๑๕
รถยนต์คันหรูแล่นมาจอด ณ บริเวณลานจอดรถชั้นบนของตึกสูงระฟ้า ซึ่งส่วนหน้าคือห้องชุดสุดแพงลิบลิ่ว ชายหนุ่มเดินไปดึงประตูด้านอิ่มอรุณออกแล้วสบตาคนที่นั่งนิ่งไม่ยอมลงด้วยแววตาคมดุ
“จะลงมาเองหรือจะให้ฉันอุ้ม” คำพูดของเขาทำให้คนฟังเชิดหน้าขึ้น หางตาเหลือบมองเขาแวบหนึ่งก่อนตวัดกลับไปมองข้างหน้าอีกครั้งราวกับท้าทาย ศิลาหรี่ตามอง “เธอน่าจะรู้นะ ว่าฉันพูดจริงทำจริง และถ้าเธอยังไม่ลงมาเอง ฉันจะอุ้มไปจนถึงห้อง”
พูดจบชายหนุ่มก็ทำท่าจะอุ้มหล่อนลงจากรถจริงๆ หญิงสาวเบิกตากว้าง เพราะพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนใจเย็นนัก หลังจากที่อยู่ด้วยกันมาหนึ่งอาทิตย์เต็ม!
“ลงแล้ว! ถอยไปสิ!” อิ่มอรุณแหวเบาๆ ขณะเบียดคนตัวโตที่ยืนขวางลงมาจากรถ ชายหนุ่มปิดดังปึงก่อนจะฉวยข้อมือเล็กของหญิงสาวให้เดินตามเขาไป ทว่าอิ่มอรุณกลับขืนตัวและบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมนั้นด้วยความไม่พอใจนัก
“นี่คุณ! ปล่อยฉัน ฉันเดินเองได้”
“ฉันพอใจจะจับเธอแบบนี้มีอะไรไหม และถ้าเธอไม่หยุดดิ้นล่ะก็นะ ฉันจะจูบโชว์คนแถวนี้เดี๋ยวนี้ล่ะ!!”
ไม่พูดเปล่าหากแต่เขาทำท่ารวบร่างของหล่อนเข้าไปจูบจริงตามที่พูด ทำให้หญิงสาวร้องเสียงหลง คนที่กำจะเดินผ่านไปต่างมองตามตาไม่กะพริบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความรูปหล่อและภูมิฐานของศิลา บางคนก็ถึงกับหันไปกระซิบกับเพื่อนด้วยคลับคล้ายคลับคลาบุรุษเรือนร่างสง่างามตรงหน้านัก และอีกส่วนที่มองก็เพราะความน่ารักจิ้มลิ้มของอิ่มอรุณ ซึ่งต่างตีความกันว่าทั้งคู่คงจะเป็นคนรักหรือไม่ก็สามีภรรยาที่กำลังแง่งอนกันตามปกติ
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มเมื่อการกระทำของเขาทำให้อิ่มอรุณหยุดนิ่งได้
“ทีนี้จะเดินไปดีๆ ได้หรือยัง” ชายหนุ่มถามเมื่อผู้ร่วมชั้นเดินผ่านไปเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวเม้มปากแน่นอยากจะกรีดร้องให้ดังสะท้อนไปจนถึงไหนๆ ทว่านั่นก็ไม่ใช่วิสัยของหล่อนสักนิด และหากหล่อนคิดจะทำจริงๆ ก็เชื่อว่าอีกฝ่ายต้องมีมาตรการเด็ดขาดมาจัดการกับหล่อนได้อยู่ดี
หญิงสาวมองเขาด้วยสายตาราวจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะสะบัดหน้าไปอีกทาง ทำให้อีกฝ่ายหยักยิ้มและเดินนำไปโดยที่มือยังอยู่ในมือของเขาเช่นเดิม
อิ่มอรุณกวาดตามองห้องชุดกว้างขวางอย่างที่เคยเห็นในนิตยสารชั้นนำทั่วไป หล่อนรู้ว่าที่นี่คือสวรรค์ของมหาเศรษฐีเช่นเขา หากแต่เปรียบเสมือนนรกสำหรับหล่อน ต่อให้สวยหรูแค่ไหน สูงค่าปานใด ก็คงจะไม่สามารถทำให้คนที่ไม่มีแก่ใจปรารถนาจะอยู่นั้นมีความสุขขึ้นมาได้เลย
ขณะที่อิ่มอรุณเดินไปรอบๆ ก่อนไปหยุดลงตรงกระจกที่กรุจากเพดานจรดพื้น และจะงดงามมากยิ่งขึ้นเมื่อมองออกไปยังวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนแห่งเมืองหลวงจนสุดลูกหูลูกตานั้น ศิลามิได้ละสายตาไปจากร่างเล็กแต่กลมกลึงที่มีทุกอย่างเหลือเฟือสำหรับเขาเลยสักวินาที
“ชอบไหม...” เขาถาม ขณะที่เดินมาซ้อนหลังหล่อนแล้วโอบรัดไปรอบเอวกิ่วอย่างถือสิทธิ์ ดวงตากลมโตหลุบลงจากวิวทิวทัศน์ตรงหน้ามองมือหนาทั้งสองข้างที่กระชับกันอยู่ที่หน้าท้องแบนราบของหล่อนด้วยความรู้สึกประหลาดขึ้นมาวูบหนึ่ง มันไม่ใช่ความรู้สึกรังเกียจ หรือขยะแขยงอย่างที่หล่อนเคยคิดว่าจะต้องเกิดขึ้นกับผู้ชายคนอื่นแน่นอนหากไม่ใช่ภควัติ เหตุผลเพราะภควัติไม่เคยได้ใกล้ชิดหล่อนมากกว่าการโอบไหล่และแอบหอมแก้มบ้างในบางครั้ง ทว่ากับคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง เขาคงอยู่นอกเหนือไปจากผู้ชายคนอื่นๆ เขาทำให้หล่อนหนาวเหน็บก่อนจะร้อนได้ในเวลาเดียวกัน และบางครั้ง เขาก็ทำให้หล่อนอยากจะซุกหน้าเข้าหาอกกว้างพอๆ กับที่อยากผลักไสเขาให้ไกลออกไปสุดสายตา
ยิ่งคิด... อิ่มอรุณยิ่งสับสน ยิ่งนานไปภาพของคนที่เคยอยู่ในใจเช่นภควัติกลับเลือนราง ริมฝีปากบางอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจในความรู้สึกนึกคิดของตนนัก หล่อนควรโกรธควรเกลียดเขาสิถึงจะถูก ไมใช่มาพร่ำเพ้อละเมอถึงบางสิ่งบางอย่างที่เคยได้รับจากเขาเช่นนี้มือเรียวที่แนบข้างลำตัวยกขึ้นวางทาบบนหลังมือของศิลาแผ่วเบา เผลอไผล เมื่อคิดถึงความรู้สึกขึ้นๆ ลงๆ ที่หล่อนมีต่อเขาตลอดเวลาที่ผ่านมาจริงอยู่หล่อนโกรธเขา แต่ก็ชั่วเพียงประเดี๋ยวประด๋าวก็จางหาย ก็ใช่อีกหล่อนเกลียดการกระทำของเขา แต่กลับโหยหาสัมผัสเร่าร้อนทุกครั้งยามต้องห่างกัน แล้วแบบนี้ มันหมายความว่าอย่างไรกันนะ...
ดวงตาสีเข้มภายใต้แพขนตายาวจนผู้หญิงยังอายของศิลาหลุบลงมองคนตัวเล็กในอ้อมแขน มีบางอย่างเกิดขึ้นกับหญิงสาวตัวเล็กที่เขากอดเอาไว้ สมองน้อยๆ ของหล่อนกำลังคิดอะไรอีกแล้ว แต่คราวนี้ดูจะดีกว่าคราวที่แล้ว เพราะปฏิกิริยาตอบโต้แผ่วๆ คล้ายกับการยอมรับสัมผัสแตะต้องจากเขากรายๆ ชายหนุ่มก้มลงจุมพิตกลุ่มผมนุ่มราวใยไหมหอมกรุ่นแผ่วเบา เมื่อกระชับอ้อมแขนแน่นหนาขึ้น และเมื่อไม่มีทีท่าตอบโต้จากหล่อน เขาก็ยิ่งได้ใจซุกไซ้จมูกปากลงไปยังซอกคอจนคนถูกกระทำขนลุกไปทั่วผิวกาย ร่างบางถูกหมุนกลับมาหาเขาในที่สุด พร้อมกับริมฝีปากสองคู่ที่พบกัน ชายหนุ่มดูดดื่มความหวานล้ำจากเรียวปากหวานฉ่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจะตวัดร่างบางขึ้นไว้ในวงแขนแข็งแกร่ง แล้วพาไปยังห้องนอนด้านหลังแพนทรีสีขรึม...
ร่างสูงค่อยๆ บรรจงวางร่างบางบนเตียงกว้างอย่างทะนุถนอม เขาไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เช่นไร แต่มันก็เกิดขึ้นทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับอิ่มอรุณ อาจเป็นเพราะหล่อนตัวเล็กและบอบบางเหลือเกินในสายตาของเขา ดวงตาคมกริบกวาดมองดวงหน้าเรียวเล็กที่ล้อมรอบด้วยกรอบผมสีดำเงางาม ส่งให้ใบหน้าหวานยิ่งหวานจนตาพร่า
ที่นี่ ห้องชุดห้องนี้ และเตียงนี้ ไม่เคยมีใครย่างกายเข้ามาได้นอกจากเขา แต่หล่อนคือผู้หญิงคนแรกที่พาเข้ามา ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจึงพาผู้หญิงที่เขาไม่เคยคิดจะแต่งงานเข้ามายังสถานที่ที่เป็นส่วนตัวมากที่สุดได้ และเป็นสถานที่ที่เขาหวงแสนหวงมากที่สุดเช่นเดียวกับที่บ้านสวนทรงไทยหลังนั้น ที่นั่นเป็นที่ที่มารดาใช้ชีวิตยามบั้นปลาย และหล่อนก็เป็นผู้หญิงคนแรกอีกเช่นกันที่ได้ไปอยู่ ไปกินและก็นอน...
เปลือกตาบางปิดลงเมื่อริมฝีปากได้รูปบดประทับเรียวปากนุ่มหวาน เขาเลาะเล็มดูดไล้อย่างละเมียดละไมนุ่มนวล ขณะที่ปากจมูกทำงานมือหนาก็ไม่ได้เว้นว่างหรือวางไว้เฉยๆ มันไต่ขึ้นมาบนอกอวบแล้วนวดคลึง หนัก... สลับเบา จนหญิงสาวเผลอปลดปล่อยเสียงครางแผ่ว และไม่นานนักเสื้อตัวนั้นก็ค่อยๆ หลุดออกจากกายสาว ผิวเนื้อขาวราวนมสดปรากฏต่อสายตาคมกริบดั่งตาเหยี่ยวอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นอกเอวสะโพกผาย ทุกอย่างล้วนต้องตาจับใจเขาไปในทุกที่ หล่อนคือนางแม่มดที่แสนจะเร่าร้อนและร้ายกาจในความคิดของเขา
ทว่า... เขากลับหลงรักความเร่าร้อนที่ร้ายกาจนี้ของหล่อนจับใจ เขาหลงใหลเนื้อนุ่มหอมตึงตรงหน้า เขาหลงระเริงไปกับเนินถันอวบอิ่มกลมกลึง เอวคอดกิ่ว สะโพกตึงแน่น เรียวขายาวสลักเสลา และเขาจะชอบที่สุดก็ต่อเมื่อมันโอบรัดอยู่กับเอวสอบแข็งแกร่งซึ่งเต็มไปด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล!
“อิ่มอรุณ... เธอคือแม่มดร้ายกาจ” เสียงทุ้มงึมงำคลุกเคล้าอยู่กับความอิ่มตึงของยวงเนื้อจนฟังไม่ถนัด หากแต่เวลานี้หล่อนไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว นอกจากสิ่งที่กำลังได้รับจากชายหนุ่มเท่านั้น
กางเกงตัวสวยหลุดออกจากกายลงกองรวมกับเสื้อและบราสีหวาน ดวงตาคมหลุบมองซับในตัวนิดที่เกาะติดสะโพกหนันแน่นแล้วกลืนความต้องการลงอย่างอยากเย็น เตือนตัวเองเสมอว่าเขาคือนายศิลาที่ไม่เคยต้องมูมมามกับเซ็กซ์ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขา‘โชกโชน’กับมันมามากมายนักและได้รับอย่างเต็มอิ่ม หลายครั้งแทบจะไม่ต้องกระดิกตัวเสียด้วยซ้ำกับหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติไหน ผิวสีใด เขาผ่านมาแล้วทั้งนั้น แต่ทำไม! ทุกครั้งที่เข้าใกล้หล่อน จึงรู้สึกเหมือนคนที่อดอยากตายอยากมาจากทะเลทรายอันไกลโพ้นอยู่ร่ำไป!อยากจะคลุกเคล้า เฝ้าสัมผัส บ้าชะมัด! แต่เขาก็ยอมรับว่าเขากำลังจะบ้า ถ้าไม่รับการตอบรับจากหล่อนอย่างเต็มอกถึงใจ! หากแต่เวลานี้ไม่ต้องทรมานเช่นนั้นแน่นอน เมื่อสองแขนเรียวสวยที่ยกขึ้นไต่แผ่นหลังตึงแน่นกำลังรบเร้าให้เขาเดินหน้าไปให้ถึงที่สุด แน่นอน เขากำลังจะทำมันเดียวนี้!