🩶 สถานะที่ไม่ต้องพูด แต่ทุกคนเข้าใจ

1587 คำ
🏁 มันเริ่มจากข่าวสั้น ๆ สั้นจนดูเหมือนไม่มีอะไร เช้าวันจันทร์ เว็บไซต์ข่าวธุรกิจสายสุขภาพลงบทสัมภาษณ์ใหม่ “นพ.เพทาย วาตานนท์ ทายาทตระกูลแพทย์ชื่อดัง กับมุมมองชีวิตที่มี ‘คนพิเศษ’ คอยอยู่ข้าง ๆ” ไม่มีคำว่า แฟน ไม่มีคำว่า คู่หมั้น แต่มีคำว่า คนพิเศษ ตัวใหญ่เด่นอยู่กลางพาดหัว เพทายนั่งอ่านบทความนั้นในห้องทำงาน สีหน้าเรียบ นิ่ง เหมือนทุกอย่างเป็นไปตามแผน เขาไม่ได้ให้สัมภาษณ์เกินกว่าที่ถาม แต่เขารู้ดีว่า นักข่าวจะเลือกเขียนยังไง ถ้าเขาวาง “ภาพ” ให้ถูกจังหวะ ในบทสัมภาษณ์ มีคำถามหนึ่งที่ถูกไฮไลต์ “ได้ข่าวว่าช่วงนี้คุณหมอมีแรงบันดาลใจพิเศษ เกี่ยวกับชีวิตนอกห้องผ่าตัด?” เพทายยิ้ม รอยยิ้มละมุนแบบที่กล้องรัก “ผมเชื่อว่าคนเราจะยืนอยู่ในจุดที่กดดันได้ ถ้ามีใครสักคนที่เข้าใจ และอยู่ข้างเราอย่างเงียบ ๆ ครับ” เงียบ แต่หนัก และแน่นอน บทความไม่ปล่อยให้มันจบแค่นั้น ☀️ บ่ายวันเดียวกัน เพจข่าวบันเทิงแชร์ภาพหนึ่ง ภาพที่ถ่ายในงานเลี้ยงโรงพยาบาล เพทายในชุดสูท ยืนอยู่ข้างเพลงพิณ มือเขาวางอยู่ด้านหลังเธอ ไม่แตะ ไม่กอด แต่ใกล้พอให้คนตีความ แคปชันเขียนไว้ว่า “ภาพที่หลายคนจับตา ระหว่างคุณหมอทายาทกับสาวสวยปริศนา หรือจะเป็น ‘ว่าที่เจ้าสาว’ ที่ยังไม่เปิดตัว?” คำถาม ที่คนอ่านตอบเองหมดแล้ว คอมเมนต์ไหลเป็นสายน้ำ “เหมาะสมกันมาก” “ดูเป็นผู้ดีทั้งคู่” “ถ้าใช่จริง ครอบครัวนี้คงปลื้ม” “นี่แหละ คู่หมั้นระดับตระกูล” ไม่มีใครถามว่า จริงไหม เพราะภาพมันตอบแทนแล้ว เพลงพิณเห็นข่าวนั้น ตอนกำลังนั่งอยู่ในห้องเรียน มือถือสั่นไม่หยุด แจ้งเตือนเด้งรัว เธอกดเข้าไปอ่าน หัวใจตกวูบ ชื่อเธอไม่ถูกเขียน แต่ภาพ…คือเธอชัดเจน “นี่มันอะไร…” เธอพึมพำกับตัวเอง มือเย็นเฉียบ เพื่อนหันมามอง “เฮ้ยพิณ นี่เธอปะ?” เพลงพิณไม่ตอบ ลุกขึ้นเก็บของ ออกจากห้องทันที ในเวลาเดียวกัน อีกฟากของเมือง ขุนเขากำลังประชุมงาน แต่สายตาหลุดไปที่หน้าจอมือถือที่สั่นอยู่ใต้โต๊ะ เขากดเปิด เพียงแค่เห็นภาพแรก เลือดในตัวก็เดือดวูบ “ว่าที่เจ้าสาว?” เขาหัวเราะออกมา สั้น เย็น โกรธแบบไม่ต้องเสียงดัง “มึงเล่นสกปรกขึ้นนะ เพทาย…” 🌙 เย็นวันนั้น เพทายโพสต์ภาพใหม่ใน IG ส่วนตัว ไม่ใช่ภาพคู่ ไม่ใช่ภาพหวาน เป็นภาพกาแฟสองแก้ว วางบนโต๊ะไม้เรียบ ๆ อีกแก้วหนึ่งมีลิปสติกแตะขอบเบา ๆ แคปชันเขียนสั้นมาก “บางอย่าง ไม่จำเป็นต้องอธิบาย” ยอดไลก์พุ่ง คอมเมนต์ระเบิด “เปิดตัวเงียบ ๆ ใช่ไหมหมอ” “เข้าใจแล้วค่ะ 😉” “รักษาความเป็นส่วนตัวน่ารักมาก” เพทายไม่ลบ ไม่ตอบ ไม่แก้ เขารู้ดีว่า การไม่ปฏิเสธ คือการยืนยันที่แรงที่สุด 🌙 ค่ำวันเดียวกัน เพทายโทรหาแม่ “ข่าววันนี้เป็นยังไงบ้างครับ” เขาถามเสียงเรียบ ปลายสายถอนหายใจเบา ๆ “คนเริ่มเข้าใจผิดกันเยอะแล้วนะ” “ผิดเหรอครับ” เพทายถามกลับ น้ำเสียงสุภาพ แต่ชัด เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนแม่จะพูด “ถ้ามันทำให้ภาพลักษณ์ครอบครัวดูมั่นคงขึ้น แม่ก็ไม่คิดจะแก้” เพทายยิ้ม รอยยิ้มที่ไม่ได้มีความสุข แต่พอใจ “ขอบคุณครับแม่” เขาวางสาย มองออกไปนอกหน้าต่าง ในโลกของธุรกิจ ภาพลักษณ์คือความจริง และในเกมนี้ เขากำลังชนะด้วยภาพ ไม่ใช่เอกสาร คืนนั้น เพลงพิณได้รับข้อความหนึ่ง จากเพทาย “ผมขอโทษถ้าคุณอึดอัด แต่ผมไม่แก้ข่าว เพราะผมไม่อยากทำให้คุณดูเหมือนถูกปฏิเสธ” เธออ่าน แล้วกำมือถือแน่น “คุณไม่เคยถามฉัน” เธอตอบกลับ ไม่นาน ข้อความใหม่ก็เด้งขึ้น “เพราะผมรู้ว่า ถ้าถาม คุณจะลังเล” ประโยคนั้น ไม่ใช่การขอโทษ แต่คือการ คำนวณ ในขณะที่โลกกำลังเชื่อ ว่าเพทายคือ ว่าที่คู่หมั้น ขุนเขานั่งอยู่ในรถ มองไฟถนนที่วิ่งผ่าน เขารู้ดีว่า ชื่อบนเอกสาร ยังเป็นของเขา แต่ในเกมของสื่อ ชื่อที่คนเชื่อ กำลังถูกแย่งไปทีละนิ้ว และครั้งนี้ เพทายไม่ได้แย่งด้วยแรง ไม่ได้แย่งด้วยอำนาจ เขาแย่งด้วย “การปล่อยให้โลกเข้าใจผิด” ซึ่งเป็นวิธีที่โหด และลบล้างยากที่สุด 🩶 คำตอบที่เธอไม่เคยเลือก ไฟแฟลชสว่างวาบขึ้นพร้อมกัน เสียงชัตเตอร์ดังถี่รัวเหมือนฝน เพลงพิณยืนอยู่หน้าฉากแบ็กดรอปโลโก้โรงพยาบาล มือเย็น หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ชัด เธอไม่ได้ตั้งใจมาให้สัมภาษณ์ เธอแค่มาร่วมงานในฐานะแขกรับเชิญฝ่ายสื่อ แต่ทันทีที่ก้าวออกมาจากโถงด้านใน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป “คุณเพลงพิณคะ!” เสียงนักข่าวเรียกพร้อมกัน ไมโครโฟนหลายอันถูกยื่นเข้ามาใกล้เกินระยะปลอดภัย เพทายยืนอยู่ข้างเธอ สูทเนี้ยบ ท่าทางนิ่ง มือวางไว้ด้านหลังเธอในระยะที่กล้องจับภาพได้ชัด แต่ไม่แตะต้อง ภาพนั้น ทำให้ทุกคำถามมีทิศทางเดียวกัน “วันนี้มาพร้อมคุณหมอเพทาย ในฐานะอะไรคะ?” คำถามแรก เหมือนโยนก้อนหินลงกลางน้ำ เพลงพิณชะงัก ลมหายใจติดขัด เธอเหลือบมองเพทายเพียงเสี้ยววินาที เขาไม่พูด ไม่ขัด ไม่ช่วย แค่ยืนอยู่ตรงนั้น นิ่ง เหมือนบอกว่า เลือกเอง “ฉัน…” เสียงเธอเบากว่าที่คิด “…มาร่วมงานในฐานะแขกค่ะ” นักข่าวยิ้ม เหมือนรออยู่แล้ว “แต่ข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองคน กำลังเป็นที่สนใจมากเลยนะคะ” ไมโครโฟนขยับเข้ามาใกล้อีกนิด “หลายคนเข้าใจว่า คุณคือคู่หมั้นของคุณหมอเพทาย เรื่องนี้จริงไหมคะ?” คำว่า คู่หมั้น ดังชัด แรง เหมือนถูกผลักใส่หน้า เพลงพิณรู้สึกเหมือนพื้นใต้เท้าหายไป เธอไม่ได้เตรียมคำตอบ ไม่ได้เตรียมใจ และไม่ได้คิดว่าโลกจะเร็วขนาดนี้ เธอสูดลมหายใจลึก พยายามตั้งสติ “เรื่องนี้…” เธอเริ่ม แต่ยังไม่ทันพูดต่อ เพทายก็เอียงตัวเข้ามานิดหนึ่ง เสียงเขาดังขึ้นพอดีกับจังหวะที่กล้องกำลังจับ “ผมขอพูดแทนนะครับ” สุภาพ นุ่ม เหมือนช่วย แต่จริง ๆ คือปิดทาง นักข่าวหันไปหาเขาทันที “คุณเพลงพิณเป็นคนสำคัญในชีวิตผมครับ” เพทายพูด น้ำเสียงจริงใจ สายตานิ่ง “และผมอยากให้เธอได้รับการเคารพ ไม่ใช่ถูกกดดันด้วยคำถาม” คำตอบนั้น ไม่ยืนยัน แต่ก็ไม่ปฏิเสธ และมันอันตรายกว่าคำว่า ใช่ เสียอีก “งั้นแปลว่า…ข่าวลือไม่ผิดใช่ไหมคะ?” นักข่าวถามซ้ำ ไม่ยอมปล่อย สายตาทุกคู่หันกลับมาที่เพลงพิณอีกครั้ง คราวนี้ ไม่มีใครช่วยเธอได้ เธอรู้ดีว่า ถ้าปฏิเสธตรง ๆ เธอจะทำให้เพทายดูเหมือนถูกปฏิเสธต่อหน้าสื่อ และเรื่องจะบานปลาย แต่ถ้าเธอไม่พูด โลกก็จะเขียนคำตอบแทนเธอเหมือนเดิม เพลงพิณกำมือแน่น เล็บจิกฝ่ามือ แต่สีหน้ายังนิ่ง “ฉันขอพูดในส่วนของตัวเองนะคะ” เธอพูด เสียงไม่ดัง แต่ชัด ไมโครโฟนทั้งหมดหันมาทางเธอ “ฉันไม่ได้มีสถานะอะไรกับใครทั้งนั้น ที่เกินกว่าความสัมพันธ์ส่วนตัว” ประโยคนั้น เหมือนลมหายใจเฮือกใหญ่ นักข่าวขมวดคิ้ว “แต่คุณหมอเพทาย—” “คุณหมอเพทายเป็นคนดีค่ะ” เพลงพิณพูดต่อ ตัดบท “และฉันเคารพเขา แต่ข่าวลือที่กำลังพูดถึง เป็นการตีความของสื่อ ไม่ใช่คำพูดของฉัน” ความเงียบตกลงชั่ววินาที เพทายยืนนิ่ง รอยยิ้มยังอยู่ แต่สายตาเปลี่ยนไปนิดหนึ่ง น้อยมาก แต่เพลงพิณเห็น “งั้นแปลว่า ยังไม่ใช่คู่หมั้นกันใช่ไหมคะ?” นักข่าวถามตรง เพลงพิณเงยหน้า สบกล้อง สบไมโครโฟน สบสายตาคนทั้งงาน “ฉันไม่เคยใช้คำนั้นค่ะ” เธอตอบ ช้า ชัด “และวันนี้ก็ยังไม่ใช้” คำตอบนั้น ไม่แรง แต่ชัดพอจะสั่นทั้งงาน แฟลชดังรัวขึ้นอีกครั้ง เพทายเอ่ยเสียงเรียบ ยังสุภาพ “ขอบคุณครับ” เขาพูดกับนักข่าว “ผมคิดว่าเราควรให้พื้นที่เธอมากกว่านี้” เขาวางมือแตะหลังเธอเบา ๆ เหมือนพาเธอเดินออกจากวงล้อม ภาพนั้น ถูกจับไว้ทันที ในกล้อง มันยังดูเหมือน ผู้ชายที่ปกป้องผู้หญิงของตัวเอง ทั้งที่ความจริง เพลงพิณรู้ดีว่า เธอเพิ่งพูดในสิ่งที่ ขัดแผนของเขาไปแล้วหนึ่งก้าว เมื่อเดินพ้นสายตาสื่อ เพทายก้มลงพูดข้างหูเธอเบา ๆ “คุณทำได้ดีมาก” น้ำเสียงนุ่ม แต่เย็น “แต่ครั้งหน้า…” เขาเว้นจังหวะ “…ขอให้เราคุยกันก่อน” เพลงพิณหยุดเดิน หันไปมองเขาตรง ๆ “ไม่มีครั้งหน้าที่ฉันจะถูกพูดแทนอีกแล้วค่ะ” เพทายนิ่ง ก่อนจะยิ้มบาง “งั้นเกมนี้ คงเริ่มจริง ๆ แล้วสินะครับ” เพลงพิณไม่ตอบ แต่หัวใจเธอรู้ดี ตั้งแต่วินาทีที่เธอพูดต่อหน้าสื่อ เธอไม่ได้เป็นแค่คนที่ถูกแย่งอีกต่อไป เธอกำลังจะกลายเป็น คนที่ทำให้เกมของสองพี่น้อง แตกออกเป็นสองทาง และไฟที่เพทายจุดขึ้น กำลังจะย้อนกลับมาเผาทุกคน รวมถึงตัวเขาเอง ⸻
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม