บทที่8 แอบส่งข้อมูลลับ

1357 คำ
“ขอโทษครับท่านประธาน เป็นเพราะคันหน้าหยุดกระทันหัน ผมเลยต้องเบรค” คนขับรถไม่ได้ตั้งใจ เขาขับมาถึงที่หมายแล้วเข้าซองรอคิวจอด ข้างหน้ามีรถสองสามคัน ซึ่งตอนแรกก็เคลื่อนตัวปกติอยู่ดีๆ ก็หยุดกะทันหัน ในระยะกระชั้นแบบนี้เขาจึงต้องเบรคเพื่อความปลอดภัย ฮั่วถิงหยูไม่ได้ว่าอะไร อันที่จริงเขายังนิ่งอึ้งอยู่ ส่วนหลินซูหยวนนั้นหนักยิ่งกว่า เธอไม่ได้ระวังตัวเพราะไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แค่อยากจะแกล้งเขาเท่านั้น กลายเป็นว่าเธอหอมเขาแบบไม่ตั้งใจ เมื่อได้สติก็รีบดึงตัวออกซึ่งในขนาดนั้นรถจอดเรียบร้อยแล้ว เธอจึงรีบก้าวลงรถอย่างรวดเร็วขึ้น ใช้ชีวิตมาหนึ่งชาติแล้ว จะตื่นเต้นอะไรนักหนากับการหอมแก้มผู้ชายเนี่ย...แม้จะคิดแบบนั้นแต่ใจก็ยังเต้นแรงอยู่ ลี่ซือผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แอบสงสารเจ้านายที่ต้องมาประสบพบเจอกับเรื่องแบบนี้ เขารีบลงจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูให้ท่านประธาน วางสีหน้าเรียบเฉยเพื่อให้ฮั่วถิงหยูไม่รู้สึกกระดากไปกว่านี้ แม้จะยังงุนงงอยู่ซักหน่อย แต่ฮั่วถิงหยูก็เก็บสีหน้าและอาการได้อย่างมิดชิด เขาทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เกิดขึ้น เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู หลินซูหยวนนึกได้ว่าตัวเองมาในฐานะผู้ช่วยของเลขาลี่ จึงรีบจัดแจงเปิดประตู แล้วติดต่อจัดการกับพนักงานอย่างกระวีกระวาด พนักงานในร้านพาประธานฮั่วกับเลขาเข้าไปยังห้องที่นัดหมายเอาไว้ หลินซูหยวนใช้แอบชะเง้อมองเข้าไป เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามยังไม่มา แน่นอนว่าเธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านไหนด้วย จึงได้แต่สังเกตการณ์อยู่ด้านนอก ผ่านไปประมาณห้านาทีประธานกู้ก็มาถึง เข้าไปในห้องส่วนตัวเพื่อพูดคุยและรับประทานอาหารกัน เมื่อกู้หยงฉีเข้ามาในห้อง ฮั่วถิงหยูก็ลุกขึ้นทำความเคารพอย่างนอบน้อม ประธานกู้เป็นหนึ่งในสี่ของหอหยกฟ้า มีอำนาจในการปล่อยผ่านโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองชิงไห่ นัดในครั้งนี้ฮั่วถิงหยูอยากพูดคุยในเรื่องโครงการล่าสุดที่เขาต้องประมูล โครงการนี้สำคัญกับตระกลูมาก จึงอยากมาสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันไว้ “ไม่ต้องพิธีรีตองเยอะ คนกันเองทั้งนั้นประธานฮั่ว” กู้หยงฉีผายมือเชิญฮั่วถิงหยูนั่ง เขาเป็นคนสบายสบายไม่ต้องพิธีการมาก เด็กหนุ่มตรงหน้าก็ไม่ใช่คนอื่นไกล ประธานกู้มีสัมพันธ์อันดีกับตระกูลฮั่ว เพราะทำการค้ากันมานาน ฮั่วถิงหยูก็เหมือนลูกเหมือนหลานคนนึง “ครับ ขอบคุณประธานกู้ที่รับนัดผม” “นายท่านฮั่วเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีใช่ไหม” “คุณพ่อสบายดีครับ” “ดีแล้วๆ ฮั่วเฉินเป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจคนนึงในเมือง เป็นแบบอย่างที่ดีให้คนรุ่นหลัง ถ้าไม่...เอาเถอะ ถือว่าเป็นบทเรียนให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงได้ศึกษา” “ครับ” เขารู้ดีว่าประธานกู้หมายความว่าอะไร เป็นเพราะเมื่อห้าปีก่อนพ่อของเขาเดินเกมพลาด เลยทำให้บริษัทในเครือฮั่วกรุ๊ปล้มระเนระนาด จนเกือบถึงขั้นล้มละลาย ในห้าปีมานี้เขาพยายามอย่างหนักในการฟื้นคืนธุรกิจ ทว่าบางเรื่องก็ต้องใช้เวลา ใช่ว่าปีสองปีจะแก้ไขปัญหาได้หมด “ประธานฮั่ว คุณก็ทำได้ไม่เลว ไม่ทราบว่าวันนี้มีเรื่องใดอยากให้สมาคมช่วยเหลือ” ฮั่วถิงหยูรู้ดีว่าประธานกู้เป็นคนไม่อ้อมค้อมตรงไปตรงมา และไม่ชอบคนประจบประแจง ฉะนั้นเขาจึงเลือกนัดหมายกู้หยงฉีแบบเฉพาะเจาะจง เพราะได้ยินมาว่าประธานอีกสองคนมีสัมพันธ์อันดีกับตระกูลหลู่ อีกคนยังไม่แน่ชัด ส่วนประธานผู้นั้น ชมีความเป็นกลางมากที่สุด เขาจึงอยากสร้างสัมพันธภาพให้แน่นแฟ้น “ถ้าเช่นนั้นผมไม่อ้อมค้อมครับ ผมสนใจโครงการล่าสุดที่กำลังเปิดประมูล” ฮั่วถิงหยูเปิดใจอย่างตรงไปตรงมา เขาคาดหวังกับโครงการนี้ไหวมาก หากประมูลชนะโครงการนี้ จะทำให้ตระกูลฮั่วฟื้นขึ้นมาได้เกือบแปดส่วน “โครงการเหอเป่ยน่ะเหรอ” “ครับ โครงการนี้มีศักยภาพมาก แม้ที่ดินจะไม่ได้อยู่แนวเส้นถนนหลัก แต่ปัจจุบันเมืองฉิงไห่มีโครงการขยายถนนออกไปนอกเมือง และโครงการนี้ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดี ถ้าผมได้โครงการนี้มาอยู่ในมือ ผมมั่นใจว่าจะพัฒนาให้เจริญรุ่งเรือง กลายเป็นหมู่บ้านต้นแบบในชานเมือง” “ดี…ดีมาก คนหนุ่มตรงไปตรงมา ผมก็จะบอกตรงๆ เช่นกัน ว่าโครงการนี้มีหลายบริษัทที่สนใจ คงต้องแข่งกันที่ราคาประมูลแล้วแหละ” “ผมทราบครับ ที่นัดทานข้าวกันในวันนี้ แค่อยากประกาศเจตนารมณ์ ในภายหน้าถ้าหอหยกฟ้าและประธานกู้มีเรื่องอยากให้ผมช่วยเหลือ ก็สามารถบอกได้ไม่ต้องเกรงใจ คนทำธุรกิจเหมือนกันสนับสนุนกันเป็นเรื่องที่ดี...ใช่ไหมครับ” สังเกตจากสีหน้าของประธานกู้แล้วน่าจะพอใจอยู่ไม่น้อย เขาเองก็เตรียมตัวมาอย่างดี หากได้การสนับสนุนจากหนึ่งในสี่ของหอหยกฟ้า โอกาสที่จะคว้าโครงการนี้มาคองก็คงไม่ยากเท่าไหร่นะ “น้ำเพิ่งเรือเสือพึ่งป่า คำนี้ไม่ผิดหรอก” วงการธุรกิจต่างก็พึ่งพาอาศัยกัน โดยมีผลประโยชน์เป็นตัวเชื่อม ข้อนี้ฮั่วถิงหยูเองก็ทราบ ไม่มีนักธุรกิจคนไหนที่ใส่ซื่อมือสะอาดแบบ 100% มีแค่ว่าใครที่ฉลาดกว่า คิดได้แยบยลกว่าคนนั้นก็ไปได้ไกล “ถ้าอย่างนั้น ครั้งนี้ผมคงต้องรอขอแรงประธานกู้ ให้การสนับสนุนผมด้วยนะครับ” เขาบอกความต้องการอย่างตรงไปตรงมา เพราะดูแล้วกู้หยงฉีน่าจะชอบคนใจถึงกล้าพูดกล้าทำ “คนหนุ่มไฟแรงอย่างพวกคุณ ผมพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว” “ดีครับ ผมมีเรื่องอยากรบกวนประธานกู้สักนิด ช่วยดูแผนงานที่ของผมหน่อยจะได้ไหมครับ ว่ายังขาดเหลืออะไรอีก” เขาตั้งใจจะให้ดูแผนการคร่าวๆ เท่านั้น ซึ่งได้ทำใบแยกเอาไว้แล้ว หันไปส่งสัญญาณให้เลขา ลี่ซือนำเอกสารออกจากกระเป๋าออกมา โดยที่ไม่รู้ว่าข้อมูลในกระเป๋าที่ถืออยู่มันไม่ใช่โครงการเหอเป่ย ถ้าอย่างนั้นข้อมูลก็คงน่าจะอยู่…ในแฟ้มที่หลินซูหยวนถืออยู่! ขณะที่ใบหน้าของลี่ซือเริ่มซีดขาว หลินซูหยวนที่รออยู่ด้านนอก ก็แกะซองเอกสารออกมาดูเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลโครงการเหอเป่ยทั้งหมดที่ฮั่วกรุ๊ปนำเสนอ รวมถึงมีใบประกวดราคาอยู่ในนี้ด้วย เธอจึงรีบถ่ายภาพอย่างรวดเร็วก่ อนจะเก็บเอกสารเหล่านั้นลงไปในซอง ประจวบเหมาะกับที่เลขาลี่เปิดประตูออกมาพอดี คุณพระคุณเจ้าเกือบถูกจับได้แล้ว! เฉียดฉิวอะไรแบบนี้! “มีอะไรเหรอคะ” เธอปรับสีหน้าให้เป็นปกติเ ก็บความตื่นเต้นไว้อย่างแนบเนียน จนฝ่ายตรงข้ามจับสังเกตไม่ได้ “ผมขอเอกสารในมือคุณหน่อย” “อ๋อ ได้ค่ะ” หลินซูหยวนส่งแฟ้มเอกสารในมือให้เลขาลี่ ที่ใบหน้ายังไม่หายซีด จากนั้นเลขาหนุ่มรีบเดินเข้าไปในห้อง เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว เธอจึงหยิบมือถือขึ้นมาอ่านรายละเอียดในนั้นอีกครั้ง นับว่านำเสนอได้ดีทีเดียว แผนงานของฮั่วกรุ๊ปไม่มีข้อผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงเขาควรจะได้โครงการนี้ไปด้วยซ้ำ ราคาประมูลก็ค่อนข้างสูง เพียงแค่ว่าสิ่งที่ฮั่วถิงหยูไม่ทราบก็คือเส้นสายความสัมพันธ์ ระหว่างประธานกู้และตระกูลหลู่มีความแน่นแฟ้นมากกว่าที่เห็น คนของหอหยกฟ้าสองในสามหนุนหลังตระกูลหลู่อยู่ เป็นไปไม่ได้เลยที่ฮั่วถิงหยูจะชนะโครงการนี้ เธอกดมือถืออยู่สักพัก ก่อนจะส่งใบประกวดราคาไปให้หลู่เหยียนโจว ก็เขาให้เธอมาสอดแนมนี่นา…ก็ต้องทำตามหน้าที่เสียหน่อย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม