🃏 ระหว่าง “คนที่ดูแล” กับ “คนที่กวนหัวใจ”

1602 คำ
🎭 ใต้แสงเวที…ไฟที่ไม่ได้มาจากสปอตไลต์ ✨ เสียงซ้อมบทดังสะท้อนอยู่ในโรงละครของคณะนิเทศ ไฟเวทีเปิดสลัว ๆ กลิ่นฝุ่นผสมกลิ่นผ้าม่านเก่า บรรยากาศที่เพลงพิณคุ้นเคยตั้งแต่ปีหนึ่ง เธอยืนอยู่กลางเวที ชุดซ้อมเรียบ ๆ แต่แววตาจริงจัง มือกำบทแน่น “จากตรงนี้นะพิณ” เสียงทุ้มอบอุ่นดังขึ้นข้างเธอ เตชินยืนถือบทอยู่ไม่ไกล ท่าทางสุภาพเหมือนทุกครั้ง 🙂 “จังหวะที่เธอพูดประโยคนั้น” เขาอธิบาย “เธอลองมองฉันนานขึ้นนิดหนึ่ง เหมือนลังเล แต่ยังเลือกเชื่อ” 🎬 เพลงพิณพยักหน้า “โอเค ลองใหม่” ทั้งคู่ขยับตำแหน่ง ไฟเวทีหรี่ลง เหลือเพียงสปอตไลต์ดวงเดียว 🎭 เสียงดนตรีอินโทรเบา ๆ ดังขึ้น “ถ้าความรักมันเจ็บขนาดนี้” เพลงพิณพูดตามบท เสียงสั่นพอดี ไม่มากไม่น้อย “เรายังควรเชื่อมันอยู่ไหม” เตชินมองเธอ สายตาที่ซ้อมมาแล้วหลายสิบครั้ง แต่ทุกครั้งก็ยังจริง “ถ้าเธอกลัว” เขาพูด “ฉันจะยืนอยู่ตรงนี้ จนกว่าเธอจะกล้าก้าวต่อ” เพลงพิณเงยหน้าขึ้น สบตาเขา หัวใจเต้นแรงตามบท จนแยกไม่ออกว่าอันไหนคือการแสดง อันไหนคือความรู้สึกจริง 💭💔 และในจังหวะนั้นเอง— “โอ้โห…ซึ้งฉิบหาย” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากแถวที่นั่งด้านล่าง เสียงปรบมือช้า ๆ ประชดแบบไม่ปิด 👏 เพลงพิณชะงัก เตชินหันไปมองทันที ขุนเขานั่งพิงพนักเก้าอี้ เสื้อช็อปพาดบ่า ขาไขว้ สายตาคมกริบ จ้องขึ้นมาบนเวทีแบบไม่เกรงใจใคร “คณะนิเทศนี่เก่งจริง” เขาพูดเสียงดัง “เล่นซ้อม แต่ทำเหมือนจริงจนคนดูจะอินตาม” เพลงพิณถอนหายใจ “ขุนเขา นี่เวลาซ้อม” “รู้” เขายักไหล่ “ก็เลยมาดูไง เผื่อจะได้เรียนรู้บ้าง” “ว่าทำยังไงถึงมองผู้ชายคนอื่นด้วยสายตาแบบนั้น” 😏 เตชินขมวดคิ้ว ก้าวขึ้นมาข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว “พี่ครับ” เขาพูดสุภาพ แต่หนักแน่น “นี่คือการซ้อมละคร” “ถ้าจะดู รบกวนให้เกียรตินิดหนึ่ง” ขุนเขาหัวเราะในลำคอ ลุกขึ้นยืน ก้าวขึ้นบันไดเวทีช้า ๆ “เดี๋ยวนี้พระเอกเขาพูดแทนนางเอกแล้วเหรอ” เขามองเตชินจากหัวจรดเท้า “หรือว่านี่มันเกินบทไปนานแล้ว” เพลงพิณก้าวมาขวาง “หยุดเถอะ” ขุนเขาหันมามองเธอ สายตาเย็น แต่แฝงไฟ 🔥 “ฉันพูดอะไรผิด?” เขาถาม “ก็เห็นซ้อมกันอินขนาดนี้” “ใครเห็นก็ต้องคิดว่าไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมเอก” คำพูดนั้น เหมือนเหยียบเส้นบาง ๆ ที่เธอพยายามรักษาไว้ ⚠️ “มันไม่ใช่เรื่องของนาย” เพลงพิณตอบ เสียงนิ่ง แต่แข็ง ขุนเขายิ้ม ยิ้มแบบที่ไม่เคยทำให้ใครสบายใจ 😏 “ทำไมจะไม่ใช่” เขาก้าวเข้ามาใกล้ ใกล้จนเตชินต้องขยับมายืนข้างเธอ “เวลาผู้ชายเข้ามาใกล้เธอ” ขุนเขาพูด สายตาไม่ละจากเตชิน “ฉันต้องรู้ไว้ ว่าเขาเข้ามาในฐานะอะไร” เตชินสูดลมหายใจ “ผมเข้ามาในฐานะเพื่อน” “และนักแสดงที่รับผิดชอบงานเดียวกับพิณ” ขุนเขาหัวเราะเบา ๆ “เพื่อน?” “เพื่อนที่มองแบบนั้นเนี่ยนะ” บรรยากาศในโรงละครตึงขึ้นทันที 🎭 รุ่นน้องที่อยู่ด้านหลังเริ่มชะงัก ไม่มีใครกล้าแทรก เพลงพิณรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบ โกรธ อาย และสับสน 💔 “ขุนเขา” เธอพูดชัด “นายไม่มีสิทธิ์พูดกับเพื่อนฉันแบบนี้” คำว่า เพื่อนฉัน ทำให้ขุนเขานิ่งไปเสี้ยววินาที แต่แทนที่จะถอย เขากลับหัวเราะ “โอเค” เขาพูด “งั้นฉันจะไม่ยุ่งกับ ‘เพื่อน’ ของเธอ” เขาหันไปมองเตชิน สายตาคมจัด 🔥 “แต่ถ้าวันไหนมันเกินกว่านั้น” “อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” เตชินไม่ถอย สบตาเขาตรง ๆ “ผมไม่กลัวคำเตือน” เขาพูด “ถ้าสิ่งที่ผมทำ คือช่วยดูแลคนที่ผมแคร์” ประโยคนั้น เหมือนน้ำมันราดกองไฟ ขุนเขาก้าวเข้ามาอีก เพลงพิณรีบยกมือดันอกเขาไว้ “พอ!” เสียงเธอสั่น แต่เด็ดขาด “นี่เวทีของฉัน ไม่ใช่ที่ให้นายมาหึงหวงไร้เหตุผล” ขุนเขาหยุด มองมือเธอที่แตะอกเขา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นช้า ๆ “ไร้เหตุผล?” เขาถาม เสียงต่ำ “ถ้าไม่มีเหตุผล ทำไมฉันถึงยืนตรงนี้ไม่ได้” เพลงพิณเม้มปาก หัวใจเต้นแรง ทั้งโกรธทั้งหวั่น “ถ้านายอยู่ไม่ไหว” เธอพูด “ก็ออกไป” ความเงียบปกคลุมทั้งโรงละคร 🎭 ขุนเขามองหน้าเธออยู่นาน ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ถอยหลังหนึ่งก้าว “ได้” เขาพูด “ฉันจะออกไป” แต่ก่อนจะเดินลงเวที เขาหันกลับมา มองเตชินอีกครั้ง “ดูแลเธอให้ดีละกัน” เสียงเขาเย็นเฉียบ “เพราะฉันไม่รับประกัน ว่าฉันจะใจดีแบบนี้ตลอดไป” เขาเดินจากไป ทิ้งไว้แค่ความเงียบ และหัวใจที่ยังเต้นไม่เป็นจังหวะ เตชินหันมามองเพลงพิณ เสียงเบา “เธอโอเคไหม” เพลงพิณพยักหน้า แม้ในอกจะยังสั่น “ขอบใจนะ” เธอพูด “ที่ไม่ปล่อยให้ฉันรับเรื่องนี้คนเดียว” เตชินยิ้ม รอยยิ้มอบอุ่นแบบเดิม แบบที่เขาเก็บไว้ให้เธอมาตั้งแต่ปีสอง 🤍 “ฉันอยู่ตรงนี้เสมอ” เขาพูด “ไม่ว่าบนเวที…หรือข้างล่าง” เพลงพิณหลบตา หัวใจเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง ใต้แสงเวที การแสดงยังต้องดำเนินต่อ ✨ แต่เธอรู้ดีว่า นอกบท เกมของหัวใจ กำลังเริ่มซับซ้อนขึ้นทุกวินาที และขุนเขา… จะไม่ยอมปล่อยให้เธอเล่นบทนี้ โดยไม่มีเขาอยู่ในฉากแน่นอน 🤭😏 ⸻ 💔 ระหว่างความสบายใจ…กับความรัก 🌙 คืนนั้น เพลงพิณกลับถึงห้องช้ากว่าปกติ ไฟในห้องเปิดไว้แค่ดวงเดียว เธอวางกระเป๋าลงข้างโซฟา ถอดรองเท้า แล้วทิ้งตัวนั่งลงอย่างหมดแรง ร่างกายเหนื่อย แต่หัวใจกลับไม่ยอมเงียบ ภาพบนเวทีวันนี้ยังวนอยู่ในหัว แววตาของเตชินตอนซ้อม น้ำเสียงสุภาพที่ไม่เคยเร่ง ไม่เคยกดดัน และการยืนอยู่ข้างเธอแบบไม่ถามว่า ควรไหม มันคือความสบายใจ แบบที่เธอไม่ต้องระวังคำพูด ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้ใครไม่พอใจ ไม่ต้องเดาอารมณ์ เธอเอนหลังพิงโซฟา หลับตาลง ปล่อยให้ความเงียบครอบงำ แต่ยังไม่ทันได้พักจริง ๆ อีกภาพหนึ่งก็แทรกเข้ามา ขุนเขา สายตาคมจัด คำพูดประชด ท่าทีเหมือนไม่สน แต่กลับโผล่มาในทุกช่วงสำคัญของชีวิตเธอ เขาทำให้เธอรำคาญ ทำให้โกรธ ทำให้เจ็บ แต่ก็ทำให้หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่เข้าใกล้ และนั่นแหละ ที่ทำให้เธอสับสน เพลงพิณลุกขึ้น เดินไปหยุดหน้ากระจก เธอมองตัวเองในเงาสะท้อน สีหน้าเรียบ แต่ดวงตากลับล้า “ตกลงฉันต้องการอะไรกันแน่…” เธอถามตัวเองเบา ๆ เหมือนกลัวคำตอบจะดังเกินไป ความสบายใจ มันเหมือนการได้หายใจเต็มปอด ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องป้องกัน ไม่ต้องเจ็บ แต่ความรัก… มันควรเป็นแบบนั้นหรือเปล่า หรือว่าความรัก คือการที่หัวใจเต้นแรง ทั้งที่รู้ว่ามันอาจพาไปเจ็บอีก โทรศัพท์บนโต๊ะสั่นเบา ๆ ชื่อที่ขึ้นหน้าจอ ไม่ใช่คนที่เธอกำลังคิดถึงที่สุด แต่เป็นคนที่อยู่ใกล้ที่สุดในช่วงนี้ กลับถึงห้องแล้วใช่ไหม วันนี้เหนื่อยมาก อย่าลืมพักนะ ข้อความจากเพทาย สั้น สุภาพ ไม่ล้ำเส้น เพลงพิณอ่านแล้วรู้สึกอุ่น อุ่นแบบปลอดภัย แบบที่ไม่ต้องตั้งกำแพง เธอพิมพ์ตอบกลับไป ถึงแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ เพียงไม่กี่วินาที ข้อความใหม่ก็เข้ามา ฝันดีครับ ถ้ามีอะไร โทรหาได้เสมอ เธอวางโทรศัพท์ลง ยิ้มบาง ๆ โดยไม่รู้ตัว นี่แหละ…ความสบายใจ แต่ทันทีที่ความคิดนั้นผ่านเข้ามา อีกชื่อหนึ่งก็โผล่ขึ้นในหัว โดยที่เธอไม่ได้เรียกหา ขุนเขา เขาจะไม่ส่งข้อความแบบนี้ ไม่ถามว่าเธอถึงห้องหรือยัง ไม่บอกให้พัก ไม่พูดคำว่าฝันดี แต่เขาจะโผล่มา ในจังหวะที่เธอไม่พร้อม ทำให้ใจสั่น ทำให้โกรธ ทำให้รู้สึกเหมือนเสียการควบคุม เพลงพิณกัดริมฝีปาก รู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองกำลังถูกดึงไปคนละทิศ “หรือฉันแค่ชินกับความวุ่นวาย…” “…เลยคิดว่ามันคือความรัก” เธอไม่แน่ใจ เธอเคยคิดว่าความรักต้องเจ็บ ต้องลุ้น ต้องไม่แน่นอน เหมือนการยืนอยู่บนขอบเหว แต่ถ้าอย่างนั้น ทำไมความสบายใจถึงทำให้เธอรู้สึกผิด เหมือนกำลังทรยศบางอย่างในตัวเอง เธอเดินไปนั่งบนเตียง ดึงหมอนมากอด หลับตาแน่น หัวใจเธอไม่ได้เลือกข้าง แต่มันกำลังถามคำถามที่เธอยังไม่กล้าตอบ ถ้าความรัก ทำให้เธอเหนื่อย ทำให้ต้องคอยระวัง ทำให้ต้องเจ็บซ้ำ ๆ แล้วทำไมเธอถึงยังไม่ยอมปล่อย หรือจริง ๆ แล้ว สิ่งที่เธอกลัวที่สุด ไม่ใช่การเสียขุนเขาไป แต่คือการยอมรับว่า สิ่งที่เธอเคยคิดว่าเป็น ความรัก อาจไม่ใช่เลยตั้งแต่แรก เพลงพิณลืมตาขึ้น มองเพดานห้องนิ่ง ๆ คืนนี้ เธอยังไม่มีคำตอบ รู้แค่ว่า หัวใจของเธอ กำลังยืนอยู่ตรงกลาง ระหว่าง “ความสบายใจ” กับ “ความรัก” และไม่ว่าจะเลือกทางไหน มันก็จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล 🌟🔥
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม