จุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย
เสียงเพลงจังหวะทันสมัยดังกระหึ่มรอบทิศทาง แสงไฟหลากสีส่องกระจายไปทั่วทุกจุดรวมถึงโต๊ะของกลุ่มหญิงสาวเกือบสิบคนที่กำลังนั่งยืนเต้นอยู่มุมหนึ่งของผับหรูกลางใจเมืองที่พี่ชายของรวีภัทรเจ้าของวันเกิดแนะนำให้พวกเธอมาที่นี่
คืนนี้เป็นคืนพิเศษที่เพื่อนในห้องเรียนออกมาสังสรรค์กันตามประสาวัยรุ่น ทุกคนแต่งตัวแบบจัดเต็มรวมถึงมาธวีหญิงสาววัยยี่สิบสองที่ปกติมักจะแต่งตัวเรียบร้อยเพราะเธออาศัยอยู่กับคุณยายแต่วันนี้หญิงสาวมาเปลี่ยนชุดที่หอพักของเพื่อนก่อนจะออกมาเที่ยวด้วยกัน
ชุดเดรสผ้าซาตินสีครีมอ่อนขับผิวขาวเนียนให้ดูโดดเด่นคือชุดที่หญิงสาวเลือก เส้นผมยาวถูกม้วนด้วยเครื่องม้วนผมทำให้ดูเป็นสาวเปรี้ยวต่างจากเวลาปกติที่มักจะมัดรวบเป็นหางม้า แม้จะไม่ชอบเที่ยวกลางคืนสักเท่าไหร่แต่เพราะเป็นวันเกิดของเพื่อนสนิท
“พอแล้วๆ ฉันจะไม่ไหวแล้ว” มาธวีตะโกนแข่งกับเสียงเพลงเพื่อบอกเพื่อนว่าตนเองเริ่มจะเมามากแล้ว
“เมาก็เมาสิยังผึ้ง คืนนี้พวกเราก็เมากันทุกคนนั่นแหละ ฉลองให้ฉันหน่อย นี่อาจเป็นปีสุดท้ายที่เราได้ออกมาสนุกด้วยกันหลายๆ คนแบบนี้” รวีภัทรเจ้าของวันเกิดพูดแล้วยื่นแก้วค็อกเทลมาให้เพื่อน
“ไม่เอาแล้วรวีฉันมึนหัวแล้ว”
“ก็แค่มึนเองนะผึ้ง นานๆ ทีแกถึงจะได้ออกมาเที่ยวกับพวกเราก็สนุกให้เต็มที่หน่อย” วรัมพรพูดขึ้นบ้างเพราะปกติแล้วมาธวีจะไม่ค่อยออกมาเที่ยวกับพวกตนเท่าไหร่เนื่องจากพักอยู่กับคุณยายการมาเที่ยวกลางคืนจึงเป็นไปน้อยมาก
“เอานั้นก็ได้” มาธวียกแก้วดื่มเพราะเห็นด้วยกับสิ่งที่เพื่อนพูด
“เฮ้!...เอางี้ เรามาเล่นเกมกัน สนุกๆ ส่งท้ายหน่อยไหม” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มเสนอขึ้น
“เกมอะไร” มาธวีถามเพราะเพื่อนคนนี้มักจะคิดอะไรแผลงๆ
“ง่ายมากเลย ผึ้งแค่ให้แต่ละคนเลือกผู้ชายในผับนี้มาชวนเต้น คนละหนึ่งเพลง ถ้าใครกล้าไปชวนแล้วเขายอมเต้นด้วย จะไม่ต้องดื่มแก้วต่อไปแต่ถ้าใครไม่ทำได้จะต้องถูกทำโทษด้วยการดื่มอีกสองแก้วแล้วก็ต้องเป็นเบ๊ของเพื่อนไปหนึ่งเดือน มีใครอยากเล่นบ้าง”
เพื่อนแต่ละคนตกลงจะเล่น จากนั้นก็เรียงลำดับการเล่นตามเลขที่ในชั้นเรียน เพื่อนคนแรกที่เริ่มเล่นไปชวนผู้ชายโต๊ะข้างๆ มาเต้นด้วยสำเร็จ จากนั้นเพื่อนคนที่สองและสามก็ทำตามได้อย่างไม่ยากเท่าไหร่ จนมาถึงคราวของมาธวี
“ฉันเปลี่ยนใจทันไหม” เพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนมาธวีเลยกล้าๆ กลัวๆ
“ไม่ทันแล้วยัยผึ้งกล้าๆ หน่อยน่า”
“อ่อนว่ะผึ้ง เรียบร้อยเกินไปก็แบบนี้แหละ”
“กล้าหน่อยสิผึ้ง แค่เต้นไม่ถึงห้านาทีเองนะ”
“สู้เขาผึ้งอย่าไปยอม”
เสียงเชียร์ของและเสียงพูดยุแหย่ของเพื่อนๆ ดังขึ้นขึ้นทำให้คนที่ไม่ยอมคนอย่างมาธวีฮึดสู้และคิดว่าการชวนใครสักคนออกไปเต้นมันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
หัวใจหญิงสาวเต้นระรัวเพราะแรงกดดันรอบตัว แต่สุดท้ายก็ทนเสียงรบเร้าของเพื่อนไม่ไหว
“ก็ได้ๆ แค่นี้มันจะไปยากอะไร”
“สู้ๆ นะผึ้ง” เสียงเพื่อนทั้งโต๊ะพากับเชียร์
มาธวีสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด มือเรียวถือแก้วค็อกเทลไว้แน่น ก่อนจะหันมองไปรอบผับแสงไฟสลัวๆ คนแน่นขนัด แต่สายตาเธอกลับหยุดอยู่ตรงผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสอง
เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสีดำดูคล้ายกับบาร์เทนเดอร์ที่เธอเห็นเมื่อครู่ มาธวีจึงคิดว่ามันคงง่ายที่จะชวนเขามาเต้นด้วยแลกกับข้อเสนอบางอย่างที่จะแอบตกลงกับเขาแค่สองคน หญิงสาวยิ้มเมื่อนึกถึงแผนของตนเอง
“เลือกได้หรือยังผึ้ง ให้ฉันช่วยเลือกไหม” วรัมพรกระซิบ
“ได้แล้ว คอยดูฝีมือฉันก็แล้วกัน”
“คนไหน เลือกมาเลยยัยน้ำผึ้ง”
เสียงเพื่อนเร่งพร้อมดันหลังเบา ๆ เธอไม่มีทางเลือก นอกจากเดินออกไปตรงนั้นในจังหวะที่เสียงเพลงเปลี่ยนเป็นจังหวะช้าและอบอุ่น
องศาชายหนุ่มวัยสามสิบเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่และเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของผับเพิ่งจะลุกจากโต๊ะเพื่อนเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ คืนนี้เขาไม่ได้ตั้งใจจะมาที่นี่ด้วยซ้ำ แต่เพราะถูกไทธัชและเพชรภูมิลากออกมาให้เขาได้ผ่อนคลายบ้างหลังจากประชุมมาทั้งวัน
เขาเดินผ่านกลุ่มคนอย่างไม่ใส่ใจนัก จนกระทั่งเสียงหวานหนึ่งเรียกมาจากทางด้านหลัง
“ขอโทษค่ะ....คุณเสื้อขาว”
องศาหยุดกะทันหันหันไปมองหญิงสาวที่เดินเข้ามา ใบหน้าเธอสวยหวาน ดวงตากลมโตดูท่าทางกำลังเมาได้และคงมาเที่ยวบ่อยจนชินกับการทักทายคนอื่นไปทั่ว เธอยิ้มเล็กน้อยก่อนที่ริมฝีปากสีชมพูเม้มเข้าหากันอย่างลังเล
“เรียกผมเหรอครับ” เขาถามกลับพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ค่ะ คือ....คุณช่วยเต้นกับฉันจนเพลงจบได้ไหมคะ” หญิงสาวเข้ามาใกล้แล้วกระซิบข้างหู
“เต้นกับคุณเหรอ....เพื่ออะไร”
“ถ้าคุณยอมเต้นกับฉันหนึ่งเพลงฉันจะมีรางวัลให้ค่ะ”
“รางวัลอะไร” เขาถามเสียงเรียบ
“ไปเต้นกับฉันนะ เดี๋ยวก่อนจะกลับฉันจะให้รางวัล”
“ไม่ล่ะ”
“คุณค่ะ ฉันขอร้องคุณอยากได้อะไรฉันยอมทุกอย่างเลยนะ”
“แน่นะ” องศานึกสนุกเมื่อเห็นว่าผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังมองมาทางเขาและเดาว่านั่นคงจะเป็นเพื่อนของเธอ
“แน่สิคะ นะคะ” หญิงสาวอ้อนเสียงหวานแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปทำให้เธอกล้ามากขึ้น