เฟิงหลี่เฉียงสบตากับอาจารย์ของเขา ที่ตอนนี้ดูทรุดโทรมเพราะอดหลับอดนอนมาหลายวัน เขารู้ว่าอาจารย์ต้องการให้มาช่วยหาว่าองค์ชายจูจ้านจีได้รับยาพิษจากแหล่งใด เขาจึงทูลกับพระชายาว่า “กระหม่อมขอจับชีพจรและตรวจร่างกายขององค์ชายพะยะค่ะ” ต้วนเจี่ยซินรีบจึงรีบทูลอธิบายเพิ่มว่า “บัณฑิตเฟิงเป็นหมอด้วยพะยะค่ะ” บัณฑิตเฟิงเดินเข้าไปใกล้เตียง เขาตรวจดูอาการขององค์ชายจูจ้านจี ทั้งการสังเกตสีหน้า เปลือกตา และจับชีพจร และตรวจดูร่องรอยตามร่างกาย ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ หลังจากนั้นก็ซักถามอาการจากคนใกล้ชิด เขารู้ว่าตนเองจะต้องใช้เวลาในการสืบหาข้อมูล ในวันนั้น เขาจึงขออนุญาตอยู่ในวังเพื่อสืบหาสาเหตุ เขากับต้วนเจี่ยซินและต้วนเหวินเจี่ย แยกย้ายกันออกไปหาสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายต่อองค์ชาย โดยเฉพาะอาหาร และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใด และยิ่งทำให้พระชายาสิ้นหวังมากขึ้น ที่จริงแล้วองค์รัชทายาทจ

