสสีโอรสที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ข้างๆธาม และคล้ายจะมีความไหวระริกอยู่ในนั้นเพียงครู่ ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนเป็นปกติโดยที่ไม่มีใครสังเกตได้ ทว่าอรดาก็ได้แต่นิ่งเงียบไม่แม้แต่จะเงยมองด้วยซ้ำ
“แค่นัดทานข้าวเฉยๆนะคะคุณธีร์ พอดีหนูออยกับเจ้าธามก็งานยุ่งตลอด นานๆจะได้เจอกันที”
“ครับ”
ร่างหนาย่อกายนั่งลงตรงข้ามกับ อรดา ก่อนที่บริกรจะยกจานช้อนส้อมมาเพิ่ม ศจีและสุรีมาสได้แต่มองหน้ากัน ด้วยปกติแล้วทั้งสองไม่คลุกคลีกับ ธีร์ บุตรคนโตของเจ้าสัวย้งเท่าใดนัก เพราะที่ผ่านมาชายหนุ่มอยู่ต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่
และที่ผ่านมานั้นความสัมพันธ์ของ ธีร์ กับบรรดาเมียรองต่างๆของเจ้าสัวก็ไม่สู้ดีเท่าใดนัก การขอเข้าร่วมทานมื้อเย็นในครั้งนี้ ทุกคนจึงได้แต่มองหน้ากันและนิ่งเงียบ
“อะไรกันครับ ผมมาทำลายบรรยากาศรึเปล่า”
ธีร์ เอ่ยถามน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย ทว่ายังคงเปรยตามองหญิงสาวฝั่งตรงข้ามที่ทำราวกับเขาเป็นอากาศธาตุ
“ไม่เลยค่ะคุณธีร์ ยินดีมากเลยคะ”
ศจีเอ่ยเสียงอ่อน ด้วยต้องการให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติ ขณะที่อรดาพยายามที่จะสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ด้วยไม่คาดคิดว่าจะต้องมาเจอเขาที่นี่ในตอนนี้
..คนที่เธอไม่อยากจะเจอที่สุด
ทว่ามุมปากของ ธีร์ กลับยกโค้งขึ้น ก่อนจะเอ่ยถาม
“อะไรกันออย กินกุ้งเสียเยอะแบบนั้นเดี๋ยวก็ผื่นขึ้นเหมือนตอนนั้นหรอก”
****************